กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 334 แก้แค้นกันไปมาเมื่อไหร่จะสิ้นสุด
เขากำลังคิด ถ้าหากเธอท้องจะเป็นยังไง?
แค่คิดก็รู้สึกดีงาม จนอดยิ้มไม่ได้
หลินซินเหยียนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของผู้ชายตรงหน้าเลย ตักน้ำซุปที่จงจิ่งห้าวตักให้ทีละช้อนทีละช้อน ถึงแม้ว่าเป็นฤดูใบไม้ผลิแล้วแต่อากาศยังคงหนาวอยู่ ดื่มน้ำซุปร้อนร่างกายก็อุ่นขึ้น
ระหว่างกินข้าวเธอลุกไปเข้าห้องน้ำ ตอนออกมา ถูกพนักงานเรียกไว้ “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณหลินใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนไม่ได้หันกลับไปทันที แต่รู้สึกแปลกใจ ถามอย่างระวังตัว “คุณมีเรื่องอะไร?”
พนักงานหญิงหยิบจดหมายออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “มีผู้ชายนั่งรถเข็นท่านหนึ่ง ให้ฉันเอาจดหมายนี้ให้คุณ”
ตอนที่ไป๋ยิ่นหนิงจ้างเธอให้ช่วยเขาส่งจดหมาย ก็ชี้ตัวแล้วว่าให้หลินซินเหยียน
พนักงานหญิงรู้ว่าคือหลินซินเหยียน ที่ถามเมื่อกี้ ก็เพื่อความมั่นใจ เพื่อป้องกันส่งผิด คิดไม่ถึงว่าหลินซินเหยียนระวังขนาดนี้ เธอจึงหยิบจดหมายออกมา
หลินซินเหยียนหันไปมองรอบด้านด้วยสัญชาตญาณ พนักงานหญิงพูด “เขาออกไปแล้วค่ะ”
ไป๋ยิ่นหนิงมาเมืองBแล้ว?
เธอรับจดหมายมาจากพนักงาน ลังเลไปครู่หนึ่งแล้วเปิดอ่าน ด้านในไม่ได้มีเนื้อหาเยอะ มีแค่บรรทัดเดียว ผมพักอยู่ที่โรงแรมคังถิง ห้อง608 มาหาผม ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเขาแปลกมาก และไม่คิดจะไป
เขาอยากพูด แต่เธอไม่ได้อยากฟัง
เธอฉีกจดหมายทิ้งลงในถังขยะ จากนั้นก็เดินเข้าด้านใน จงจิ่งห้าวกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ดูแล้วท่าทางเคร่งเครียด หลินซินเหยียนนั่งลง รอจนเขาวางสายแล้วถึงถาม “ใครโทรมา?”
จงจิ่งห้าวบอกว่าหลี่จิ้ง เหวินชิงเกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ลูกชายของพวกเราไม่อยู่ในประเทศ เขาต้องไปดูหน่อย
เขาลุกขึ้น “ผมส่งคุณกลับบ้าน”
หลินซินเหยียนตึงเครียด เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับไป๋ยิ่นหนิง ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้ เธอได้รับจดหมาย อีกฝั่งหนึ่งเหวินชิงก็เกิดอุบัติเหตุ?
