กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 191 รอฉันรักคุณเข้าก่อน
เวลาหยุดนิ่งลง
หลินซินเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น โซซัดโซเซ ทำท่าเหมือนจะล้มลงไป
จงจิ่งห้าวมองเธอด้วยสายตาที่แทบจะหมดหวัง พูดอธิบายอย่างชัดเจน
“คืนนั้นคือผมเอง”
เธอช็อกตกใจกับคำพูดนี้ของจงจิ่งห้าว ราวกับถูกโจมตีเข้ามาอย่างจัง จิตใจเข้าสู่สภาวะกึ่งสมองเสื่อม
เหมือนกับถูกกระแทกเข้าอย่างจัง
“คุณ……คุณ คุณ……ว่าไงนะ?”เธอกุมหน้าของตัวเอง ทั้งร้องทั้งยิ้ม“เป็นไปได้ยังไง เป็นไปได้ยังไงกัน เป็นคุณไปได้ยังไง?”
เธอไม่เชื่อ เดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าเตียง เป็นไปได้ยังไง?
ไม่ทันได้ระวังขาของเธอก็ไปชนเข้ากับขอบเตียง ล้มนั่งลงไป เธอเกาผมของตัวเองอย่างแรง“ในตอนนั้นเหอรุ่ยเจ๋อไปตรวจสอบมาแทนฉันแล้ว เขาบอกว่า เขาบอกว่า……คืนนั้นคือคนพื้นถิ่นคนหนึ่งนี่นา แล้วเป็นคุณได้ยังไง?”
จงจิ่งห้าวคว้าเธอที่ข่วนมือตัวเองเหมือนกำลังทำร้ายตัวเองไว้ จับคางของเธอ บังคับให้เธอมองตัวเอง“คุณว่าไงนะ? คุณตรวจสอบมาแล้ว?”
ในแววตาของเธอ มีน้ำตาคลออยู่นิดหน่อย
เธอมองเขาด้วยความหวาดกลัว เธออ้ำๆอึ้งๆไม่ได้พูดอะไรอยู่นานสองนานราวกับมีก้อนน้ำแข็งอยู่ในปาก เธอดึงมือที่ถูกจงจิ่งห้าวบีบเอาไว้ออก เอานิ้วจิ้มไปที่แก้มของเขา แล้วเลื่อนลงมาที่คอ ผ่านคอเสื้อ ก่อนจะลูบไล้ที่ไหล่ของเขา“มีครั้งหนึ่งที่ฉันเจอรอยกัดที่ไหล่ของคุณ……ฉันรู้สึกสงสัย ก็เลยให้เหอรุ่ยเจ๋อไปช่วยฉันตรวจสอบ ต่อมาเขาบอกฉันว่า……คนที่อยู่ในคืนนั้นคือคนพื้นถิ่นคนหนึ่ง”
เธอค่อยๆเงียบลง หรือว่าสิ่งที่เธอสงสัยในตอนแรกจะเป็นเรื่องจริง เหอรุ่ยเจ๋อหลอกหลอกลวงเธอเหรอ?
เหอรุ่ยเจ๋อคอยดูแลอยู่ข้างกายเธอ ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด แถมยังบอกว่าอยู่เสมอว่าเสี่ยวเฉินกับเสี่ยวลุ่ยไม่มีพ่อแล้วน่าสงสารมาก
แต่ จริงๆแล้วเขารู้ความจริงและปิดบังเธอมาโดยตลอด?
เธอเงยหน้ามองขึ้น“เขาหลอกฉันเหรอ?”
มือของเธอเริ่มเย็น จงจิ่งห้าวยื่นมือมากุมหลังมือของเธอไว้ ฝ่ามือที่ร้อนผ่าว กุมมือที่เย็นของเธอเอาไว้แน่น
ในเวลานี้ ไม่ว่าคำพูดคำไหนก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของเขาออกมาได้ หมื่นพันคำพูด แปรเปลี่ยนเป็นจูบหนึ่งจูบ ประทับแนบแน่นลงที่ริมฝีปากของเธอ
หลินซินเหยียนรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในความฝัน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเหมือนกับไม่ใช่ความจริง
เหมือนกับฟองสบู่ที่อยู่ในภาพลวงตา แค่จิ้มก็แตกแล้ว
แต่ความร้อนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมของเขา มันกลับรู้สึกร้อนจริงๆ
“คุณตรวจสอบจนชัดเจนแล้วยัง?”
