กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 224 คนเป็นทหารดูแล้วคนตกใจ
การกระทำของจงฉีเฟิงก็ได้ทำให้เหวินชิงสงสัย เพราะงั้นได้ส่งคนไปสะกดรอยจงฉีเฟิง
แค่สามวัน คนที่สะกดรอยจงฉีเฟิงก็ได้พบว่าเขากับเฉิงยู่ซิ่วติดต่อกัน
เหวินเสียนมีคนอยู่เป็นเพื่อน เพราะว่าเฉิงยู่ซิ่วยังไม่เคยเจอหน้าลูกที่คลอดออกมา ก็ได้ร้องไห้ต่อหน้าเขา บอกว่าอยากจะเจอกับลูก
จงฉีเฟิงรับปากว่าวันนี้จะอุ้มลูกไปให้เธอดู แต่ว่า คุณนายเหวินมาแล้ว ได้อุ้มอยู่ตลอด เขาไม่มีโอกาสอุ้มออกมา ก็เลยหาข้ออ้างว่ามีธุระที่บริษัทแล้วออกมา ไปที่ห้องพักคนไข้ของเฉิงยู่ซิ่ว ให้เธอรออีกวันหนึ่ง
เขาได้เปิดประตูห้องพัก เฉิงยู่ซิ่วก็ได้รออยู่ตลอด ได้ยินความเคลื่อนไหวก็ได้ลุกขึ้น มองเห็นจงฉีเฟิงที่เดินเข้ามา เธอก็ได้พูดอย่างดีใจ “ลูกล่ะ?”
จงฉีเฟิงก็ได้เดินมา “วันนี้อุ้มออกมาไม่ได้ เธอรออีกหน่อย”
สีสันนัยน์ตาของเฉิงยู่ซิ่วก็ได้หายไปทันที เธอก็ได้มองลงไปอย่างผิดหวัง เธอก็แค่อยากเห็นสักครั้ง ลูกของเธอ มองแค่ครั้งเดียวก็ได้ ทำไมยากเย็นขนาดนี้?
เธอรู้สึกเจ็บ ใจเจ็บเอามากๆ
จงฉีเฟิงไม่สามารถที่จะรับรู้ความรู้สึกตอนนี้ของเธอได้ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของเธอ ยังไงเขาก็ได้พึ่งเป็นพ่อครั้งแรก
เขาเดินมาแล้วก็นั่งอยู่ข้างเตียง ยื่นมือไปกอดไหล่ของเธอ ปลอบใจว่า “เธอพึ่งคลอดลูกเสร็จ ไม่สามารถที่จะเครียดเกินไป ฉันรับปากเธอ ลูกฉันต้องอุ้มมาให้เธอดูแน่นอน”
“ฉันทำใจไม่ได้” เฉิงยู่ซิ่วไม่อยากร้องไห้ แต่ว่าอดไม่ได้ ลูกได้เติบโตในท้องของเธอ สิบเดือน พวกเขามีความรู้สึกต่อกัน เธอไม่อยากเอาลูกให้เหวินเสียนแล้ว
จงฉีเฟิงถอนหายใจเล็กน้อย “ไม่ทันแล้ว”
ทั้งหมดได้สายไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้ว่าลูกเหวินเสียนเป็นคนคลอดออกมา “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ผ่านไปสักพัก ฉันกับเหวินเสียนก็หย่ากัน ลูกจะให้อยู่ในตระกูลจง ถึงตอนนั้นพวกเราแต่งงานกัน เธอก็สามารถที่จะมองเห็นเขาทุกวันแล้ว”
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้า แม้ว่าเธอกับจงฉีเฟิงไม่ได้มีความรักต่อกัน แต่ว่ามีลูกด้วยกัน สามารถที่จะอยู่กับลูกตลอดไปก็ดีมากๆ แล้ว
“ฉันได้ยินว่า ร้องไห้ระหว่างพักฟื้นหลังทำคลอดไม่ดีต่อสายตา” จงฉีเฟิงได้เช็ดน้ำตาให้เธอ…
ตึ่ง! เสียงดังขึ้น อยู่ๆ ประตูห้องคนไข้ก็ได้ถูกคนถีบออก ทั้งสองก็ได้มองไปทางประตูพร้อมกัน
เหวินชิงก็ได้ยืนอยู่ที่ประตูด้วยความโมโห ตอนที่ได้ยินลูกน้องรายงาน เขาก็ยังไม่อยากที่จะเชื่อเล็กน้อย ยังไงเหวินเสียนพึ่งคลอดลูกชายให้กับจงฉีเฟิง เขาจะไปนอกใจได้ยังไง?
