กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 199 ชะตาฟ้าลิขิต
ซูจ้านกับฉินยานั่งลงตรงที่นั่งใกล้หน้าต่าง มีแก้วเปล่าสองสามใบวางอยู่บนโต๊ะ ดูเหมือนจะนั่งมานานมากแล้ว
ซูจ้านเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง พอเห็นพวกเขาเข้ามา ก็พุ่งกระโจนเข้ามาอย่างรวดเร็ว“ในที่สุดพวกคุณก็กลับมาสักที พวกเรารอพวกคุณตั้งนาน”
เสิ่นเผยซวนผลักออกด้วยความรังเกียจ“หลงทางหรือไง? ทำไมถึงนานขนาดนี้?”
บอกว่าจะออกมาแล้ว ว่ากันตามหลักก็ควรจะมาถึงตั้งนานแล้ว
ตอนที่พูดสายตาของเขาชำเลืองมองไปยังฉินยาที่กำลังเดินตรงไปยังหลินซินเหยียน ทำไมถึงเอาเธอมาด้วย?
เด็กคนนี้ทำอะไรกับเขาอย่างนั้นเหรอ?
ซูจ้านกำลังรู้สึกรำคาญอยู่ ไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาที่คลุมเครือของเสิ่นเผยซวน ตอนที่มาก็ถูกย่าของเขาคว้าตัวเอาไว้ ถามเขาว่าจะแต่งงานเมื่อไร ไม่อย่างนั้นก็จะไม่ยอมให้เขาออกมา
เขาพูดโกหกไปว่าจะแต่งงานสิ้นปีนี้ ก็เลยออกมาได้
ดังนั้นเวลาจึงล่าช้า
ปัญหาหลักก็คือเขาไม่มีแม้แต่แฟนสาวจริงๆจังๆสักคน
“ไม่ต้องพูดถึงแล้ว ก็ย่าของผมน่ะสิ”พอเห็นท่าทางที่อมทุกข์ของซูจ้าน เสิ่นเผยซวนก็รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องอะไร
แม้ว่าตระกูลซูจะไม่ใช่ตระกูลร่ำรวยสูงส่งอะไร แต่ก็ถือว่าเป็นตระกูลที่สืบทอดความรู้และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม แต่พ่อแม่ของซูจ้านจากไปเร็ว เหลือแต่ย่าคนเดียว จนถึงตอนนี้ซูจ้านก็ใกล้จะอายุสามสิบแล้ว ที่ย่าของเขากระวนกระวายเรื่องแต่งงานของเขา มันก็เป็นเรื่องปกติ
“เร่งรัดนายอีกแล้ว?”เสิ่นเผยซวนเอาไหล่ไปชนเขา
“ใช่น่ะสิ”
“มันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?”เสิ่นเผยซวนเชิดคางใส่เขา ห่างออกไปไม่ไกล ฉินยากอดหลินซินเหยียนไม่ปล่อยมือ“ฉันได้เจอคุณสักที ช่วงที่คุณหายตัวไป ฉันเอาแต่รู้สึกหวาดกลัวหวาดระแวง กลัวว่าคุณจะเจอกับอันตราย ที่พวกเรากลับมาประเทศในครั้งนี้ ทั้งรู้สึกตื่นเต้นทั้งประหม่ามากๆเลย”
“เอาล่ะ ไม่ต้องกังวลใจไปหรอก ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้วไม่ใช่หรือไง?”หลินซินเหยียนตบๆลงที่ไหล่ของเธอ
ซูจ้านมองไปยังฉินยา เบะปาก“ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลย แต่อ่อยยากชะมัด”
“ฝีมือระดับนาย ยังเอาผู้หญิงคนนี้ไม่ลง?”เสิ่นเผยซวนพูดแซว
