กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 440 อย่าผลักฉันออก แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
- Home
- กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม
- บทที่ 440 อย่าผลักฉันออก แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
“ฉันมีคนที่ชอบ……….”
“อุ๊บ……”
เธอยังไม่ทันพูด อยู่ๆ ปากของไป๋ยิ่นหนิงแนบขึ้นมา ปิดคำพูดที่เธอจะพูดไว้
ลูกตาของเธอหดลงอย่างไว มือทั้งสองอยากจะผลักเขาโดยสัญชาตญาณ
“อย่าผลักฉันออก แค่ครั้งนี้……ครั้งเดียว” เสียงของเขาเบาและแหบ
มือของหลินซินเหยียนหยุดลง หัวใจสั่นสะท้านอย่างอธิบายไม่ถูก เธอรู้สึกได้ว่าเขากำลังสะอื้น ความเศร้าที่ยากที่จะพูดออกมา เธอเกร็งตัวไว้
เวลาผ่านไปนาน ริมฝีปากของเขาขูดผ่านหน้าของเธอไปจนถึงหูของเธอ “เกิดเรื่องที่เหวินชิงใส่ร้ายเธอ ฉันรู้ว่าเป็นโอกาสที่ฉันสามารถแก้แค้นให้พ่อบุญธรรมของฉัน แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะเธอ ไม่อยากให้ธอถูกเรื่องไม่ดีพวกนั้นรบกวน จงจิ่งห้าววันหนึ่งไม่รู้ความจริง เขาก็จะเห็นแก่หน้าของเหวินชิงตลอด ฉันขุดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะจะไม่ให้เขามีเรื่องต้องกังวล แล้วสามารถจัดการกับเหวินชิงได้โดยไม่สนใจอย่างอื่น ง่ายๆ คือฉันประเมินความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาต่ำเกินไป ฉันอิจฉา ริษยา ดูแลตัวเองดีๆนะ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เธอจะเสียผู้ชายคนหนึ่งที่รักเธอที่สุด”
เขารีบหันหลังทันที “ฉันจะไปจากที่นี่ ครั้งนี่ไม่ให้เธอผิดหวังแน่ วันนี้ เป็นการพบเจอครั้งสุดท้ายของพวกเรา ฉันจะไม่ก้าวเข้ามาในเมืองB อีก เธอไปเถอะ”
หลินซินเหยียนมองแผ่นหลังของเขาไว้ “ของคุณนะ”
พูดเสร็จเธอก็เรียกเสิ่นเผยซวนที่รออยู่หน้าประตู
ไม่นานเสิ่นเผยซวนก็เปิดประตูทันที มองไป๋ยิ่นหนิงทีหนึ่ง
“พวกเราไปเถอะ” หลินซินเหยียนพูดเบาๆ
สุดท้ายเสิ่นเผยซวนก็ไม่ได้พูดอะไร ดันเธอแล้วจากไป
เข้าไปในลิฟต์แล้วเขาถึงจะเปิดปากถาม “เจรจาเสร็จแล้วหรอ?”
น้ำเสียงและสีหน้าของเธอเย็นชามาก เหมือนว่าไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้เลย “อื้ม”
“เผยซวน ฉันเหนื่อยแล้ว” เธอบีบหว่างคิ้วของตัวเองไว้
เสิ่นเผยซวนไม่ได้โง่ ไป๋ยิ่นหนิงจะยอมตกลงว่าจะเปิดโปงเรื่องนี้โดยไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลยหรอ แต่เขาก็ต้องเตือนหลินซินเหยียนไว้ก่อน “นิสัยของจิ่งห้าวเธอและฉันต่างรู้กันดี ไป๋ยิ่นหนิงรู้สึกดีต่อเธอ ก็ไม่ใช่ความลับอะไร เขาไม่มีทางตกลงอย่างไร้เหตุผลแน่นอน ถ้าข้อแม้ที่เขาขอคือเกี่ยวกับเธอ ฉันหวังว่าเธอจะปฏิเสธไปโดยตรง”
หลินซินเหยียนเงยหน้ามองเขาไว้ “นายคิดว่าเขาจะทำอะไรกับฉัน?”