แต่ว่าเมื่อกี้ลูกน้องก็ได้รายงานเขาอีกครั้ง บอกว่าจงฉีเฟิงได้ไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว เพื่อความมั่นใจ เขาก็ได้ขับรถมา คิดไม่ถึงว่า ภาพที่ได้เห็นนั้นกลับเป็นจงฉีเฟิงที่กอดผู้หญิงคนนั้นอยู่
ก็หมายความว่า จงฉีเฟิงนอกใจแล้วจริงๆ รอให้เหวินเสียนพักฟื้นหลังคลอดเสร็จ เขาก็จะไปอยู่กับผู้หญิงคนนี้?
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เขานั้นเหมือนว่าได้ก้าวไปราวกับลูกธนูที่ยิงออกไป ก็ได้ไปคว้าคอเสื้อของจงฉีเฟิง “เหวินเสียนยังพักฟื้นหลังคลอดอยู่ นายกลับ……”
เขาได้หันหน้าไปมองเฉิงยู่ซิ่วที่นั่งอยู่บนเตียง หน้าของเธอได้มีคาบน้ำตา ในสายตาของเหวินชิง นี่เป็นฝีมือมัดใจผู้ชายของชู้
เหวินชิงใจเต้นอย่างรุนแรง การโมโหขนาดหนักก็ได้ทำให้รูปหน้าเปลี่ยน “จงฉีเฟิง นายไม่รู้สึกผิดต่อเหวินเสียนเหรอ?”
จงฉีเฟิงไม่ขยับ แค่พูด “นายเข้าใจผิดแล้ว ไม่เกี่ยวกับเธอ……”
“ถึงตอนนี้นายยังปกป้องสาวชู้คนนี้?” ถ้าไม่ใช่สามัญสำนึกเพียงเล็กน้อยเตือนเขา ถ้าเกิดทำให้จงฉีเฟิงรับบาดเจ็บ เหวินเสียนก็จะรู้ ตอนนี้เขาต้องต่อยจงฉีเฟิงอย่างหนักแน่ๆ!
เห็นแก่น้องสาวยังพักฟื้นหลังคลอด และไม่อยากที่จะให้น้องรู้เรื่องที่ร้ายแรงแบบนี้
เดิมที่ทั้งสองตระกูลก็มีความสัมพันธ์ทางผลประโยชน์ ตอนนี้มีลูกแล้ว สัมพันธ์ได้ลึกกว่าเดิม ต่อให้จงฉีเฟิงนอกใจ การแต่งงานนี้ ก็หย่าไม่ได้ง่ายๆ ผลกระทบต่อทั้งสองตระกูลหนักเกิดไป อีกอย่างไม่ดีต่อเด็ก
เขาก็ได้กดความโกรธลง “ไปจากผู้หญิงคนนี้ กลับไปใช้ชีวิตดีๆ กับเหวินเสียน ถ้าเกิดนายกล้าที่จะมีอะไรกับเธออีก ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่!”
เหวินชิงก็ได้ผลักคนออก
เดินไปข้างเตียง ก็ได้มองลงอยู่เฉิงยู่ซิ่ว “ถ้าเกิดยังเอาหน้าอยู่ ยังอยากจะมีชีวิตอยู่ ก็รู้เรื่องหน่อย ไปจากจงฉีเฟิง เข้าใจความหมายของฉันไหม?”
จงฉีเฟิงก็ได้ขยับของเสื้อ “พี่ไม่สบอารมณ์ก็มาลงที่ฉัน อย่าไปทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งตกใจ”
สองมือของเหวินชิงได้กำแน่น ถึงตอนนี้แล้วเขายังปกป้องผู้หญิงคนนี้?
“นายอย่าคิดว่าฉันไม่กล้าที่จะทำอะไรนาย ถ้าทำฉันโมโหมาก……”
“ฉันรู้” จงฉีเฟิงก็ได้เลิกคิ้ว “ตอนนี้พี่ใหญ่ได้ใช้ชีวิตขาขึ้นอยู่ มีวิธีอะไรมากมาย แต่ว่า พี่แตะต้องเธอไม่ได้”
“แก!……”
เหวินชิงมีสีหน้าน่ากลัว
“นายไม่อยากที่จะใช้ชีวิตกับเหวินเสียนแล้วเหรอ?” เหวินชิงรู้สึกว่าจงฉีเฟิงบ้าไปแล้ว เพื่อผู้หญิงคนเดียว “สมองของนายล่ะ?”
เหวินชิงรู้สึกว่าตัวเองโดนฟ้าผ่า ผู้หญิงคนเดียว ภรรยาของเขาเขาก็ไม่เอาแล้วเหรอ?
