กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 228 เจอกันครั้งสุดท้าย
หลังผ่าตัดเสร็จ เหวินเสียนก็ได้สลบไปสองวันถึงจะฟื้นขึ้นมา ประโยคแรกที่ถามคือ “ลูกล่ะ? เป็นยังไง? ได้รับบาดเจ็บไหม?”
เพราะว่าเธอได้หลับไปนานเกินไป เสียงก็ได้ทั้งแห้งทั้งแหบ
จงฉีเฟิงก็ได้ไปกุมมือของเธอ พูด “ไม่เป็นไร เธอปกป้องเขาได้ดีมากๆ ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด”
เหวินเสียนก็ได้โล่งอก เธอมองเพดานห้อง “ยังดีที่เขาไม่เป็นไร ไม่อย่างนั้นฉันผิดต่อพวกนาย”
เธอไม่ได้พูดชื่อของเฉิงยู่ซิ่วออกมาตรงๆ กลัวว่าจงฉีเฟิงอารมณ์ไม่ดี
จงฉีเฟิงมองลง รู้ว่าเหวินเสียนหลีกเลี่ยงอะไร เขาหัวเราะอย่างข่มขืน “ชาตินี้ของฉัน ไม่เคยที่จะน่าสมเพชแบบนี้มาก่อน……”
“โทษฉัน”
เหวินเสียนรู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเธอ “ฉันเห็นแก่ตัวเกินไป คิดถึงแต่ตัวเอง มองข้ามนาย”
“เธอไม่ผิด ฉันไม่ผิด เขาก็ไม่ผิด โทษโชคชะตาแกล้งคน”
เขาก็ได้ตบมือเธอเบาๆ “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น รักษาตัวดีๆ”
“ฉันไปหาพี่ชายฉันแล้ว พี่บอกว่าเขาไม่ได้จับตัว……”
“ไม่ต้องพูดแล้ว แบบนี้เถอะ ถ้าเกิดเธออยากไป รอให้เธอดีขึ้นพวกเราก็หย่า……”
“ฉันไม่หย่า ฉันจะเฝ้านายกับลูก” เธอก็ได้เป็นฝ่ายจับมือของจงฉีเฟิง “ฉันจะให้เขาไม่มีแม่ไม่ได้……”
ได้ยินถึงตรงนี้ หลินซินเหยียนก็ได้ร้องไห้
ร่างกายเหมือนจะเต็มไปด้วยน้ำ 100 องศาเซลเซียส เดือดอยู่อย่างนั้น
เธอไม่มีทางที่จะพูดได้ว่าใครถูกใครผิด ทุกคนก็ได้มีจุดยืนและความยากลำบากของตัวเอง
“จากนั้นล่ะ?”
ตอนที่เฉิงยู่ซิ่วเล่าเรื่องนี้นั้นใจเย็นมากๆ ก็เหมือนว่าคนในนั้นไม่ใช่เธอ เธอไม่เคยที่อยู่ร่วมเรื่องนี้ยังไงอย่างนั้น
“เพราะว่าขาของเหวินเสียนบาดเจ็บ ไม่สามารถเดินได้……”
“หมอบอกว่าได้เสริมเหล็กเข้าไปแล้วก็สามารถที่จะเดินได้แล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“ใช่ เดิมทีเป็นแบบนั้น แต่ว่าหลังผ่าตัดเสร็จถึงพบว่า อาจเป็นเพราะว่าขาของเธอโดนหนีบเป็นเวลานานเกินไป กระทบถึงเส้นประสาท เสริมเหล็กไปแล้วเธอก็ไม่สามารถที่จะยืนขึ้นและเดินได้ เหวินเสียนไม่สามารถเดินได้ เหวินชิงก็ยิ่งไม่อยากให้จงฉีเฟิงกับเธอแยกกัน ก็ได้ขังฉันกับไป๋หงเฟยอยู่ตลอด ตอนนั้นทุกคนรู้ฉันกับไป๋หงเฟยเคยเป็นคนรักกันมาก่อน เพราะงั้นเขาก็ได้สร้างเรื่องเหมือนว่าพวกเราได้หนีไปด้วยกัน ก็ไม่มีคนสงสัย”
