กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 437 ทำอย่างทุกวิถีทาง
หลินซินเหยียนยิ้ม รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจและตาใสดั่งแม่น้ำ “นายว่า ฉันเจอกับเรื่องแบบนี้ พวกเขายุ่งจนหัวปักหัวปำ ฉันควรชนแก้วกับพวกเขา?แต่ว่าตัวของฉันในตอนนี้ก็ดื่มไม่ได้ด้วย นายช่วยฉันดื่ม?”
ตอนที่พูด เธอก็ได้เทเหล้าจนเต็มแก้วของจงจิ่งหาว
จงจิ่งห้าวก้มหน้ามองเหล้าขาวที่เต็มในแก้ว แสยะยิ้ม ที่แท้งานเลี้ยงลอบสังหารนี้จัดขึ้นมาเพราะเขานี่เอง
ยังคงเป็นการยิ้มที่ตามใจเธอหมดเลย “ทำตามที่เธอพูด”
ซูจ้านกะพริบตา เขาเหมือนจะได้กลิ่นอายที่ไม่ปกติ สองผัวเมียนี้จะทำอะไรกันเนี่ย?แสดงตลกให้พวกเขาหรอ?
“จิ่งห้าวพวกนายกำลัง……”
นี่มันอะไรกัน?
“เรื่องของออนไลน์ นายคงเหนื่อยมามากสินะ ฉันขอบคุณนายนะ ถ้านายไม่ยอมรับการขอบคุณของฉัน นายก็ไม่ต้องดื่ม” หลังจากที่ท้อง อยู่โรงพยาบาลนอกจากรับโทรศัพท์เธอไม่ดูโทรศัพท์เลย วันนี้หมอมาตรวจห้อง มีพยาบาลคนหนึ่งดูข่าวนั้น ดูข่าวไปด้วยแอบมองหน้าของเธอไปด้วย เธอเห็นผิดปกติ
ก็เลยบอกให้ป้าหยูออกไปแล้วเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูข่าวนั้น
หลินซินเหยียนพูดขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่ดีที่จะปฏิเสธ ก็เลยยกขึ้นมา มองจงจิ่งห้าวด้วยใจที่เป็นกังวล เหล้านี่เขาควรดื่มหรือไม่ควรดื่มกันแน่?
หลินซินเหยียนยื่นเหล้าให้จงจิ่งห้าว เขาก้มหน้ามองเธอไว้ ในใจเข้าใจทุกอย่าง แต่ก็รับมาอย่างให้ความร่วมมือมาก
เหล้าขาวไม่ได้อ่อนเหมือนไวน์แดง ดื่มลงไปทันที ก่อนหน้านี้ไม่ได้กินข้าว ท้องว่างดื่มเหล้าดีกรีนี้ จะยิ่งเมาง่ายกว่าเดิม
ของซูจ้านมีแค่ครึ่งแก้ว แต่ดื่มหมดภายในทีเดียว อาจจะเป็นเพราะเผ็ดจนหน้าบิดหน้าไปเบี้ยวไปหมด เขาตักผักยัดเข้าปากคำหนึ่ง พยายามระงับความรู้สึกแสบร้อนนั้น
หลินซินเหยียนมองจงจิ่งห้าวอย่างเป็นห่วง สีหน้าของเขาเฉยๆ เหมือนว่าที่เมื่อกี้ดื่มเป็นเพียงน้ำเปล่า เธอรู้ว่าเขาชอบกินอะไร คีบผักที่เขาชอบกินใส่ในจานของเขา “กินหน่อยเพื่อระงับ
จงจิ่งห้าวก้มตัวลงมาข้างหูของเธอแล้วพูดว่า “เป็นห่วงฉัน?”
