กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 382 เธอไปพบคนคนหนึ่งกับฉัน
มีเงินทำอะไรไม่ได้บ้าง?
เขาอยากเป็นดารา อยากจะแสดงละคร สามารถดึงนักลงทุนมาได้ ได้เป็นตัวเอกในละครก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
หลินซินเหยียนหายใจเข้าลึกๆ
หลี่จ้านได้โค้นทัศนคติของเธอ
นี่ต้องเป็นเด็กที่ดื้อขนาดไหนเนี่ย ถึงได้ทำให้ตัวเองเป็นดาราเพียงเพราะอยากจะทำให้พ่อโกรธ?
ครูอย่างนี้ เธอไม่กล้าปล่อยให้ลูกชายตามครูแบบนี้ หากลูกเรียนตามแบบเขาแล้วดื้อเหมือนเขา มันจะไม่คุ้มค่า
ถึงแม้ว่าในใจจะคิดแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า
อีกฝั่งหนึ่ง กวนจิ้นรับสายจากหลินซินเหยียนเสร็จ ก็ถูกจงจิ่งห้าวเรียกไปที่ห้องทำงาน
กวนจิ้นสามารถอยู่เคียงข้างจงจิ่งห้าวได้นานขนาดนี้ ก็แปลว่าเขาฉลาดมาก
ไม่รอให้จงจิ่งห้าวถาม เขาก็เปิดปากพูดก่อน แถมปากหวานซะด้วย รู้ว่าจงจิ่งห้าวอยากฟังอะไร “ก่อนหน้านี้ที่ภรรยาของคุณโทรหาผม คือให้ผมหาที่อยู่ของหลี่จ้านครับ”
คิ้วของจงจิ่งห้าวกระตุกเล็กน้อย หลินซินเหยียนสืบหลี่จ้าน?
“เมื่อกี้ผมบอกที่อยู่ของหลี่จ้านให้กับเธอไปแล้ว ตอนนี้น่าจะพบเจอแล้วมั้งครับ?” กวนจิ้นไม่แน่ใจว่าจงจิ่งห้าวดีใจหรือไม่ดีใจกันแน่
เขาถามอย่างระวังว่า “คุณไม่ได้บอกเธอหรอครับว่าหลี่จ้านเป็นใคร?”
ที่จงจิ่งห้าวเป็นห่วงไม่ใช่อันนี้ แต่ที่เขาเป็นห่วงคือ ทำไมหลินซินเหยียนถึงไปหาหลี่จ้านเอง
“ฉันรู้แล้ว” จงจิ่งห้าวสะบัดมือ กวนจิ้นก็ก้มหัวแล้วถอยออกไป
เขาเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์เสร็จแล้วกดโทรออก
ในรถ หลี่จ้านเพราะว่าถูกใส่กุญแจกับหลินซินเหยียน โทรศัพท์ดังขึ้นก็เอาไม่ถนัด มือถือของเขาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุม เพราะว่ากระเป๋าลึก มือของเขาก็เลยยื่นเข้าไปไม่ได้ แต่ว่าทางนี้ใกล้หลินซินเหยียนมาก
เขากะพริบตาที่ดำแล้วพูดว่า “คุณเอาให้ผมหน่อย?”
หลินซินเหยียนมองเขา แล้วช่วยเขาเอาออกมา “ฉันก็มีเรื่องอยากให้คุณช่วยเรื่องหนึ่ง”
เธอถือโอกาสพูดคำร้องขอของตัวเองออกมา
เธอไม่รู้ว่าควรพูดยังไง
หลี่จ้านมองสายที่โทรเข้ามา หนังตาห้อยทันที เหมือนจะเกรงกลัวมาก
เขามองหลินซินเหยียน “รอผมรับสายเสร็จก่อน”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
เขากดปุ่มรับสาย ไม่รอให้ทางนั้นพูด แย่งพูดก่อน ยิ้ม “ทำไมถึงนึกโทรหาผมได้?”
ปกติแล้ว ถ้าตัวเองมีความต้องการอะไรถึงจะติดต่อหาเขาเอง
น้อยมากที่เขาจะติดต่อมาหาตัวเอง
อยู่ๆ ก็โทรหาเขาอย่างนี้ ทำให้เขาใจไม่ดีเลย ช่วงนี้เขาเองก็ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรนี่นะ
“อยู่ไหน?”
หลี่จ้านมองไปทางหน้าต่าง ก็ดูไม่ออกว่าตัวเองอยู่ไหน หันไปถามคุณไจแอ้นที่ขับรถ “ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน?”