“จากนั้น……”
นั้นเป็นหลายปีต่อมา จงจิ่งห้าวก็ได้อายุหกขวบแล้ว เหวินเสียนก็ได้ยินบทสนทนาของเหวินชิงกับเหวินจิ่นอย่างบังเอิญ ถึงได้รู้ว่าเฉิงยู่ซิ่วถูกขังไว้
และก็เพราะเรื่องนี้ ได้ทำลายสุขภาพของเฉิงยู่ซิ่ว ปีนั้นตอนที่เธอถูกเหวินชิงไปนั้น พึ่งคลอดจงจิ่งห้าวได้ไม่นาน แล้วก็ยังถูกขังในที่ที่เย็นชื้น ความเย็นเข้าร่าง ทำลายสุขภาพโดยตรงทำให้เธอไม่สามารถจะมีลูกได้อีก
เหวินเสียนคิดไม่ถึงว่าเหวินชิงหลอกเธอ ขนาดพ่อของเธอเหวินจิ่นก็รู้เรื่องนี้ ตอนนั้นเธอได้เปิดประตู ถามพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “พวกพ่อทำแบบนี้ได้ยังไง?!”
เธอโมโหเอามากๆ!
“เหวินเสียน เธอมาได้ยังไง?” เหวินชิงก็ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาก็ได้มองน้อง “พวกเราก็ได้ทำเพื่อเธอ……”
เหวินเสียนก็ได้ตะโกนราวกับคนบ้า “พี่เพื่อหนู ก็สามารถที่จะทำผิดกฎหมายได้เหรอ? ใครให้สิทธิ์พวกพี่ มาแย่งอิสระของคนคนหนึ่ง?!”
“เธอต้องใจเย็นก่อน” เหวินชิงได้ทำหน้าเข้ม “ปีที่ผ่านมานี้ก็สงบไม่ใช่เหรอ? เธอกับฉีเฟิงก็ดีกันมาก นี่ก็พอแล้ว เธอยังมีอะไรที่ไม่พอใจอีก ถ้าไม่ใช่เพื่อเธอ ฉันจะยอมเสี่ยงที่จะหลุดจากตำแหน่ง มาทำเรื่องนี้?”
เหวินเสียนมองเหวินชิงอย่างอึ้งอยู่นาน สุดท้ายก็ได้พูดอย่างสะอึก “พี่ปล่อยเธอเถอะ”
เหวินชิงขมวดคิ้ว “เธอก็ถือว่าวันนี้เธอไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น กลับไปใช้ชีวิตดีๆ กับฉีเฟิง”
“ฉันจะทำเป็นไม่รู้ได้ยังไง?” ตาที่ได้เบลอของเหวินเสียน ขยับร่างกาย ลงมาจากรถเข็น เสียงตุบดังไปที คุกเข่าลง
“เธอบ้าไปแล้ว” เหวินชิงก็ได้ประคองเธอขึ้นมา “เธออยากโดนตัดขาเหรอ?!”
เหวินชิงเห็นการกระทำของเหวินเสียนก็ได้โมโห เดิมที่ก็ได้สูญเสียการเดินไปแล้ว ตอนนี้เพื่อผู้หญิงที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยมาทำร้ายตัวเอง?
“ฉันไม่สน พี่ไม่ปล่อยคน ต่อให้วันนี้ฉันตายไป ก็ไม่ลุกขึ้น!” ท่าทางของเหวินเสียนทั้งแข็งแกร่งและบ้าบิ่น เหวินชิงถูกบีบจนไม่รู้จะทำยังไง
เขาก็ได้นั่งยองๆ ต่อหน้าเหวินเสียน “เธอทำไมต้องช่วยผู้หญิงคนนั้น เธอไม่กลัวว่าเขาจะมาทำลายความสัมพันธ์ของเธอกับจงฉีเฟิงเหรอ?”