หลินซินเหยียนทำเป็นใจแข็งพูดว่า “ไม่ใช่ซะหน่อย” เหมือนว่าพิสูจน์ที่ตัวเองพูดเมื่อกี้เป็นความจริง ก็ได้เทเหล้าใส่แก้วตรงหน้าของจงจิ่งห้าวจนเต็มอีกครั้ง
เธอวางขวดเหล้าลง “แก้วนี้นายควรจะดื่มกับกวนจิ้น นายไม่อนู่บริษัท เขาช่วยนายไม่รู้เท่าไหร่แล้ว”
“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว สมควรแล้ว สมควรแล้ว” กวนจิ้นตื่นตะลึงมาก
ดื่มเปล่าๆ เมาง่ายจริงๆ เหล้าขาวเต็มแก้วทั้งสองดื่มลงไป ตาของจงจิ่งห้าวมีเส้นเลือดสีแดงปรากฏ เขาดูไม่เป็นอะไรเลย หลินซินเหยียนรู้ เขาต้องไม่สบายแน่ เพราะการดื่มเหล้าดีกรีขนาดนี้ขณะท้องว่าง ไม่ดี
แต่ว่าไม่ทำให้เขาเมา เธอก็ออกไปไม่ได้
แม้จะเป็นห่วงมากแค่ไหน ก็ยังเทให้เขาจนเต็มแก้ว “แก้วนี้นายดื่มให้ฉัน ฉันแต่งงานกับนายตอนอายุ 18 นายอะไรก็ไม่ได้ให้ฉัน ไม่มีงานแต่ง ไม่มีพิธีอะไร แม้แต่ทะเบียนสมรสหนึ่งใบ ยังต้องให้คนอื่นพาฉันไปทำ ตั้งใจคิดอย่างละเอียดแล้วฉันก็เสียใจเหมือนกัน นายว่านายควร…….”
เธอยังไม่ทันพูดจบ จงจิ่งห้าวก็ยกเหล้าแก้วนั้นดื่มจนหมด
เส้นเอ็นตรงหน้าผากผุดขึ้นมาจนทำให้โครงหน้าตึงเป็นเส้น ลูกกระเดือกของเขากลิ้งขึ้นลง เสียงแหบมาก “เมื่อก่อนเป็นคนระยำ เอาแต่ทำเรื่องโง่ๆ”
ตอนที่พูดเขาก็ได้เทเหล้าใส่แก้วของตัวเองจนเต็ม “วันนี้ต่อหน้าเพื่อนของฉัน อยากจะบอกเรื่องหนึ่ง”
“ผู้หญิงคนนี้” ดึงหลินซินเหยียนเข้าอ้อมกอด “ฉันขอบคุณเธอมาก”
ผู้ชายทั้งสามที่อยู่ตรงข้าม นั่งอยู่นิ่งๆ พูดตามมาว่า “พวกเรารู้”
“แก้วนี้ก็ต้องดื่มเพื่อเธอ ที่คลอดเสี่ยวเฉินกับเสี่ยวซีให้ฉัน” ดื่มหมดทันที เขาได้เทต่อ “แก้วเดียวไม่สามารถบอกความรู้สึกผิดของฉันได้ ฉันเจ็บใจ ปีเหล่านั้นที่พลาดและไม่รู้ ต้องขอบคุณที่เธอเลี้ยงพวกเขาได้ดีขนาดนี้”
ที่เขาพูดเป็นความในใจทั้งหมด เขาไม่เคยพูด แต่ในใจก็ไม่เคยลืม
6 ปี นานเกินไป เวลา3000กว่าวัน ที่เสียไปไม่ใช่แค่เวลา ยังมีสิ่งดีๆ มากมายและความสุขที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย
เขาไม่เคยผ่านประสบการณ์การเป็นพ่อคนที่ยืนรอหน้าห้องทำคลอดด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้นที่รอคอยแบบนั้นมาก่อน
เขาไม่รู้ว่า ลูกของเขา หน้าตาตอนที่คลอดออกมาเป็นยังไง
เขาไม่รู้ว่า ลูกของเขา มีฟันซี่แรกตอนไหน
เขาไม่รู้ว่า ลูกของเขา พูดเป็นตั้งแต่อายุตอนไหน คำแรกที่พูดคืออะไร เรียกพ่อก่อนหรือว่าเรียกแม่ก่อน
เขาไม่รู้ว่า การที่อุ้มทารกแรกเกิด จะมีความรู้สึกยังไง
บางทีเขาจงใจจะให้หลินซินเหยียนได้บรรลุเป้าหมาย บางที ไปสะเทือนโดนเรื่องก้นหัวใจที่โศกเศร้า เหล้าขวดนั้นเขาดื่มคนเดียวจนหมด
ก็เมาแล้ว