เธอไม่รู้ว่าเขาทำเพื่อให้เธอสบายใจ หรือว่าเป็นคำพูดที่โกหกหลอกลวง
จงจิ่งห้าวมองต่ำลง จับมือของเธอมาวางไว้ที่ฝ่ามือ กุมเบาๆ“ไม่ต้องตรวจสอบ ก็รู้ว่าคือคุณ”
นาทีที่เขารู้ความจริง เขาเพิ่งจะรู้ว่า ความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆที่มีต่อเธออย่างบอกไม่ถูก จริงๆแล้วเกิดมาจากอะไร
ที่แท้ทั้งหมดมันก็มีสาเหตุนี่เอง
หลินซินเหยียนเอามือกลับมา มือของเขาว่างเปล่าทันที เขารู้สึกไม่ชิน เงยหน้ามองเธอ
หลินซินเหยียนจ้องเขม็งเขา“ฉันไม่อยากให้เกิดความผิดพลาด”
เธอที่ตั้งตัวได้แล้วก็นิ่งสงบลงอย่างแปลกๆ เรื่องนี้มันผิดปกติ นี่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อของลูกเธอ
จงจิ่งห้าวลูบหัวตาของเธอ เธอผอมลงอีกแล้ว ผิวพรรณก็ดูหยาบกร้านขึ้น แค่คิดก็รู้แล้วว่าเธอเจอความทุกข์ยากลำบากมาขนาดไหน
“คุณคิดว่าผมรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”จงจิ่งห้าวนั่งลงที่ข้างเตียง เอาเธอเข้ามากอดในอ้อมกอด ฝ่ามือกุมไหล่ของเธอ บอกเรื่องที่จงฉีเฟิงแอบไปตรวจสอบความเป็นพ่อลูกให้เธอฟัง
ดังนั้น หลินซีเฉินกับหลินลุ่ยซีเป็นลูกของเขาไม่ผิดแน่นอน เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย
หลินซินเหยียนค่อยๆหลับตาลง
เธอยังคงรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่
“คุณช่วยหยิกฉันหน่อย”
จงจิ่งห้าวก้มลงมอง พบว่าแผลเป็นที่หน้าผากของเธอ ไม่ชัด บวกเข้ากับการปกปิดของแป้ง ทำให้มองไม่ค่อยเห็น เขาสัมผัสที่แผลเป็นอย่างอ่อนโยน ลูบเบาๆอย่างนิ่มๆ สั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
ตาของเขาเริ่มแดง มาจากจิตใจที่เจ็บปวดที่เขาไม่สามารถหาตัวเธอเจอและปกป้องเธอได้ทันตอนที่เธอหายตัวไป
เขาเป็นห่วงเป็นใยเธอ ใช่ เป็นห่วงเป็นใย เธอไม่เคยเห็นใบหน้าของเขามีชีวิตชีวา ลึกซึ้ง เห็นอกเห็นใจเธอแบบนี้มาก่อน แต่ในที่สุดจิตใจที่ปิดตายมาโดยตลอด ก็เริ่มเปิดแง้มออกมาบ้างแล้ว
“ทำไมคุณถึงโผล่มาอยู่ที่นี่?”จงจิ่งห้าวถามขึ้น
เขาได้รับข่าวมาจากป้าฮัว ว่าเหอรุ่ยเจ๋อจะพาเธอไปมณฑลซวน
ทำไมถึงโผล่มาอยู่ที่นี่ มันเกี่ยวข้องกับไป๋ยิ่นหนิงอย่างนั้นเหรอ?
ช่วงระหว่างนั้นมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เธอเจออะไรมา?
