กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 419 ไม่ได้มีแค่พวกคุณที่คิดอุบายนี้ได้
แน่นอนว่าตอนที่วางแผนใส่ร้ายหลินซินเหยียนมีการเตรียมหลักฐานไว้แล้ว เพราะงั้นเมื่อต้องการขจัดข้อกล่าวหาก็ต้องมีการเตรียมหลักฐานเหมือนกัน
ขณะเกิดเหตุมีคนยืนอยู่ที่มุมห้องเพื่อถ่ายวิดีโอทุกอย่างไว้ ณ ตอนนั้นหลินซินเหยียนยิงเหอรุ่ยเจ๋อไปหนึ่งนัด นี่เป็นเพียงแค่การป้องกันตัวภายใต้สถานการณ์อันกดดันของหลินซินเหยียนเท่านั้น และอีกอย่างคือเหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้ตายเพราะลูกปืนที่เธอยิงออกไปหนึ่งนัด เหอรุ่ยเจ๋อตายเพราะจับมือหลินซินเหยียนไว้แล้วลั่นไกใส่ตัวเองอีกสองทีต่างหาก
คลิปหลินซินเหยียนยิงเหอรุ่ยเจ๋อที่ถูกเผยแพร่ลงในอินเทอร์เน็ตเป็นคลิปที่ถูกตัดต่อ ส่วนแรกเป็นตอนที่หลินซินเหยียนลั่นไกใส่เหอรุ่ยเจ๋อหนึ่งนัด ส่วนตอนที่เหอรุ่ยเจ๋อเข้าไปยุ่งกับหลินซินเหยียนนั้นไม่มีเลย มันถูดตัดออกเหลือแค่ตอนที่เหอรุ่ยเจ๋อนอนแผ่หลาอยู่บนพื้นพร้อมกับเลือดเต็มตัว
เพราะแบบนี้ใครที่เห็นคลิปจึงคิดว่าหลินซินเหยียนเป็นคนยิงเขาจนตาย
คลิปวิดีโอตัวเต็มอยู่ในมือของเหวินชิง เฉินชิงแอบก๊อปปี้จากในคอมของเหวินชิงออกมาแล้วหาคนตัดต่อคลิปเผยแพร่ลงในอินเทอร์เน็ต
ซึ่งคลิปตัวเต็มนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าหลินซินเหยียนไม่ได้ฆ่าคน เธอก็แค่ยิงเขาเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น
จงจิ่งห้าวไม่ได้พอใจกับคำตอบมากนัก เขาจึงยิ้มขึ้น“พวกคุณใส่ร้ายผู้หญิงคนหนึ่งว่าเป็นฆาตกร แล้วพอมาตอนนี้กลับมาพูดง่ายๆแบบนี้ คิดว่ามันจะลบล้างความผิดได้ทั้งหมดเลยหรอ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนี่นา ว่าไหม?”
เหวินชิงขมวดคิ้วขึ้น ไม่นึกเลยว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะยังไม่พอใจอีก“แล้วแกจะเอายังไง?”
จงจิ่งห้าวบิดขี้เกียจแล้วเอนหลังลง จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเรียบเฉย“ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ให้ทุกคนที่สมรู้ร่วมคิดในเรื่องนี้ไปขอโทษเธอซะ”
เหวินชิงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที เขาเป็นคนทำเรื่องนี้เอง เพราะงั้นคนที่ต้องไปขอโทษเป็นคนแรกนั่นก็คือเขา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจงจิ่งห้าวจะเรียกร้องขอให้เขาทำแบบนี้
ให้เขาไปขอโทษหลินซินเหยียนงั้นหรอ?
เหวินชิงรับไม่ได้
ทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยก้มหัวให้ใครเลย
“ไม่ได้!”เหวินชิงปฏิเสธ
เฉินชิงก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจงจิ่งห้าวจะให้เหวินชิงไปขอโทษหลินซินเหยียน
ไร้สาระน่า!
