กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 427 เรื่องที่รับมือยาก
อย่าย่ำยีเขาได้มั้ย?
เฉินชือหานคอยเล่นกระดุมเม็ดนึงของคอเสื้อเขา “นายชอบฉันขนาดนี้ นายไม่อยากได้ตัวฉันเหรอ?”
หลี่จ้าน “……”
เขา ตอนนี้เขาไปได้มั้ย?
เฉินชือหานเชิดคางเขาขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อย่าบอกนะ ว่าเพื่อหวังดีกับฉันแล้ว จะชิงสุกก่อนห่ามไม่ได้”
“ใช่ ใช่จริงๆด้วย ถ้าเรามีอะไรกันจริงๆ ชื่อเสียงเธอจะเสียหาย เพื่อเธอแล้ว เรารอต่อไป……”
เฉินชือหานผลักเขาออกทันที พร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา “หลี่จ้าน นายเห็นฉันเป็นคนโง่รึยังไง? ที่เจอคนนึงก็รักคนนึง?”
ที่จริงหลังจากที่หลี่จ้านสารภาพรักกับเธอ ในใจเธอค่อนข้างตุ๊มๆต่อมๆอยู่ พอสงบสติอารมณ์ลงมาคิดๆดูแล้ว หลี่จ้านดันมาสารพรักตอนที่เธอกำลังจะแต่งงานกับจงจิ่งห้าว นี่คือบังเอิญหรือว่าเป็นแผนการที่เขาอยากขัดขวางเธอแต่งงานกับจงจิ่งห้าวกันแน่?
ถ้าไม่ใช่ยามคับขันแบบนี้ เธอจะพิจารณาหลี่จ้านแน่นอน ในฐานะที่เป็นผู้ชาย เขาหน้าตาหล่อเหลามากจริงๆ แถมยังเป็นดาราดังด้วย เป็นแฟนกับเขา จะต้องมีติ่งมากมายของเขาอิจฉาตัวเองแน่นอน สามารถเติมเต็มความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าที่เธอถูกคนอื่นอิจฉา
เมื่อกี๊เธอแกล้งเสนอข้อเรียกร้องแบบนั้นออกมา ก็เพื่อจะดูว่าหลี่จ้านจริงใจหรือว่าเสแสร้ง แต่แล้ว ไม่ผิดจากที่เธอคาดการณ์ไว้จริงๆด้วย
ผู้ชายคนนี้ มาสารภาพรักกับเธอตอนนี้จะต้องมีจุดประสงค์แน่นอน
“หลี่จ้าน ถ้านายรักฉันจริง ก็ไม่รอถึงตอนนี้ค่อยมาสารภาพรักกับฉันหรอก ไม่กล้า? นายไม่ใช่คนนิสัยอย่างนี้ ละครของนายก็เล่นจบแล้ว คือจะเล่นต่อ หรือว่า……”เธอชี้ที่ประตู
ใบหน้าของหลี่จ้านกระตุก ผู้หญิงคนนี้รู้มาโดยตลอดว่าเขากำลังเล่นละครอยู่?
เมื่อกี๊แค่หยั่งเชิงเขาเฉยๆ?
เขาหรี่ตาลง “เฉินชือหาน ทำไมพี่พบว่าเธอถึงได้เปลี่ยนไปเป็นคนที่น่ารังเกียจขนาดนี้? ทำไมดันจะต้องไปชอบคนที่มีเมียแล้วด้วย?”
เฉินชือหานนั่งลงมาที่ท้ายเตียง มองเขาด้วยหางตาทีนึง “ไม่แสดงแล้วเหรอ? จงจิ่งห้าวป่วยทางจิตไม่ใช่เหรอ? จิตวิปริตไม่ใช่เหรอ? ทารุณผู้หญิง ยังมีรสนิยมแปลกๆอะไรพูดต่อเลย”
หลี่จ้านพุ่งมาบีบคอเธอไว้ เฉินชือหานเชิดหน้าชูคอต้อนรับมือของเขา หลี่จ้านใกล้จะถูกผู้หญิงคนนี้ทำจนบ้าตายอยู่แล้ว เผชิญกับใบหน้าที่คุ้นเคยนี้ เขาทำไม่ลง
ในใจเขาก็ยังโกรธอยู่ มือที่ยกอยู่กลางอากาศได้กำไว้แน่น
เฉินชือหานมองเขาอย่างสงบนิ่ง วินาทีที่หลี่จ้านพุ่งมาหาเธอ ในใจเธอค่อนข้างกลัวอยู่ พอนึกถึงสมัยเด็กๆตอนที่เธอถูกรังแก หน้าตาที่หลี่จ้านพุ่งมาที่ตรงหน้าเธอ ความหวาดกลัวแบบนั้นก็ได้จางหายไป
เธอถึงกล้าชูคอขึ้นมาให้เขาบีบอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด
“เหวินเสี่ยวจี้ อาชีพดาราของนายไม่ได้เป็นสูญเปล่าจริงๆ ฝีมือการแสดงยอดเยี่ยมมาก มีอยู่ตั้งหลายครั้งที่ฉันคิดว่าเป็นจริง เรื่องที่แต่งงานกับจงจิ่งห้าว นายอย่าเสียเวลาไปคิดให้ปวดหัวเลย ยังไงฉันก็จะแต่งงานกับเขาแน่นอน”
หลี่จ้านจ้องใบหน้าเธอไว้ “เธอชอบเขาตรงไหน?”
