กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 335 โชคชะตาแกล้งคน
เกาหยวนส่งเธอกลับไป พอถึงบ้าน จงจิ่งห้าวยังไม่กลับมา ลูกทั้งสองอาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังจะเข้านอน
พอเห็นหลินซินเหยียนเข้ามา หลินลุ่ยซีก็วิ่งไปหา กอดขาของเธอไว้ “หม่ามี๊กลับมาแล้วเหรอ?”
หลินซินเหยียนอุ้มเธอขึ้นมา หอมแก้มเล็กๆของเธอ “ทำไมยังไม่นอนอีก?”
สาวน้อยคิดไปมาก็พูดว่า “หนูรอหม่ามี๊อยู่”
“รอใคร ดื่มนมอยู่ชัดๆ” หลินซีเฉินเปิดโปงเธออย่างไม่เกรงใจ
สาวน้อยขึงตาใส่พี่ชาย “ไม่รักพี่ชายแล้ว”
หลินซีเฉินใส่ชุดนอนขนฟู วางแก้วนมในมือ เหล่ตามองน้องสาว “พูดความจริงก็ไม่รักแล้ว?”
สาวน้อยมุดตัวอยู่ในอ้อมกอดของหลินซินเหยียน พูดออดอ้อน “หม่ามี๊ดูพี่รังแกหนู”
หลินซินเหยียนตบหลังเธอ พูดปลอบว่า “พอแล้ว พี่ไม่ได้ว่าหนูหรอก”
หลินซีเฉินรู้สึกว่าน้องสาวไม่รู้จักโต ทำเป็นแต่อ้อนแม่
เขากลับห้องไปนอน
ตอนนี้เขานอนคนเดียว หลินลุ่ยซีนอนกับเฉิงยู่ซิ่ว
เธอไม่ยอมนอนคนเดียว บอกว่ากลัว
หลินซีเฉินคิด มีอะไรน่ากลัว?
เฉินยู่ซิ่วนำแก้วนมที่เด็กทั้งสองคนดื่มไปล้างแล้วเดินกลับมา ถามหลินซินเหยียนว่า “หนูกลับมาคนเดียวเหรอ?”
เพราะว่าเธอไม่เห็นจงจิ่งห้าว
หลินซีเหยียนวางลูกสาวลง “ไปเล่นกับพี่ชายก่อนนะ”
“หนูอยากให้หม่ามี๊อุ้ม” หลินลุ่ยซีกอดเธอไว้ไม่ปล่อย ไม่ยอมลงมา
หลินซินเหยียนปลอบเธอ “เสี่ยวลุ่ยน่ารักที่สุด รอวันหยุด หม่ามี๊พาหนูกับพี่ไปเที่ยว”
“จริงเหรอ?” สาวน้อยตื่นเต้น
ความจริงเธอปลอบง่ายมาก ให้กินเล่นเที่ยวก็พอแล้ว
หลินซินเหยียนจับหัวของเธอ บอกว่าจริง สาวน้อยถึงยอมไปเล่นกับหลินซีเฉิน
“มีเรื่องจะพูดกับฉัน?” เฉินยู่ซิ่วถาม
ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงให้เด็กออกไป
หลินซินเหยียนพูด “ไปพูดที่ห้องนอน”
“ไปห้องฉัน” หลังจากที่เธอพาหลินลุ่ยซีนอนด้วย ก็แยกห้องกับจงฉีเฟิง ตอนนี้ในห้องไม่มีคน
หลินซินเหยียนพยักหน้า
เมื่อเข้าไปในห้องนอนแล้ว หลินซินเหยียนก็ปิดประตู เฉิงยู่ซิ่วยื่นมือเรียกเธอ “มานั่ง”
หลินซินเหยียนนั่งที่ขอบเตียง เธอรวบรวมคำพูดในใจ “เหวินชิงเกิดอุบัติเหตุ”
“อาการหนักไหม?” เฉิงยู่ซิ่วถาม
หลินซินเหยียนส่ายหน้า “หนูไม่รู้ จิ่งห้าวไปดูแล้ว”
เฉิงยู่ซิ่วถอนหายใจ “คนเรานี่ก็คาดการณ์ไม่ได้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น…….”
“นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ” ความจริงหลินซินเหยียนก็อยากรู้ว่าเฉิงยู่ซิ่วเกลียดเหวินชิงหรือเปล่า
เฉิงยู่ซิ่วเบิกตากว้าง รู้สึกไม่อยากเชื่อ ไม่ใช่อุบัติเหตุ นั่นก็คือคนทำ ใครกล้าทำแบบนี้?
“ลูกบุญธรรมของไป๋หงเฟย ไป๋ยิ่นหนิงมาเมืองBแล้ว เรื่องนี้เขาเป็นคนทำ เพื่อแก้แค้นให้ไป๋หงเฟย”
เฉิงยู่ซิ่วก้มหน้า คิดอะไรหนักใจ “เรื่องก็ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ทำไปเพื่ออะไร?”
“ผ่านไปนานแค่ไหน บาดแผลที่เคยสร้างไว้ยังคงอยู่ แม่ไม่โกรธเหรอ?” หลินซินเหยียนถามความในใจ
เฉิงยู่ซิ่วลุกขึ้น เดินไปข้างหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก
“ความผิดถูกเอาอะไรไปวัดล่ะ? ตอนนั้นฉันรับปากเหวินเสียนเอง ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา แต่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น มันเกินความคาดการณ์ของฉัน คิดอย่างละเอียดแล้ว เหวินชิงจะทำผิดมากขนาดไหน? ถ้าหากว่าฉันเป็นมือที่สามที่ไปทำลายชีวิตคู่ของเหวินเสียนจริง เขาทำแบบนี้ ก็คงทำให้มีคนปรบมือเห็นด้วย?”
“แต่ว่าคุณแม่ไม่ใช่” หลินซินเหยียนมองเธอ
“แต่ว่า เรื่องมันเริ่มต้นที่ฉัน ถ้าตอนที่เหวินเสียนหาฉัน ฉันปฏิเสธ ก็จะไม่มีเรื่องที่ตามมา บางทีชะตาชีวิตแกล้งคน หรืออาจจะเป็นพรหมลิขิต เรื่องที่ผ่านไปแล้ว ฉันปล่อยวางหมดแล้ว”
เธอคิดว่าตอนนี้ชีวิตของเธออยู่ในจุดสูงสุดแล้ว อยู่กันทั้งครอบครัว อย่างมีความสุข นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าคิดมาก่อน ถึงแม้ว่าจงจิ่งห้าวยังคงไม่ยอมพูดกับเธอ
แต่ว่าได้เจอหน้ากับบ่อยๆ ก็เป็นเรื่องดี
เธอพอใจมากแล้ว
“หนูช่วยแม่พูดกับไป๋ยิ่นหนิงหน่อย” เฉิงยู่ซิ่วรู้ดีแก่ใจ อยากแก้แค้นเหวินชิงไม่ใช่เรื่องง่าย ไป๋ยิ่นหนิงเป็นลูกบุญธรรมของไป๋หงเฟย เธอก็ไม่อยากให้เขาเกิดเรื่อง
“เกรงว่าคงไม่มีใครพูดกับเขาได้” หลินซินเหยียนมองอย่างชัดเจน การปรากฏตัวครั้งนี้ของไป๋ยิ่นหนิง เห็นได้ชัดว่า มาเพื่อแก้แค้นเหวินชิง
เฉิงยู่ซิ่วถอนหายใจ ความแค้นของคนรุ่นก่อน ไม่ควรกระทบมาถึงคนรุ่นหลัง
“ถ้าหาก ไป๋ยิ่นหนิงทำสำเร็จ แม่จะดีใจไหม?” หลินซินเหยียนเดินเข้าไป
เฉิงยู่ซิ่วส่ายหน้า “ฉันไม่ดีใจ เหวินชิงมีความผิด แต่ว่า เขาถือว่าจิ่งห้าวเป็นคนในครอบครัว คือความจริง”
เธอไม่อยากให้จงจิ่งห้าวรู้ความจริง ก็เพราะกลัวว่าเขาจะรับไม่ได้ เขานับถือเหวินชิงมาตลอด เหวินชิงใส่ใจน้องสาวแค่ไหน ก็ดูแลปกป้องลูกของน้องสาวมากแค่นั้น
เธอเห็นทุกอย่างในสายตา
เธอไม่อยากให้ลูกของตัวเองต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่รู้ถูกผิดในอดีต