ซูจ้านจ้องเขม็งเขา“ผมเป็นคนที่ไร้ศีลธรรมขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เหอะๆ”เสิ่นเผยซวนขำออกมา ในใจคิดทำไมตอนนี้กลายเป็นคนดีไปซะแล้วล่ะ ก่อนหน้านี้ยังเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำกันแต่ละวัน เหมือนกับเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เลย
แต่เสิ่นเผยซวนรู้ดี ว่าเขาแค่เล่นๆไม่ได้จริงจังอะไร
“ใช่แล้ว”เสิ่นเผยซวนคล้องคอเขาเอาไว้ ไปแอบพูดคุยกันริมๆ“ฉันสังเกตว่าจิ่งเหอกับ……”
“พ่อ พวกเขากำลังคุยอะไรกัน?”หลินลุ่ยซีปีนขึ้นไปที่ไหล่ของจงจิ่งห้าว มองทั้งสองคนที่กำลังแอบคุยลับๆล่อๆกันตรงหน้าต่างที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกเขาหรอก”จงจิ่งห้าวอุ้มเธอขึ้นไปข้างบน
หลินซินเหยียนไปช่วยฉินยาลากกระเป๋าเดินทาง“เดินทางมาน่าจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้ว ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ”
“อื้อ”ฉินยาไม่ให้หลินซินเหยียนช่วยตัวเองลากกระเป๋า“ฉันคนเดียวไหว”เธอยื่นมือออกไปลูบหัวของหลินซีเฉิน“เสี่ยวเฉิน”
“ป้าฉิน ทำไมถึงกลับมาพร้อมกับเขาล่ะ?”หลินซีเฉินหันมองซูจ้านแล้วก็หันมองฉินยา
ตอนแรกหลินซินเหยียนก็อยากจะถามเหมือนกันว่าพวกเขามาด้วยกันได้ยังไง
“เขาไปบอกฉันที่ร้านว่าเจอตัวคุณแล้ว ฉันใจร้อนอยากจะเจอคุณ ก็เลยตามมาด้วย พอคุณไม่อยู่ ในร้านไม่มีออดเดอร์ไม่มีลูกค้าเลย”
ฉินยารู้สึกผิดหวัง รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอ ลูกค้าสองคนที่เธอต้อนรับนั่น ถึงแม้จะบอกว่าพึงพอใจในการออกแบบของเธอก็ตาม แต่กลับบอกว่าไม่มีจุดไหนที่แปลกใหม่น่าสนใจ ก็เลยไม่ได้ออเดอร์สินค้า
ตอนนี้ไอรอนกำลังเฝ้าดูร้านอยู่ เธอก็เลยมาได้
หลินซินเหยียนตบลงที่ไหล่ของเธอพร้อมกับพูดปลอบ“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว”
รอเธอเชิญอาจารย์ที่ทำผ้าไหมเซียงหยุนซามาให้ได้ก่อน ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้แล้ว
ฉินยาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงก่อนหน้านี้ให้กับหลินซินเหยียน ทั้งสองคนขึ้นไปข้างบนพลางพูดคุยกันไปพลาง
เสิ่นเผยซวนเตรีนมอาหารเย็นที่เยอะแยะมากมายเอาไว้แล้ว เพื่อเป็นการต้อนรับซูจ้านกับฉินยา
หลินลุ่ยซีง่วงนอน แถมจะให้จงจิ่งห้าวอุ้มอีก“พ่อ อุ้มหนูให้หลับหน่อย”