ความคิดของเฉินชือหานล่องลอยไปหลายวิ ชอบเขาตรงไหน?
เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกแค่ว่าสามารถเป็นผู้หญิงของเขาจะมีความสุขมาก ในตัวหลี่จ้านไม่มีเสน่ห์ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ของผู้ชายแบบนั้น
“ชอบฐานะและตำแหน่งของเขา? ชอบที่เขาหน้าตาดูดี? ชอบที่เขาเย็นชากับทุกคน แต่อ่อนโยนกับแค่ภรรยาตัวเองคนเดียว? ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกดีๆแบบนั้น ฉันรู้ว่าไปแยกจากคนอื่นมันไม่ถูก แต่หลี่จ้าน คนที่บงการเรื่องทั้งหมดนี้คือพ่อของนาย ถ้านายอยากกล่าวโทษ ก็ควรจะไปโทษท่าน แต่ไม่ใช่มาเสียเวลาที่ตัวฉัน”
หลี่จ้านจ้องเธอไว้อย่างเงียบกริบ ผ่านไปสักพักได้พูดคำนึงว่า “พี่ชอบสมัยเธอยังเด็กมากกว่า”
หลี่จ้านพูดจบก็ได้หันหลังไปจากห้องนอน เฉินชือหานนั่งอยู่ไม่ขยับพร้อมพูดพึมพำ “คนเรามันเปลี่ยนกันได้ มีใครบ้างที่ตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่เปลี่ยนเลย?”
ตอนนี้ไม่ใช่ฮิตคำๆนึงที่สุดเหรอว่าชอบก็ไปไขว่คว้า?
เธอไปไขว่คว้าสิ่งที่ตัวเองชอบมันผิดด้วยเหรอ?
ตั้งแต่หลี่จ้านออกมาจากตระกูลเฉิน เขาไม่ได้กลับบ้านแต่ได้ไปที่บริษัทของจงจิ่งห้าวโดยตรง คุณไจแอ้นนั่งอยู่ที่ขั้นบันไดของหน้าบริษัท กำลังรอหลี่จ้านอยู่
เขาติดต่อหลี่จ้านไม่ได้ ที่บ้านก็ไม่อยู่ ที่ที่ควรหาก็หาหมดแล้วแต่หาตัวไม่เจอสักที ได้แต่มาเสี่ยงโชคที่นี่
เพราะเขารู้ความสัมพันธ์ของหลี่จ้านกับจงจิ่งห้าว เพราะฉะนั้นถึงได้เลือกมาเสี่ยงโชคที่นี่
แต่แล้วก้นของเขาใกล้จะนั่งจนแบนอยู่แล้ว ในที่สุดก็ได้เจอหน้าหลี่จ้าน เห็นหน้าเขาแล้วยิ่งกว่าเห็นพ่อแม่ตัวเองเสียอีก “สองวันนี้นายหายไปไหน? ติดต่อนายก็ไม่ได้ ฉันร้อนรนใจจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
“มีธุระ?”
“เมื่อวานฉันได้รับแจ้งว่าPerfect cosmeticsอยากจ้างนายเป็นพรีเซ็นเตอร์ ค่าออกงานอีเว้นท์……” คุณไจแอ้นยกมือขึ้นมาแกว่งนิ้วมือทั้งห้า “นายทายดูว่าเท่าไหร่?”