เสิ่นเผยซวนเม้มปากไม่พูด
หลินซินเหยียนยิ้ม แต่นัยต์ตากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา “สงสัยว่าพวกเรามีธุรกรรมทางกาย?”
“ไม่ใช่…….”
“แต่ว่านายหมาหยถึงแบบนี้!” หลินซินเหยียนขัดเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
เสิ่นเผยซวนตาตก “ขอโทษ”
“นายมีความคิดแบบนี้ ไม่ใช่แค่ฉันที่ถูกดูถูก”
ความคิดของเสิ่นเผยซวนเกิดขึ้นมาในหัวเพียงแวบเดียว ก็พูดออกมาทันที มันไม่เหมาะสมจริงๆ เขาเองก็รู้สึกผิด
ลงจากลิฟต์แล้วเสิ่นเผยซวนดันเธอลวมา ออกมาทางประตูใหญ่โรงแรม ตอนที่ไปข้างรถ เห็นจงฉีเฟิงที่เดินมาทางนี้
เสิ่นเผยซวนหยุดลง เหมือนจะแปลกใจมากที่เจออีกฝ่าย ไม่นานก็เหมือนจะรู้ว่าที่พวกเขาปรากฏพร้อมกันที่นี่ น่าจะเป็นเพราะเรื่องเดียวกัน
หลังจากวันนั้นที่เฉิงยู่ซิ่วเจอกับไป๋ยิ่นหนิง กลับไปก็ไปบอกเรื่องไป๋ยิ่นหนิงกับจงฉีเฟิง ให้เขาหาคนไปจ้องไป๋ยิ่นหนิงไว้ กลัวว่าเขาจะทำอะไร
เรื่องที่เกิดขึ้นหน้าโรงพยาบาลวันนี้ ก็เข้าหูของเขาเป็นธรรมดา
“ไปเจอไป๋ยิ่นหนิงแล้วหรอ?” จงฉีเฟิงพยุงตัวลุกขึ้น
หลินซินเหยียนตอบอื้มทีหนึ่ง “เขาจะไปจากเมืองB ส่วนหมอคนนั้น ก็จะไม่ปรากฏตัวอีก”
จงฉีเฟิงยักคิ้วเหมือนจะคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะถูกจัดการเร็วขนาดนี้
“เขาะยายามในการตามหาคน จะยอมปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้หรอ แล้วยังไม่เปิดโปงออกมาด้วย?”
เสิ่นเผยซวนเองก็ก้มหน้ามองหลินซินเหยียน อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมไป๋ยิ่นหนิงถึงยอมปล่อยมือ
“เขาไม่ได้อยากเปิดโปงเรื่องนี้ เป้าหมายหลักของเขาคือเหวินชิง อยากจะแก้แค้นให้ไป๋หงเฟย เขาเองก็รู้ จะจัดการกับเหวินชิงเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย ก็เลยตัดสินใจจะกลับไปไป๋เฉิงก่อน” หลินซินเหยียนพูด
จงฉีเฟิงก็ยังเป็นท่าทีที่สงสัย แต่หลินซินเหยียนพูดขนาดนี้แล้ว เขาเองก็ไม่ดีที่จะพูดอย่างอื่นต่อ ถอนหายใจทีหนึ่ง “ถ้าปิดบังต่อไปไม่ไหว เธอก็บอกเขาไปเถอะ”
หลายปีมานี้ เขาแก่แล้ว แล้วก็เหนื่อยแล้ว
หลินซินเหยียนแปลกใจมาก ปิดบังมานานหลายปี ทำไมอยู่ๆ ถึงไม่ใส่แล้ว?แล้ววันนี้มาหาไป๋ยิ่นหนิงเพราะอะไร?