เจ้าเด็กน้อยขี้อ้อนมาก กอดคอของเขาไม่ยอมปล่อย พูดด้วยเสียงอ่อนหวานน่าเอ็นดู“พ่อ”
จงจิ่งห้าวจุ๊บลงที่แก้มของลูกสาว ใครจะไปปฏิเสธลง ถูกเธอทำให้ใจอ่อนระทวยขนาดนี้
จงจิ่งห้าวพูดที่หูของหลินซินเหยียน“ผมพาเธอขึ้นไปก่อนนะ”
หลินซินเหยียน
หลังจากที่จงจิ่งห้าวเดินไปแล้ว หลินซินเหยียนก็คีบอาหารให้ลูกชาย หลินซีเฉินกินไปหนึ่งคำ จากนั้นก็วางตะเกียบลง ลงจากเก้าอี้
“ผมกินอิ่มแล้ว”
จะกลับไปยังห้องของตัวเอง รู้เรื่องรู้ราวเหมือนกับผู้ใหญ่ หลินซินเหยียนไม่วางใจเขา“เดี๋ยวหม่ามี๊ขึ้นไปเป็นเพื่อนลูก”
“ไม่ต้องครับ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครอยู่กับผมสักหน่อย”เขาชี้ไปที่บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ข้างหลัง
เหอรุ่ยเจ๋อไม่มีเบาะแส จงจิ่งห้าวกังวลว่าเขาจะมาลงมือกับลูกและหลินซินเหยียนอีก ก็เลยให้บอดี้การ์ดคอยประกบอยู่ตลอดเวลา
“แบบนี้ไม่ได้นะพี่สะใภ้ พวกเราอุส่ามาหาคุณไม่สนระยะทางเลยว่าจะไกลแค่ไหน คุณจะทิ้งไม่สนใจพวกเราไปทั้งแบบนี้เหรอ?” ซูจ้านพูดมองหลินซินเหยียนอย่างน้อยใจ“คุณดูสิผมอุส่าพาคุณฉินมาหาคุณโดยไม่สนความยากลำบากแบบนี้ ผมดื่มให้กับคุณสักแก้วก็แล้วกัน?”
ตอนแรกเขาอยากจะพูดว่า คุณควรจะดื่มให้ผมสักแก้ว แต่เธอเป็นภรรยาของจงจิ่งห้าว เขาไม่กล้าให้เธอดื่มให้
จึงเปลี่ยนคำพูด เป็นตัวเองดื่มให้กับเธอแทน
หลินซินเหยียนมองซูจ้านแล้วก็มองเสิ่นเผยซวนกับฉินยา รับเหล้าที่ซูจ้านยื่นให้ ก่อนพูดยิ้มๆ“แก้วนี้ฉันดื่มให้คุณ ตอนที่ฉันไม่อยู่ ขอบคุณพวกคุณที่ช่วยดูแลคนข้างกายแทนฉันด้วยนะ”
เธอดื่มเหล้าขาวหมดแก้ว ตอนที่กลืนลงไปมันบาดคอจนรู้สึกเจ็บ เธอขมวดคิ้ว วางแก้วลง คว้าน้ำเปล่าดื่มตามไปหนึ่งคำ เพื่อให้บรรเทาอาการบาดคอ
ซูจ้านกระพริบตา“พี่สะใภ้ดื่มเก่งจัง ผมก็ดื่มเกลี้ยงแล้วเหมือนกัน”
เหล้าก็ดื่มแล้ว หลินซินเหยีนนคิดถึงลูกทั้งสองคน ก็เลยพูดขึ้น“พวกคุณต่อกันเลยนะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปข้างบนก่อน”
ซูจ้านลากเธอไว้“พี่สะใภ้ คนไร้มนุษยธรรมแบบจงจิ่งห้าว นอกจากจะกดขี่ข่มเหงพวกเราแล้ว ก็ไม่เห็นว่าพวกเราเป็นคนด้วยซ้ำ ผมรู้สึกอมทุกข์อยู่ภายในใจ แต่ผมไม่กล้าพูด”
ซูจ้าน‘ร้องไห้’พลางพูดฟ้องเรื่องจงจิ่งห้าว
หลินซินเหยียน“……”
แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับเธอ?