“ลุงของนายเป็นผู้อาวุโสนะ……”
“การกระทำความผิดไม่ได้แบ่งตามอายุนี่นา หรือว่ากฎหมายใช้ได้กับแค่คนหนุ่มสาวเท่านั้น ถ้าผู้ใหญ่ทำผิดก็ไม่ต้องถูกลงโทษงั้นหรอ?”จงจิ่งห้าวพูดขัดเฉินชิง พร้อมกับหัวเราะออกมา“โดยเฉพาะข้าราชการอย่างพวกคุณ คิดจะทำอะไรก็ทำตามใจได้เลยเหรอ?”
เฉินชิงหุบปากลงทันที เขายังรับราชการอยู่ เพราะงั้นจึงไม่กล้าพูดอะไรออกไปต่อหน้าจงจิ่งห้าว
ใครที่ดิ้นรนขึ้นมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้จะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉะนั้นการสำรวมกิริยาท่าทางและระวังคำพูดจึงถือเป็นสิ่งที่ควรพึงระวังของผู้ที่เป็นข้าราชการ
เหวินชิงข่มอารมณ์ไว้จนหน้าแดงก่ำ เดิมเขาเป็นคนหัวโบราณอยู่แล้ว เขาคิดเสมอว่าผู้หญิงกับผู้ชายนั้นไม่เท่าเทียมกัน แต่ว่าตอนนี้จงจิ่งห้าวกลับให้เขาไปขอโทษหลินซินเหยียน
“จิ่งห้าว เพราะผู้หญิงคนเดียว แกถึงกับให้ฉันไปขอโทษเลยหรอ?”รอยย่นที่หางตาของเหวินชิงบุ๋มลึกเข้าไปอีก
จงจิ่งห้าวยังคงยิ้มอยู่ เพียงแต่ว่านั่นเป็นรอยยิ้มที่มีความรู้สึกอยู่แค่ครึ่งเดียว“เรื่องนี้คงต้องแล้วแต่ท่าน”
สีหน้าของเหวินชิงกับเฉินชิงเปลี่ยนไปทันที ทว่าเหวินชิงดูแย่กว่า“จิ่งห้าว แกหมายความว่ายังไง?”
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นยืนพร้อมกับทำท่าปัดฝุ่นที่แขนเสื้อ จากนั้นก็พูดออกไปอย่างมีเลศนัย“ไม่ได้มีแค่พวกคุณที่คิดอุบายนี้ได้ ถ้าอยากจะสร้างปัญหาจริงๆล่ะก็ ผมกลัวว่าพวกคุณจะทำได้ไม่เท่าผมน่ะสิ”
ถึงการเป็นข้าราชการจะดูมีเกียรติดูสง่างาม มีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีจุดอ่อนหลายที่
แค่มีอะไรมาสะกิดนิดเดียวก็อาจจะถูกนำตัวไปสอบสวนได้
จงจิ่งห้าวเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยไม่ได้คิดคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา แถมยังทำให้พวกเขารู้สึกกระวนกระวายใจได้ไม่น้อยเลยด้วย
เฉินชิงไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่ประโยคเดียว ถึงเขากับจงจิ่งห้าวจะอายุห่างกันไม่มาก แต่ความน่าเกรงขามของจงจิ่งห้าวนั้นถือว่าไม่แพ้เหวินชิงเลย ท่าทีสงบนิ่งสยบทุกสิ่งนั้นทำให้เขารู้สึกชื่นชมมากจริงๆ มิน่าล่ะถึงเป็นบุคคลที่น่ายกย่อง ตำแหน่งของเขาในวันนี้ไม่ได้ได้มาด้วยมือเปล่าจริงๆ
เหวินชิงสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ไม่รู้ว่าโกรธหรือว่าหงุดหงิด แต่โดยรวมท่าทางของเขาดูแปลกไปจากปกติ
เขาจ้องไปที่แผ่นหลังของจงจิ่งห้าวพร้อมกับกำหมัดแน่น
ทันใดนั้นจงจิ่งห้าวที่เดินมาถึงหน้าประตูก็หยุดกึก เขายืนตัวตรงไม่หันกลับมา ไม่มีใครเห็นสีหน้าของเขา“ลืมบอกไปว่า ห้องรับแขกที่เรากำลังคุยกันอยู่มีกล้องวงจรปิดติดไว้ด้วย”
ทั้งเฉินชิงและเหวินชิงเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ นี่หมายความว่าที่พวกเขาคุยกันเมื่อกี้มันถูกบันทึกไว้หมดเลยหรอ?
