กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 290 หลงเชื่อในคำหลอกลวงของเขา
หลินซินเหยียนแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ราวกับสายฟ้าฟาดลงมาในยามที่ท้องฟ้าแจ่มใส เหมือนถูกคนเอาน้ำเย็นๆ มาเทราดตั้งแต่หัวจรดเท้า แข็งทื่อไปทั้งตัว
จวงจื่อจิ่นรีบดึงมือของเธอไว้ “เหยียนเหยียน….”
หลินซินเหยียนสะบัดออกทันที ลุกขึ้นยืน ถอยหลังไปสองสามก้าวติดๆ ปากเธอสั่น “แม่ลืมไปแล้วเหรอว่าเขาบีบบังคับให้แม่ต้องหย่า แม่ต้องหอบร่างตัวเองที่กำลังท้อง ไปต่างประเทศ ไม่เคยสนใจไยดีแม่ ไม่สนใจว่าแม่จะเป็นหรือตาย! ตอนนี้แม่บอกฉันว่า แม่จะแต่งงานกับเขาใหม่เหรอคะ?!!”
“เมื่อก่อนเขาไร้ความเป็นคนมาก แต่ว่า ช่วงที่คุณจากไปนั้น เขามักจะมาหาฉันบ่อยๆ อีกทั้งยังเสียใจอย่างมาก กับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนแรก…”
“นี่แม่ก็เชื่อเหรอ!” หลินซินเหยียนตัดบทหล่อนอย่างแข็งกร้าว หล่อนเกาศีรษะอย่างแรง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้
“แม่คะ ทำไมแม่ถึงไปเชื่อคำพูดหว่านล้อมของเขาง่ายๆ แม่ต้องจำไว้ว่า เขาเคยทอดทิ้งแม่ เคยทอดทิ้งเสิ่นซิ่วฉิง เขาก็คือคนที่ไร้หัวใจ ทำไมแม่ถึงได้เชื่อในคำหวานชวนหลงใหลของเขาได้คะ”
จวงจื่อจิ่นยังคงไม่มีความเคลื่อนไหว ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น “แม่ตัดสินใจแล้ว”
หลินซินเหยียนพิงผนัง มองไปยังจวงจื่อจิ่น “ดังนั้นวันนี้ แม่ก็เลยมาบอกฉันเหรอ?”
“ประมาณนั้น” สองมือจวงจื่อจิ่นกำแน่น นัยน์ตาฉายความเย็นเยือก เธอรู้สึกผิดต่อลูกสาว “ขอโทษ ที่ทำให้ลูกต้องมาลำบากกับแม่…”
“แม่ก็รู้ว่าที่ฉันกังวลไม่ใช่เรื่องพวกนี้ ที่ฉันกลัวคือแม่จะถูกหลินกั๋วอันทำร้ายอีก!” หลินซินเหยียนคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องที่ จวงจื่อจิ่นจะบอกเธอคือเรื่องนี้
“แม่รู้” จวงจื่อจิ่นเดินมา คิดจะจับมือเธอ แต่กลับถูกสะบัดออกอีกครั้ง
หลินซินเหยียนหันหน้าหนี ไม่ยอมมองเธอ
นิ้วมือของจวงจื่อจิ่นหดเข้าไป ค่อยๆ ดึงมือกลับ “แม่ตัดสินใจแล้ว”
ไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง หลินซินเหยียนไม่ยอมรับ เธอไม่มีทางอื่น “ฉันจะย้ายออกวันนี้”
“ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยหรือ?” หลินซินเหยียนคิดไม่ตก การทำร้ายแบบนั้น จะยอมให้อภัยกันได้ง่ายๆ ได้อย่างไร
“แม่ลืมซินฉีแล้วเหรอคะ” หลินซินเหยียนไม่อยากเอ่ยถึง แต่ว่าเมื่อเจอกับความตั้งใจของจวงจื่อจิ่น ก็อยากจะพูดให้เธอคิดได้
ใจของจวงจื่อจิ่นตอนที่ได้ยินชื่อนี้ สั่นไหวอย่างรุนแรง เธอไม่ลืม ไม่มีทางลืมตลอดชีวิตนี้ เพราะว่าลืมไม่ลง เธอจึงจะแต่งงานกับหลินกั๋วอันอีกครั้ง
สองมือของเธอกำแน่น การตายของลูกชาย คือความเจ็บปวดที่อยู่ภายในใจของเธอตลอดไป สำหรับหลินซินเหยียนนั้น เธอก็ยิ่งรู้สึกละอายใจมากขึ้น
