กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 441 ความเศร้าที่บรรยายไม่ได้
ฝนตกหนักมาก เสิ่นเผยซวนให้เธอรอตัวเองในรถ “ฉันไปเอาร่ม”
เขาตากฝนเดินไปหยิบร่มออกมาจากหลังรถแล้วกางออก น้ำฝนกระทบกับร่มเกิดเสียงซ่าๆ เขาเดินไปที่ประตูข้างคนขับรถแล้วเปิดประตูรถ “ฝนตกหนักมาก อุ้มเธอเข้าไปแล้วกัน”
หลินซินเหยียนเดินลงจากรถ เสิ่นเผยซวนรีบใช้ร่มบังเธอ
เธอจับแขนของเสิ่นเผยซวน “ไม่เป็นไร ฉันเดินได้ ระยะทางแค่นี้”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้บังคับ อย่างไรก็ตามหญิงชายมิควรถูกเนื้อต้องตัวกัน
เพียงแค่เดินช้า ถึงในบ้านเขาหุบร่ม ซูจ้านและกวนจิ้งไปแล้ว ห้องอาหารทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ป้าหยูกำลังเก็บกวาดห้องครัว
เธอหันไปมองเสิ่นเผยซวนที่ยืนอยู่ใต้ชายคาบ้าน น้ำฝนตกลงมาจากบนฟ้า แม้แต่ในลมยังมีความชื้นของน้ำฝน เธอพูดเสียงต่ำ “วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี พูดอะไรนายอย่าถือสา”
“ฉันรู้” เสิ่นเผยซวนเม้มปาก “ควรเป็นฉันที่ต้องขอโทษเธอ สงสัยเธอแบบนั้นได้ยังไง”
“ฝั่งซูจ้านกวนจิ้ง นายบอกพวกเขาที อย่าพูดเรื่องที่วันนี้เราออกไป” ขณะที่เธอและเสิ่นเผยซวนออกไป ไม่ได้หลบพวกเขาสองคน พวกเขาลงมาไม่เจอคน ต้องถามป้าหยูแน่ๆ ว่าไปไหน
“ฉันจะโทรศัพท์หาพวกเขา เธอเข้าไปเถอะ ออกไปนานแล้ว”
หลินซินเหยียนพยักหน้า พูดเตือน “นายขับรถช้าหน่อย กลางคืนฝนก็ตก มองถนนยาก”
“ได้สิ ฉันจะทำ” เสิ่นเผยซวนตอบกลับ
หลินซินเหยียนหมุนตัวเดินเข้าบ้าน ป้าหยูกำลังเตรียมจะออกมาทิ้งขยะด้านนอก เห็นเธอยืนอยู่ วางของในมือแล้วรีบเดินมา “ฉันพยุงเธอ”
หลินซินเหยียนกุมมือของเธอ ค่อยๆ เดินเข้าไปด้านใน “ป้าหยู วันนี้ฉันออกไปข้างนอก ท่านอย่าบอกจิ่งห้าว”
ป้าหยูหลุบตาลงแล้วพูด “ได้สิ”
“เขานอนตลอดเลยเหรอ? อ้วกหรือเปล่า?” ยังคงเป็นห่วงว่าจะทำลายกระเพาะ เพราะอย่างไรก็ดื่มเหล้าทั้งๆ ที่ท้องว่าง
“ดีอยู่” ป้าหยูก้มหน้าตลอด ไม่กล้ามองตาของหลินซินเหยียน
“ฉันจำได้ว่าในบ้านมียาแก้แฮงค์ ท่านหยิบให้ฉันหนึ่งแผ่น”
ป้าหยูลังเลสักพักแล้วพูด “ได้สิ”
และเทน้ำหนึ่งแก้ว หล่อนเดินมา มือข้างหนึ่งถือแก้ว อีกข้างหนึ่งพยุงหลินซินเหยียนขึ้นบันได “เธอระวังหน่อย ระวังบันได หมอสั่งว่าห้ามลงจากเตียงมาเดิน”
“ฉันรู้ความพอดี ไม่เป็นไร” ถึงชั้นบน เธอเปิดประตู ในห้องมีเพียงไฟบนหัวเตียง สายตามัวเล็กน้อย เธอสามารถได้กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ เธอรับแก้วน้ำและยาจากป้าหยู “ท่านลงไปเถอะ ตรงนี้ฉันจัดการเองได้”
ป้าหยูตอบรับ “เธอระวังหน่อย มีอะไรเรียกฉันได้ตลอด”
หลินซินเหยียนอืมเบาๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าห้อง ป้าหยูมองเธอเดินถึงข้างเตียง ไม่มีอะไรจึงเปิดประตูแล้วลงไป
จงจิ่งห้างนอนตะแคง อยู่ในที่มืด เธอเดินมาข้างเตียงวางน้ำและยาไว้บนโต๊ะ นั่งลงขอบเตียงยื่นมือไปดึงเขา “อึดอัดไหม?”
