กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 370 ภรรยาผมชอบอาหารรสหวาน
จงจิ่งห้าวเก็บสีหน้าเล็กน้อย แววตามีความกระดี๊กระด๊าที่ไม่มีใครสามารถมองเห็น
เธอเป็นแบบนี้คือเธอหึงเหรอ?
มีแค่ชอบคนๆนึงมาก ถึงจะหึงสินะ
เฉินชือหานอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน เธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลดังที่สมชื่อสมฐานะ เป็นเป้าหมายที่คนมากมายเอาใจและประจบประแจง ถึงเพื่อนสนิทที่อยู่ข้างกายก็ล้วนเอาอกเอาใจเธอทั้งนั้น
ไม่เคยมีใครที่ไม่ไว้หน้าเธอขนาดนี้มาก่อน
เธอยับยั้งอารมณ์ไว้ “คุณนายจงไม่ค่อยพอใจเหรอคะ?”
หลินซินเหยียนตอบได้คล่องแคล่วชาญฉลาด “ไม่ทราบว่าคุณเฉินนี่หมายความว่ายังไงคะ ทำไมฉันต้องไม่พอใจด้วย? หรือคุณเฉินทำเรื่องอะไรที่คิดว่าฉันจะไม่พอใจ? แต่ตามประวัติครอบครัวของคุณเฉินแล้ว ฉันว่าไม่มีทางทำเรื่องเสื่อมเสียประเพณีศีลธรรม และเรื่องที่ทำให้คนไม่พอใจหรอกมั้งคะ?”
หลังจากเฉินชือหานได้เจอใบหน้าอันบริสุทธิ์ไม่มีพิษไม่มีภัยของหลินซินเหยียนแล้ว รู้สึกว่าเธอคือกระต่ายขาวตัวนึง อยากจะกระตุ้นเธอมันง่ายมาก แต่ไม่เคยคิดเลย……
ว่าเธอจะเป็นกระต่ายขาวที่กัดคนเป็น
เฉินชือหานรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวซีดสลับกัน ดูแย่มากๆ
จุดนี้ก็เหนือความคาดหมายของเหวินชิงมาก หลินซินเหยียนไปที่ตระกูลเหวินทุกครั้งล้วนมีกิริยาท่าทางที่สุภาพเรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนคนนึง
เขานึกว่าเฉินชือหานจะต้องจัดการได้แน่นอน แต่ไม่คิดเลย……
เขาออกมาคลี่คลายสถานการณ์ “เอาล่ะ วันนี้ลุงเลี้ยงข้าว อย่าทะเลาะกันจนทำให้เสียบรรยากาศเลยนะ”
เขาเรียกพนักงานมาสั่งกับข้าว จากนั้นได้ยื่นเมนูอาหารให้เฉินชือหาน “อยากทานอะไรก็สั่งเลยนะ”
เขาเปิดดูเมนูอาหาร สั่งกับข้าวหลายอย่างที่จงจิ่งห้าวค่อนข้างชอบทาน จงใจเพิกเฉยหลินซินเหยียนไว้ข้างๆ
เฉินชือหานถือว่าชนะมาได้ยกนึงแล้ว เธอมองหลินซินเหยียนแว๊บนึงอย่างไม่ทิ้งร่องรอย พร้อมยกมุมปากขึ้น ถึงปากคมฟันคล่องแค่ไหนแล้วจะทำไม?
เหวินชิงไม่ชอบเธอ แถมยังแสดงจุดยืนได้ชัดเจนมากว่าอยากให้เธอไปจากจงจิ่งห้าว
วันนั้น เธอได้ยินเหวินชิงคุยสายกับพ่อของเธอ เนื้อหาก็คือเหวินชิงอยากให้จงจิ่งห้าวหย่ากับหลินซินเหยียน
ตอนนั้นเธอยังทึ่งมากอยู่เลยว่าจงจิ่งห้าวไปแต่งงานตอนไหน?