“เขาไร้มนุษยธรรมขนาดนั้นจริงๆเหรอ?”หลินซินเหยียนหันมองพร้อมกับพูดถามซูจ้านที่กำลังเกาะเกี่ยวเธอไม่ยอมปล่อยเหมือนกับ‘หมาน้อย’ตัวหนึ่ง
ซูจ้านเบะปาก พยักหน้าอย่างแรง แถมยังชี้ไปที่เสิ่นเผยซวนให้เขาช่วยยืนยันให้กับตนเองอีกเสียง“ไม่เชื่อถามเขาดูก็ได้”
รู้ดีว่าเขาจงใจตื้อให้หลินซินเหยียนดื่มเหล้ากับเขา เสิ่นเผยซวนแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน หันกลับไปมองฉินยา พร้อมกับถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง“เดินทางมาคงเหนื่อยแล้วใช่ไหม?”
ฉินยาส่ายหัว“ไม่เหนื่อย”
“ไอ้เด็กนี่มีรังแกคุณบ้างไหม?”เสิ่นเผยซวนสื่อถึงสิ่งที่อยู่ในใจ
ฉินยาก้มหน้า เม้มริมฝีปากพร้อมกับส่ายหัว“คุณซู ดูแลฉันดีมาก”
“เห็นไหมล่ะ ผมเป็นผู้ชายประเภทที่รังแกแต่ผู้หญิงหรือไง? เสิ่นเผยซวนคุณดูถูกผมเกินไปแล้ว!”ซูจ้านลุกขึ้นยืน ชี้ไปที่เสิ่นเผยซวน“พวกคุณตบก้นแล้วก็เดินจากไป ปัญหาอะไรก็โยนมาให้กับผมทั้งนั้น”
ซูจ้านไม่ได้เมาเลย แกล้งทำเป็นเมา ลากหลินซินเหยียนเอาไว้ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมให้เธอไป แถมยังบ่นกับเธอว่างานที่ตัวเองทำมีตั้งเยอะแยะมากมาย ในความจริงแล้วตั้งใจจะบอกว่าวันเวลาที่เธอหายตัวไป จงจิ่งห้าวกระวนกระวานใจขนาดไหน“คุณรู้ไหม? ว่าพอคุณหายตัวไปแล้ว ผมไปตามหาตัวคุณกับจงจิ่งห้าว ต่อมาพอรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ เขาก็พาเสิ่นเผยซวนมา ทิ้งผมไว้ที่เมืองB ให้จัดการเรื่องปัญหาของเหอรุ่ยหลิน แต่คุณวางใจได้ ผมจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจะไม่มีทางออกมาสร้างปัญหาอะไรได้อีกแล้ว……”ซูจ้านเข้าไปใกล้หลินซินเหยียน“เธอก่อเหตุฆ่าคนแล้ว อยู่ลอยหน้าลอยตาต่อไปไม่ได้แน่นอน”
หลินซินเหยียนมองซูจ้านด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย รู้สึกสะเทือนในใจอย่างแรง ตอนแรกเหอรุ่ยหลินใช้ลูกทั้งสองคนมาบีบบังคับให้เธอออกมา เพื่อความปลอดภัยของลูก เธอติดกับที่เหอรุ่ยหลินวางไว้ ถูกเหอรุ่ยหลินควบคุมบงการ
ที่จงจิ่งห้าวสามารถมาหาเธอที่นี่จนเจอได้ เธอก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
คิดไม่ถึง ว่าเขาจะลงมือจัดการกับเหอรุ่ยหลิน
ซูจ้านรินเหล้าให้กับหลินซินเหยียน ของตัวเองก็รินเต็มแล้วเช่นกัน“ผมช่วยคุณขนาดนี้ คุณต้องดื่มกับผมสักแก้วไหมล่ะ?”