เหวินเสียนมองเขา “ฉันจำเป็นต้องช่วยเธอ เพราะว่าฉันเป็นคนส่งเธอไปหาจงฉีเฟิง เพราะว่าในใจของฉันยังมีจื่อยี่ เพราะงั้น……”
“เพราะงั้นเธอก็ได้หาผู้หญิงคนหนึ่งมาให้จงฉีเฟิง?” สีหน้าของเหวินชิงได้เปลี่ยน ทำสีหน้าน่าขัน เวลานี้เขาไม่รู้เลยว่าจะใช้สีหน้ายังไงกับสายตายังไงมามองเธอ
“ปล่อยเถอะ” เหวินจิ่นที่ไม่ได้พูดอยู่ตลอดก็ได้เปิดปากพูด ปีที่ผ่านมานี้ เขาเชื่อว่าเหวินเสียนกับจงฉีเฟิงได้มีความรู้สึกต่อกันแล้ว ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นออกมา ก็ไม่น่ากลัวอะไร
อีกอย่างลูกของพวกเขาโตขนาดนี้แล้ว จงฉีเฟิงไม่มีทางที่จะหย่ากับเหวินเสียนเพื่อผู้หญิงคนนั้น
แต่ว่าเหวินจิ่นกลับไม่รู้เลยว่า เด็กคนนั้นไม่ได้เป็นลูกของจงฉีเฟิงกับเหวินเสียน
สุดท้ายเหวินชิงฟังที่พ่อสั่ง ก็ได้บอกที่อยู่ของที่ขังเฉิงยู่ซิ่วกับเหวินเสียน
“งั้นปีที่ผ่านมาท่านผ่านมายังไงคะ?” หลินซินเหยียนก็ได้กุมมือที่เย็นของเฉิงยู่ซิ่วแน่น
เธอรู้สึกถึงร่างกายที่สั่นของเฉิงยู่ซิ่ว
“ฉันไม่รู้ สรุปคือมันทรมานมาก ทุกวันได้เผชิญหน้าแต่กับกำแพง นอกจากกำแพงก็ยังเป็นกำแพง ช่วงนั้นฉันก็ได้มีความผิดปกติทางสมอง จำหน้าคนไม่ได้……”
เวลาผ่านไปหลายปี ตอนที่จงฉีเฟิงเจอกับเฉิงยู่ซิ่วนั้น คืออยู่ที่ห้องเก็บของใต้ดินแห่งหนึ่ง ตอนนั้นผมเธอยุ่งมาก เพราะว่าไม่ได้จัดการเป็นเวลานาน ผมก็ได้แห้งราวกับหญ้าฟาง สายตาไม่มีวิญญาณ ผอมแห้งราวไม้ขีด เธอได้นั่งอยู่ตรงมุมห้องขนาดประตูเปิดออก เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร เหมือนรู้ว่าตัวเองออกไปไม่ได้แบบนั้น
ยืนอยู่ประตูห้องใต้ดิน เหวินเสียนพูดกับจงฉีเฟิงว่า “ตอนนั้นเธอไม่ได้หนีไปกับไป๋หงเฟย เป็นพี่ฉันเป็นคนจับพวกเขามาขัง เอาชีวิตของไป๋หงเฟยมาข่มขู่เธอ ให้เธอโทรหาตอนนั้น ปีที่ผ่านมานี้ เธอได้ถูกขังอยู่ที่นี่ตลอด”
จงฉีเฟิงไม่ได้ยินเสียงบริเวณรอบๆ นี้ มีแค่ประโยชน์เดียวว่า ปีนั้นเธอไม่ได้หนีไปกับไป๋หงเฟย แต่เป็นการถูกกักขังที่นี่
ไป๋หงเฟยก็ได้ถูกเหวินเสียนปล่อยกลับไปแล้ว
ตอนนั้นเหวินชิงไม่ได้ขังพวกเขาสองคนด้วยกัน
