กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 218 ผมไม่ได้คิดอะไร
ใบหน้าของเฉิงยู่ซิ่วซีดขาวทันที ไร้สีเลือด นิ้วของเธอกำโทรศัพท์มือถือแน่น เวลาล่วงเลยมานานก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
ทางฝั่งไป๋หงเฟยที่รออย่างใจจดใจจ่อก็พูดอย่างร้อนร้นว่า “ยู่ซิ่ว คุณมาเจอผมหน่อย มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรเรามาคุยกันต่อหน้าให้ชัดเจน”
เฉิงยู่เวินมองไป๋หงเฟยที่ร้อนรนแล้วถอนหายใจ เขาดื้อรั้นมากจริงๆ
คุณนายไป๋มาสองสามครั้งแล้วก็พาเขากลับไม่ได้ อยู่หน้าประตูบ้านตระกูลเฉิงเป็นหกเจ็ดวันโดยไม่กินหรือดื่ม แล้วก็หมดสติไป คุณนายไป๋ถึงได้เอาเขากลับไปได้
แต่ก็ยังไม่ยอม เมื่อฟื้นขึ้นมาก็วิ่งมารอหน้าประตูบ้านตระกูลเฉิงอีก บอกว่าถ้าไม่พบหน้าเฉิงยู่ซิ่ว ต่อให้เขาตายก็ไม่ไปจากหน้าประตูบ้านตระกูลเฉิง
เฉิงยู่เวินไม่มีทางเลือก ได้แต่พาเขามาเมืองB เพื่อพบหน้าเฉิงยู่ซิ่ว
“ผมเอง”เฉิงยู่เวินยึดโทรศัพท์คืนมาอีกครั้ง และเอามาแนบหู “ฮัลโหลน้องสาว ฉันเองนะ ไป๋หงเฟยจะเป็นจะตายแล้ว จึงไม่มีทางเลือก ฉันเลยจำต้องพาเขามา เธอมาพบหน้าเขาสักครั้งเถอะ เรื่องอะไรก็พูดคุยให้ชัดเจน ถึงอย่างไรพวกเธอก็รักกันมานาน คบกันด้วยดีก็จากกันด้วยดี”
เฉิงยู่ซิ่วหลับตา แล้วเธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นนิ่งๆ และมองไปที่จงฉีเฟิง “ฉันมีเรื่องนิดหน่อย อยากออกไป….”
คำพูดของเฉิงยู่เวินวนเวียนอยู่ในหัวใจเธอ รักกับไป๋หงเฟยมานาน ถ้าต้องจบ เธอก็ต้องพูดเอง
ทำลายความรู้สึกนี้ด้วยมือตัวเอง
ถึงแม้ว่าจงฉีเฟิงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มองออกว่าเฉิงยู่ซิ่วอยู่ในอารมณ์ที่ย่ำแย่มาก ตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์ เขาจึงไม่อยากให้เธอเครียด
“ตอนนี้ร่างกายคุณไม่สะดวก คุณจะไปไหน ผมจะไปส่งคุณ”
เฉิงยู่ซิ่วลังเลครู่หนึ่ง อยากปฏิเสธจงฉีเฟิง “ฉัน….”
“ถ้าคุณไม่ให้ผมไปส่ง ผมจะไม่อนุญาตให้คุณลุกจากเตียง ตอนนี้หมอบอกว่าร่างกายของคุณต้องการการพักผ่อน”
เฉิงยู่ซิ่วไม่มีทางเลือกจำต้องพยักหน้าตอบรับ เธอถามเฉิงยู่เวินว่าอยู่ที่ไหน เธอจะไปหา
ทางฝั่งเฉิงยู่เวินบอกที่อยู่ แล้วเฉิงยู่ซิ่วก็วางสายไป เธอกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือ แล้วมองจงฉีเฟิงด้วยความเคอะเขิน “คุณออกไปก่อนครู่หนึ่งได้ไหมคะ”
จงฉีเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่สบายตรงไหนครับ”
เฉิงยู่ซิ่วรีบส่ายหน้า “เปล่าค่ะ ไม่มี เพียงแต่ว่า….เพียงแต่….”