หลินซินเหยียนรู้ว่าคำพูดนี้ของเขาจงใจพูดให้เธอฟัง ยกแก้วขึ้น“สมแล้วที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน”
ซูจ้านอึ้งตะลึง จงใจทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง
ฉินยามองดูอยู่ข้างๆเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมาบ้างแล้ว เห็นได้ชัดว่าซูจ้านจงใจให้หลินซินเหยียนดื่มเหล้า
เธออยากจะเข้าไปห้ามปาม แต่กลับถูกเสิ่นเผยซวนดึงเอาไว้ จงใจรั้งเธอไว้“คุณฉิน คุณพาซูจ้านมา คงจะเหนื่อยตลอดทั้งทางแล้ว ขอบคุณที่คุณพาไอ้เจ้าน้องชายที่ไร้ประโยชน์คนนี้ของผมมาถึงอย่างปลอดภัยนะครับ”
พูดพลางเขาก็ยัดแก้วเหล้ามาในมือของฉินยา
ฉินยา“……”
เหตุผลนี้มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ
“แต่……”
“ขอบคุณครับคุณฉิน”เสิ่นเผยซวนไม่ให้โอกาสฉินยาได้ปฏิเสธ พูดขอบคุณออกมาก่อน
บังคับให้เธอต้องดื่มให้ได้
วิธีการของเสิ่นเผยซวนกับซูจ้านชัดเจนเกินไป หลินซินเหยียนรู้ดี แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธที่จะเมาสักครั้ง“เหมือนที่พวกคุณคิด ฉันกับจงจิ่งห้าว จริงๆแล้วไม่ได้ดีเหมือนที่เห็นๆกัน……”
ซูจ้านกับเสิ่นเผยซวนมองตากัน ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมองทะลุถึงเจตนาของพวกเขา?
ทั้งสองคนหันสายตากลับมาอย่างเงียบๆ แสร้งทำเป็นสับสนมึนงงไม่รู้เรื่อง“พี่สะใภ้ว่าอะไรนะ คุณกับจิ่งห้าวชะตาฟ้าลิขิต ให้มาคู่กันเลยนะ”
หลินซินเหยียนยิ้มๆ“ถ้าจะพูดถึงเรื่องโชคชะตา อย่างอื่นซะมากกว่ามั้ง เรื่องแบบนี้พูดยาก”
ถูกหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ใช่โชคชะตาสักหน่อย
ซูจ้านพูดอย่างระมัดระวัง“คุณยังโกรธเรื่องที่เขาหย่ากับคุณก่อนหน้านี้อยู่อีกเหรอ?”จู่ๆซูจ้านก็เปลี่ยนเรื่อง พูดขึ้นอย่างจริงจัง“ถ้าเป็นผม ผมก็โกรธ หย่าเพื่อผู้หญิงคนอื่น ผมไม่มีทางให้อภัยเขาแน่นอน”
ไม่นานคำพูดของซูจ้านก็อ่อนลง“ถือซะว่าเห็นแก่ลูกทั้งสองคน ให้โอกาสเขาสักครั้งไหม?”
หลินซินเหยียนจิบเหล้าไปหนึ่งคำ พวกเขาไม่เข้าใจว่ามันมีอะไรที่ซับซ้อนซ่อนอยู่
ที่เธอไม่ยอมรับจงจิ่งห้าวอย่างหมดจิตหมดใจ ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องหย่า ถึงยังไงในตอนนั้นต่างคนต่างก็ไม่ชอบกันและกัน แค่ถูกผู้อาวุโสจับมาให้อยู่ด้วยกันเท่านั้น
แต่เธอแค่ไม่มั่นใจว่าที่จงจิ่งห้าวดีกับเธอ เป็นเพราะว่าเห็นแกลูกทั้งสองคน
เธอไม่มั่นใจว่าตัวเองชอบเขาจริงๆไหม
