กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 308 ผมไม่อยากเสียคุณไป
ฉินยาก้มหน้า “เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าฉันใส่ใจเรื่องอะไร”
สิ่งที่เธอต้องการคือ ซูจ้านสามารถเปิดใจกับเธอทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องของหลิวเฟยเฟย หรือว่าเรื่องของพ่อแม่เขา ล้วนสามารถเล่าให้เธอฟังได้
เธอคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือคู่รัก การเปิดเผยสำคัญที่สุด
เขาย้ำตลอดว่าเขากับหลิวเฟยเฟยไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย แต่ว่า ทำไมตอนนั้นเขาไม่บอกเธอก่อน?
ทั้งๆที่เขามีโอกาส ถึงแม้ว่าจะลืมโทร ตอนที่เจอกันที่สำนักงานทนาย ก็บอกเธอได้ แต่ว่าเขาก็ไม่พูดอะไรเลย
“เขาให้ความเชื่อมั่นกับฉันไม่ได้ ฝืนอยู่ต่อ สู้แยกทางกันดีกว่า”
เสิ่นเผยซวนมองหลังของฉินยา คิดไม่ถึงว่าเธอเด็ดขาดขนาดนี้ และมีความคิดของตัวเองมาก
อยากให้เธอให้อภัย ยอมรับซูจ้าน ต้องพึ่งความพยายามของซูจ้านเองแล้ว
สิ่งที่เขาช่วยได้มีจำกัด
“งั้นก็ให้คุณดูแลเขานะ ผมยังมีธุระ ถ้าคุณดูแลไม่ไหว ผมหาคนมาช่วยดูแล?” ความจริงเสิ่นเผยซวนไม่ได้มีธุระ แค่คิดว่าพวกเขาสองคนควรมีเวลาเป็นของตัวเอง
“ไม่ต้องค่ะ ฉันดูแลได้ ถ้าไม่ไหว ฉันจะเรียกพยาบาลมาช่วย” ฉินยาไม่อยากรบกวนเสิ่นเผยซวน
“ได้ มีอะไรโทรหาผมได้ตลอด” เสิ่นเผยซวนพูด
ฉินยาพยักหน้า
ฉินยาส่งเสิ่นเผยซวนถึงหน้าประตู เห็นเขาไปแล้ว ฉินยาปิดประตูห้อง
เสื้อคลุมของซูจ้านไม่ได้ถอด ก็นอนลงไปอย่างนั้น
ดื่มเยอะเกินรู้สึกไม่สบาย ซูจ้านพูดจาติดๆขัดๆ “อึดอัด ผมอึดอัด”
ฉินยาเดินเข้าไป ยืนถามเขาข้างเตียง “คุณไม่สบายตรงไหน?”
ไม่รู้ว่าซูจ้านไม่รู้สึกตัวจริง หรือว่าแกล้ง เขาพลิกตัว “อึดอัด ทุกอย่าง อึดอัดใจ”
ฉินจุ้นทำใจอยู่สักพัก “เห็นแกให้พวกเราอยู่กันอย่างสบาย ฉันถึงดูแลคุณ”
เธอก้มตัวลงไปช่วยเขาถอดเสื้อคลุม แต่ว่าซูจ้านไม่ให้ความร่วมมือ นอนนิ่งไม่ขยับ ฉินยาไม่สามารถถอดแขนเสื้อได้
ถึงกับต้องขมวดคิ้วขึ้น “ซูจ้าน”
ซูจ้านสะลึมสะลือ “อือ?”
“ใส่เสื้อแล้วนอนไม่สบาย คุณขยับตัวหน่อย ฉันช่วยคุณถอดเสื้อ”
ซูจ้านลืมตา มองเห็นฉินยาอย่างสะลึมสะลือ เขายิ้มกว้าง “ฉินยาเหรอ”
ฉินยา “……”
นี่ดื่มไปเยอะขนาดไหน กลิ่นเหล้าเหม็นไปทั้งตัว
เขาดึงเสื้อผ้าของฉินยาไว้ “คุณอย่าไปได้ไหม? ผมไม่อยากเสียคุณไป”
ฉินยาเม้มปาก
“คุณจะจากผมไป ผมเสียใจมาก ก็เลยดื่มเยอะไปหน่อย คุณไม่โกรธใช่ไหม?” ซูจ้านดึงเสื้อของฉินยาไปแนบไว้ที่แก้ม “ฉินยา……”
ฉินยาผลักเขาไป “คุณเมาแล้ว”
“ผมไม่ได้เมา” ซูจ้านตะโกนออกมาเหมือนคนเมาอาละวาด เหมือนเครียดมาก และเอือมระอามาก “ทำไมคุณถึงไม่ยอมเชื่อผม?”