“เพียงแต่อะไร” ระหว่างคิ้วของจงฉีเฟิงยับย่น
เฉิงยู่ซิ่วก้มหน้า เธอพูดได้ที่ไหนว่าเธออยากไปห้องน้ำ
เขาเป็นผู้ชาย ชายหญิงแตกต่างกัน
แม้ว่าทั้งสองคนจะมีพฤติกรรมใกล้ชิด แต่พวกเขาไม่มีความรู้สึกต่อกัน และไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคย นับได้แค่ว่าเป็นคนรู้จักเท่านั้น
เธอจึงไม่สามารถออกปากได้
เห็นเธอหน้าแดง จงฉีเฟิงจึงเหมือนว่าจะตระหนักได้แล้ว ร่างกายของเธอไม่ค่อยสะดวก และเพราะว่าเขาเป็นผู้ชาย เขาจึงลุกขึ้นและบอกว่า “ผมจะออกไปก่อน”
ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ไป แต่เรียกพยาบาลมา ตอนนี้เฉิงยู่ซิ่วไม่ค่อยสะดวก เขาไม่วางใจให้เธออยู่คนเดียว
ตอนที่พยาบาลเข้ามา เฉิงยู่ซิ่วอึ้งไปครู่หนึ่ง “ฉันไม่ได้เกิดอาการป่วยนะคะ”
เธอคิดว่าเป็นการมาเพื่อตรวจ
พยาบาลมาช่วยประคองเธอ “คุณจงให้ฉันเข้ามาค่ะ กังวลว่าคุณอยู่ในห้องคนเดียวจะไม่สะดวก”
เฉิงยู่ซิ่วมองพยาบาลพลางกะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนไม่คาดฝันกับการกระทำเช่นนี้ของจงฉีเฟิง ที่ก้นบึ้งหัวใจเกิดความซาบซึ้งพวยพุ่งเล็กน้อย
เพื่อเห็นแก่ที่เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา เขาจึงดูแลใส่ใจเธอเหรอ
พยาบาลพาเธอเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็ปิดประตู แล้วรออยู่หน้าประตู
หลังจากผ่านไปสักพักก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างใน พยาบาลจึงเคาะประตูถามเธอว่าเธอโอเคหรือยัง
เฉิงยู่ซิ่วบอกว่าโอเคแล้ว พยาบาลถึงได้เปิดประตูเข้ามา
พยาบาลพาเธอไปที่เตียง เฉิงยู่ซิ่วโบกมือให้ และให้พยาบาลเอาเสื้อนอกมาให้เธอ
“คุณออกไปข้างนอกไม่ได้นะคะ ร่างกายของคุณไม่ดี” พยาบาลพูดอย่างจริงจัง
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้าบอกว่ารู้ “ฉันออกไปครู่เดียวเท่านั้นค่ะ ไม่นานก็กลับมา มีคนไปเป็นเพื่อนฉันด้วย”
“แต่ตอนนี้คุณ….”
“จะไม่มีเรื่องอะไรค่ะ ร่างกายของฉัน ฉันรู้ตัวเองดี ฉันจะระวังให้ดี และฉันไปไม่นานจริงๆ ค่ะ”
พยาบาลยังพูดไม่จบก็ถูกเฉิงยู่ซิ่วขัดจังหวะเสียก่อน ต่อมาก็ได้รู้ว่าจงฉีเฟิงยินยอมแล้ว พยาบาลถึงได้อนุญาตให้เธอออกไปข้างนอก แต่สั่งว่า “คุณห้ามเดินนะคะ ถ้าคุณต้องการเด็กคนนี้”
เฉิงยู่ซิ่วลำบากใจ ไม่ให้เดิน แล้วเธอจะออกไปยังไง
พยาบาลมองเฉิงยู่ซิ่วแล้วก็มองจงฉีเฟิง ในใจก็คิดว่าทำไมสามีถึงเพิกเฉยแบบนี้ จึงจงใจเตือนว่า “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันไม่ใช่เหรอคะ คุณก็อุ้มภรรยาของคุณไปสิ”
เฉิงยู่ซิ่วหน้าแดง อ้าปากจะอธิบาย กลับถูกจงฉีเฟิงขัดจังหวะ “ผมจะอุ้มคุณไปครับ”
“แต่….”
