กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 301 ความพลาดโดยบังเอิญ
ซูจ้านหรี่ตาลง น้ำเสียงเย็นชาเหมือนดั่งสายลมเย็นเยือกจากทางเหนือ “อยู่กับคุณหนึ่งคืน?”
คิดว่าเขาเป็นอะไร?
อีกอย่าง หลิวเฟยเฟยตอนนี้ที่เหมือนคนบ้า ทำให้เขามองไม่เห็นความไร้เดียงสาและจิตใจดีเหมือนก่อนแล้ว
“ผมไม่นอกใจภรรยาผม” น้ำเสียงเขาหนักแน่น
หลิวเฟยเฟยอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วกำมือไว้แน่น กดเสียงของตัวเองไว้ “ฉันไม่ได้ให้คุณนอนกับฉัน แค่อยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่”
“ไม่ได้” ซูจ้านยังคงปฏิเสธ
“คุณจะใจดำขนาดนี้ใช่ไหม?” หลิวเฟยเฟยเหมือนกับได้รับแรงกระทบอย่างหนัก หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ถ้าวันนี้คุณออกไป ฉันรับรองว่าครั้งต่อไปที่คุณได้เจอฉันก็คือศพแน่นอน ฉันทำได้แน่นอน ไม่เชื่อ คุณก็ลองดู”
หลิวเฟยเฟยลุกขึ้นจากพื้น นั่งลงบนโซฟา
“คุณบีบผม?” ซูจ้านสายตาหม่นหมอง
หลิวเฟยเฟยรู้ดี ถ้าเธอยังแสดงความใจกว้าง ก็จะทำให้เขากลับใจไม่ได้ ตอนนี้เธอทำได้แค่พยายามรั้งเขาไว้ ทำให้ฉินยาเข้าใจผิด
ขอแค่พวกเขาหย่ากัน เธอถึงจะมีโอกาส
เธอเงยหน้ามองซูจ้าน “คุณบีบฉันเอง ตอนนั้นฉันเป็นคนจากไปก่อนก็จริง แต่ฉันไม่เคยหักหลังความรักของเรา คุณต่างหาก ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเราแม้แต่น้อย โหดร้ายกับฉันขนาดนี้ ในเมื่อคุณร้ายกับฉันก่อน ก็อย่าหาว่าฉันโหด?”
ซูจ้านยืนอยู่กับที่ ผ่านไปสักพัก เขามองหลิวเฟยเฟย “คุณแน่ใจ ขอแค่ผมอยู่กับคุณคืนนี้ จากนี้ไปคุณก็จะไม่รบกวนชีวิตของผมอีก?”
หลิวเฟยเฟยพยักหน้า “ใช่ ก็ถือสักว่าเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างเราอย่างเป็นทางการ ฉันยินดีกับคุณ”
ซูจ้านลังเลสักพัก แล้วพยักหน้าตอบ เพราะว่าตอนที่หลิวเฟยเฟยจากไปพวกเขาไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ตอนนี้เขาแต่งงานกับฉินยาแล้ว หลิวเฟยเฟยเล่าความจริงในอดีต เธอไม่ได้หักหลังความรักของพวกเขา จึงควรทำการจบสัมพันธ์อย่างทางการ
ในแง่มุมหนึ่ง เขาเป็นคนหักหลังความสัมพันธ์นี้
แค่อยู่เป็นเพื่อนเธอ ก็ดูเหมือนไม่ใช่คำขอที่ไม่มีเหตุผล
“ผมขอโทรศัพท์ก่อน” ซูจ้านคิดเรียบร้อยแล้ว ตัดสินใจโทรบอกฉินยา บอกให้เธอไม่ต้องรอ กลับไปแล้วเขาจะอธิบายให้เธอฟังเอง
โทรศัพท์โทรออกไป แต่โทรไม่ติด
เพราะมีฉินยาอยู่ ผู้ช่วยซูจ้านไม่เลิกงาน เฝ้าอยู่ด้านใน ทนายคนอื่นเลิกงานกันหมดแล้ว
“คุณจะรอทนายซูต่อเหรอครับ?” ผู้ช่วยถาม
เพราะว่าซูจ้านกับฉินยาแต่งงานไม่ได้จัดที่เมืองB คนที่รู้ไม่เยอะ บวกกับซูจ้านยังไม่ทันได้ประกาศ
ตอนแรกเขาอยากหาฤกษ์ดี เรียกทุกคนในสำนักงานมารวมตัวกัน กินข้าวพร้อมกัน จากนั้นก็แนะนำฉินยาให้ทุกคนรู้จัก
แต่ว่า ใกล้สิ้นปีแล้ว ต้องเคลียร์งานสิ้นปีให้จบ ค่อนข้างยุ่ง ก็เลยไม่มีเวลาบอกกับทุกคน
ฉินยาหยิบมือถือออกมาดูเวลา ขณะเธอหยิบมือถือออกมาถึงพบว่า มือถือของเธอไม่มีถ่านปิดเครื่องไปแล้ว
เธอเงยหน้ามองผู้ช่วย “ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
ผู้ช่วยดูเวลาแล้วตอบว่า “ใกล้เที่ยงแล้ว”
สายตาเธอมีความอ้างว้างและผิดหวัง สุดท้าย เขาก็ผิดสัญญา
เธอพยายามให้ตัวเองดูไม่เป็นไร แต่ว่าหัวใจของเธอ แตกสลายแล้ว
น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “คุณช่วยฉันร่างสัญญาการหย่าได้ไหม?”