พอคิดถึงวันเวลาที่ถูกเหอรุ่ยเจ๋อจำกัดเสรีภาพ เธอก็สั่นอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ผ่านความเป็นความตายมามากมาย ตอนนี้เธอยังคงมีความหวาดกลัวอยู่
ฝ่ามือที่ใหญ่และอุ่นของเขาโอบหลังที่ผอมเพรียวของเธอ ลูบปลอบประโลมความรู้สึกของเธอ
ผ่านไปนานสองนาน หลินซินเหยียนถึงเล่าประสบการณ์ที่ตนเองประสบพบเจอมาในช่วงเวลาก่อนหน้านี้มาออกมาได้อย่างนิ่งสงบ“ฉันถูกเหอรุ่ยเจ๋อพามาที่นี่ จากนั้นเขาก็หนีออกไป แล้วไป๋ยิ่นหนิงก็เป็นคนช่วยฉันเอาไว้”
ส่วนสถานการณ์โหดร้ายที่เกิดขึ้นระหว่างนั้นเธอจงใจไม่พูดถึงมัน
จงจิ่งห้าวรู้ดีว่าเธอจะต้องมีปิดบังเอาไว้อยู่ แค่สถานที่ที่เธอถูกขังไว้ มันก็น่าตกใจขนาดนั้นแล้ว เขาประคองเอวที่ผอมบางของเธอนอนนาบลงบนเตียง ไม่ห่มผ้าห่ม เขาแนบชิดเธอแน่น ใช้ความอุ่นของตัวเอง ช่วยทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น
ผ่านไปนาน จงจิ่งห้าวก็นอนกอดเธอจนหลับไปทั้งอย่างนี้
หลินซินเหยียนหันหน้ามา มองท่าทางที่หลับสนิทของเขา ในตอนนี้เธอจึงพบว่าใต้ตาของเขาดูดำคล้ำ ดูท่าคงเป็นผลมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
เธอยื่นมือออกไป ปลายนิ้วเพิ่งแตะลงที่ผิว ก็ถูกเขาคว้ามือเอาไว้ก่อน ตาของเขาลืมขึ้น เอามือของเธอมาจูบที่ริมฝีปาก“นอนกับผมสักพักสิ”
ช่วงเวลาที่เธอไม่อยู่ เขาไม่เคยนอนหลับสนิทเลยสักครั้งเดียว ตอนนี้พอได้เอาร่างกายที่อ่อนโยนของเธอมากอดอยู่ในอ้อมกอดแล้ว ก็รู้สึกสบายไปทั้งหัวใจ
“อื้อ”
หลินซินเหยียนหลับตาไปพร้อมกับเขา
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลินซินเหยียนก็ไม่ได้พักผ่อนเพียงพอเหมือนกัน ‘ช่วงเวลาที่เงียบสงบ’แบบในตอนนี้เธอจึงรู้สึกง่วงอยากที่จะนอนพักผ่อน
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไร แต่ในฝัน มีคนจูบคอ ผม แก้ม ปลายจมูก ริมฝีปากของเธออยู่ตลอด……
พวกเขาอยู่ในห้องตลอดหนึ่งวัน ข้างนอกมีเสิ่นเผยซวนคอยเฝ้าดูแลรับใช้อยู่ ไม่มีใครมารบกวน
ตอนที่หลินซินเหยียนตื่นขึ้นมา พบว่าดวงตาที่โหลลึก กำลังมองจ้องเธออยู่
เธอตื่นขึ้นมาทันที
จงจิ่งห้าวลูบไรผมตรงหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน พร้อมกับถามขึ้น“ตื่นแล้ว หิวไหม?”
หลินซินเหยียนรู้สึกหิวจริงๆ เธอพยักหน้า
“เดี๋ยวพวกเราไปอีกห้องหนึ่ง เสี่ยวเฉินกับเสี่ยวลุ่ยเห็นคุณจะต้องดีใจมากแน่ๆ……”
“ว่าไงนะ?”จงจิ่งห้าวยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเธอตัดบทขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นก่อน“เสี่ยวเฉินกับเสี่ยวลุ่ยก็มาด้วยเหรอ?”
