กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 219 คุณเคยรักผมบ้างไหม
เฉิงยู่ซิ่วขึ้นโอบคอของเขา แบบนี้ก็ดี ไป๋หงเฟยจะได้เข้าใจชัดเจน
ไม่นานเฉิงยู่เวินกับไป๋หงเฟยที่ยืนอยู่บนบันไดก็เห็นเฉิงยู่ซิ่วถูกอุ้มเดินมา
แม้แต่เฉิงยู่เวินก็ยังตกตะลึงไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่ามาเจอน้องสาวอีกครั้งโดยที่เธอถูกผู้ชายอุ้มไว้
ตอนนั้นเธอแค่บอกว่าเธอสัญญากับคนอื่นเรื่องหนึ่ง จึงจำเป็นต้องจากไป ให้เขาไม่ต้องเป็นห่วง
เขารู้ว่าการที่จู่ๆ จะสามารถได้เงินมาจำนวนมากในทันที มันต้องไม่ใช่เรื่องง่าย และเธอก็ยังเป็นผู้หญิง ยิ่งไม่ง่ายเข้าไปใหญ่
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่า….
ไป๋หงเฟยตัวแข็งทื่อเป็นหินนิ่งอยู่กับที่ ผู้หญิงที่เขารักมากจนความรักแทรกซึมเข้ากระดูก เวลานี้ถูกผู้ชายคนอื่นอุ้มอยู่
ครั้งหนึ่ง พวกเขาสาบานรักชั่วฟ้าดินสลาย สาบานว่าจะแต่งงาน สัญญาว่าจะแต่งงานกัน มันยังวนเวียนอยู่ในโสตประสาท
ชัดเจนมาก เจ็บปวดมาก
“ยู่ซิ่ว?” กดต่ำ อดกลั้น เหมือนเสียงคำรามต่ำของสิงโตที่กำลังจะเดือดดาลเต็มที
เฉิงยู่ซิ่วหัวใจเต้นแรงบ้าคลั่ง ช่วงเวลานี้ ไม่ใช่ว่าไป๋หงเฟยเจ็บปวดอยู่คนเดียว เธอก็เช่นกัน
เพียงแต่ เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว
เธอซบศีรษะลงบนไหล่ของจงฉีเฟิง มองดูชายหนุ่มที่กำลังโกรธ ไม่มีคำอธิบายใดๆ และพูดอย่างแน่วแน่ว่า “คุณก็เห็นแล้วนะ ฉันไม่ได้รักคุณแล้ว เราเลิกกันเถอะ”
แม้แต่เฉิงยู่ซิ่วก็ไม่อยากเชื่อตัวเอง เธอคิดว่าเธอจะทนไม่ได้ จะต้องเจ็บปวดเจียนตาย จะต้องร้องไห้อย่างหมดอาลัยตายอยาก แต่เปล่าเลย เธอสงบเยือกเย็นอย่างน่าอัศจรรย์
เดินมาไกลขนาดนี้ เธอรู้อย่างชัดเจนว่า พวกเขาจะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก
“นี่ไม่ใช่คุณ!” ไป๋หงเฟยไม่เชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้ จะปฏิบัติกับเขาอย่างโหดร้ายเช่นนี้
“คุณจำได้ไหมว่าคุณบอกว่าคุณจะแต่งงานกับผม….”
“นั่นมันเมื่อก่อน!” เฉิงยู่ซิ่วขัดจังหวะเขา โดยที่ไม่มีอคติใดๆ ไม่มีความรู้สึกผิดต่อสายตาที่ไม่อยากเชื่อของเขา ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจแล้ว “ตอนที่ฉันต้องการคุณ คุณอยู่ที่ไหน ฉันไปหาคุณที่บ้าน แม่คุณดูถูกฉันยังไง ทำไมฉันยังต้องถนอมความรู้สึกของคุณ ไป๋หงเฟย ฉันไม่รักคุณแล้ว ไม่รัก ก่อนหน้านี้ที่บอกว่ารักคุณก็เป็นของปลอม มันก็แค่เพราะคุณเป็นคนตระกูลไป๋เท่านั้น….”
