กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 194 อยากนอนกับคุณ
“ว่าง”หลินซินเหยียนตอบกลับไปโดยไม่คิด
ถ้าสามารถพูดโน้มน้าวให้อาจารย์คนนั้นกลับเมืองBกับเธอได้ ก็จะมีประโยชน์กับเธอ
แถมเธอก็อยากจะรีบจัดการเรื่องทางนี้ให้เร็วที่สุด จากนั้นก็พาลูกๆทั้งสองคนกลับไปด้วย
“ได้ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเตรียมการเอง”ไป๋ยิ่นหนิงยิ้มๆ
จงจิ่งห้าวสีหน้าดำมืดไปเรียบร้อยแล้ว
อาหารมื้อนี้ เขาไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสองคนอยู่ด้วย ไม่อยากให้ไป๋ยิ่นหนิงได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับหลินซินเหยียน ว่าไม่ใช่สามีภรรยากันตามปกติทั่วไป ป่านนี้เขาจูงหลินซินเหยียนกลับไปตั้งนานแล้ว
หลังจากทานอาหารเสร็จ ไป๋ยิ่นหนิงมองมายังจงจิ่งห้าว“วันนี้ขอบคุณประธานจงสำหรับการต้อนรับมากเลยนะครับ”
จงจิ่งห้าวเหลือบตามองเขาอย่างเย็นชา“ไม่ต้องเกรงใจ”
ไป๋ยิ่นหนิงรู้แล้วว่าตั้งแต่ที่หลินซินเหยียนรับปากกับเขาว่าจะไปหาอาจารย์ที่ทำผ้าไหมเซียงหยุนซาคนนั้น เขาก็รู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว ตอนนี้เขาก็เต็มใจที่จะ‘สาดน้ำมันเข้ากองไฟ’เขาหันไปมองหลินซินเหยียน“พรุ่งนี้เช้าผมมารับคุณที่โรงแรมนะ”
ขณะที่พูดสายตาของเขาชำเลืองไปมองเท้าของเธอ“พรุ่งนี้สวมรองเท้าพื้นเรียบล่ะ อาจารย์คนนั้นอาศัยอยู่ที่ไกลแล้วก็กันดาร ถนนหนทางเดินไม่ค่อยสะดวก”
“ฉันเข้าใจแล้ว”หลินซินเหยียนไม่ได้พูดขอบคุณที่เขาช่วยเตือนอะไรพวกนั้น เพราะว่าคำพูดนี้ของเขาจงใจอยู่ไม่น้อย เธอหันกลับไปมองจงจิ่งห้าว เป็นอย่างที่คิดไว้ สีหน้าของเขาดูไม่ได้กว่าก่อนหน้านี้อีก
เห็นได้ชัดว่า ไป๋ยิ่นหนิงจงใจพูดคำพูดพวกนี้
“หม่ามี๊ อุ้มหน่อย”หลินลุ่ยซียื่นสองมือออกไป ให้หลินซินเหยียนอุ้ม
จงจิ่งห้าวโอบเอวเธอเอาไว้“พ่ออุ้มเอง”
เท้าของเธอได้รับบาดเจ็บอยู่ ไม่รู้ว่าบาดเจ็บหนักหรือเปล่า
หลินลุ่ยซีเบะปากน้อยๆ“หนูอยากให้หม่ามี๊อุ้ม”
นานแล้วที่ไม่ได้เจอหลินซินเหยียน อยากที่จะทำความสนิทชิดเชื้อกับเธอสักหน่อย
“โอ๋”จงจิ่งห้าวจูบไปที่หน้าผากของลูกสาว“รอกลับไป แล้วเดี๋ยวพ่อจะซื้อของอร่อยๆให้นะ”
“จริงเหรอ?”หลินลุ่ยซีเอนหัว
“อื้อ”
“ได้เลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ให้พ่ออุ้มแล้วกัน แต่ว่าหนูอยากนอนกับหม่ามี๊”
หลินซีเฉินคว้ามือของหลินซินเหยียนไว้ แล้วหันมองจงจิ่งห้าว พร้อมกับพูดขึ้น“หม่ามี๊ คืนนี้ผมก็อยากนอนกับหม่ามี๊”
จงจิ่งห้าว“……”
หลินซินเหยียนตอบรับอย่างรวดเร็ว“ได้เลย”
แยกกับลูกทั้งสองคนมานานขนาดนั้น เธอก็คิดถึงลูกๆเหมือนกัน
พอกลับขึ้นมาข้างบน หลินซินเหยียนอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับลูกทั้งสองคน พวกเขาสวมชุดนอน นอนกลิ้งเล่นอยู่บนเตียง
หลินซินเหยียนอาบน้ำเสร็จก็สวมชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรม ที่นี่ไม่มีเสื้อผ้าของเธอ