“ทะเบียนสมรสของพวกเราก็ได้จดมาเรียบร้อยร้อย” จวงจื่อจิ่นพูดต่อไป
หลินซินเหยียนเช็ดหน้า ยิ้มอย่างผิดหวัง “ตัดสินใจเรียบร้อยแล้วเหรอคะ?” เธอสูดจมูก “ในฐานะที่เป็นลูกสาวคุณ ฉันไม่มีสิทธิ์จะไปตำหนิอะไรแม่ แต่ว่า พวกเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งพากันและกันมาหลายปี แม่ก็ควรจะมาถามความคิดเห็นของฉันบ้าง”
“แม่ขอโทษ” นอกจากคำนี้ จวงจื่อจิ่นก็ไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไรกับเธอได้อีก
“แม่ไม่ต้องพูดว่าขอโทษกับฉันหรอก นี่เป็นเรื่องของแม่ ฉันจะไม่ยุ่ง แม่อยากจะทำอะไรก็ทำ” หลินซินเหยียนโบกไม้โบกมือ เธอไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ต่อไปได้ เธอเกรงว่าตนเองจะเป็นบ้า หรืออาจจะพูดอะไรล่วงเกินจวงจื่อจิ่นออกมา
“เหยียนเหยียน……”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” หลินซินเหยียนเดินปึงปังออกจากห้องไป
เธอไม่อาจยอมรับการตัดสินใจของจวงจื่อจิ่นได้ แต่ทัศนคติของจวงจื่อจิ่น ทำให้เธอรู้ว่า เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจนี้ได้
บนโต๊ะมีน้ำวางอยู่หนึ่งแก้ว เธอดื่มเข้าไป ไม่รู้ว่าเป็นน้ำที่เทเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เย็นเฉียบไปแล้ว
เธอตัวสั่นสะท้าน ใจก็หนาวยะเยือกเช่นกัน
เธอไม่เข้าใจการตัดสินใจของจวงจื่อจิ่นในครั้งนี้
รู้ดีแก่ใจว่าหลินกั๋วอันคือกองไฟ ทำไมยังจะกระโดดเข้าไปอีก
“ทำไม” สองมือหลินซินเหยียนยึดอยู่ที่โต๊ะ
ไม่รู้ว่าบนบ่า ถูกฝ่ามือใหญ่โอบเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอค่อยๆ เงยหน้า
“ทำไมเหรอ” จงจิ่งห้าวเช็ดน้ำตาให้เธอ
ไม่รู้ทำไม พอเขาเช็ดอย่างนี้ น้ำตาของเธอก็ยิ่งไหลพราก
ไหลลงมาทีละเม็ดๆ ไม่หยุด
เธอพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมกอดเขา ไหล่กระตุกไม่หยุด
จงจิ่งห้าวลูบที่แผ่นหลังของเธอ ปลอบโยนด้วยความเงียบ เธอเป็นแบบนี้ เขาก็ไม่สามารถถามถึงสาเหตุได้
จวงจื่อจิ่นเปิดประตู มองเห็นคนที่อยู่ในห้องรับแขก เธอก้มหน้า “รบกวนคุณดูแลเธอด้วยนะคะ”
พูดจบเธอก็หิ้วกระเป๋าออกจากบ้าน
“คุณจะไปไหน” จงจิ่งห้าวถาม
อีกทั้งเป็นเวลาดึกดื่นขนาดนี้แล้ว
จวงจื่อจิ่นไม่ได้ตอบคำถาม หลินซินเหยียนก็ตะโกนออกมา “ปล่อยเธอไป!”
ดวงตาจวงจื่อจิ่นแดงก่ำ เหมือนกับร้องไห้มา เธอตัดสินใจแล้ว ก็จะไม่เสียใจทีหลัง และก็ยิ่งไม่มีทางถอยหลัง
“เธอลำบากมากับฉันไม่น้อย ตอนเด็กๆ อยู่อย่างลำบากยากแค้นมาก ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะรบกวนคุณ ต่อไปช่วยดูแลเธอให้ดีด้วย”
“ฉันไม่ต้องการ!” หลินซินเหยียนน้ำตาคลอเบ้า “ถ้าแม่ยังจำความยากลำบากของพวกเราได้ ก็คงไม่ไปแต่งงานกับหลินกั๋วอันอีก! ในเมื่อแม่จะกลับไปคืนดีกับเขา ก็ไม่ต้องสนใจว่าฉันจะเป็นหรือตาย ขอแค่ตัวแม่เองสบายใจก็พอแล้ว!”