“อื้อ……”
“ทำไมถึงไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ล่ะ?”เธอชำเลืองตามองจงจิ่งห้าวด้วยสายตาตำหนิ ช่วงที่ผ่านมาไม่ได้เจอหน้าลูกๆทั้งสองคน เธอคิดถึงพวกเขามากๆ
เธอลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่อยากเจอหน้าลูกชายและลูกสาวเต็มทีแล้ว เธอไม่ทันได้สังเกตว่าเส้นเชือกของชุดเดรสถูกจงจิ่งห้าวกดเอาไว้อยู่ เธอลุกขึ้นทั้งอย่างนี้ เชือกก็เลยหลุดออก พอร่างกายรู้สึกหนาวเย็น เธอก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ สองมือยกมาปิดตรงหน้าอกด้วยสัญชาตญาณ เธอหันกลับไปมองก็พบว่า เส้นเชือกของชุดตัวเองถูกเขากดเอาไว้อยู่
สายตาของจงจิ่งห้าวมองทอดมาที่เธอ
ตาสองคู่หันมาสบกันอย่างเหม่อลอย
แก้มของหลินซินเหยียนร้อนผ่าว“คุณปล่อยนะ”
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นมา ไม่ได้ฟังเธอ แต่หันมองมายังเสื้อผ้าของเธอ ช่วงหน้าท้องของเธอแบนเรียบมาก ไม่มีเนื้อส่วนเกินเลยแม้แต่น้อย ผิวที่ขาวอมชมพู มีรอยแตกลายใต้สะดือตื้นๆบางๆ ไม่ลึกชัดมากนัก สีขาวนวล……
ลูกกระเดือกของเขาขยับเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
หลินซินเหยียนหน้าร้อนผ่าว เข้าไปผลักเขาด้วยความเขินอาย เขาคว้าข้อมือของเธอ เนื่องด้วยจุดศูนย์ถ่วงของเธอไม่มั่นคง ก็เลยล้มลงไปบนเตียง จงจิ่งห้าวนอนทับลงไปทันที
เธอที่เปลือยเปล่าอยู่ ถูกเขาทับลงมา
ส่วนผู้ชายที่อยู่ข้างบนตัวเธอนอกจากเสื้อที่ยับแล้วอย่างอื่นก็อยู่ครบเรียบร้อยดี ร่างกายที่แข็งแรงกำยำของเขาทับอยู่บนตัวเธอ ความต้องการในตาของเขามันร้อนแรงดุจเปลวไฟ แทบจะเอ่อล้นออกมา แต่ยังคงอดกลั้นเอาไว้“พวกเราเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย”
ว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว แน่นอนว่าต่อให้ยังไม่ได้ไปทำทะเบียนสมรส แต่ในทางกฎหมาย พวกเขาเป็นสามีภรรยากันจริงๆ
ตาที่ร้อนผ่าวของเขา แผดเผาจนคอของเธอเริ่มแห้ง“คุณ คุณเคยบอกไว้แล้วว่าต้องให้ฉันเห็นด้วยก่อน”
นิ้วของเขาแตะถูลงที่ฝ่ามือของเธอ“แต่ว่าผมไม่อยากรอแล้ว”
เขาก้มหน้าลงจูบที่หัวตาของเธอเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงทั้งทุ้มทั้งต่ำ“ผมคิดถึงคุณ”หน้าของเขาซุกลงที่ซอกคอของเธอ“คิดถึงมากๆ……”
หลินซินเหยียนเอียงหัวเล็กน้อย“ให้เวลาฉันหน่อย”
เธอยังไม่ทันเตรียมตัว
จงจิ่งห้าวเอนหน้าของเธอให้ตรง จูบลงที่ริมฝีปากของเธอ“นานเท่าไร?”
หลินซินเหยียนมองเพดาน สายตาสั่นไม่นิ่ง“สมัยเด็ก ฉันเคยโหยหาความรักอย่างมาก แต่ตอนนี้ ฉันไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกอะไร……”
ดวงตาเธอเปล่งประกาย หันมองมาที่เขา“รอฉันรักคุณเข้าก่อน”