“หม่ามี๊”
พอเห็นหลินซินเหยียนออกมา ลูกทั้งสองคนก็กระโจนเข้ามาหาทันที หลินซินเหยียนรับพวกเขาเอาไว้ ทั้งสามคนกอดกัน หลินลุ่ยซีเงยหัวน้อยๆขึ้นมา“หม่ามี๊ ต่อไปถ้าหม่ามี๊จะไปซ่อนแอบที่ไหนอีก ต้องพาหนูไปด้วยนะคะ หนูไม่อยากแยกกับหม่ามี๊อีกแล้ว”
หลินซินเหยียนกอดลูกสาวแน่น พร้อมกับบอกว่าต่อไปจะไม่จากพวกเขาไปไหนอีกแล้ว
ข้างนอกห้อง ตรงสุดทางเดิน จงจิ่งห้าวยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ข้างนอกหน้าต่างเป็นแม่น้ำ แสงไฟระยิบระยับสาดสะท้อนมาที่ใบหน้าของเขา แล้วก็สะท้อนกลับไป ใบหน้าของเขาดำมืดหม่นหมอง หลังตรงและกว้าง เอวของเขาเล็กมาก ไม่มีเซลลูไลท์เลย เส้นสมส่วนของช่วงสะโพกยืดตรงเท่ากัน
เขาถือกระเป๋าเอกสารมือเดียว อีกมือปลดกระดุมเสื้อ พร้อมกับเปิดปากพูดอย่างนิ่งๆ“ไม่มีร่องรอยอะไรเลยเหรอ?”
เสิ่นเผยซวนส่ายหัว“ไม่มี ผมคิดว่าเขาน่าจะหลบซ่อนตัวไปแล้ว ถ้าอยากจะรักษาชีวิต ก็ต้องหนีออกไปจากที่นี่ ถ้าในใจยังมีความโกรธแค้น เกรงว่าตอนนี้กำลังรอโอกาสลงมืออยู่ครับ”
เหอรุ่ยเจ๋อไม่มีเบาะแสร่องรอย ก็เหมือนกับระเบิดเวลา ที่ไม่รู้ว่าจะโผล่ออกมาเมื่อไร
คนคนนี้ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้
“คนที่พามาไม่เยอะ นายส่งคนออกไปหาเบาะแสของเขา ส่วนที่เหลืออยู่ที่นี่ก่อน”เด็กทั้งสองคนแล้วก็หลินซินเหยียนก็ต้องการคนเหมือนกัน
“ครับ ผมจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้”เสิ่นเผยซวนหันตัวเดินไปเตรียมการ
จงจิ่งห้าวยืนเงียบๆอยู่ตรงหน้าต่างคนเดียวเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ผ่านไปสักพักเขาก็หยิบมือถือออกมาโทรไปหากวนจิ้ง
ให้เขาหาไปสืบหาข้อมูลของไป๋ยิ่นหนิงแล้วก็ไป๋ซื่อกรุ๊ปที่เขาบริหารจัดการอยู่ ในสายกวนจิ้งตอบรับ
เขาวางสายลง แล้วหันเดินกลับเข้าไปในห้อง
ประตูเปิดออก สายตาหันไปมอง แสงไฟมืดสลัวๆ ห้องเงียบสงัด
เด็กทั้งสองคนเล่นวุ่นวายกันจนเหนื่อยแล้ว นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนกลัวว่าพวกเขาจะนอนหลับไม่สบาย ก็เลยปิดไฟ เหลือแค่โคมไฟตรงหัวเตียงที่เปิดไฟสลัวๆเท่านั้น
จงจิ่งห้าวปิดประตูเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างเตียง
หลินซินเหยียนพิงอยู่ตรงหัวเตียง หัวของเด็กทั้งสองคนหนุนทับอยู่ที่แขนของเธอ หลินลุ่ยซีอยู่ข้างใน มือน้อยๆลูบตรงหน้าอกของเธอ
นี่เป็นความเคยชินของหลินลุ่ยซี
เขาเอนตัวเปิดมุมผ้าห่มมุมหนึ่งขึ้น เผยให้เห็นสองเท้าของหลินซินเหยียน หลินซินเหยียนนอนหลับไม่สนิท จู่ๆก็ตกใจ เธอหดเท้าเข้าไปตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นจงจิ่งห้าวอยู่ตรงหัวเตียง เธอพยายามจะลุกขึ้นมานั่ง แต่แขนถูกเด็กทั้งสองคนกดทับไว้อยู่ เธอไม่กล้าส่งเสียงดัง กลัวว่าจะทำให้พวกเขาตื่น เธอจึงถามเขาด้วยเสียงเบาๆ“คุณจะทำอะไร?”
