กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 473 เพิ่งจากมาได้ไม่นานก็คิดถึงเขาเสียแล้ว
- Home
- กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม
- บทที่ 473 เพิ่งจากมาได้ไม่นานก็คิดถึงเขาเสียแล้ว
หลินซินเหยียนก้มหน้าลงไปหอมหัวลูกสาวของเธอ เธอก็คงคิดถึงเช่นกัน แต่จำเป็นต้องจากมา หากจงจิ่งห้าวรู้ว่าเหวินชิงคือลุงของเธอ เหวินเสียนก็คงเป็นแม่ของเธอเช่นกัน
แล้วยังต้องไปเผชิญหน้ากับการจากไปของเฉิงยู่ซิ่ว เขาควรจะตัดใจอย่างไร เพราะเห็นแก่เธอจึงปล่อยวางงั้นหรือ
หรือว่าจะไม่เห็นแก่ความรู้สึกของเธอปล่อยให้เหวินชิงงั้นมีชื่อเสียงฉาวโฉ่
ถึงเธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับตระกูลเหวิน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
แต่เมื่อคนสองคนประจันหน้ากันแล้ว อย่างน้อยในใจก็คงมีความรู้สึกมองหน้ากันไม่ติดบ้างอยู่แล้ว
แทนที่จะให้เขารู้สึกลำบากใจ เธอยอมออกมาจากชีวิตเขาเสียยังดีกว่า จะให้เขาวางมือแล้วไปทำ เรื่องที่ตัวเองอยากทำคงดีที่สุด
หากเธอยังอยู่ข้างกายเขาต่อไป เขาคงพะว้าพะวังอยู่อย่างนั้น
เธอไม่อยากทำให้เขาต้องลำบาก ไม่อยากให้เขาต้องวางมือเพื่อตัวเธอแล้วมานั่งเสียใจชีวิตของตัวเองภายหลัง
แต่ถึงคราวที่เธอต้องเผชิญกับคำถามของลูกสาว เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบมันอย่างไร
สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือกอดลูกของเธอให้แน่นที่สุด ให้อุณหภูมิร่างกายมอบความอบอุ่นนั้นให้แก่ลูกของเธอ
” หม่ามี๊ ” หัวของหลินลุ่ยซีมุดอยู่ในอกของหลินซินเหยียน ไม่รู้ว่าถูกอารมณ์และความรู้สึกของหลินซินเหยียนแผ่ใส่หรือเปล่า ก็เลยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า ” หนูไม่ถามแล้ว หม่ามี๊อย่าเสียใจไปเลยนะ ”
เธอจูบไปที่หน้าผากของลูกสาว ” มีพวกลูกๆ อยู่ข้างหม่ามี๊แล้ว หม่ามี๊ก็ไม่เสียใจหรอกจ้ะ ”
ภาพวิวที่อยู่นอกหน้าต่างรถเหมือนค่อยกลับถอยหลังไปเรื่อยๆ ความเจริญที่ยังคงอยู่ของเมืองนี้ ถนนที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา
เธอมองออกไปจากนอกหน้าต่างรถ สีหน้าแววตาดูนิ่งสงบลง
เพิ่งจะจากมาแท้ๆ เธอก็คิดถึงเขาเสียแล้ว
ครั้งนี้ลูกทั้งสองดูเงียบมาก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดมาที่หน้าข้อความ มีคำพูดมากมายที่เธออยากจะพูดกับเขา แต่พอถึงเวลาที่จะต้องพูดจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดมามันออกมาอย่างไร
เธอจ้องหน้าจอโทรศัพท์นั้นอยู่นาน พอจอจะดับก็กดให้สว่างอย่างนั้น ซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง……
อีกฝั่งหนึ่ง จงจิ่งห้าวที่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว จวงจื่อจิ่นเมื่อเห็นเขาก็ตกใจเล็กน้อย วันนั้นที่พาเธอเข้าโรงพยาบาลเขาก็มาแล้วรอบหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้มาอีกเลย มีแค่เสิ่นเผยซวนที่มาบ้างบางครั้งบางครา
” เหยียนเหยียนสบายดีไหม ” จวงจื่อจิ่นเปิดปากถามก่อน เพราะว่าเป็นห่วงหลินซินเหยียนมาโดยตลอด ท่าทีของเธอวันนั้นดูเหมือนอยากจะขับได้แล้วกีดกันหล่อนออกไป
จงจิ่งห้าวหรี่ตามอง เหมือนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ตอนนั้นเสิ่นเผยซวนโทรมาบอกเขาว่าจวงจื่อจิ่นมีเรื่องจะคุยกับเขา เกี่ยวกับเรื่องของหลินซินเหยียน เขาก็เลยไม่ไปหาหลี่จ้านที่บริษัทก่อน เพราะได้ยินว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลินซินเหยียน ดังนั้นก็เลยรีบมาที่นี่
