กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 430 บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง
ผู้คนที่มาเอิกเกริกต่างก็ใส่ชุดยูนิฟอร์มกันหมด เหมือนทำการเตรียมตัวมาพร้อม พวกที่เฝ้าอยู่หน้าห้องห้ามเอาไว้ไม่อยู่แน่นอน จงจิ่งห่มผ้าให้หลินซินเหยียนเสร็จ ได้ยืนตัวตรง แววตาดุร้าย “พวกนายออกไปก่อน”
คนที่เฝ้าประตูได้ออกไป
คนที่มาพูดด้วยน้ำเสียงแยกงานออกจากเรื่องส่วนตัว พร้อมทั้งโชว์หมายจับ “พวกเราบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง คุณหลินเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีฆ่าคน ต้องกลับไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจกับพวกเราครับ”
จวจิ่งห้าวก้าวเท้าเดินมา ความทรงพลังและความน่าเกรงขามที่ขัดเกลาออกมาจากบุคคลที่คบค้าสมาคมมานานหลายปี ราวกับแหที่ปกคลุมไปทั่วฟ้าแผ่นดิน
ผู้ชายที่ถือหมายจับได้กลืนน้ำลายคำนึง แต่ไม่ได้ขยับตัว ฐานะของจงจิ่งห้าวไม่มีคนไม่รู้ เขาก็เช่นกัน แต่เขาได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง สมัยโบราณก็มีเจ้าชายทำผิดมีโทษเท่าสามัญ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เป็นสังคมที่ทุกคนเท่าเทียมกัน
เขาปลอบใจตัวเองว่าไม่มีอะไรต้องกลัว ฝืนแสร้งเป็นสงบนิ่ง “พวกเราก็แค่บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง ต้องรบกวนประธานจงให้ความสะดวกนี้ด้วยครับ”
คนที่มาไม่ใช่หัวหน้าเฉิน แต่เป็นคนแปลกหน้า
เขาหลุบตามองหมายจับที่อยู่ในมือของคนๆนั้นแว๊บนึง หรี่ตาเล็กน้อยพร้อมพูดอย่างใจเย็น “บังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง? ถ้าผมไม่ให้ความสะดวกนี้ล่ะ?”
คนๆนั้นไม่ยอมแพ้ ทั้งๆที่อยากเอาความทรงพลังที่ตัวเองเป็นตำรวจออกมา แต่คำพูดที่พูดออกมา กลับไม่มีความน่าเกรงขามเลยสักนิด แม้กระทั่งยังค่อนข้างขี้ขลาดด้วยซ้ำ “ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็ถือเป็นความผิดนะครับ”
“โอเค” จงจิ่งห้าวยื่นมือออกมา “งั้นใส่กุญแจมือผมเลย ผมไปตรวจสอบกับพวกคุณเอง”
เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนของเหวินชิงกับเฉินชิง เขาจะคอยดูซิว่ามีใครอีก
คนพวกนั้นเริ่มลนลานขึ้นมา เขาแค่ได้รับคำสั่งว่าจับกุมหลินซินเหยียน ผู้ชายคนนี้เขาไม่กล้าจับจริงๆ แม้แต่แตะเนื้อต้องตัวก็ยังไม่กล้าเลย ใส่กุญแจมือเขา?
จงจิ่งห้าวใช้มือข้างเดียวปลดกระดุมคอเสื้อออกสองเม็ด “ถ้าลำบากใจ ให้คนที่ออกคำสั่งคุณมาก็ได้ ที่ผ่านมาผมมีนิสัยแย่ๆอย่างนึง เจ้าคิดเจ้าแค้น ผมไม่มีอำนาจที่ใหญ่โตเท่าไหร่ แต่ผมมีเงิน คุณว่า ชีวิตคนๆนึงมีค่าเท่าไหร่?”