“เท้าคุณบาดเจ็บตรงไหน ให้ผมดูหน่อย”พูดพลางเขาก็ยื่นมือออกมาจับเท้าของเธอ
หลินซินเหยียนหดเข้าไปข้างในอีกครั้ง กัดริมฝีปาก“ฉันหายแล้ว”
จงจิ่งห้าวเงยหน้ามองเธอ ผ่านไปนานสองนาน“ผมอยากฟังความจริง”
หลินซินเหยียนไม่พูดอะไรอีก คนคนนี้ เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเขาได้
จงจิ่งห้าวนั่งลงข้างๆเตียง เอาเท้าของเธอมาวางที่ตัก ก่อนจะถามขึ้น“ข้างไหน?”
“ข้างขวา”
สัมผัสของเขาทำให้รู้สึกคันไม่น้อย แม้แต่ตำแหน่งของหัวใจ ก็เหมือนกับถูกอะไรจับคว้าเอาไว้
มือข้างหนึ่งของเธอ จับขอบเตียงแน่น
จงจิ่งห้าวก้มหน้าลงมองอย่างละเอียด พบว่าตรงฝ่าเท้าของเธอมีบาดแผล ข้อเท้าของเธอแดงเล็กน้อย“ไปทำเอาท่าไหน?”
“ตอนที่หนี ไม่ทันได้ระวังเท้าก็เลยแพลง”หลินซินเหยียนพูดความจริง
“ยังเจ็บอยู่ไหม?”
หลินซินเหยียนส่ายหัว
จงจิ่งห้าววางเท้าของเธอลง เข้าไปในห้องน้ำเอาผ้าขนหนูจุ่มน้ำร้อน จากนั้นก็หยิบออกมาประคบที่ข้อเท้าของเธอ
น้ำร้อนๆซึมเข้าไปในผิว ซึมซาบเข้าไปยังเลือด ทำให้เธอรู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที มือที่จับอยู่ตรงขอบเตียงของเธอยิ่งจับแน่นขึ้น
จงจิ่งห้าวนั่งลงที่ข้างเตียงอีกครั้ง นวดตรงข้อเท้าของเธออย่างนิ่มนวล
เขาถามขึ้นเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ“คนสกุลไป๋คนนั้น คุณสนิทกับเขาไหม?”
หลินซินเหยียนส่ายหัว“ไม่สนิท”
“ไม่สนิทแล้วคุณรับปากว่าจะออกไปกับเขาเนี่ยนะ?”
จงจิ่งห้าวไม่ยอมรับว่าเขาไม่สบอารมณ์
หลินซินเหยียนคว้าชุดเดรสที่ตัวเองถอดไว้มา“คุณดูนี่สิ”
จงจิ่งห้าวไม่สันทัดกับอะไรแบบนี้จริงๆ ต่อให้คุณให้เขาดู เขาก็ดูไม่ออกอยู่ดีว่าคืออะไร
“วัสดุนี้ก็คือผ้าไหมเซียงหยุนซา ตอนนี้ในตลาดหาซื้อไม่ได้แล้ว แต่เขารู้จักอาจารย์คนที่สามารถทำวัสดุชนิดนี้ได้ ฉันก็เลยอยากจะเชิญอาจารย์คนนี้กลับไป”พอพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการออกแบบและวัสดุเสื้อผ้า หน้าของเธอก็มักจะเปล่งประกายอยู่เสมอ
“วัสดุแบบนี้มันนุ่มนิ่ม ไม่ยับ ยืดได้เป็นพิเศษ เหมาะสำหรับเสื้อผ้าในช่วงฤดูร้อนมากๆ”
พอพูดถึงเรื่องสายงานและเรื่องที่ตัวเองสนใจ เธอก็มักจะพูดได้อย่างอิสระและมั่นใจ
จงจิ่งห้าวมองเธออย่างเงียบๆ เวลาเธอที่เป็นแบบนี้ มันดูมีเสน่ห์สุดๆเลย
“ดังนั้นฉันจะต้องเชิญเขามาให้ได้ ถ้าไม่ได้ ขอแค่ให้ฉันได้เรียนรู้ก็ยังดี”