ฉินยาก้มหน้าก้มตา “ฉันอยากเชื่อใจคุณ แต่คุณ ไม่เคยให้เหตุผลที่ทำให้ฉันเชื่อใจคุณเลย”
ทันใดนั้น ซูจ้านพลิกตัว ลืมตาขึ้น ตาของเขาแดงก่ำ เห็นได้ชัดเจนว่าดื่มไปไม่น้อย เสียงแหบ “ต่อไปนี้ผมเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ได้ไหม?”
ฉินยาอึ้งไปนิดหนึ่ง เขา นี่ยังไม่เมาเหรอ?
ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
“คุณ…….ไม่เมาเหรอ?” ฉินยาถาม
ไม่มีคนตอบเขา ซูจ้านหลับตาเหมือนนอนหลับไปแล้ว
ฉินยาเรียกเขา “ซูจ้าน”
ไม่มีเสียงตอบ
คราวนี้ ฉินยาได้ยินเสียงหายใจเป็นจังหวะของเขา
ซูจ้านดื่มเยอะจริงๆ ตอนนี้นอนหลับไปแล้ว
ฉินยา “…….”
เธอรู้สึกพูดอะไรไม่ออก เวลาเดียวกันก็รู้สึกโล่งใจ ถ้าซูจ้านไม่เมา เธอก็ไม่รู้จะตอบซูจ้านยังไง
แต่ว่าซูจ้านเพิ่งพลิกตัว เธอก็ถอดเสื้อให้เขาได้แล้ว
เธอเอาเสื้อคลุมไว้ที่หัวเตียง ช่วยเขาถอดรองเท้าถุงเท้า วางเรียบร้อยแล้ว ดึงผ้าห่มช่วยเขาห่มเรียบร้อย
เธอเข้าไปตักน้ำในห้องน้ำ เช็ดหน้าเช็ดมือให้เขา
คุณย่ายังไม่ตื่น หมอภาคค่ำมาตรวจอาการแล้ว บอกว่าทุกอย่างปกติ จัดการกับซูจ้านเสร็จ ก็นั่งพักบนโซฟา
เธอไม่ได้นอนมาทั้งคืน ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยแล้ว ตอนที่สะลึมสะลือใกล้หลับ ก็ได้ยินเสียงของซูจ้าน
“หิวน้ำ ผมหิวน้ำ” เขาหลับตาอยู่ รู้สึกแสบทั้งคอทั้งกระเพาะ จนปวดแสบ
ฉินยาลุกขึ้นมาเทน้ำให้เขา
“หิวน้ำ” เขาพึมพำไม่หยุด
ฉินยาถอนหายใจ ยกน้ำไป พยุงตัวเขาขึ้นมา ยื่นน้ำไปถึงริมฝีปากเขา แล้วเอียงแก้ว
รู้สึกถึงความเปียกชื้น ซูจ้านก็อ้าปากดื่มน้ำ
ดื่มน้ำจนหมดแก้ว ความแสบในลำคอถึงผ่อนคลายลงบ้าง
“เป็นยังไงบ้าง?” ฉินยาถาม
ซูจ้านไม่ได้ตอบ เหมือนกลับไปแล้ว ฉินยาวางเขาลง ห่มผ้าให้เขา เห็นเขาหลับสนิทแล้ว ก็ลุกขึ้นไปเก็บแก้ว
อีกด้านหนึ่ง จงจิ่งห้าวกินข้าวกับพวกเขาเสร็จแล้ว ก็กลับไปที่บ้านตระกูลจง หลินซินเหยียนกับลูกทั้งสองคนอยู่กันครบ ถึงแม้ว่าเขาไม่อยากเจอยู่ซิ่ว แต่เขาก็มาแล้ว
ในคฤหาสน์ไฟยังสว่างอยู่ เขาได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านใน ไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่ เขาผลักประตูออก จงฉีเฟิงดูข่าวในห้องรับแขก ในห้องอาหาร หลินซินเหยียนพาลูกสองคนห่อเกี๊ยว น่าจะรู้สึกสนุก เด็กทั้งสองดีใจมาก
ลุงเฟิ๋งเดินมา พูดเสียงต่ำ “คุณชาย”
จงจิ่งห้าวถอดเสื้อคลุมยื่นให้เขาแล้วเดินเข้าไป
“แด๊ดดี้” หลินลุ่ยซีในมือมีเกี๊ยวที่เพิ่งห่อเสร็จ รีบวิ่งเข้าไปหาเขา แล้วอวดให้เขาดู “พ่อ รีบดู อันนี้หนูห่อเอง สวยไหม?”