คนๆนั้นตกใจเข่าอ่อน พูดจาอ้ำอึ้ง “จ้าง จ้างวานฆ่าคนก็ผิดกฎหมายเหมือนกันนะครับ……”
จงจิ่งห้าวหัวเราะเยาะอย่างสงบจิตสงบใจ เสียงพยางค์ที่เปล่งออกมาจากทรวงอกโหดเหี้ยมดุร้าย “ทำผิดกฎหมายคือต้องมีหลักฐานนะ คุณมีหรือเปล่า? อย่าเอาแต่พูดว่าผิดกฎหมาย ฟังเยอะแล้วมันเลี่ยน คือจะจับผม หรือว่าเรียกผู้บังคับบัญชาคุณมา?”
คนๆนั้นเหมือนตกอยู่ในสภาพที่ลำบากใจ
หลินซินเหยียนเอามือสองข้างกุมท้องไว้ ไม่ส่งเสียงสักนิด จงจิ่งห้าวไม่เคยบอกกับเธอว่าตอนนี้เรื่องมันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว สถานการณ์ไม่แน่ชัดเธอจะแทรกแซงไม่ได้ ยิ่งสร้างปัญหาให้จงจิ่งห้าวไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ ห้ามทำอะไรทั้งนั้น มอบทุกอย่างให้เขาจัดการ
เห็นๆอยู่ว่าฝ่ายตรงข้ามมาเป็นกลุ่ม ได้อุดหน้าห้องไว้ แต่กลับไม่มีใครกล้าขยับเนื้อขยับตัวเลย
คนๆนั้นคิดแล้วคิดอีก “ผมขอตัวไปโทรศัพท์ก่อน”
เขาเดินมาที่ห้องบันไดหนีไฟ หลังจากมองดูรอบๆจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีคน เขาถึงได้ล้วงมือถือออกมาโทรศัพท์
นาทีนี้ในห้องดื่มน้ำชาที่มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ บนโต๊ะน้ำชามีกาต้มน้ำชาจื่อซาวางอยู่ชุดนึง เหอเหวินหวยล้างชาชงชาอย่างชำนาญ หลังจากเทน้ำสกปรกทิ้งไปสองรอบ ถึงรินใส่ในถ้วยน้ำชาจื่อซาชั้นดี หลังจากรินเสร็จเขาใช้มือข้างนึงถือถ้วยไว้ ส่วนมืออีกข้างรองก้นถ้วยไว้ เอาถ้วยน้ำชาวางมาที่ตรงหน้าเฉินชิง “สภาพของตระกูลเหอในตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว ฉันมีลูกทั้งหมดสามคน ตายอยู่ในมือจงจิ่งห้าวสองคน ถึงฉันแย่แค่ไหนก็ทนไม่ได้หรอก ตอนนี้陈老弟ยอมมาร่วมมือกับฉัน ฉันรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก อาศัยแค่แรงของฉันคนเดียว ฉันไม่สามารถเอาคืนได้เลยสักนิด อะไรที่ฉันสามารถออกแรงได้ 陈老弟ก็ว่ามาได้เลย ถึงต้องทุ่มเททุกอย่างฉันก็ไม่เสียดาย นี่เป็นความจริงใจที่ฉันให้ ฉันเอาชาแทนเหล้าคารวะนายหนึ่งแก้ว”
เฉินชิงกดมือของเขาไว้ สองปีมานี้เหอเหวินหวยแก่ขึ้นเยอะเลย ผมหงอกทั้งสองข้างศีรษะเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย ไม่ว่าใครก็แล้วแต่เสียลูกไปติดต่อกันสองคนก็ไม่มีทางดีหรอก
“พี่พูดแบบนี้ก็ห่างเหินเกินไปแล้ว” เฉินชิงยกน้ำชาถ้วยนั้นขึ้น “ผมต่างหากที่ต้องคารวะพี่”
เหอเหวินหวยยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันในตอนนี้ ไม่ใช่ฉันในเมื่อก่อนแล้ว ยังจะให้นายคารวะฉันได้ยังไง”
ชื่อเสียงที่เขาปกป้องมาโดยตลอดได้ป่นปี้ไปแล้ว เรื่องของเหอรุ่ยหลินกับเหอรุ่ยเจ๋อ ได้กลายเป็นประเด็นเม้าท์มอยหลังทานข้าวของคนมากมาย ตระกูลเหอนับวันยิ่งถดถอยลงเรื่อยๆ
ไม่มีอีกแล้วอดีตที่เคยมีผู้คนขวักไขว่ไปมาอย่างไม่ขาดสายและมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน หน้าบ้านเงียบเหงา ยังจะมีใครเห็นหัวเขาอีก?