ตัวเองชอบมากขนาดไหนเท่านั้นเอง
เรื่องของความรู้สึก เธอไม่ชอบถูกคนมาจู้จี้จุกจิกหรือมาวิจารณ์อะไร“จากนี้ไป จะทำแบบนี้ไม่ได้แล้ว ครั้งหน้าฉันจะโกรธแล้วนะ”
เสิ่นเผยซวนจ้องมองซูจ้าน เขามองว่าความสัมพันธ์ระหว่างจงจิ่งห้าวและหลินซินเหยียนลึกซึ้งเข้าใจยาก เลยเอาเรื่องนี้ไปบอกกับซูจ้าน เขาก็เลยเสนอไอเดียนี้มา ก็คือมอมให้หลินซินเหยียนเมา แล้วเอาไปส่งบนเตียงของจงจิ่งห้าว แค่นี้เรื่องมันจะก็คลี่คลายลงตัวแล้ว
ผลที่ได้กลับถูกเธอมองออก
ซูจ้านยิ้มอย่างอึดอัด พูดเสียงแผ่วเบา“ผู้หญิงถ้าฉลาดเกินไปมักจะไม่เป็นที่ชื่นชอบนะ”
“พวกคุณอย่าให้ฉินยาดื่มมากไปล่ะ ฉันจะกลับไปดูเสี่ยวเฉินกับเสี่ยวลุ่ยก่อน”หลินซินเหยียนพูดออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ซูจ้านก็ไม่กล้าตื้ออะไรต่อ
ทำได้แค่มองหลินซินเหยียนเดินจากไป
ฉินยาที่เพิ่งรู้สึกตัวทีหลัง ถึงได้รู้แล้วว่าซูจ้านจงใจให้หลินซินเหยีนนดื่ม แต่ทำไมถึงให้ดื่ม เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
“พวกคุณทำแบบนี้ไม่ค่อยดีเลยนะ”ฉินยาหันไปมองซูจ้าน“ผู้ชายหนึ่งคน จงใจให้ผู้หญิงดื่มเหล้า มันเป็นเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมมากเลยนะ โชคดีที่คุณหลินฉลาด แค่มองก็รู้แผนการของคุณแล้ว”
ซูจ้านรู้สึกผิดในใจจริงๆ เขาก็แค่อยากจะช่วยเหลือพี่น้องเท่านั้นเอง
สาวน้อยคนนี้กล้ามากล่าวโทษตำหนิเขา
เขาลากเก้าอี้ออกมา ก่อนจะนั่งลงข้างๆฉินยา“แล้วคุณรู้อะไร? หือ ถึงได้กล้ามากล่าวโทษตำหนิผม?”
เขาจงใจเข้าไปใกล้เธอ ตอนที่พูดมีกลิ่นของเหล้าแผ่กระจายออกมากระทบหน้า เธอขมวดคิ้ว“คุณออกไปเลยนะ!”
“จะให้ไปไหน? ที่ตั้งใหญ่ขนาดนี้”ซูจ้าน อยู่ใกล้เธอ ปากเข้าใกล้ใบหน้าของเธอมากขึ้น
เสิ่นเผยซวนส่ายหัว ชัดเจนมากว่าซูจ้านกำลังอ่อยเธออยู่ เขาไม่อยากเป็นก้างขวางคอ ก็เลยลุกขึ้นเดินจากไปอย่างเงียบๆ
ฉินยาพอเห็นเขาเดินจากไป ก็คิดที่จะไปเช่นกัน แต่กลับถูกซูจ้านลากเอาไว้
“อย่าไป ดื่มกับผมก่อน……”
“คุณบ้าหรือไง ปล่อยฉันนะ……”
เสิ่นเผยซวนปิดประตูลง คิดในใจ หมอนี่ไม่แน่ว่าสิ้นปีนี้อาจจะได้แต่งงานจริงๆก็ได้
จริงๆแล้วฉินยาไม่เลวเลย อายุยังน้อย ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
หลินซินเหยียนขึ้นมาถึงข้างบน หลินลุ่ยซีกับหลินซีเฉินก็นอนหลับไปแล้ว ในห้องน้ำมีเสียงน้ำซู่ซ่าดังออกมา ประตูกระจกฝ้าเปิดแง้มอยู่ไม่ได้ปิดสนิท เธอผลักมันเบาๆ ประตูก็เปิดออก