แต่พ่อของเธอไม่ได้ทึ่ง น่าจะเพราะก่อนหน้านั้นเหวินชิงเคยบอกพ่อเธอ
ต่อมาเหวินชิงบอกว่าอยากให้เธอแต่งงานกับจงจิ่งห้าว หลังจากพ่อของเธอได้ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้ว ได้ตอบตกลงข้อเสนอของเหวินชิง
จงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนแอบซุ่มแต่งงาน ไม่มีคนรู้ อีกอย่างแต่งงานเชื่อมสายสัมพันธ์กับตระกูลจง ไม่ใช่แค่ตระกูลจงอย่างเดียวเท่านั้น
ยังมีตระกูลเหวินอีก
นี่เป็นวงการผลประโยชน์ที่ใหญ่มหาศาล ยิ่งไปกว่านั้น จงจิ่งห้าวยังหนุ่มยังแน่นแถมเป็นคนมีความสามารถ ลูกสาวแต่งงานไปก็ไม่เสียเปรียบ
ไม่ว่าคำนวณยังไงก็เป็นการค้าขายที่คุ้มค่า
ในตอนแรกเฉินชือหานคือคัดค้าน เธอรับปากไปส่งเอกสารที่โรงแรม คืออยากพูดสถานการณ์ให้ชัดเจนหลังจากที่ได้เจอหน้าจงจิ่งห้าว
หลังจากได้ใกล้ชิดสัมผัส เธอรู้สึกไม่เหมือนกับที่เคยเห็นในโทรทัศน์
เมื่อก่อนรู้ว่าเขารวย หน้าตาไม่เลว
หลังจากที่ได้ใกล้ชิดถึงพบว่า เขาไม่เพียงหน้าตาหล่อ ยังมีความทรงพลังที่ขัดเกลามาจากอุปสรรคมากมาย กาลเวลาผ่านไป ทำให้เขายิ่งมีความเป็นลูกผู้ชายสูง
ภายใต้ความแปลกใจ เฉินชือหานได้ตัดสินใจตอบตกลงข้อเสนอของพ่อกับเหวินชิง
เธออยากดูซิว่าผู้ชายคนนี้มีความหนักแน่นขนาดนี้จริงหรือเปล่า ขนาดผู้หญิงอยู่ในอ้อมกอดก็ยังสามารถหักห้ามใจได้
เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้แย่กว่าหลินซินเหยียน
เฉินชือหานจงใจสั่งอาหารไปหลายอย่างๆเสียงดัง กับข้าวบางส่วนเป็นของที่เธอชอบทาน บางส่วนไม่ใช่
แค่เพื่ออยู่ตรงหน้าหลินซินเหยียนจะได้มีหน้ามีตา
“ยังมีอย่างอื่นมั้ยครับ?” พนักงานถาม
เฉินชือหานยื่นเมนูอาหารไปแล้วพูด “ไม่มีแล้ว แค่นี้แหละ พยายามเสิร์ฟอาหารเร็วๆนะ”
“ได้ครับ” พนักงานรับเมนูอาหารมาอย่างเคารพนอบน้อม ตอนที่หันหลังออกไปให้ห้องครัวเตรียมกับข้าว จงจิ่งห้าวได้เรียกเขาไว้
“ไม่ทราบว่ายังต้องการสั่งอะไรครับ?” พนักงานหยุดฝีเท้าลง และมายืนอยู่ที่ข้างกายจงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวยกแก้วขึ้นมาจิบน้ำคำนึง แม้แต่หน้าก็ไม่ได้เงยขึ้นมา ตอนที่วางแก้วน้ำลง ได้พูดอย่างเรียบเฉย “เพิ่มปลาเปรี้ยวหวานที่นึง จะต้องใช้ ปลาตะลุมพุกจีนมานึ่งนะ”
ปลาตะลุมพุกจีนนึ่งของแม่น้ำแยงซีมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ถูกขนานนามว่าเป็นอันดับหนึ่งของอาหารสดสามอย่างที่ขึ้นชื่อของแม่น้ำแยงซีอยู่ในสมัยโบราณยังถูกใช้เป็นของถวาย รสชาติสดและน่าทานมาก แถมเนื้อปลานุ่มละมุนลิ้น
“ฟักทองผัดไข่เค็ม หนูผัดเปรี้ยวหวาน……”
เขาเงยหน้าขึ้นมามองพนักงาน “ร้านพวกคุณมีอาหารรสหวานที่เป็นจุดเด่นของร้านมั้ย? พอดีภรรยาผมชอบอาหารรสหวาน”
ในฐานะที่เป็นพนักงานร้านอาหารที่มีคุณสมบัติคนนึง รู้กับข้าวในร้านตัวเองเป็นอย่างดี
“ถ้าประเภทกับข้าวก็จะมีซี่โครงเปรี้ยวหวาน ผัดผักกะหล่ำและปีกไก่โค๊กครับ ส่วนของหวานก็จะมีนมก้อนชุปมะพร้าว กล้วยหอมน้ำตาลยืด ฮวยซัวราดแยมบลูเบอร์รี่ พวกนี้ล้วนมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อยครับ” พนักงานพูดแนะนำ