หลี่จ้านมองเขาอย่างเย็นชาทีนึง “ฉันไม่รับงานอะไรทั้งนั้น ช่วงนี้อย่ามาหาฉัน ฉันยุ่งมาก”
พูดจบได้ข้ามผ่านไหล่ของคุณไจแอ้นแล้วเดินเข้าไปในบริษัท คุณไจแอ้นถึงกับเอ๋อเลย ไม่รับงาน นี่มันเงินเชียวนะ เขาเดินตามหลี่จ้าน “ฉันยังไม่ได้เสนอค่าตัวเลย คนอื่นก็บอกว่าจะให้ค่าตัวสิบห้าล้านหยวนเลย ไม่แน่เราอาจจะยังเพิ่มได้อีกหน่อย……”
“ฉันบอกว่าไม่รับ นายไม่ได้ยินรึไง? !” หลี่จ้านถูกเขาตามตื๊อจนหงุดหงิด
คุณไจแอ้นหยุดลงมายืนอยู่ที่เดิม พร้อมมองร่างเงาของหลี่จ้าน “นายนึกว่าโอกาสหาเงินแบบนี้จะมีทุกวันเหรอ? โฆษณาชิ้นนึงสิบห้าล้านหยวน ค่าตัวสูงลิ่ว คนอื่นยอมทุ่มเงินเยอะขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะเห็นว่าตอนนี้นายดังเปรี้ยง มีแฟนคลับเยอะเหรอ? วงการบันเทิง นายอยู่วงการบันเทิงนะ จะมีสักกี่คนที่จะดังได้ตลอด ไม่อาศัยกระแสร้อนแรงนี้หาเงินเป็นกอบเป็นกำ นายยังจะมาเป็นดาราอีกทำไม? ทำไมนายต้องมาเป็นดาราด้วย?”
ทุกคนต่างก็รู้ว่าวงการบันเทิงอยู่ยาก แต่ทุกคนต่างพยายามสุดฤทธิ์ที่จะเข้ามาในวงการให้ได้ ก็ไม่ใช่เพื่อหาเงินหรอกหรือ?
ถ้าเขาไม่สนใจเรื่องเงิน แล้วจะมาเป็นดาราทำไมกัน?
หลี่จ้านยืนอยู่ในลิฟต์ มองคุณไจแอ้นที่ใกล้เข้าสู่ความสิ้นหวัง “ฉันเป็นดารา แค่เพราะพ่อฉันไม่ชอบ ไม่เกี่ยวกับเงิน ถ้านายรู้สึกว่าอยู่กับฉันแล้วกล้ำกลืนฝืนทน นายสามารถไปได้”
“ฉันไม่ไป ฉันจะรอนาย” คุณไจแอ้นพูดอย่างแน่วแน่ อยู่กับหลี่จ้านมาหลายปีแล้ว เขาก็ไม่เคยเอารัดเอาเปรียบตัวเอง ถ้าตัวเองไปตอนนี้มันไม่สมกับเป็นพี่น้องเลย
หลี่จ้านทำภาษามือยอดเยี่ยมให้เขา นาทีนี้ประตูลิฟต์ได้ปิดสนิท
คุณไจแอ้นหันหลังจากไปอย่างผิดหวัง
สิบห้าล้านหยวนปลิวหายไปแบบนี้เฉยเลย
เขาหันกลับไปมองห้องรับรองแขกที่กว้างขวางตรงชั้นหนึ่งของบริษัท พื้นหินอ่อนเงาวับจนสามารถสะท้อนเงาคน พื้นหลังสีทองทั้งแผ่นของหน้าเคาน์เตอร์ ว่านเยว่กรุ๊ปสามตัวใหญ่ๆที่ดูอลังการ ราวกับมังกรใหญ่ที่ทรงพลังและมีพลานุภาพ
เขาถอนหายใจทีนึง “มีพี่ชายรวยก็เอาแต่ใจแบบนี้แหละ สิบห้าล้าน? ใช่เงินหรือเปล่า?”