“ฉันไม่อยากให้เขาได้ยินจากปากของคนอื่น ฉันก็ได้ เธอก็ได้ ยู่ซิ่วก็ดี”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วไว้แน่น รู้สึกรับไม่ได้กับคำตอบนี้ “แล้วตอนนั้นทำไมต้องปกปิดด้วย เคยคิดถึงความรู้สึกของเขาไหม?จะให้เขาคุกเข่ารู้สึกผิดต่อหน้าเฉิงยู่ซิ่วที่หลายปีมาเย็นชาใส่ หรือว่าจะให้เขาต่อสู้กับเหวินชิงจนตายกันไปข้างหนึ่ง?ความรู้สึกที่เหวินชิงมีต่อเหวินเสียน คุณรู้ดีกว่าใคร……ขอโทษค่ะ หนูตื่นตัวเกินไป”
หลินซินเหยียนหลับตา เธอกุมขมับไว้ เส้นประสาทที่ตึงเครียด แทบจะทำให้เธอไม่ไหวแล้ว
จงฉีเฟิงไม่ได้โกรธ ที่เธอพูดก็มีเหตุผลดี พวกเขาเป็นคนปกปิดความจริงไว้ตั้งแต่แรก เป็นพวกเขาที่ทำให้หัวใจของจงจิ่งห้าวเต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดชัง ตอนนี้…….
“นี่ก็ดึกแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” จงฉีเฟิงกำลังจะหันหลัง เหมือนนึกอะไรออก มองเธอไว้ “เสี่ยวเฉินกับเสี่ยวซีบอกว่าคิดถึงพวกเธอแล้ว ถ้าสะดวก ก็โทรให้ฉัน ฉันพาพวกเขาไปเอง”
ลุงเฟิ๋งเปิดประตูรถ จงฉีเฟิงก้มตัวนั่งขึ้นไปที่รถ จากนั้นก็ไปแล้ว
เสิ่นเผยซวนถาม “พวกเราไปตอนนี้เลยไหม?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า เธอต้องการเวลาในการสงบเล็กหน่อย ไม่อยากกลับไปด้วยสภาพนี้ ไม่อยากให้จงจิ่งห้าวเห็นสภาพของตัวเองในตอนนี้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตื่นตัวเกินไปหรือเปล่า กระทบโดนลูกในท้อง เริ่มรู้สึกไม่สบาย
เสิ่นเผยซวนยกมืออยากจะปลอบเธอ แต่ว่าตอนที่มือจะวางลงไปบนไหล่ของเธอก็ชะงักลง รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ก็เลยดึงมือกลับคืนไป
แค่อยู่กับเธอ ยืนหยู่ข้างถนนอย่างเงียบๆ
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ ก็ถูกคนในรถตรงข้ามเห็นจนหมด
เขายกหน้าต่างขึ้น จากนั้น รถก็แล่นออกไปอย่างเร็ว
ตอนที่ผ่านข้างกายหลินซินเหยียน เธอได้เงยหน้าสบตาเข้ากับผู้ชายในรถอย่างพอดี แต่ว่ารถขับเร็วเกิน เธอไม่รู้ว่านั้นเป็นสายตาของใคร
คนในรถเห็นว่ามองไม่เห็นหลินซินเหยียนแล้วถึงจะเก็บสายตา
ในค่ำคืนที่มืดมิด ฝนเริ่มตก เล็กๆ น้อยๆ ตกลงมาจากฟ้า
การแสดงที่สะสมกันมาในห้างสรรพสินค้า ได้ฝึกให้เธอใจเย็น ไม่มีใครที่สามารถมองความคิดที่แท้จริงของเขาออก
ถึงจะเป็นเรื่องใหญ่โตแค่ เขาก็สามารถทำได้โดยไม่แสดงสีหน้าอะไรออกเลย เหมือนกับตอนนี้ สีหน้าของเขา สายตา ขนาดน้ำเสียงก็เหมือนกับหยดน้ำฝนข้างนอก ที่ไม่มีใครแยแส
“เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างลับ สืบเบาะแสอะไรเจอ บอกให้ฉันโดยตรง”
“ครับ”
ไม่นานรถคันนี้ก็หายไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักในยามดึก
เพราะว่าฝนตก หลินซินเหยียนนั่งอยู่ในรถ สีหน้าของเธอไม่ดีมาก เสิ่นเผยซวนรู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย “จะไปโรงพยาบาลไหม?”
ร่างกายของเธอ เธอรู้ “ไม่เป็นอะไร กลับไปเถอะ”
เสิ่นเผยซวนยังอยากพูดอะไรอีก แต่เห็นสภาพที่เหนื่อยล้าของเธอ ก็เลยไม่พูดอะไร
ไม่นานรถก็รถมาจอดอยู่ที่วิลล่า