เธอสามารถได้เห็นเขาแบบนี้ทุกวัน ก็พอใจแล้ว ไม่ได้คาดหวังว่า เขาจะเรียกเธอว่าแม่สักครั้งในชีวิตนี้
“ไป๋ยิ่นหนิงอยู่ไหน?” ทันใดนั้น เฉิงยู่ซิ่วหันมา
เธอจะมองเขาสร้างปัญหาแล้วนิ่งดูดายไม่ได้ เห็นแก่หน้าไป๋หงเฟย เธอก็ควรไปพูดโน้มน้าวเขา
หลินซินเหยียนบอกสถานที่พักของไป๋ยิ่นหนิงให้เธอรู้
เธอเคยไปบ้านตระกูลเหวินหนึ่งครั้ง เธอรู้สึกว่าวิธีของเฉิงยู่ซิ่วถูกต้อง ในเมื่อปิดปังแล้ว เรื่องก็ผ่านไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องยืดเยื้อกันอีก รื้อเรื่องราวออกมาผลเสียมากกว่าดี
ในนั้นคนที่ต้องเจ็บปวดที่สุดคือจงจิ่งห้าว คนในครอบครัวที่เขาเคารพมาตลอดคือศัตรู คนที่เขาเย็นชาด้วยตลอดเวลา จนถึงขั้นเกลียด คือแม่แท้ๆ การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ จะให้เขารับได้ยังไง
จะไปเผชิญหน้ายังไง ?
เธอกลัวว่าไป๋ยิ่นหนิงจะทำลายความสงบสุขในตอนนี้
“รีบพักผ่อนเถอะ”
หลินซินเหยียนตอบอืม แล้วหันเดินออกจากห้อง
ตอนที่เธอเดินออกจากห้อง จงจิ่งห้าวก็เดินเข้ามาจากประตู เห็นเธอเดินออกจากห้องนอนของเฉิงยู่ซิ่วพอดี
แววตาเขากะพริบ
หลินซินเหยียนเดินเข้าไป รับเสื้อคลุมในมือเขามา ถามว่า “อาการหนักไหม?”
“ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แขนหัก ต้องพักรักษาตัว”
จงจิ่งห้าวพูดจบก็ขึ้นชั้นสอง หลินซินเหยียนแขวนเสื้อคลุมเขาเรียบร้อย ก็ตามขึ้นไป
ประตูห้องเปิดออก ก็เห็นร่างบึกบึนยืนอยู่ข้างเตียง เขากำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต หันหลังให้หลินซินเหยียน “คุณไปห้องเขาทำไม?”
หลินซินเหยียนปิดประตูเดินเข้าไป “เสี่ยวลุ่ยนอนกับท่าน ฉันเข้าไปดูลูก ทำไม ไม่ได้เหรอ?”
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบกลับ ถอดเสื้อเชิ้ตออก โยนไปที่เตียง ถอดเข็มขัดออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
ไม่นานก็มีเสียงน้ำไหลพรากในห้องน้ำ
หลินซินเหยียนรู้ ว่าเขายังมีสิ่งขวางกั้นระหว่างเฉิงยู่ซิ่ว
เธอต้องถอนหายใจ รู้สึกว่าตัวเองรู้เยอะก็เป็นความกดดันอย่างหนึ่ง ถ้าหากเธอไม่รู้อะไรเลยก็คงดี?
จะได้มองปัญหาทุกอย่างในมุมมองของเขา จะได้ไม่ต้องมีเรื่องวุ่นวายมากมายขนาดนี้
คิดถึงเรื่องของไป๋ยิ่นหนิง เธอก็รู้สึกปวดหัว
ไม่รู้ว่าควรพูดกับเขาดีไหม ไม่พูด เธอก็กลัวว่าไป๋ยิ่นหนิงจะทำเรื่องอย่างอื่นอีก
พูดแล้ว ด้วยความฉลาดของจงจิ่งห้าว ต้องมองความสัมพันธ์ของเรื่องทั้งหมดออกแน่
เธอคิดจนเหม่อลอย ไม่รู้ว่าน้ำในห้องน้ำหยุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“คิดอะไรอยู่?”
เธอเงยหน้า ก็เห็น…….