เขากอดหลินซินเหยียนไว้ไม่พูดอะไร และไม่ปล่อยมือด้วย
ก็แค่อยากจะกอดไว้ รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ที่อ่อนโยน อบอุ่น มีชีวิตชีวากอดไว้ในอ้อมกอด ถึงจะรู้สึกว่าตัวเองสมบูรณ์
“นายเมาแล้ว” หลินซินเหยียนตบหลังเขาเบาๆ
เขาเอาหน้ามุดเข้าตรงคอของเขา “ฉันไม่ได้เมา ฉันแค่รู้สึกอึดอัด”
เขาจับมือของหลินซินเหยียนไว้ที่กลางอก “ข้างในนี้อึดอัด”
หลินซินเหยียนกระพริบตาแล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันรู้ วันข้างหน้าของพวกเรายังอีกยาวไกล ตอนนี้นายต้องนอนซะหน่อยแล้ว”
“รบกวนพวกนาย แบกเขาขึ้นไปที” เธอมองไปทางผู้ชายตรงข้ามทั้งสามคน
ถ้าตอนแรกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้างหลังก็รู้กันหมดแล้ว มื้อนี้ เพื่อจะมอมเหล้าจงจิ่งห้าวนี่เอง
แต่ว่าเพราะอะไร ก็ไม่รู้แล้ว
สองคนก็พอแล้ว เสิ่นเผยซวนไม่ได้ขึ้นไป แต่มองหลินซินเหยียนไว้ “เธอจะทำอะไรกันแน่?”
หลินซินเหยียนตอบไม่ตรงคำถาม “เขาคอแข็งไหม?”
“ตามสถานการณ์ปกติแล้ว ไม่เลว เพราะเขาเป็นนักธุรกิจการดื่มและสังสรรค์เป็นเรื่องปกติ” ถึงคอจะไม่แข็ง ฝึกดื่มบ่อยๆ ก็ฝึกออกมาได้เอง
“นายว่าเขาเมาหรือยัง?” หลินซินเหยียนถาม
ข้างหลังเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนมอมตัวเอง วิธีการของเธอชัดเจนเกินไป เขาต้องรู้ว่าอยากจะมอมเหล้าของเขา อยากจะให้เขาเมา
“เขาอารมณ์ไม่ดี เมาง่าย” ความหมายแฝงก็คือเมาแล้ว ข้างหลังใส่อารมณ์ด้วย
หลินซินเหยียนหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็ได้แต่ทำตามแผนของตัวเองต่อไป
“ป้าหยูขึ้นไปดูแลเขาหน่อย” เมาแล้ว จะคอแห้ง อยากอ้วก ข้างกายไม่มีคนคอยดูแลไม่ได้
ป้าหยูกำลังชงน้ำน้ำผึ้งอยู่ หลินซินเหยียนเม้มปาก “ตักน้ำเปล่าให้เขาก็พอ”
เธอกลัวว่าเขาจะสรางเมา เวลาของเธอจะไม่พอ
“รถเข็นที่ฉันให้นายหามาล่ะ?” เธอมองเสิ่นเผยซวนไว้แล้วพูด
“เธอคิดจะทำอะไรกันแน่……..”
“เวลาของฉันไม่พอแล้ว พวกเราเดินไปคุยไป” หลินซินเหยียนขัดเขาพูด
ป้าหยูยืนอยู่ที่เดิม จะไปหรือถอยก็ไม่ได้
ให้ดื่มเหล้าเยอะขนาดนั้น ไม่ให้ดื่มแม้แต่น้ำน้ำผึ้งเลยหรอ?
คิดไปคิดมาป้าหยูก็ไปที่ห้องครัวเทแก้วใหม่ แต่ก็ใส่น้ำผึ้งลงไปตามเดิม แน่นอนว่าแอบใส่ในตอนที่หลินซินเหยียนไม่เห็น
เสิ่นเผยซวนเอารถเข็นมาวางไว้ข้างหลินซินเหยียน ยื่นมือเพื่อจะพยุงเธอนั่งขึ้นไป จากนั้นดันเธอออกไป
มาถึงข้างรถเขาก็พยุงหลินซินเหยียนขึ้นรถ พับรถเข็นไว้ด้านหลังรถ
เขาขึ้นไปนั่งตรงคนขับสตาร์ทพร้อมถามว่า “ตอนนี้บอกได้รึยัง ที่เธอทำทุกวิถีทางในการมอมเหล้าจิ่งห้าว จะไปหาใคร?หรือว่ามีเรื่องอะไร?”