กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 276 ฉันเชื่อคุณ
ซูจ้านขมวดคิ้ว “แกหัวเราะอะไร?”
“แกคิดว่าพวกแกชนะแล้วเหรอ? แกคิดว่าจับฉันได้แล้วเหรอ?” เหอรุ่ยเจ๋อยิ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ซูจ้านยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม มันหมายความว่ายังไง?
จงจิ่งห้าวจับมืออันเย็นเฉียบของหลินซินเหยียน กอดไว้แน่นกว่าเดิม หรี่ตาลงเล็กน้อย
“แกยังอยากทำอะไรอีก? วันนี้ต่อให้แกมีปีกก็หนียากแล้ว” ซูจ้านมองดูท่าทางอันบ้าคลั่งของเหอรุ่ยเจ๋อ สีหน้ายิ่งไม่ดี
“ฉันปีนออกไปไม่ได้ แกปีนออกไปได้เหรอ” ตอนที่พูดเขาก็รูดซิปออก
ทันใดนั้น ซูจ้านเข้าใจความหมายของคำพูดเขาแล้ว เพราะว่ากลางอกเขาผูกระเบิดไว้
วินาทีที่เขาโชว์ระเบิดออกมา ก็มีเสียงกรีดร้อง แม่ที่ขายปิ้งย่าง รีบอุ้มลูกสาวตัวเองขึ้นมา หลบอยู่ใต้โต๊ะ
เขาหัวเราะมองไปที่จงจิ่งห้าว “พวกแกใครกล้ามาจับฉัน?”
จงจิ่งห้าวสีหน้าเรียบเฉย ป้องกันหลินซินเหยียนไว้ด้านหลังเขา “นายต้องการอะไร?”
เวลาเดียวกับที่พูด บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างหลังเหอรุ่ยเจ๋อค่อยๆขยับไปข้างหน้า คิดอยากจะจับเขา
เหอรุ่ยเจ๋อเปิดอกเสื้อ “ส่งเหยียนเหยียนมาให้ฉัน ไปกับฉัน ไม่อย่างนั้น พวกเราก็ตายพร้อมกัน”
จงจิ่งห้าวตั้งใจยื้อเวลากับเขา ให้บอดี้การ์ดเข้าใกล้เขา
“ถ้าฉันไม่ยอมละ?”
“ฉันบอกแล้วไง ทุกคนก็ตายพร้อมกัน ใครก็อย่าคิดที่จะรอด” เหอรุ่ยเจ๋อมองไปข้างหลังเขา “เหยียนเหยียน คุณอยากเห็นคนมากมายขนาดนี้ตายเพราะคุณเหรอ?”
หลินซินเหยียนหันหน้าไม่มองเขา ดังนั้นจึงหันไปเห็นแม่ลูกที่หลบอยู่ใต้โต๊ะพอดี สายตาเธอกะพริบ กำมือไว้แน่น
พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นเพราะเธอถึงทำให้พวกเขาอยู่ในอันตราย
หลินซินเหยียนอยากบอกให้พวกเขาไป หลบอยู่ใต้โต๊ะไม่มีประโยชน์ แต่กลัวดึงดูดความสนใจของเหอรุ่ยเจ๋อ
“เหยียนเหยียนคุณไปกับผม มีแค่ผมเท่านั้นที่ชอบคุณอย่างจริงใจ รักคุณ มีแค่ผมคนเดียว เพื่อคุณแล้วผมยอมสละแม้แต่ชีวิต ไปกับผม” เขายื่นมือให้หลินซินเหยียน
เวลาเดียวกัน บอดี้การ์ดที่เข้าใกล้เหอรุ่ยเจ๋อไปโดนเก้าอี้ จนทำให้เกิดเสียง เหอรุ่ยเจ๋อหันไปมองก็เห็นบอดี้การ์ดที่กำลังเข้าใกล้ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที เขารู้ตัวแล้ว บอดี้การ์ดจึงเลือกที่จะพุ่งเข้าไปกับตัวเขา
เหอรุ่ยเจ๋อถีบเก้าอี้ตรงหน้า ไปขวางบอดี้การ์ดที่เข้าใกล้
“แม่ แม่” เด็กหญิงตกใจจนมุดเข้าอ้อมกอดของแม่ เหอรุ่ยเจ๋อหันไปจ้องเด็กหญิงคนนั้น หลินซินเหยียนเห็นท่าจะไม่ค่อยดี “รีบขวางเขาไว้”
บอดี้การ์ดพุ่งเข้าไป แต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าว เหอรุ่ยเจ๋อคว่ำโต๊ะแล้วจับตัวเด็กหญิงไว้ เด็กหญิงกอดแม่ไว้ไม่ปล่อย “ปล่อยลูกของฉัน”
“ปล่อยเขาให้ผม” เหอรุ่ยเจ๋อตะโกน ผู้หญิงตกใจร้องตะโกนเสียงดัง “ปล่อยลูกสาวฉัน ปล่อยลูกสาวฉัน”
เด็กหญิงถูกดึงจนรู้สึกเจ็บ ตกใจจนร้องไห้ “แม่ แม่….”