เขาเดินออกไป ในใจยังคิดถึงสิบห้าล้านหยวนนั้นและเสียดายอยู่
ค่าโฆษณาชิ้นนึงนะเนี่ย
โฆษณาที่ถ่ายไม่กี่นาทีเอง
“เย็ดแม่ง เงินล้วนเป็นกระดาษทั้งนั้น กระดาษเช็ดตูด”
หลี่จ้านมาถึงชั้นบน เพราะรีบร้อนเลยไม่ได้เคาะประตู เขาผลักประตูออฟฟิศของจงจิ่งห้าวออกโดยตรง ซูจ้านที่กำลังพูดคุยอยู่ได้ยินเสียงแล้วหันไปมอง พอหันไปมองก็เห็นหลี่จ้านยืนอยู่หน้าห้องเลย
เสิ่นเผยซวนก็อยู่เหมือนกัน เขานั่งอยู่ที่ข้างกายซูจ้าน
หลี่จ้านเดินเข้ามาแล้วปิดประตู “พวกพี่ก็อยู่เหรอครับ”
เวลานี้ก็ไม่มีคนพูดจาเลย แค่เรียกเขานั่ง
ซูจ้านพูดต่อ “ตอนนี้ในเวยป๋อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคลิปวิดีโอไม่เจอแล้ว ถือว่าแก้ไขเรียบร้อยแล้ว”
สื่อที่สืบสาวราวเรื่องได้โพสต์ขอโทษ แถมยังได้แถลงการณ์ด้วยว่าคลิปวิดีโอนั้นได้ผ่านการตัดต่อ ไม่ใช่เรื่องจริง
เรื่องของก่อนหน้านี้ที่ถูกดันขึ้นเป็นการค้นหายอดนิยมก็ได้ลบทิ้งไปแล้ว
จงจิ่งห้าวนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว หันหลังให้กับหน้าต่างฝรั่งเศส เขาพิงอยู่บนโซฟาอย่างเกียจคร้าน และเงียบกริบมาโดยตลอด แม้แต่หลี่จ้านเข้ามาก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้น
ซูจ้านพูดจบก็ได้เงียบลงมา
ทั้งออฟฟิศอบอวลด้วยบรรยากาศที่อึดอัด
เสิ่นเผยซวนเป็นคนทำลายความเงียบก่อน “หมอบอกไม่เป็นไร แค่เครียดจนเป็นลมหมดสติไป ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เฉินชิงกับหลี่จิ้งต่างก็อยู่”
สุดท้ายจงจิ่งห้าวก็ใจอ่อน ให้เสิ่นเผยซวนไปดูสถานการณ์ของเหวินชิง
หลี่จ้านฟังคำพูดของเสิ่นเผยซวนแล้ว ทำไมเหมือนกำลังพูดถึงเหวินชิงเลย?
เขาดึงเสิ่นเผยซวน “พี่กำลังพูดถึงใคร?”
“พ่อนายเข้าโรงพยาบาลนายไม่รู้เหรอ?” หลี่จ้านไม่อยู่ในประเทศก็แล้วไป อยู่ในประเทศหลี่จิ้งน่าจะบอกเขาอยู่มั้ง
เพื่อไม่ให้คนหาเจอ แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่มีเบอร์ของหลี่จ้านเลย
“ผมลองไปดูซิ” ถึงทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน อาละวาดจนมองหน้าไม่ติดแค่ไหน สายใยที่เลือดข้นกว่าน้ำยังไงก็ยังอยู่ ได้ยินเขาเข้าโรงพยาบาล ก็อยากไปดูสถานการณ์ หลี่จ้านเพิ่งเดินได้สองก้าว จู่ๆได้หยุดลงมาพร้อมก้มหน้า “เรื่องนี้เป็นความผิดของพ่อผมเอง ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือน”
“เรื่องนี้ก็พ่อนาย……”
“ซูจ้าน”
ตอนที่ซูจ้านทนไม่ไหวจะแขวะเหวินชิง ได้ถูกเสียงทุ้มต่ำขัดจังหวะไว้
ซูจ้านหุบปาก
จงจิ่งห้าวเงยหน้ามองซูจ้านทีนึง พริบตาเดียวก็หันไปมองหลี่จ้าน “ไปเถอะ”
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหลี่จ้าน
หลี่จ้านสูดหายใจลึกๆทีนึงแล้วเดินออกมาจากออฟฟิศ
เห็นประตูที่ปิดแล้ว เสิ่นเผยซวนใช้ข้อศอกทิ่มซูจ้านทีนึง “เหวินชิงคือเหวินชิง หลี่จ้านคือหลี่จ้าน นายพูดให้เขาฟัง จะให้เขาทำยังไง? ให้ไปด่าเหวินชิง หรือว่าไปซ้อมเหวินชิง แบบนี้สามารถแก้ไขปัญหาได้เหรอ?”
“ก็ฉันโกรธนี่หว่า? จริงๆเลยนะ ทำไมถึงจับเรื่องสมัยก่อนไม่ยอมปล่อยสักที เรื่องของรุ่นที่แล้ว ทำไมต้องเอาคนรุ่นนี้เข้าไปข้องเกี่ยวด้วย ฉันว่าหลี่จ้านพูดถูก เหวินชิงนี่แก่จนเลอะเลือนแล้ว” ซูจ้านพูดด้วยความโกรธ
“แยกย้ายกันเถอะ” จงจิ่งห้าวลุกขึ้นมา ไม่อยากฟังอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้