ผู้ช่วยทนาย ทำเรื่องแบบนี้มันง่ายดายมาก “ได้ คุณรอสักครู่”
ผู้ช่วยคิดว่าฉินยาเป็นคนที่มาหาซูจ้านเพื่อคดีความ นี่ฟังแล้วก็เหมือนคดีหย่าร้าง
ผู้ช่วยถามเพิ่มอีกคำ “หย่าเรื่องอะไร สามีคุณนอกใจ?”
ตอนนี้คนส่วนมากที่หย่าก็เพราะสาเหตุนี้ โดยเฉพาะคนที่มาสำนักงานทนายเป็นผู้ร้องเรียนผู้หญิง เก้าในสิบล้วนเป็นเพราะสามีนอกใจ
ฉินยายิ้มอย่างขมขื่น “น่าจะ”
ผู้ช่วยเองก็เป็นผู้ชาย ได้ยินแบบนี้ก็อยากเรียกร้องความยุติธรรมแทน “ผู้ชายตอนนี้ไม่มีอะไรดีเลย”
คิดในใจ ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยงาม ยังนอกใจอีก?
หรือว่า ไม่ว่าคนที่บ้านจะสวยแค่ไหน ก็สู้ดอกไม้ริมทางไม่ได้?
ผู้ช่วยรวดเร็วมาก เขาพิมพ์เอกสารอยู่หน้าจอ แล้วก็ถามสถานการณ์กับฉินยาไปด้วย “พวกคุณมีลูกไหม? มีปัญหาเรื่องทรัพย์สินไหม? คุณมีความต้องการอะไร สามีคุณนอกใจ เขาก็คือฝ่ายผิด เราสามารถช่วยคุณให้ได้ผลประโยชน์ที่สูงที่สุด”
ฉินยารู้สึกเสียใจ ในใจมีแต่รสชาติขมขื่น เธอส่ายหน้า “ไม่มีลูก ไม่มีปัญหาเรื่องทรัพย์สิน แม้แต่ทะเบียนสมรสยังไม่ทันได้จด มีเพียงญาติของทั้งฝ่ายเป็นพยานในการแต่งงานเท่านั้น ถ้าหากฉันอยากสิ้นสุดความสัมพันธ์ ควรทำยังไง?”