“ในเมื่อเป็นงานฝีมือที่ใกล้จะสูญหายไปแล้ว แน่นอนว่าจะต้องเป็นงานฝีมือที่ยุ่งยากซับซ้อน ไม่ได้เรียนกันง่ายๆ”ถ้าง่าย ป่านนี้ก็มีคนเรียนไปแล้ว
หลินซินเหยียนรู้สึกท้อแท้ขึ้นมา“ใช่ ศิลปะงานฝีมือของประเทศเราสูญหายไปตั้งเท่าไรแล้ว”แต่แค่คนตัวเล็กๆทั่วๆไปแบบเธอ ไม่สามารถหยุดยั้งอะไรแบบนี้ได้
เธอกระตุ้นให้ตัวเองมีกำลังใจ“ต่อให้ลำบากฉันก็ไม่กลัว นี่มันเป็นงานของฉัน”
แล้วก็เป็นความรักและความฝันของตัวเองด้วยเช่นกัน
“ใช่แล้ว”พอคิดถึงที่มาของไป๋ยิ่นหนิงยู่ซิ่ว สีหน้าของเธอก็จริงจังขึ้นมาไม่น้อย“ที่เขาช่วยฉัน ก็เพราะว่ายู่ซิ่ว”
มือของจงจิ่งห้าวที่กำลังนวดให้เธอ ก็นิ่งชะงักลง นี่มันน่าประหลาดใจไม่น้อยเลย
ไป๋ยิ่นหนิงมีความสัมพันธ์กับยู่ซิ่ว?
หลินซินเหยียนยื่นมือออกไป หันเงยไปยังแสงไฟสลัวๆ มองดูกำไลหยกใสที่ข้อมืออย่างละเอียด กำไลนี้มันมีความลับอะไรกันแน่?
“ฉันรู้สึกว่าเขามีความลับอะไรอยู่?”หลินซินเหยียนพูดสิ่งที่ตัวเองคาดเดาออกมา
คำพูดที่ไป๋ยิ่นหนิงพูดกับเธอ เธอไม่ได้เชื่อสนิทใจ
ถ้าบอกว่าเขาเป็นคนที่ไป๋หงเฟยเลี้ยงดูมา จากคำพูดสุดท้ายของไป๋หงเฟย ที่เขาช่วยเธอเพราะนึกว่าเธอเป็นลูกสาวของยู่ซิ่วถ้าอย่างนั้นแสดงว่า ยู่ซิ่วจะต้องมีความสัมพันธ์อะไรกับไป๋หงเฟยคนนี้?
เกี่ยวกับเรื่องของยู่ซิ่ว จงจิ่งห้าวไม่อยากพูดถึง
เขาหยิบผ้าขนหนูที่เริ่มเย็นแล้วผืนนั้นเข้าไปในห้องอาบน้ำ ไม่นานก็มีเสียงน้ำซ่าๆดังขึ้นมา
ผ่านไปประมาณสี่สิบกว่านาที จงจิ่งห้าวสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมา คอเสื้อเปิดออกเล็กน้อย มีหยดน้ำเกาะอยู่บนผิวสีน้ำผึ้ง ผมสั้นสีดำเปียกปอนยุ่งเหยิง เขาเดินตรงมาพร้อมกับเช็ดผม หลินซินเหยียนหรี่ตาลงกำลังจะนอน
เขาโยนผ้าขนหนูไปบนโต๊ะ เอนตัวนอนลงมา เนื้อที่บริเวณข้างๆมีไม่เยอะ แต่ข้างในพอจะมีที่อยู่ แต่เขาอยากจะนอนกับหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนผลักเขาออก“คุณไปตรงนู้นสิ”
จงจิ่งห้าวโอบเอวเธอเอาไว้ เอาเข้ามาในอ้อมกอด จูบลงที่หูของเธอ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“ผมอยากจะนอนกับคุณ”
หลินซินเหยียนดันตัวเข้าไปข้างในนิดหน่อย เพื่อหลบจูบของเขา หลีกที่ให้กับเขาเล็กน้อย“รีบนอนเถอะ”
จงจิ่งห้าวเขยิบเข้ามาข้างใน ร่างกายแนบกับเธอ กลางวันนอนไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อย แค่อยากจะกอดจูบเธอเท่านั้น