“งั้นก็เอาพวกนี้เลย” จงจิ่งห้าวพูดอย่างเรียบเฉย
“ได้ครับ ผมจะพยายามเสิร์ฟอาหารให้คุณโดยเร็วที่สุดครับ” พนักงานพูดจบก็ได้โน้มตัวทีนึงด้วยความเคารพ แล้วออกจากห้องอาหารVIP
ช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับหลินซินเหยียน เขารู้รสชาติอาหารที่เธอชอบอยู่ไม่น้อย เธอชอบอาหารที่มีรสชาติออกหวานนิดๆ
แถมเธอยังมีหุ่นที่ทำให้คนอิจฉามาก ทานยังไงก็ไม่อ้วน
หลินซินเหยียนหันไปมองเขาแว๊บนึง สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ดึงสายตากลับมามองแก้วน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าตัวเอง
ฝั่งตรงข้าม สีหน้าของเหวินชิงกับเฉินชือหานต่างก็ดูแย่มาก
คนที่โกรธที่สุดคือเฉินชือหาน เดิมทีเธออยากให้หลินซินเหยียนขายขี้หน้า แต่ไม่นึกเลยว่าจงจิ่งห้าวจะปกป้องเธอขนาดนี้……
มือที่เธอวางอยู่บนตักได้กุมไว้ด้วยกันอย่างแน่น
ถ้าไม่ใช่สติที่หลงเหลืออยู่คอยหักห้ามเธอไว้ เธอคงไปจากที่นี่แล้ว
ถ้าเธอไปก็คือยอมแพ้จริงๆแล้ว ไม่ เธอไม่เคยน่าอนาถขนาดนี้มาก่อน
เธอจะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด
เธอมีครอบครัวที่มีอำนาจและชื่อเสียงแถมยังได้รับการสนับสนุนจากเหวินชิง มีหรือที่จะสู้ผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยคนนี้ไม่ได้?
คิดถึงตรงนี้เฉินชือหานก็ได้เชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่ง
ความมั่นใจที่ภูมิหลังทางครอบครัวให้มา ทำให้เธอมีความมั่นใจฟุ้งกระจายไปทั้งตัว
ไม่นาน ประตูห้องอาหารก็ถูกผลักออก พนักงานหญิงได้ใส่ชุดกี่เพ้ายืนเรียงกันเป็นแถว และเสิร์ฟอาหารมาที่บนโต๊ะทีละอย่าง
ไม่นาน โต๊ะอาหารที่กว้างใหญ่ก็ถูกอาหารรสเลิศหลากหลายชนิดยึดครอง
เดิมทีเหวินชิงวางแผนไว้คือรอจงจิ่งห้าวมา เขาก็หาข้ออ้างจากไป และสร้างโอกาสให้เฉินชือหานได้ใกล้ชิดกับจงจิ่งห้าว
ตอนนี้หลินซินเหยียนอยู่ เขาไม่กล้าไป กลัวเฉินชือหานจะรับมือไม่ไหว และกลัวเฉินชือหานเก็บอาการไม่อยู่แล้วเผยพิรุธออกมาต่อหน้าจงจิ่งห้าว
ข้าวมื้อนี้ทุกคนต่างมีความคิดของตัวเอง ทำให้อาหารเลิศรสเต็มโต๊ะนี้ก็ดูมัวหมองไร้สีสันไปด้วย
มีเสียงใสๆของตะเกียบกระทบจานดังขึ้นเป็นครั้งคราว
ในปากเฉินชือหานคอยเคี้ยวอาหารอยู่ แต่สายตากลับมัวแต่จ้องหลินซินเหยียน
ถ้าจะบอกว่าโต๊ะนี้ใครทานได้เอร็ดอร่อยที่สุด งั้นก็คงจะเป็นหลินซินเหยียนแล้ว
กับข้าวที่จงจิ่งห้าวสั่งมา ต่างก็วางอยู่ตรงหน้าหลินซินเหยียนหมด แถมจงจิ่งห้าวกินไปแค่ไม่กี่คำ ก็มามัวแต่คอยคีบกับข้าวให้เธอ
เห็นเธอกับเหวินชิงเป็นคนตายหรือไง?
ไม่แคร์เลยสักนิดว่ามีคนนอกอยู่
“ดูไม่ออกเลยนะคะว่าความสัมพันธ์ของคุณนายจงกับประธานจงจะดีขนาดนี้ ทำเอาฉันที่เป็นคนนอกเหมือนก้างขวางคอยังไงอย่างงั้นเลย จะอยู่ก็ไม่ใช่ ไม่อยู่ก็ไม่ใช่” เฉินชือหานพูดจาสองแง่สองง่าม
จงจิ่งห้าววางตะเกียบลงและเงยหน้าขึ้น
หลินซินเหยียนจับมือของเขาไว้จากใต้โต๊ะ จงจิ่งห้าวมองมา เธอได้ตอบด้วยรอยยิ้ม เฉินชือหานเธอรับมือไหวอยู่ ไม่ต้องให้เขาออกโรงปกป้อง
ในเมื่อเธอเป็นภรรยาของเขา จัดการกับผู้หญิงที่มีความคิดพวกนั้น ให้เธอมาจัดการเองจะเหมาะสมกว่า