“ผมหาที่อยู่ให้คุณ เพราะว่าถนนถงหลิงอยู่ไม่ได้แล้ว….”
“ฉันถามว่าพวกเราอยู่ที่ไหน”
จงจิ่งห้าวจับที่จมูกอย่างไร้ความอดทน “มาบริษัทหน่อย”
พูดจบเขาก็วางสาย
หลี่จ้านกะพริบตา ทำไมเขาฟังจากน้ำเสียงเหมือนจะไม่พอใจเลย?
แต่ว่าคำสั่งของจงจิ่งห้าวเขาก็ไม่กล้าที่จะไม่ฟัง
ต้องให้คุณไจแอ้นเปลี่ยนทิศทางเท่านั้น “ไปบริษัทพี่ฉัน”
คุณไจแอ้นตามอยู่ข้างกายหลี่จ้านก็ต้องรู้ว่าพี่ชายของเขาคือใคร ไปถึงทางแยกข้างหน้าก็เลี้ยวหัวรถ
เขาเก็บโทรศัพท์แล้วหันไปมองหลินซินเหยียน “ต้องการให้ผมช่วยอะไร?สอนเสี่ยวเฉินหรอ?อันนี้คุณไม่ต้องห่วง……”
“ไม่ใช่” หลินซินเหยียนรีบขัดเขา เธอไม่กล้าเอาลูกชายมาให้เขาสอนแล้ว เมื่อก่อนเธอก็รู้สึกว่าของที่เขาสอนหลินซีเฉินจะเป็นผู้ใหญ่เกินไป ตอนนี้ถึงรู้ว่า ที่แท้ครูไม่น่าไว้วางใจนี่เอง
“คุณรู้ว่าฉันทำงานอะไรใช่ไหม” หลินซินเหยียนเอ่ยขึ้นอย่างอ้อมค้อม หลี่จ้านเป็นคนฉลาดแป๊บเดียวก็เดาความคิดของเธอออก ยิ้มแล้วพูดว่า “ร้านเสื้อผ้าอย่างพวกคุณ ก็ต้องการให้ผมเป็นโฆษณาให้หรอ?”
หลินซินเหยียนอธิบาย “ที่ผ่านมาทางร้านเอาเสื้อผ้าของผู้หญิงเป็นหลัก ตอนนี้ฉันอยากจะเปิดตลาดผู้ชาย ฉันรู้ คุณเป็นดาราที่ดังมากในตอนนี้ ค่าตัวก็ไม่น้อย เห็นแก่ที่พวกเรารู้จักกันและยังวาสนา คุณก็ลดให้ฉันหน่อย คุณว่ายังไง?”
หลี่จ้านจับจมูด เขาชอบเด็กคนนั้นมาก สำหรับหลินซินเหยียนก็คุ้นเคย และมีความประทับใจที่ดี รู้ว่าเธอเลี้ยงลูกสองคนด้วยตัวคนเดียวก็ไม่ง่าย
ในผู้หญิงที่เขารู้จัก หลินซินเหยียนถือว่าเป็นคนที่เขารู้สึกดีด้วยที่สุด เธอสวย โดดเดี่ยว เข้มแข็ง เขาชื่นชมมาก
“เธอเป็นอะไรกับหลี่จ้าน ถึงได้มาขอส่วนลด เธอรู้ค่าตัวของหลี่จ้านตอนนี้ไหม?” คุณไจแอ้นที่อยู่ข้างหน้าก็แทรกเข้ามา
หลี่จ้านไม่ได้พูดอะไร เขาคิดว่าหลี่จ้านรู้จักหลินซินเหยียนก็เลยไม่ดีที่จะปฏิเสธ ก็เลยแทรกพูดขั้นมา
หลินซินเหยียนรู้ว่าหาดาราที่ดังในตอนนี้ต้องแพงอยู่แล้ว ก็ได้ทำความเข้าใจเล็กน้อย
เธอก็ไม่ได้คิดที่จะเอาเปรียบหลี่จ้าน ไม่ใช่ว่าไม่ให้เงิน ตอนซื้อของยังสามารถต่อราคาได้เลย เธอแค่อยากจะกดทุนของตัวเองให้ต่ำลงแค่นั้นเอง
เธอยิ้มแล้วพูด “แล้วถ้าหาเขาเป็นพรีเซนเตอร์ ต้องการค่าตัวเท่าไหร่ล่ะ?”