คนอื่นต่างก็ว่าเขายังไง?
ลูกตัวเองก็ยังปกป้องไม่ได้ เป็นพ่อประสาอะไร?
เฉินชิงตบไหล่ของเขา “ฉันรู้ ไม่ใช่ว่าความสามารถของพี่ไม่พอหรอก แต่อำนาจของตระกูลจงกับตระกูลเหวินใหญ่ค้ำฟ้าเกิน พูดกับพี่ตามตรงเลยนะ ผมก็กลัวเหมือนกัน”
เหวินชิงป่วย เขามีใจหวั่นไหวที่จะบีบบังคับจงจิ่งห้าว เขารู้ถ้าเรื่องนี้รอให้เหวินชิงหายดีก็สายแล้ว สิ่งที่ทำในก่อนหน้านี้ก็จะสูญเปล่าหมด
เขาจะให้เรื่องนี้ยกเลิกกลางคันไม่ได้
เพราะฉะนั้นเลยเป็นฝ่ายมาหาเหอเหวินหวยเอง
“ฉันได้ยินมาว่าตอนที่ลูกสาวของพี่ถูกถอนหมั้นก็เพราะหลินซินเหยียนเหมือนกัน?” เฉินชิงแกล้งเอาเรื่องทั้งหมดกลับคืนมาที่บนตัวหลินซินเหยียน จงจิ่งห้าวเป็นลูกเขยที่เขาเลือกเอาไว้ สำหรับหลินซินเหยียนก็ได้กลายเป็นส่วนเกิน
ตอนนี้เขาก็แค่หลอกใช้ตระกูลเหอมาบรรลุเป้าหมายของตัวเอง เกรงว่าแม้แต่เหอเหวินหวยก็คงไม่รู้หรอกว่าเฉินชิงอยากให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับจงจิ่งห้าว
จนถึงตอนนี้ยังนึกว่าเฉินชิงเกรงกลัวตระกูลเหวินกับตระกูลจงจริงๆ
ถึงแม้ตอนนี้ยศของเฉินชิงไม่ต่ำ แต่ไม่มีฐานรากที่มั่นคงเหมือนตระกูลเหวิน ในมือเหวินชิงกุมอำนาจที่แท้จริงไว้ อีกทั้งยังมีตระกูลจงด้วย เขากลัวตระกูลเฉินจะตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับตระกูลเหอ
เพราะฉะนั้นเลยเป็นฝ่ายมาร่วมมือกับเหอเหวินหวยเอง เขากับจงจิ่งห้าวมีความแค้นฆ่าลูก
เหอเหวินหวยถอนหายใจ “เดิมทียังคิดอยู่ว่าแต่งงานเชื่อมสายสัมพันธ์กับตระกูลจง ก็จะได้กอดต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลเหวินกับตระกูลจงแล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าจู่ๆจะมีผู้หญิงคนนี้โผล่มา ไม่เพียงทำลายงานแต่งเชื่อมสายสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูล ลูกชายฉันก็ถูกมันทำเอาหลงจนหัวปักหัวปำด้วย สุดท้าย……”
เหอเหวินหวยส่งเสียงถอนหายใจอีกครั้ง
“ดีที่ตอนนี้เรามีโอกาส……” เฉินชิงสื่อสารกับเขาทางสายตาทีนึง
เหอเหวินหวยพูด “ใช่ ตอนนี้ก็รอแค่ข่าวดีของทางโน้นแล้ว ขอแค่มันเข้าคุก ฉันจะไม่ให้มันได้ออกมาอีกเด็ดขาด ฉันจะให้มันชดใช้ให้ลูกสาวฉันกับลูกชายฉันอย่างแน่นอน!”