หลินซินเหยียนอยากเข้าไปช่วยแม่คนนั้นแย่งลูกสาวมา เหอรุ่ยเจ๋อตอนนี้เหมือนคนบ้า ต้องทำให้เด็กบาดเจ็บแน่
เธอเพิ่งขยับตัว ก็ถูกจงจิ่งห้าวจับไว้ “ผมไปเอง”
เหอรุ่ยเจ๋อใช้แรง ดึงตัวเด็กหญิงมาจากมือแม่ กำลังจะใช้เด็กหญิงข่มขู่หลินซินเหยียน พอหันไป ก็เห็นจงจิ่งห้าว “แก……”
จงจิ่งห้าวใช้ความเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ เข้าไปจับแขนของเขาไว้ มือของเขาแรงเยอะมาก เหอรุ่ยเจ๋อรู้สึกเจ็บ มือที่อุ้มเด็กหญิงไว้ต้องปล่อยออก จงจิ่งห้าวจึงรีบดึงเด็กหญิงเข้ามาอุ้มไว้ เหอรุ่ยเจ๋อโมโหจนบีบสันดานความชั่วร้ายในตัวออกมา เขาจับระเบิดที่ผูกไว้กลางอก อยากกดปุ่มระเบิด แต่ถูกจงจิ่งห้าวถีบกระเด็นออกไป
แคร้งคร้าง
โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด
เหอรุ่ยเจ๋อไหวพริบดีมาก ลุกขึ้นมาก็วิ่งหนี
บอดี้การ์ดวิ่งตามไป
“หือหือ…..” เด็กหญิงร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของจงจิ่งห้าว เขาก้มหน้า เห็นเด็กหญิงตกใจจนหน้าซีด มือทั้งสองข้างแดงก่ำจากอากาศที่เหน็บหนาวจับคอเสื้อของเขาไว้แน่น เหมือนกลัวถูกคนอื่นแย่งไป
“ฉิงฉิง ฉิงฉิง” ผู้หญิงวิ่งเข้ามาอุ้มลูกสาว จงจิ่งห้าวยื่นตัวเด็กหญิงให้เธอ
เธอกอดเด็กหญิงไว้แน่น จูบลูกสาวที่ร้องไห้ด้วยอาการตกใจ พูดจาปลอบ “ไม่กลัวไม่กลัวนะ ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรนะ แม่อยู่นี่”
“ขอบคุณค่ะ” ผู้หญิงอุ้มลูกสาวไว้แล้วก้มหน้าขอบคุณจงจิ่งห้าว ไม่ได้เป็นเพราะเธอกลัวลูกสาวจะถูกระเบิดตายหรือไม่
เธอคิดไม่ถึงว่าเหอรุ่ยเจ๋อจะเป็นคนบ้าคลั่งอย่างนี้ ไม่อย่างนั้น คนปกติที่ไหนจะมัดระเบิดไว้รอบตัวแบบนี้
“เขามาที่ร้านฉันกินปิ้งย่าง บอกว่าทะเลาะกับแฟน ให้ลูกสาวฉันไปล่อคุณผู้หญิงคนนี้มา คิดไม่ถึงว่า……” ผู้หญิงคนนั้นมองหลินซินเหยียนด้วยตาแดงก่ำ “เกือบทำร้ายคุณแล้ว”
ผู้หญิงรู้ว่าหลินซินเหยียนทำไมถึงให้เงินลูกสาว ยอมกินปิ้งย่าง เพียงแค่ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ ก็เลยรับเงินของเธอไว้ เธอเป็นคนใจดี แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกับลูกสาวเกือบทำให้เธอเดือดร้อน
หลินซินเหยียนไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความผิดของสองแม่ลูก แค่ความใจดีถูกคนหลอกใช้
“เวลาดึกมากแล้ว วันนี้รีบกลับไปเถอะ……”
“อ้าก”
หลินซินเหยียนยังพูดไม่จบ ต้องชะงักจากเสียงร้อง เธอกับจงจิ่งห้าวหันไปพร้อมกัน กลับเห็นคุณย่าถูกเหอรุ่ยเจ๋อจับตัวไว้
“เกิดอะไรขึ้น?” ซูจ้านรีบเดินเข้าไป “ทำไมถึงถูกเหอรุ่ยเจ๋อกับตัวไว้?”