หลินซินเหยียนโมโหมาก ตัวสั่นไม่หยุดตลอดเวลา
จงจิ่งห้าวกอดเธอไว้แน่น “ใจเย็นหน่อย”
“ฉันจะใจเย็นได้ยังไง? ในสายตาของหลินกั๋วอันมีแต่ผลประโยชน์ เขาเคยรักใครที่ไหน ที่เขามาเอาอกเอาใจแม่ฉันในตอนนี้ เพราะเห็นว่าฉันแต่งงานกับคุณแล้ว เขาอยากจะเข้ามาสร้างความสัมพันธ์ แต่ว่าแม่ กลับมองไม่ออก คิดว่าหลินกั๋วอันกลับตัวกลับใจแล้ว เป็นไปได้เหรอ!”
จวงจื่อจิ่นมองเห็นหลินซินเหยียนที่กำลังโมโห ก็ถอนหายใจ ไม่ได้อธิบายอะไร ก็หันหน้าเดินออกไปเลย
ประตูห้องปิดลง หลินซินเหยียนก็ยิ่งร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “เธอถูกน้ำเข้าสมองจนเบลอไปหมดแล้วเหรอ? ”
จงจิ่งห้าวไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เขากลับคิดว่าที่จวงจื่อจิ่นทำแบบนี้ก็คงจะมีจุดประสงค์ของเธอ
หลินซินเหยียนโมโหขนาดนี้ กลัวว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เธอก็คงไม่ยอมฟัง ได้แต่โอบกอดเธอไว้ ปลอบประโลมเธอทางร่างกาย
“ตอนฉันสิบขวบ สิบขวบ เด็กขนาดไหน เขาบีบบังคับให้แม่ฉันหย่ากับเขา ส่งฉันกับแม่ไปต่างประเทศ เพื่อเอาใจเมียน้อย ไม่สนใจไยดีพวกเรา แม่กลับยอมแต่งงานกับเขาอีกเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของหลินกั๋วอัน แม่ลืมความยากลำบากในอดีตไปหมดแล้วเหรอ? การทรยศหักหลังของหลินกั๋วอัน การที่เขาทำร้ายเธอ เธอลืมไปแล้วหรือ?”
“แม่อาจจะมีความคิดของท่าน หรืออาจจะมีอะไรที่ยากจะพูดซ่อนอยู่ก็ได้”
“หลินกั๋วอันเขามีอะไรที่สามารถข่มขู่แม่ได้ ต่อให้มี แม่ก็น่าจะบอกฉัน”
“คุณวู่วามเกินไปแล้ว” จงจิ่งห้าวเช็ดรอยคราบน้ำตาบนหน้าเธอ “ใจเย็นก่อน”
พูดจบ เขาก็อุ้มเธอขึ้นชั้นบน ให้เธอนั่งข้างเตียง เขาเข้าไปเตรียมน้ำอุ่นในห้องน้ำ ไม่นาน ห้องน้ำก็ถูกปกคลุมด้วยหมอกสีขาว เขาเดินออกมา “ไปอาบน้ำก่อน ผ่อนคลายลงหน่อย จากนั้น พวกเราค่อยไปหาแม่ พูดคุยกันดีๆ คุณวู่วามขนาดนี้ พูดอะไรไม่ดีออกไป จะทำร้ายความรู้สึกกันอีก”
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมา บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาอยู่ “ฉันพูดอะไรแรงไปแล้วใช่ไหม? ”
“ไม่มี” เขาจับผมที่ยุ่งเหยิงของเธอทัดไว้ที่หลังใบหู “เชื่อผม ไปอาบน้ำก่อนให้ใจเย็นลงก่อน นอนหลับพักผ่อนเสียหน่อย ถ้าคุณคิดว่าแม่ไม่ควรจะกลับไม่แต่งงานกับหลินกั๋วอัน พวกเราค่อยไปพูดคุยกับแม่อีกที….”
“แม่อาศัยช่วงที่ฉันไม่อยู่ จดทะเบียนสมรสกับหลินกั๋วอันเรียบร้อยแล้ว” ดวงตาของหลินซินเหยียนแดงก่ำขึ้นมาอีก
“เชื่อผม ถ้าไม่ใช่ความเต็มใจของแม่คุณ ผมมีกฎหมาย ที่จะทำให้ทะเบียนสมรสเป็นโมฆะ” เขาพูดด้วยเสียงอ่อนโยน
บนขนตาของหลินซินเหยียนยังมีหยดน้ำตาอยู่ วิบวับแพรวพราว เธอกะพริบตา กอดคอเขาเอาไว้แล้วมองไปที่เขา “จริงเหรอ? ”