เฉินชิงพิงอยู่บนเก้าอี้ บนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีได้แกะสลักลายดอกที่สวยงามปราณีต นิ้วมือของเขาเคาะอยู่บนราวจับเบาๆ เหมือนกำลังรอการมาเยือนของข่าวดี
เวลานี้ มือถือที่เหอเหวินหวยวางอยู่บนโต๊ะได้ดังขึ้น เฉินชิงได้มองมาที่เขา
เหอเหวินหวยเองก็มองเขาแว๊บนึงเช่นกัน จากนั้นได้หยิบมือถือขึ้นมาและกดปุ่มรับสาย
ไม่นานในสายก็มีเสียงก้องมา “จงจิ่งห้าวขวางเอาไว้ เราจับคนไม่ได้ครับ”
สีหน้าของเหอเหวินหวยเปลี่ยนไป “นายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเชียวนะ ในมือมีหมายจับ เขาถือสิทธิ์อะไรไม่ให้นายจับกุมคน?”
“เขา……ให้ผมใส่กุญแจมือเขา ยังบอกอีกว่า……ให้คนที่อยู่เบื้องหลังผมไป”
เหอเหวินหวยสีหน้าซีดเซียว มือที่ถือโทรศัพท์ไว้สั่นเทา เฉินชิงได้ยินเสียงของทางโน้น เขาตบไหล่เหอเหวินหวยทีนึง พร้อมมองหน้าเขาแล้วพูด “ถ้าครั้งนี้จับคนไม่ได้ คราวหน้าก็ไม่มีโอกาสแล้ว ถ้าไม่ใช่ภายใต้สถานการณ์ที่จงจิ่งห้าวไม่ได้ป้องกันตัว แม้แต่โอกาสของครั้งนี้พวกเราก็ยังไม่มีเลย เขาได้พาลูกน้องไปด้วย ในโรงพยาบาลมีคนเฝ้าอยู่หน้าห้องผู้ป่วยแค่ไม่กี่คน คนที่เขาพาไปเพียงพอที่จะจับคนได้อยู่”
“ความหมายของนายคือมาไม้แข็ง?” เหอเหวินหวยถาม
“ยังมีทางอื่นอีกเหรอ? จับหลินซินเหยียนมาไว้ในมือก็คือจับจุดอ่อนของจงจิ่งห้าวได้ ถึงต่อไปจงจิ่งห้าวรู้ว่าพี่เป็นคนทำ เขาก็ไม่กล้าทำอะไรพี่……”
“คือพวกเรา” เหอเหวินหวยย้ำเตือน “ถึงแม้ฉันเป็นคนส่งคนไป แต่สามารถเอาหมายจับได้เป็นฝีมือของนายเชียวนะ”
พวกเขาสองคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว อย่าคิดจะปัดความรับผิดชอบ
ตอนที่ตระกูลเหอเจริญรุ่งเรืองเคยฝึกฝนคนของตัวเอง แต่แค่เมืองBมีตระกูลเหวินกับตระกูลเฉิน คนของเขาเลยไม่มีโอกาสได้ออกหน้า
ถ้าไม่มีเฉินชิง แม้แต่หมายจับเขาก็ยังเอาไม่ได้เลย
เฉินชิงหัวเราะเบาๆ “ฉันพูดพลั้งปากไป พี่อย่าเอามาใส่ใจนะ เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว”
เหอเหวินหวยมองเขาแว๊บนึงและได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จากนั้นได้พูดกับคนในสายว่า “นายพาคนไปเยอะแยะขนาดนั้นไปคือเอาไปทำอะไร? ไม่ว่ายังไงวันนี้ต้องจับคนมาให้ฉันให้ได้!”