ยังดีที่เฉินชิงไม่ได้พูดอะไรออกมามาก ทว่าบทสทนาระหว่างเหวินชิงกับจงจิ่งห้าวนั้นมีข้อมูลอยู่มากมายเลยทีเดียว อย่างเช่นถอนข้อกล่าวหาที่หลินซินเหยียนเป็นฆาตกร ซึ่งจะถอนข้อกล่าวหานั้นได้ยังไง?
เหวินชิงได้ใช้อำนาจในมือถอนข้อกล่าวหาให้กลับฆาตกรใช่ไหม?
การปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเป็นจุดอ่อนของตำแหน่งพวกเขา ฉะนั้นเมื่อใดที่เรื่องนี้มันถูกเผยแพร่ออกไป มันจะต้องเกิดการตั้งข้อสงสัยมากมายขึ้นมาแน่ๆ ซึ่งสามารถจินตนาการได้เลยว่าผลกระทบมันจะเป็นยังไงบ้าง
เฉินชิงนึกภาพออกพอๆกับเหวินชิงเลย
“แต่ว่าไม่ต้องห่วง ผมไม่ปล่อยให้มันหลุดออกไปหรอก”จงจิ่งห้าวหันกลับมาช้าๆแล้วมองไปที่เหวินชิงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“นี่คือบุญคุณครั้งสุดท้ายระหว่างเรา”
หลายปีมานี้เหวินชิงปฏิบัติตัวดีกับเขามาโดยตลอด เขาก็เป็นคนมีเลือดเนื้อและจิตใจ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้อยู่กับหลินซินเหยียน เขาก็ยิ่งทะนุถนอมคนใกล้ตัวเป็นพิเศษ
ยังไงเหวินชิงก็เป็นลุงของเขา ถ้าไม่เห็นแก่เหวินเสียนที่ตายไปก็ต้องเห็นแก่ความหวังดีที่เขามีให้มาตั้งนานหลายปี
นี่เป็นความเมตตาครั้งสุดท้ายที่เขามีต่อเหวินชิง
และก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสองด้วย
เหวินชิงเข้าใจความหมายที่เขาพูดอย่างถ่องแท้
จงจิ่งห้าวต้องการตัดสายสัมพันธ์กับเขา
เป็นการตัดความสัมพันธ์อย่างไร้เยื่อใย
เหวินชิงตาพร่ามัวลงถึงขนาดที่มองรูปร่างหน้าตาของจงจิ่งห้าวไม่ชัด เขาได้แต่คิดวนอยู่ในใจว่าที่ทำไปก็เพราะหวังดีเท่านั้น
หลังจากที่เหวินเสียนจากไป เขาก็ทำเหมือนจงจิ่งห้าวเป็นคนในตระกูลเหวินมาโดยตลอด แต่มันกลับ……
ความโกรธโจมตีเข้ามาในอก เหวินชิงรู้สึกว่าภาพตรงหน้าค่อยๆมืดลงเรื่อยๆ
“เหวินชิง—” เฉินชิงเข้าไปประคองเหวินชิงแล้วถามขึ้นด้วยความกังวล“เป็นอะไรไป?”
ภาพตรงหน้าของเหวินชิงมืดสนิท เขาสลบไปแล้ว
เฉินชิงยิ่งกระวนกระวายไปใหญ่ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาพลางพูดอย่างร้อนใจ“อนทนไว้ก่อนนะ ผมกำลังโทรเรียกรถพยาบาลให้”
จงจิ่งห้าวยืนมองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นชาอยู่ที่หน้าประตู เขาไม่ได้คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยเลยด้วยซ้ำ ไม่นานเขาก็เดินหันหลังจากไป
“จงจิ่งห้าว เขาเป็นลุงของนายนะ นายอยากเห็นเขาตายจริงๆหรอ?”