ตัวเขาหนักมาก ตอนที่เขาไม่อยากพลิกมา หลินซินเหยียนดึงไม่ไหว นึกว่าเขาหลับแล้ว จึงไม่ดึงต่อ แต่กลับนั่งอยู่ขอบเตียง มองดูน้ำฝนที่กระทบกับกระจกไม่หยุด ขนตาของเธอขยับเล็กน้อย เหมือนกำลังคิดอะไร
จงจิ่งห้าวลืมตา แต่ไม่ขยับ
คนหนึ่งนอนอีกคนหนึ่งนั่ง ล้วนมีความคิดเป็นของตัวเอง
ติ๊ง
โทรศัพท์มือถือของเธอมีเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเปิดหน้าจอ ไป๋ยิ่นหนิงส่งมา เธอลังเลสักพักถึงจะกดเปิด ตัวหนังสือไม่มาก [ฉันไปแล้ว แล้วพบกันใหม่]
วันนี้ฝนตกแรงมาก แล้วยังเป็นกลางคืน
เธอถอนหายใจเบาๆ ก็ดี หวังว่าทุกอย่างจะกลับสู่สภาพเดิม
หันกลับไปมองเขา เขายังนอนอยู่ ท่าไม่เปลี่ยน โดยไม่รู้ ขณะนี้ดวงตาของเขาเหมือนเมฆดำ หนาเท่าความมืดที่ไม่อาจละลายได้
เธอวางโทรศัพท์มือถือลง เปิดผ้าห่มออกแล้วนอนลง นำแขนไปพาดเอวของกำลังคิดจะกอดเขานอน จู่ๆ มือของเธอถูกจับไว้ เธอยังไม่ทันตั้งตัว ผู้ชายก็รีบจับมือทั้งสองของเธอ พลิกเธอจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา และกดมือของเธอไว้บนหัวทำให้เธอขยับไม่ได้ ขาสองข้างหนีบขาของเธอไว้ คร่อมอยู่บนตัวของเธอ
กลิ่นแอลกอฮอล์บนตัวเขาแรงมาก หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว “นายไม่หลับเหรอ?”