เธอเงยหน้ามองจงจิ่งห้าว “คุณไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันนั่งรถกลับเอง”
จงจิ่งห้าวเม้มปากเห็นได้ชัดว่าไม่ไว้ใจที่จะให้เธอกลับคนเดียว
หลินซินเหยียนดึงมือเขา “อย่าเห็นฉันเป็นเด็ก เวลาที่ไม่มีคุณ ฉันก็อยู่ได้เป็นอย่างดี? ฉันเป็นผู้ใหญ่ ดูแลตัวเองได้”
จงจิ่งห้าวเงียบไปครู่หนึ่ง “ถึงบ้านแล้วโทรหาผม”
หลินซินเหยียนพยักหน้า พูดจาเร่งเขา “รีบไปเถอะ”
หลังจากจงจิ่งห้าวไปแล้ว หลินซินเหยียนก็ลุกเดินออกจากร้านอาหาร เธอยืนรอรถอยู่ริมถนน ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่เดือนกุมภาแล้ว แต่อากาศยังคงหนาวอยู่ เธอจึงดึงเสื้อกันหนาว
รถสีดำคันหนึ่งขับมาจอดอยู่ข้างเธอ เกาหยวนเดินลงมาจากรถ เปิดประตูรถ ทำท่าเชิญให้หลินซินเหยียน “คุณหลินเชิญ”
เกาหยวนคือผู้ช่วยของไป๋ยิ่นหนิง ตอนนี้ หลินซินเหยียนมั่นใจแล้วว่าอุบัติเหตุของเหวินชิงเกี่ยวข้องกับไป๋ยิ่นหนิง
ไม่อย่างนั้นจะบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง?
จงจิ่งห้าวจากไป คนของเขาก็มาทันที
ตอนนี้ เธอก็รู้สึกสนใจว่าไป๋ยิ่นหนิงจะพูดอะไรกับเธอ
เธอก้มตัวเข้าไปนั่งในรถ
ไม่นานรถก็ขับไปถึงโรงแรม
รถจอดแล้ว เกาหยวนก็ลงไปเปิดประตูให้เธอ หลินซินเหยียนเดินลงไป เกาหยวนทำท่าเชิญอีกครั้ง หลินซินเหยียนมองเขาแล้วก้าวเดินเข้าไป
เกาหยวนเดินนำอยู่ข้างหน้า เข้าไปในลิฟต์ไปถึงชั้นหก เดินไปถึงห้อง608 เกาหยวนยืนอยู่ข้างๆ “คุณหลินเข้าไปเถอะ ประธานไป๋รอคุณอยู่ด้านใน”
หลินซินเหยียนเปิดประตูห้องเดินเข้าไป
ความอบอุ่นจากห้องโชยมา มองเห็นบานกระจกผืนใหญ่ ไป๋ยิ่นหนิงนั่งหันหลังให้ประตู ดูเหมือนกำลังชื่นชมทิวทัศน์ย่ามราตรี และดูเหมือนกำลังรอใครอยู่
เธอก้าวเดินเข้าไป
“มาแล้วเหรอ”
ไป๋ยิ่นหนิงไม่ได้หันกลับมา
“ประธานไป๋พยายามขนาดนี้ ฉันจะไม่มาได้ยังไง?” หลินซินเหยียนยืนอยู่ข้างเขา มองวิวยามค่ำคืนของเมืองBเช่นกัน เหมือนดั่งเมืองที่ปกคลุมอยู่ใต้แสงสี มันมีความวิจิตร งดงาม และมีสีสัน
“มิน่าคุณถึงอยากกลับมาขนาดนี้ ที่แท้ที่นี่สวยงามขนาดนี้”
“ไม่ ฉันอยากกลับมา ไม่ใช่เพราะเมืองนี้ แต่เป็นเพราะว่าคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้”
สุดท้ายไป๋ยิ่นหนิงก็หันมามองเธอ
แต่หลินซินเหยียนไม่ได้มองเขา แต่หันข้างให้เขา
“ถ้าหากไม่มีเรื่องของเหวินชิง คุณจะมาไหม?”
“ไม่” หลินซินเหยียนตอบอย่างหนักแน่น
ไป๋ยิ่นหนิงยิ้มอย่างเอือมระอา “ไม่กลัวผมเสียใจ?”
“ฉันว่า ถ้าหากคุณจะเสียใจ ก็คงเสียใจไปแล้ว?”
เพราะตอนอยู่ไป๋เฉิงเขาก็รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจงจิ่งห้าวแล้ว อีกอย่างเธอเลือกที่จะไม่มาพบเขา ก็เพราะไม่อยากทำร้ายเขา
“ผมมาได้ครึ่งเดือนแล้ว” ไป๋ยิ่นหนิงพูดเสียงเรียบ
หลินซินเหยียนหันไปมองเขา เขามาที่เมืองBได้ครึ่งเดือนแล้ว?