จงจิ่งห้าวก้มตัวอุ้มลูกสาวขึ้นมา ยิ้มแล้วตอบอืม
“แด๊ดดี้มาทำกับพวกเรา หม่ามี๊ทำหลายรสชาติเลย มีสามสหาย มีกุ้ยช่ายไข่ แล้วก็เนื้อวัว แด๊ดดี้ชอบแบบไหนคะ?”
จงจิ่งห้าวจับจมูกลูกสาว “พ่อชอบที่หนูห่อ”
“แด๊ดดี้รู้สึกว่าของหนูห่อได้สวยใช่ไหม?” สาวน้อยถือเกี๊ยวที่ตัวเองห่อไว้ในมือ ยื่นให้จงจิ่งห้าวดู
จงจิ่งห้าวมองดู ก้อนแป้ง ในมือของลูกสาว กะพริบตา ถ้าหากหลินลุ่ยซีไม่บอกว่านั่นคือเกี๊ยว เขาคงดูไม่ออก
เป็นแป้งก้อนเดียวชัดๆ ไม่มีรูปร่างหน้าตาของเกี๊ยวแม้แต่น้อย
“ใครสอนหนู?”
“หม่ามี๊ค่ะ” สาวน้อยพูดอย่างพอใจ
จงจิ่งห้าวเดินเข้าไป บนโต๊ะมีสองแบบ แบบแรกคือสวยดูดี อีกแบบคือ ดูไม่ได้เลย จงจิ่งห้าวหัวเราะเบาๆ “หนูไม่ได้สืบทอดมาจากแม่เลย”
สาวน้อยกะพริบตาอย่างไม่เข้าใจ
หลินซินเหยียนเงยหน้า มองเขา “คุณรู้สึกว่าฉันห่อได้น่าเกลียดเหรอ?”
จงจิ่งห้าวส่ายหัว “ไม่น่าเกลียด”
ทั้งๆที่สวยขนาดนี้
หลินลุ่ยซียื่นเกี๊ยวที่หลินซินเหยียนห่อไปข้างหน้าจงจิ่งห้าว “แบบนี้คือหม่ามี๊ห่อ สวยไหม?”
พอดูออกว่าเป็นเกี๊ยว
จงจิ่งห้าวมองลูกชาย “อันนี่ไม่ใช่ลูกห่อเหรอ?”
“อันนี้ หม่ามี๊ห่อ” หลินลุ่ยซีทำให้เขาหน้าแตก
จงจิ่งห้าวเงยหน้า มองไปที่หลินซินเหยียนเพื่อถาม เป็นอย่างนั้นจริงเหรอ?
“ฉันไม่เคยห่อมาก่อน” นี่เป็นครั้งแรก ยู่ซิ่วเป็นคนสอนเธอ
ตัวที่ห่อได้สวยนั้น ล้วนเป็นที่ยู่ซิ่วห่อ
“อันที่สวย คุณย่าเป็นคนห่อ สวยมากใช่ไหม?” หลินซีเฉินเงยหน้า มองจงจิ่งห้าว