เขาไม่พูด จ้องมองริมฝีปากของเธอชั่วครู่ คิ้วของเขาดูคมและชัดเจนใต้แสงไฟที่สลัว
นิ้วหัวแม่มือของเขาแตะบนริมฝีปากของเธอ ปากของเธอสวยมาก ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดง ปลายนิ้วลูบผ่านริมฝีปากของเธอ เบามากและอ่อนโยนมาก เขาหลุบตาลง ขนตาหนาปกปิดความหม่นหมองของรูม่านตา
หลินซินเหยียนดูไม่ออกว่าเขาเป็นอะไร “นาย……อื้อ”
เธอกำลังจะอ้าปาก จู่ๆ ปลายนิ้วมือของเขาก็กดลงมา หยุดริมฝีปากของเธอที่กำลังจะเปิด เขากดแรงมาก ริมฝีปากสีชมพูของเธอบิดเบี้ยวภายใต้ปลายนิ้วของเขา
หลินซินเหยียนเจ็บจนกำมือแน่น กลับขยับไม่ได้
เขามองอย่างละเอียด กดขึ้นลง หลินซินเหยียนไม่พูดอะไร อดทนอย่างเงียบๆ
เขาผ่อนแรงลงเล็กน้อย แต่ไม่ผละออกสักที เหมือนริมฝีปากของเธอสามารถมีดอกอะไรผุดออกมา เขาเดี๋ยวก็บีบ เดี๋ยวก็ลูบ
หลินซินเหยียนรู้สึกเพียงชาและเจ็บที่ริมฝีปาก วันนี้เธอเหนื่อยมาก เหนื่อยมาก
เหมือนมีน้ำหยดลงบนใบหน้าของเธอ เธอยังไม่ทันมองให้ชัดว่าคืออะไร ปากของเขาก็ประกบลง กอบกุมริมฝีปากขเธอ บางครั้งก็ดูดดื่มง บางครั้งก็ร้อนแรง
เป็นความเจ็บ
เป็นความเศร้าที่บรรยายไม่ได้
เป็นการถูกลากลงเหวอย่างกะทันหัน ดิ้นรนอย่างทรมาน ทุกตารางนิ้วของสติ ทุกตารางนิ้วของผิว ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ขยำเป็นก้อน
เขาปล่อยมือของเธอ ซบลงข้างหูของเธอถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เธอไปไหน? ฉันตื่นมาไม่เจอเธอ รู้ไหมว่าฉันกลัวมากแค่ไหน?”
หลินซินเหยียนกอดเขา “ฉันไม่ได้ไป ฉันอยู่มาตลอด”
“เมื่อกี้ ทำเธอเจ็บใช่ไหม?” น้ำเสียงของเขาอู้อี้ เหมือนเปล่งออกมาจากอก ดูเหมือนสั่นเล็กน้อย
หลินซินเหยียนหันไปหอมแก้มของเขา “เปล่า โกรธที่ฉันให้นายดื่มเหล้าเหรอ?”
“อืม อยากอ้วก ในกระเพาะเหมือนมีไฟไหม้ ไม่รู้ว่าจะตายหรือเปล่า”
เสียงของเธอเบามาก ติดตำหนิ “ดื่มเหล้า ก็พูดอะไรบ้าๆ ได้? ฉันเอายาแก้แฮงค์มาให้นายแล้ว กินไหม?”
“เธอป้อนฉัน” เขาก้มหน้าแล้วพูด
หลินซินเหยียนอืมหนึ่งคำ ตกลงทันที เพราะตัวเองให้เขาดื่มเหล้า ในใจรู้สึกผิดและเป็นทุกข์
“นายลุกขึ้น นายไม่ลุก ฉันจะหยิบยายังไง” หลินซินเหยียนผลักเขาเบาๆ เขาเอียงตัวแล้วนอนลงข้างๆ หลินซินเหยียนลุกขึ้น เคลื่อนมือไปหยิบยามาไว้ในมือ แล้วยื่นไปตรงปากของเขา
เขาอ้าปากกินอมมือของเธอไว้ด้วย หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว รีบดึงมือกลับ “นายลุกขึ้นมาดื่มน้ำหน่อย”
เขานอนนิ่งไม่ขยับ “เธอป้อนฉัน”
หลินซินเหยียน “……”
น้ำนี้ป้อนยังไง หกบนผ้าห่มได้
“ใช้ปาก” เขาลืมตา
เขาอมยาไว้ในปากไม่กลืนลงไป
หลินซินเหยียนมองเขา
“ฉันปวดกระเพาะ ลุกไม่ขึ้น” ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาซุกลงในหมอน มองเธออย่างงอแง
หลินซินเหยียนยังมีข้ออ้างปฏิเสธเหรอ? ทำได้เพียงดื่มน้ำ คำแรกเธอไม่มีประสบการณ์ ไม่ได้อมไว้ กลืนลง เธอดื่มอีกคำ……