ครึ่งเดือนนี้เขาทำอะไรบ้าง?
“ไม่คิดว่าอยากทำให้เหวินชิงเกิดอุบัติเหตุมันง่ายมาก?”
หลินซินเหยียนไม่เข้าใจ ความจริงเขามาหาเธอเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องอะไรใหญ่โต
ไป๋ยิ่นหนิงไม่ได้ปิดปังเธอ “ผมรู้แล้ว”
“คุณรู้อะไร?” หลินซินเหยียนรู้สึกไม่ดีในใจ
“เหวินชิงก็คือคนที่ตัดนิ้วพ่อเลี้ยงของผม” ไป๋ยิ่นหนิงมองหลินซินเหยียนอย่างลึกซึ้ง “คุณก็รู้ใช่ไหม? คุณรู้สาเหตุทั้งหมดของเรื่องนี้ แต่คุณตกลงกับใครบางคนไว้ว่า พูดไม่ได้ ใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนกำมือไว้แน่น ตอบไม่ตรงคำถาม “เพราะฉะนั้นที่คุณมา เพื่อแก้แค้น? อุบัติเหตุของเหวินชิง คือการตั้งใจ เพราะคุณวางแผนมานาน?”
ไป๋ยิ่นหนิงโน้มน้าวเฉินยู่เวินสำเร็จ รู้มาจากปากของเฉินยู่เวินว่าคนที่ตัดนิ้วของไป๋หงเฟยคือเหวินชิง
อย่างอื่นไม่ยอมเปิดเผยอะไรมาก ไป๋ยิ่นหนิงดูออก เฉินยู่เวินก็เกลียดเหวินชิง ถึงได้ยอมบอกเขา
แต่ว่าก็เข้าใจได้ เพราะว่าครั้งนั้นคนที่ถูกขังยังมีน้องสาวเขาด้วย เขาถึงได้อยากมือตัวเอง เรียกร้องความยุติธรรมในอดีตให้น้องสาวของตัวเอง
“นี่ก็คือคำพูดที่คุณอยากพูดกับผม?” หลินซินเหยียนห้ามเขาแก้แค้นไม่ได้ และไปเล่าให้จงจิ่งห้าวฟังไม่ได้ ว่าเรื่องในครั้งนี้ เขาเป็นคนทำ
“ผมอยากเจอคุณ” ไป๋ยิ่นหนิงมองเธอ
หลินซินเหยียนแกล้งทำเป็นผ่อนคลาย “ฉันมีสามี”
ไป๋ยิ่นหนิงก้มหน้า หัวเราะ “อย่าสาดเกลือบนแผลของผมได้ไหม?”
หลินซินเหยียนไม่อยากยืดเยื้อกับเขา “อยากแก้แค้นเขา ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่นี่คือเมืองB ไม่ใช่ไป๋เฉิง ถ้าหากคุณตัดสินใจแล้ว ฉันจะไม่ห้ามคุณ ทุกคนต่างก็มีจุดยืนของตัวเอง ฉันอยากพูดแค่คำเดียว แก้แค้นกันเมื่อไหร่จะจบสิ้น?”
เขาแก้แค้นเหวินชิง ไป๋หงเฟยจะฟื้นคืนชีพไหม?
จะย้อนเวลากลับไป ไม่ถูกกักขังหลายปีนั้นไหม?
ไม่ได้
การแก้แค้นนั้น ก็เป็นเพียงแค่การปลอบใจของคนที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น
“ฉันต้องไปแล้ว” พูดจบหลินซินเหยียนก็หมุนตัวเดินออกไป
ไป๋ยิ่นหนิงเรียกเธอไว้ “ถ้าหากเป็นคนในครอบครัวคุณ ถูกทำร้ายแบบนี้ คุณให้อภัยได้ไหม?”
หลินซินเหยียนหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้ตอบ เพราะว่าเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ดูเหมือนจะยากที่ไม่โกรธแค้น ก็เหมือนที่เธอโกรธแค้นหลินกั๋วอัน