“นายคงไม่ได้ทำเพื่อผู้หญิงคนนี้ เป็นผู้ชายที่ไม่แบกรับความรับผิดชอบอะไร ผู้หญิงคนนี้เอายาเสน่ห์ให้นายดื่มเหรอ?” เหวินชิงตะคอก
เขารู้สึกว่าจงฉีเฟิงถูกผู้หญิงคนนี้ยั่ว ตอนนี้ก็ได้เสียความนึกคิดไป เสียความใจเย็นไป
เวลานี้เขาจะใจร้อนไม่ได้ ถ้าโวยวายมาก เหวินเสียนรู้เข้า ต้องเสียใจมากแน่ๆ
เขาได้เก็บความโมโห “นายใจเย็นก่อน เรื่องนี้ พวกเราค่อยมาคุยกันอีกที ไม่ต้องให้เหวินเสียนรู้ ตอนนี้ร่างกายของเธออ่อนแอ เห็นแก่ลูกที่พึ่งเกิดของนาย กลับไปคิดกันดีๆ”
พูดจบเหวินชิงก็ได้เดินออกไปจากห้อง ไม่ได้จะกลับไปใจเย็นจริงๆ แต่เป็นการส่งคนไปสืบเรื่องของเฉิงยู่ซิ่ว
น้องสาวเพียงคนเดียวของตน สามีของเธอก็ได้นอกใจเธอตอนที่กำลังพักฟื้นหลังคลอด เขาจะใจเย็นยังไง?
ผู้ชายที่จะรังแกน้องสาวเขา ไม่อยากจะมีชีวิตแล้วเหรอ!
เฉิงยู่ซิ่วก็ได้กำผ้าปูเตียง เธอรับรู้จากคำพูดของเหวินชิง เดาได้ว่าฐานะของเขาไม่ธรรมดา ก็ได้มองจงฉีเฟิงอย่างกังวล “ตอนนี้ทำยังไงดี?”
จงฉีเฟิงไม่ได้ร้อนรน เขาก็ได้ตั้งใจมองเฉิงยู่ซิ่ว “แบบนี้ก็ดี อาศัยโอกาสนี้หย่ากับเหวินเสียน”
จากนั้นก็แต่งงานกับเธอ
“แบบนี้ไม่เป็นการทำลายความรู้สึกของทั้งสองตระกูล……”
จงฉีเฟิงขยับปาก “ทำลายก็ทำลาย แต่ว่ามีลูกเป็นข้อต่อรอง ก็ไม่สาหัสจนถึงขั้นเป็นศัตรู อย่างมากก็ไม่พอใจในตัวฉัน”
เฉิงยู่ซิ่วเม้มปาก เรื่องได้เดินมาถึงตรงนี้แล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองสามารถพูดอะไรได้บ้าง
“ที่นี่เกรงว่าไม่ปลอดภัยแล้ว ฉันหาที่อยู่อื่นให้เธอ” จงฉีเฟิงก็กลัวเหวินชิงมาหาเรื่องเธอ
เหวินเสียนดีขนาดนี้ พี่ชายของเขาก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ทำร้ายชีวิตคน “เขามีอำนาจ ก็ไม่สามารถที่จะเอาชีวิตของฉันจริงๆ ……”
“ความสัมพันธ์ของเขากับเหวินเสียนดีมากๆ ตอนนี้ได้เข้าใจผิดว่าเธอเป็นชู้ของฉันแล้ว เพื่อน้องสาวต้องทำอะไรที่ไม่ดีต่อเธอแน่” จงฉีเฟิงรู้ถึงความสัมพันธ์ของเหวินชิงกับเหวินเสียน
สองพี่น้องตระกูลตระกูลเหวิน รักกันมาก
เขาได้เดินมาข้างเตียงห่มผ้าให้เธอ “เธอพักผ่อนก่อน อย่าไม่สบายเอา เขาพึ่งออกไปน่าจะยังไม่กลับมา ฉันไปหาเหวินเสียน ปรึกษาเรื่องหย่ากับเขาก่อน เธอไม่ต้องรีบร้อน และก็ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกยังอยู่ดี ต้องได้เจอกันแน่”
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้า “นายเองก็ระวังหน่อย ฉันดูแล้วเหมือนว่าเขาต่อสู้เก่งมาก”
“คนเป็นทหาร มองดูแล้วทำให้คนตกใจ เขาไม่ลงมือจริงๆ หรอก ให้พูด ฉันไม่ได้โง่ ถึงขั้นยืนให้เขาต่อยแล้วไม่สวนกลับ” จงฉีเฟิงก็ได้ตบเธอเบาๆ “หลับหนึ่งตื่น ฉันก็จัดการเสร็จแล้ว”
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้า
จงฉีเฟิงก็ได้ปิดประตูห้องแล้วก็กลับไป คุณนายเหวินก็กลับไปแล้ว เห็นแค่คนใช้ที่ดูแลเหวินเสียน ทารกก็ได้นอนหลับบนเตียงเด็ก ทารกช่วงนี้ นอกจากกิน ก็คือการขับถ่าย เวลาที่เหลือก็ใช้ในการนอนหลับ
เหวินเสียนมองออกว่าสีหน้าเขาไม่ดี ถาม “นายเป็นอะไร มองเหมือนอารมณ์ไม่ดี เกิดเรื่องอะไรกับยู่ซิ่วเหรอ?”