“แต่อะไรไม่มีแต่ค่ะ ลูกในท้องของคุณไม่ใช่ของคุณคนเดียว ควรเป็นพวกคุณทั้งคู่ช่วยกันปกป้องดูแล เขาถึงจะสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย”
พยาบาลเหลือบมองเฉิงยู่ซิ่ว พลางคิดในใจว่า จะเป็นแม่คนในไม่ช้านี้แล้ว ยังมีอาการเขินอายต่อหน้าสามีอยู่อีก แปลกจริงๆ
จงฉีเฟิงโน้มตัวลงไปอุ้มเธอขึ้น และปลอบว่า “ผมไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าทำเพื่อร่างกายของคุณ”
เฉิงยู่ซิ่วไม่รู้จะวางมือตรงไหน จงฉีเฟิงจึงจับเอามือของเธอวางไว้บนไหล่ตัวเอง “เราเป็น‘สามีภรรยา’กันอย่าให้ใครต้องมีความคิดนินทา มันไม่ดีสำหรับคุณ”
เป็นครั้งแรกที่เฉิงยู่ซิ่วตระหนักได้ว่าระยะห่างกับเขานั้นใกล้ชิดมาก ร่างกายแน่นตึงไม่หมด จงฉีเฟิงรู้สึกว่าเธอตัวแข็งทื่อ จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “คุณทำตัวแข็งแบบนี้ ไม่อึดอัดเหรอ”
เฉิงยู่ซิ่วก้มหน้า “ฉัน ฉันไม่ชิน”
“ดูเหมือนผมจะใส่ใจคุณน้อยเกินไป ต่อจากนี้ผมจะเข้าหาคุณบ่อยขึ้น เพื่อลูกของเรา” พูดจบ เขาเหมือนจะรู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติ จึงเพิ่มไปอีกประโยคปิดท้าย
อย่างไรก็ดีเมื่อออกมาจากห้องคนไข้ ระยะทางมันไม่ไกล ไม่นานก็ลงมาถึงลานจอดรถชั้นล่าง จงฉีเฟิงอุ้มเธอเข้าไปในเบาะหลัง เอื้อมมือไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ตอนที่เขาโน้มตัวไปข้างหน้า เฉิงยู่ซิ่วยืดตัวตรงอย่างหนัก เอนหลังพิงพนักเบาะ
จงฉีเฟิงเหลือบมองเธอ ไม่ได้พูดอะไร ยืดตัวขึ้นและปิดประตู เดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ แล้วสตาร์ทรถออกไป
เข้าขับรถเข้าสู่ถนนใหญ่ เหลือบมองด้านหลังและถามว่า “ที่ไหนครับ”
“สถานีรถไฟค่ะ”เฉิงยู่เวินกับไป๋หงเฟยทันทีที่ลงจากรถก็โทรหา เฉิงยู่ซิ่วเลย ที่นี่พวกเขาไม่มีคนรู้จักที่นี่ จึงรอที่ทางออกสถานีรถไฟก่อน
จงฉีเฟิงถามต่อ “พี่ชายคุณเหรอ”
เฉิงยู่ซิ่วเครียดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล สองมือของเธอจับกันแน่น “ค่ะ…”
เธอไม่รู้ว่าจะพูดเกี่ยวกับไป๋หงเฟยอย่างไร
เพราะถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่ได้บอกเลิกเขา รักมาหลายปี บอกว่าไม่เสียใจ บอกว่าไม่คิดถึง บอกว่าไม่เศร้า ล้วนเป็นเรื่องโกหก
ตอนนี้ ในหัวใจเธอเต็มไปด้วยความสับสน
จงฉีเฟิงมองเธอผ่านกระจกมองหลัง เห็นได้ชัดว่าเธอมีเรื่องในใจ แต่เขาไม่ได้ถาม แค่ขับรถไปเงียบๆ
ไม่นาน เฉิงยู่ซิ่วก็ได้เห็นสถานีรถไฟผ่านทางหน้าต่าง คนสองคนยืนอยู่บนขั้นบันไดตรงทางออกประตูหลัก
เธอคุ้นเคยดีทั้งหมด คนหนึ่งคือพี่ชายร่วมสายเลือดของเธอ อีกคนหนึ่งคือคนรักเก่า
รถหยุดลง เฉิงยู่ซิ่วไม่ได้ลงทันที แต่จับราวจับนิรภัยตรงประตูรถแน่น
จงฉีเฟิงจอดแล้วลงจากรถ เปิดประตูด้านหลัง โน้มตัวลงไปอุ้มเธอ เธอหลบเล็กน้อยโดยสัญชาตญาณ
จงฉีเฟิงเงยหน้าขึ้น “ในท้องของคุณคือลูกของผม ผมไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ”
เหมือนเป็นการอธิบายว่าเพราะอะไรถึงอุ้มเธอ ทั้งเหมือนเป็นการบอกความบริสุทธิ์ใจ และเหมือนกับเตือนความจำว่าตอนนี้เธอไม่ได้เป็นอิสระแล้ว ไม่สามารถปฏิเสธได้