ขาของจงฉีเฟิงก็เหมือนตะกั่วถ่วงอยู่ ทุกๆ ก้าวก็ได้หนักเอามากๆ เขาแทบที่จะมองลักษณะของเธอไม่ออก ยังจะสามารถที่จะมองออกว่าเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงสดใสที่ไหน
นี่เป็นการทรมานเธอจนกลายเป็นหุ่นที่ไม่มีวิญญาณไป
นอกจากหายใจ ไม่มีแม้กระทั่งความคิด
มองเห็นว่ามีคนเข้ามา เฉิงยู่ซิ่วก็ได้ขยับเข้าไปในมุมห้อง เหมือนกลัวการที่มีคนมา
จงฉีเฟิงก็ได้คุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ ยื่นมือไปจัดผมที่ได้บังตาเธอ เฉิงยู่ซิ่วกลัว ร่างกายได้สั่น ผลักเขา “นายอย่ามาแตะฉัน”
จงฉีเฟิงถูกผลักไปทีหนึ่ง แต่ท่าทางก็ยังเหมือนเดิม เสียงของเขาได้แหบ พูด “ฉันเอง”
เฉิงยู่ซิ่วมองเขาอยู่นาน ผ่านไปนาน เหมือนว่าในหัวก็ได้มีร่างของเขาปรากฏขึ้นมา จำเขาขึ้นมาได้ น้ำตาก็ได้ไหลออกมา
จงฉีเฟิงก็ได้กอดเธอไว้ในอ้อมกอด “ฉันมาพาเธอออกไป”
“ช่วงที่ฉันถูกพาตัวออกมานั้น ความคิดก็ได้วุ่นวายกันไปหมด เรื่องหลายๆ เรื่องก็จำแทบไม่ได้แล้ว น่าจะประมาณหนึ่งปีได้ฉันถึงได้กลับมาเป็นปกติ ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เป็นตอนที่เธอพูดขอโทษกับฉัน หลังจากคราวนั้นพวกเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ต่อมาฉันได้ยินว่าเธอท้องแล้ว แล้วก็ต่อมา ก็เป็นข่าวการตายของเธอ”
“งั้นจงจิ่งห้าวก็ยังมีพี่น้องคนล่ะแม่เหรอคะ?” หลินซินเหยียนก็ได้คิดไปว่าลูกในท้องของเหวินเสียนเป็นของจงฉีเฟิงอย่างอัตโนมัติ
“เปล่า ฉีเฟิงบอกว่านั่นไม่ใช่ลูกของเขา ฉันคิดว่าน่าจะเป็นลูกของเธอกับผู้ชายที่อยู่ในใจล่ะมั้ง”
เฉิงยู่ซิ่วมองหลินซินเหยียน ก็ได้ยื่นมือไปจับแก้มของเธอ “ตอนที่เธอตายไปไม่ถึงเดือน ฉันก็ได้แต่งงานกับฉีเฟิง เรื่องนี้จิ่งห้าวก็ยังมีอคติอยู่ตลอด ช่วงที่ฉันโดนขังนั้น เหวินเสียนก็ได้ทำเพื่อเขามากเกินไป จนถึงขั้น ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมรับการเป็นอยู่ของฉัน”
“ทำไมไม่บอกเขาล่ะคะ?” หลินซินเหยียนก็ได้ปวดใจ เพื่อคนมากมาย ที่มากที่สุดก็เพื่อจงจิ่งห้าว แม่แท้ๆ ได้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขากลับไม่รู้
ถ้าเกิดอยู่มาวันหนึ่งเขารู้ว่าเฉิงยู่ซิ่วเป็นแม่แท้ของเขา เขาจะเผชิญหน้า กับความเย็นชาในปีที่ผ่านมายังไง?