“ผมไม่เชื่อ ผมไม่เชื่อ!” ไป๋หงเฟยส่ายหน้าและวิ่งเข้ามา จงฉีเฟิงตั้งรับ ในช่วงเวลาที่เขาวิ่งมา โดยทำการเบี่ยงตัว เขาจึงวิ่งมาเก้อ
เขาไม่พอใจและโกรธมาก
“คุณเป็นใคร!” เขาจ้องจงฉีเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว สายตาของเขาจ้องเขม็งไปยังมือที่อุ้มเฉิงยู่ซิ่ว เน้นทุกคำทุกประโยค “เธอเป็นผู้หญิงของผม คุณปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”
จงฉีเฟิงเฉลียวฉลาดมีไหวพริบ จากบทสนทนาของพวกเขา ก็หาคำตอบได้
กระจ่างแจ้งในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา
เฉิงยู่ซิ่วต้องประสบปัญหาบางอย่าง เหวินเสียนจึงเข้าไปช่วยเธอ
ดังนั้นเธอจึงตอบแทนเหวินเสียน บางทีทั้งสองคนอาจจะคุยข้อตกลงกันตั้งแต่แรก ดังนั้นเธอจึงปรากฏตัวขึ้นบนเตียงของเขา
และผู้ชายคนนี้เป็นแฟนเก่าของเธอ
ถึงได้มีภาพนี้เกิดขึ้น
ไม่ว่าเธอจะมีแฟนมามากแค่ไหน แต่ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของเขา เขาจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามมาทำร้ายเธอและลูก
“พวกคุณแต่งงานกันแล้วเหรอ” จงฉีเฟิงพูดเสียงนิ่ง
คำพูดสั้นๆ แต่ทำให้ไป๋หงเฟยพูดไม่ออก ใช่ พวกเขามีความสัมพันธ์เป็นแค่แฟนกัน
การหมั้นหมายถูกยกเลิกโดยที่เขาไม่รู้
“แม่ของคุณได้ประกาศไปแล้ว ยกเลิกการหมั้นของเรา คุณกับฉันไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว คุณไปซะเถอะ” เฉิงยู่ซิ่วเบนสายตาไปทางอื่น
เธอคิดว่าเธอเข้มแข็งพอ สามารถเผชิญหน้ากับความผิดหวังของเขาได้ แต่สายตาที่เจ็บปวดในเวลานี้ ทำให้หัวใจเธออ่อนแอ
เธอกลัวที่จะมองสายตาของไป๋หงเฟย แล้วตนจะไม่สามารถใจร้ายได้
เธออยากบอกว่าขอโทษ
แต่ไม่สามารถพูดได้
เธอไม่สามารถให้ความหวังเขาได้ แบบนั้นมันจะทำให้เขายิ่งเจ็บปวด
“ผมขอโทษแทนแม่ของผม ยู่ซิ่ว คุณรู้ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน ใช่ไหม” เขาดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงแหบแห้ง
มือของเฉิงยู่ซิ่วที่วางบนไหล่ของจงฉีเฟิงกระชับแน่น เล็บจิกเข้าเสื้อสูทของเขา จงฉีเฟิงรู้สึกเจ็บที่ไหล่ แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมา
“ฉันไม่รู้ ถ้าคุณรักฉัน ตอนที่ฉันต้องการคุณ คุณจะไม่ทิ้งฉัน….”
“ผมไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้าน แม่ผมส่งผมไปต่างประเทศ และยังจงใจทำให้ผมติดต่อคุณไม่ได้ ทั้งหมดเป็นความตั้งใจของท่าน ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ถ้าผมรู้ ต่อให้ต้องขัดใจแม่ ผมก็จะช่วยคุณผ่านมันไปให้ได้ คุณได้โปรดเชื่อผมเถอะ”
แต่ละคำเขาพูดมันด้วยความจริงใจ
เฉิงยู่ซิ่วรู้ว่าคนอย่างเขาต้องไม่รู้เรื่องตอนนั้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางไม่สนใจ
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาเจอเขา
“วันนี้ที่ฉันมาเจอคุณ แค่อยากบอกคุณว่าเราเลิกกันเถอะ คุณก็เห็นว่าฉันพบคนรักแล้ว เขาหล่อกว่าคุณ รวยกว่าคุณ และรักฉัน ไม่เหมือนคุณ เวลาที่ต้องการคุณกลับหายไปหาไม่เจอ แถมยังจะพูดพร่ำหาข้อแก้ตัวไปเรื่อย”
เธอพูดจาร้ายกาจ คำพูดที่เป็นหนามทิ่มแทงคนอื่น และทิ่มแทงตัวเองด้วย
เธอโอบกอดจงฉีเฟิง “พวกเราไปเถอะ”
จงฉีเฟิงมองเธอสองวินาที เขารู้สึกได้ว่าเวลานี้อารมณ์ของเธอไม่คงที่อย่างมาก ตัวสั่นไปหมดทั้งตัว
เขาถามเสียงเบา “อยากให้ผมช่วยคุณไหม”
เฉิงยู่ซิ่วเลื่อนสายตาขึ้นมอง ไม่เข้าใจความหมายของเขา
“ถ้าคุณอยากให้เขาตัดใจ ผมช่วยคุณเอาไหม” จงฉีเฟิงรู้ว่าที่เธอพูดจาไร้หัวใจ ก็แค่อยากให้เขาตัดใจเท่านั้น
เฉิงยู่ซิ่วมองเขาอยู่หลายวินาที ก่อนจะพยักหน้า “ได้ค่ะ”
“ยู่ซิ่ว….”