บอดี้การ์ดพูด “พวกเราไล่จับเขา เขาวิ่งผ่านทางนี้ คุณย่าท่านออกมาจากข้างในเจอเข้าพอดี เขาไม่รู้ว่าคุณย่าท่านเป็นใคร แค่จับไว้เป็นตัวประกันเฉยๆ”
คุณย่าตกใจไม่น้อย เห็นซูจ้านก็ตะโกน “ซูจ้าน”
เธอไม่รู้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อเป็นใคร ไม่มีคนบอกเธอเกี่ยวกับแผนการวันนี้ แค่ให้เธอและเด็กสองคนอยู่ในห้องนอน หลินลุ่ยซีตามตื๊อเสิ่นเผยซวนว่าจะหาหลินซินเหยียน คุณย่าจึงลงมาเพื่อหาหลินซินเหยียน และหาตัวซูจ้านด้วย เขากับฉินยาเพิ่งแต่งงาน ดึกขนาดนี้แล้วไม่กลับห้อง เธอไม่วางใจ ดังนั้นเสิ่นเผยซวนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอลงจากห้อง
ถึงชั้นล่างแล้ว คุณย่าท่านเห็นซูจ้านกับหลินซินเหยียนอยู่ข้างนอก อยากออกมาหาพวกเขา กลับถูกเหอรุ่ยเจ๋อที่วิ่งเข้าไปจับตัวไว้
“รู้จักซูจ้าน?” เหอรุ่ยเจ๋อหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์
คุณย่าอายุมาแล้ว ไม่รู้ว่าคำพูดนี้มีอะไรผิดปกติ จึงพูดว่า “ซูจ้านเป็นหลานของฉัน”
“ฮ่าฮ่า” เหอรุ่ยเจ๋อหัวเราะเสียงดัง มองไปที่ซูจ้าน แล้วมองจงจิ่งห้าว “พวกแกไม่ปล่อยฉันใช่ไหม?”
“ไอ้สารเลว” ซูจ้านจะพุ่งเข้าไปทันที จงจิ่งห้าวดึงตัวเขาไว้ “อย่าวู่วาม”
ซูจ้านโมโหจนตัวสั่น “แกกล้าแตะต้องคุณย่าฉันแม้แต่ปลายนิ้ว ฉันหั่นศพแกเลี้ยงสุนัขกินแน่”
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ต้องมีปัญญาจับตัวฉันได้ก่อน” รู้ว่าตัวประกันในมือเป็นย่าของซูจ้าน เขาไม่กลัวแม้แต่น้อย มั่นใจว่าพวกเขาไม่กล้าทำอะไรวู่วามแน่”
“อย่าช่วยคนก็ได้” สายตาเขาหันไปมองที่หลินซินเหยียน “เอาคุณมาเปลี่ยน”
“ถุย ฝันไปเถอะ” ซูจ้านรังเกียจเหอรุ่ยเจ๋ออย่างที่สุด
เหอรุ่ยเจ๋อบีบแขนของคุณย่าไว้อย่างแรง คนแก่เจ็บจนร้องเสียงดัง
ซูจ้านโมโหจนตะโกนคำหยาบ “แม่งเอ้ย ไอ้สารเลว”
“ฉันยอมเปลี่ยน เอาตัวฉันไป แล้วปล่อยตัวคุณย่า” หลินซินเหยียนพูด จงจิ่งห้าวยืนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้พูดอะไร สบตากับเธอเหมือนมีคำพูดหมื่นล้านคำ หลินซินเหยียนยิ้มเล็กน้อย “ฉันเชื่อคุณ”
เชื่อว่าคุณช่วยฉันได้
พูดจบหลินซินเหยียนก็เดินไปหาเหอรุ่ยเจ๋อ
ซูจ้านกระวนกระวาย ตะโกนพูดกับหลินซินเหยียน “มันเป็นโรคจิต จ่อจงมาที่ตัวคุณ คุณไปแล้ว ก็เท่ากับติดกับมันแล้ว”
หลินซินเหยียนทำเหมือนไม่ได้ยิน เดินไปโดยไม่ได้ลังเล
ซูจ้านหันไปมองจงจิ่งห้าว “นายให้เธอไปแบบนี้เหรอ?”