ผู้ช่วยงงไปสักพัก ยังไม่ได้จดทะเบียน ก็ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย
บ้านนอกมีตัวอย่างแบบนี้มากมาย ยังไม่ถึงอายุการแต่งงานก็แต่งงาน แต่เพราะว่าอายุไม่ถึง จึงไม่ได้จดทะเบียน จัดงานแต่งงานท่ามกลางญาติผู้ใหญ่ของสองครอบครัว
ความจริงนี่ไม่ใช่การแต่งงานที่แท้จริง ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย
“ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องพวกคุณทั้งสองฝ่ายเจรจากันเอง แน่นอน ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามไม่ยินยอม หรือว่ายื่นข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผลกับคุณ คุณสามารถยื่นฟ้องได้ เดินตามขั้นตอนกฎหมาย แต่นี่ก็ไม่ใช่คดีการหย่าร้างธรรมดาแล้ว เป็นแค่เรื่องขัดแย้งทั่วไป ตามกฎหมายพวกคุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสมรส ดังนั้น ไม่สามารถดำเนินคดีหย่าร้างได้”
ฉินยาฟังเข้าใจแล้ว นั่นหมายความว่า ถ้าหากเธออยากจบความสัมพันธ์กับซูจ้าน เธอต้องถามความเห็นของซูจ้าน
เขาโทรหาซูจ้าน
ตอนนี้ซูจ้านนั่งอยู่บนโซฟา หลิวเฟยเฟยรั้งตัวเขาไว้ นอนอยู่ข้างๆ
ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เขานึกว่าคือฉินยา รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นว่าเป็นผู้ช่วยสีหน้าเขาก็หดหู่ลง กดรับสาย “เรื่องอะไร?”
“มีลูกความท่านหนึ่ง อยากสอบถามปัญหาเรื่องกฎหมาย ผมไม่ค่อยเข้าใจ…..”
“หาทนายหวาง เขาถนัดเรื่องคดีความหย่าร้าง” ตอนนี้ซูจ้านไม่มีอารมณ์จัดการปัญหาเรื่องงาน
พูดจบเขาก็วางสาย
ผู้ช่วยดูมือถือไปสักพัก ปกติซูจ้านไม่ใช่แบบนี้ สำหรับเรื่องงานแล้ว เขาค่อนข้างเคร่งเครียด จริงจังมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ฉินยาถาม “คุณโทรหาซูจ้าน?”
เธอแค่เดา เมื่อกี้รู้สึกเหมือนเธอได้ยินเสียงของซูจ้าน
ผู้ช่วยพยักหน้า พูดว่า “คือทนายซู ไม่รู้ว่ายุ่งอะไรอยู่ ปกติเจอเรื่องแบบนี้ เขาจะตั้งใจสอนผม ครั้งนี้ ผิดปกติมาก”
ฉินยายิ้ม ตอนนี้กำลังอยู่กับคนรักเก่า จะไปมีอารมณ์สนใจเรื่องงานได้ยังไง?
เกรงว่าเรื่องที่เธอกำลังรอเขาอยู่ก็คงลืมไปหมดแล้ว?
เธอยังมีอะไรต้องคาดหวังอีก?
เธอยืนขึ้น ผู้ช่วยวางคอมลงแล้วลุกขึ้นตาม “ทนายหวางของเรา ถนัดเรื่องคดีความพวกนี้ ไม่อย่างนั้นผมช่วยคุณติดต่อกับทนายหวาง?”
ฉินยาพูด “ถ้ามีความต้องการฉันจะมาใหม่”
พูดจบเธอก็เดินออกจากสำนักงานทนาย เธอยืนอยู่ริมถนนสักพัก ท้องฟ้ายังคงเป็นฝืนเดิม แต่ว่า ใจไม่ใช่ดวงนั้นแล้ว
บางทีอาจจะผิดตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนนี้ควรจบแล้ว
เธอนั่งรถกลับที่พัก
คุณย่าไม่อยู่ ที่บ้านเงียบมาก เธอเข้าไปในห้องนอนเอากระเป๋าเดินทางออกมา จัดเสื้อผ้าและของใช้เข้าไปในกระเป๋า จากเดิมของก็ไม่เยอะ เพียงแค่เสื้อผ้าฤดูหนาวค่อนข้างเปลืองพื้นที่ แต่ว่า กระเป๋าใบเดียวก็พอใส่แล้ว
เธอนั่งอยู่ขอบเตียง ตำแหน่งที่ขา คือตำแหน่งที่ซูจ้านนอนเมื่อคืน
ทันใดนั้น เธอก็หัวเราะ
ตอนแรก เธอคิดว่าซูจ้านคำนึงถึงความรู้สึกของเธอ ถึงไม่ได้ขึ้นเตียง ไม่แตะต้องเธอ
ตอนนี้คิดดีแล้ว นั่นก็เป็นเพราะผู้หญิงที่เธอรักกลับมาแล้ว แม้แต่แตะต้องเธอเขาก็ไม่อยากแตะแล้ว?
ในใจของเขา เธอคืออะไร?
เครื่องมือที่เขาใช้ระบายความใคร่เหรอ?