ไป๋หงเฟยไล่ตามเข้ามายืนตรงหน้าเธอ เฝ้ามองเธอ “ขอโทษ….”
“เธอไม่ต้องการ” จงฉีเฟิงสีหน้าจริงจัง คมเฉียบและน่าเกรงขาม “เธอกำลังตั้งท้องลูกของผม รอเธอคลอดออกมาได้อย่างราบรื่น ผมจะแต่งเธอเข้าบ้านเป็นภรรยาของผม รบกวนคุณต่อจากนี้อย่ามายุ่งกับเธออีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน”
ไป๋หงเฟยเหมือนถูกฟ้าผ่า ไม่อยากเชื่อ ดวงตาเบิกกว้าง พูดติดอ่างแต่ว่าคุณๆๆ อยู่เป็นนานสองนาน แต่พูดคำอื่นไม่ออกเลย
เขาไม่เชื่อคำพูดของจงฉีเฟิง
เฉิงยู่ซิ่วเป็นคนรักนวลสงวนตัว จะท้องได้ยังไง
เป็นไปไม่ได้!
ไป๋หงเฟยไม่เชื่อ
“ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ดังนั้นต่อไปอย่ามาหาฉันอีก ฉันรำคาญ” เฉิงยู่ซิ่วเชิดหน้า เวลานี้หัวใจแตกสลายไปแล้ว แต่กลับแกล้งทำเย็นชาไร้หัวใจ
“คุณโกหกผม”
ไป๋หงเฟยก้าวถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า “คุณ คุณ คุณ….”
เขาเหมือนไม่รู้จักคนตรงหน้า เหมือนว่าไม่เคยรู้จักเธอเลย เธอเป็นคนไร้หัวใจขนาดนั้นได้อย่างไร
“รบกวนคุณพาฉันออกไปจากที่นี่ที” เฉิงยู่ซิ่วซบอยู่ข้างหูจงฉีเฟิงพลางอ้อนวอน
เธอกลัวว่าถ้าตัวเองอยู่ต่อจะทนไม่ไหว แล้วจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าไป๋หงเฟย
จงฉีเฟิงกระชับอ้อมแขนแข็งแรงอุ้มเธอออกไป
พวกเขาทิ้งเรื่องนี้ไว้ข้างหลัง ไป๋หงเฟยสับสนมึนงง เขารู้สึกว่าโลกของตัวเองพังทลายลงในทันที
เฉิงยู่เวินถอนหายใจ บางทีอาจมีแค่คนนอกเท่านั้นที่มองเห็นได้ชัดเจน
เดินเข้ามาวางมือบนไหล่ของเขา ตบไหล่พลางปลอบว่า “พวกเราไปกันเถอะ คุณก็เห็นแล้ว….”
ไป๋หงเฟยสะบัดไหล่ปัดมือเขาทิ้ง “คุณเป็นพี่ชายของเธอ ทำไมต้องให้เธอมาแบกรับความรับผิดชอบด้วย”
เฉิงยู่เวินสีหน้าเปลี่ยนทันที ใช่ ถ้าเขาสามารถยืนหยัดได้เอง ทำไมน้องสาวต้องมาตกที่นั่งในวันนี้
“ผมมันใช้ไม่ได้ ไป๋หงเฟยก็ไร้ประโยชน์ไม่ต่างกัน ไม่สามารถปกป้องคนที่ตัวเองรักได้” พูดจบเฉิงยู่เวินก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่หันกลับ
เขากลัวว่าถ้าตัวเองอยู่ต่อมันจะพัง
ตอนที่จงฉีเฟิงกำลังวางเฉิงยู่ซิ่วบนรถ ไป๋หงเฟยก็ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “คุณเคยรักผมบ้างไหม”