คุณไจแอ้นหันหัวไปมองหลี่จ้าน เหมือนกำลังถามว่าต้องราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
หลี่จ้านถอนหายใจ เขาจ้องคุณไจแอ้น “นายอยากได้เงินจนบ้าแล้วใช่ไหม ฉันไม่ดีต่อนายหรือยังไง?”
หลินซินเหยียนอึ้งไปเลย นี่มันไม่เหมือนกับภาพลักษณ์ที่แสดงออกต่อหน้าประชาชนเลย
เห็นได้ชัดว่าเป็นคนละแนว
คุณไจแอ้นงงไปหมด นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีที่จะบอกราคาก็เลยเงียบหรอ?
ช่วยเขาพูดแล้ว ทำไมยังเป็นเขาที่ผิดละ ?
“คุณคือเจ้านาย คุณพูดถูก” คุณไจแอ้นหมดคำพูดต่อหลี่จ้านมาก เขาเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้จนชินแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้จัดการ แต่ว่าเขาจะรับงานอีเว้นอะไรก็ยังต้องปรึกษาเขาก่อน ถ้าเขาไม่ยอม ไม่ว่าราคาจะสูงแค่ไหนพวกเขาก็ไม่รับ
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าหลี่จ้านหมายความว่ายังไง ถึงแม้ว่าเธออยากจะเชิญหลี่จ้านมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ตัวเองมาก แต่ก็ไม่ดีที่จะไปบังแค่ไหนอื่น เพราะไม่ว่ายังไงก็คนรู้จัก
“การค้าขายไม่อยู่ แต่ยังมีน้ำใจ ถ้าคุณไม่อยากรับ ก็ไม่เป็นไร…..”
“นอกจากผม คุณยังสามารถหาคนที่หล่อกว่าผมได้อยู่หรอ?” หลี่จ้านขัดที่เธอพูด
หลินซินเหยียนยิ้ม ทำไมถึงกล้าคุยโวโอ้อวดอย่างไร้ยางอายแบบนี้?
ดูดีก็ใช่ แต่ว่ายังหนุ่มเกินไป บนตัวยังขาดกลิ่นอายที่มั่นคง
หล่อแบบนี้ ไม่ดึงดูดเท่าไหร่
อย่างน้อยก็ไม่ดึงดูดเธอ
แน่นอนว่าเขามีแฟนคลับมากขนาดนั้น เขาต้องมีจุดเด่นหลายอย่าง อย่างเช่นหล่อ
“แล้วค่าตัวนาย………..” หลินซินเหยียนสังเกตเห็นว่ารถมาจอดที่ที่จอดรถชั้นใต้ดินตั้งหน้าตั้งตาเซิ่งกรุ๊ป
เธอเอาแต่พูดคุยกับหลี่จ้าน ก็เลยไม่ได้สนใจทิศทางที่รถขับไป
เธอก้มหน้ามองมือของตัวเองที่ถูกล็อกไว้กับมือของหลี่จ้าน ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณมาที่นี่ทำไม?”
หลี่จ้านเองก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ว่าจงจิ่งห้าวพูดแล้ว เขาไม่กล้าที่จะไม่มา
“ผมไม่ต้องการค่าตัว คุณไปพบคนคนหนึ่งกับผม”
สมองของหลินซินเหยียนหมุนไวมาก เมื่อกี้เขาบอกกับคุณไจแอ้นว่าจะไปเจอพี่ชาย
แต่ที่ที่มากลับเป็นว่านเยว่กรุ๊ป
หรือว่าพี่ชายของเขาจะทำงานที่ว่านเยว่กรุ๊ป?
เธอไม่ได้คิดไปบนตัวจงจิ่งห้าวเลย จงจิ่งห้าวเป็นลูกคนเดียว ไม่มีน้องชาย
เธอยิ่งไม่ได้คิดไปทางตระกูลเหวิน คนของตระกูลเหวินต้องชื่อเหวินสิ
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลี่จ้านเป็นชื่อนามปากกาของเขา ชื่อจริงชื่อเหวินเสี่ยวจี้
ครั้งก่อนที่จงจิ่งห้าวประกาศความสัมพันธ์ระหว่างเธอต่อสาธารณะ คนในบริษัทก็รู้จักตัวตนของเธอเล็กน้อย ถ้าเธอเดินเข้าไปในบริษัทกับผู้ชายคนหนึ่ง คนอื่นจะคิดยังไง?
จงจิ่งห้าวจะคิดยังไง?