แต่เห็นท่าทางของจวงจื่อจิ่นแล้ว หล่อนทำเหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับเขาเลย
หลินซินเหยียนเธอคิดจะทำอะไรกันแน่
ไม่ใช่แล้ว……
เหมือนเขานึกขึ้นมาได้ว่าหลินซินเหยียนคิดจะทำอะไร ก็รีบหันตัวจะไป จวงจื่อจิ่นก็เรียกเขาไว้ ” วันนั้นเหยียนเหยียนมาที่นี่ เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉันแล้ว ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง แค่อยากรบกวนให้คุณดูแลเธอดีๆ หน่อย เหมือนวันนั้นฉันจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป คุณช่วยบอกเธอหน่อยนะ ถ้าเธอไม่อยากรู้ ฉันจะไม่พูดเรื่องนั้นอีกแล้ว ”
จงจิ่งห้าวมองหน้าหล่อนด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ” วันนั้นคุณพูดอะไรนะ ”
จวงจื่อจิ่นหันตัวแล้วเดินไปตรงหน้าต่าง ตอนนี้เขาและหลินซินเหยียนต่างก็เป็นสามีภรรยากัน ก็คงไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบังเขา
หล่อนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จึงจะค่อยๆ เปิดปากพูดอย่างช้าๆ ” ตอนนี้เหยียนเหยียนเป็นภรรยาของคุณแล้ว เรื่องของเธอคุณก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ ฉันจะไม่ปิดบังคุณ เพราะฉันเองก็ไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเธอเช่นกัน แม่ที่แท้จริงของเธอก็คือเหวินเสียน ”
เพราะหลังจากที่หล่อนแต่งงานกับหลินกั๋วอันไปแล้ว เนื่องจากมดลูกมีปัญหาจึงตั้งครรภ์ยาก หล่อนก็เลยกินยาจีนเพื่อปรับสมดุลมาโดยตลอด พอผ่านการรักษามาเป็นเวลาครึ่งปีในที่สุดเธอก็ได้มีลูกเหมือนคนอื่นเขา
ในตอนนั้นหลินกั๋วอันเองก็ดีใจมาก เสิ่นซิ่วฉิงไม่ได้มีบทบาทอะไรขึ้นมาไม่ชีวิตการแต่งงานของพวกเขา หลินกั๋วอันไม่ได้เผยธาตุแท้ที่เขาเป็น
มันทำให้หล่อนหลงคิดว่าชีวิตที่มีความสุขได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่มันกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมทั้งหมด
หลังจากที่หล่อนท้องได้ประมาณเจ็ดเดือน ก็มีเรื่องเกิดขึ้น หลินกั๋วอันได้ออกไปมีผู้หญิงคนอื่นนอกบ้าน ผู้หญิงคนนั้นก็คือเสิ่นซิ่วฉิง ตอนนั้นหล่อนก็รับไม่ได้ เกิดความเครียดทางด้านอารมณ์ มีผลทำให้คลอดก่อนกำหนด จึงเกิดเป็นทารกเพศหญิงออกมา แต่เป็นเพราะว่ายังไม่ถึงเดือน บวกกับสภาวะจิตใจของหล่อนที่ไม่ดีนัก จึงกระทบถึงหัวใจของเด็กทารกที่อ่อนแอมาก ถึงแม้จะทำการช่วยเหลืออย่างไรก็ไม่สามารถกลับคืนสู่สภาวะปกติได้
เด็กน้อยได้ถูกตั้งชื่อว่าจวงจื่อยี่ สำหรับพี่ชายที่พ่อคนเดียวกันแต่ต่างแม่นั้น นอนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากเท่าไหร่ แต่รู้แค่ว่าก่อนพ่อจะแต่งงานก็ได้คบกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เป็นแค่หญิงสาวธรรมดา
แต่ว่าจวงจื่อยี่เป็นคนของตระกูลจวง เรื่องนี้พ่อของหล่อนได้ยอมรับแล้ว
หล่อนก็เคยเจอกับพี่ชายคนนี้ แต่เป็นเพราะสถานะแม่ของเขา ทำให้สถานะของเขาไม่ได้รับการเปิดเผย คนที่รู้ก็มีไม่มากนัก โดยมากจะเป็นแค่คนในครอบครัวที่สนิทสนมกันเท่านั้น จึงจะรู้ถึงการมีอยู่ของเขา
ตอนนั้นเหวินเสียนรู้สึกว่าจวงจื่อจิ่นคือคนที่สนิทกันจวงจื่อยี่มากที่สุด อีกอย่างก็คือเป็นน้องสาวของจวงจื่อยี่
เด็กคนนี้ก็เป็นสายเลือดของตระกูลจวงเช่นกัน ดังนั้นก็เลยวานให้จวงจื่อจิ่นเป็นคนชุบเลี้ยง
จวงจื่อจิ่นเองก็เพิ่งสูญเสียลูกไป จิตใจอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างแย่ เมื่อมีเด็กให้เลี้ยง ในใจก็ไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว แต่กลับรู้สึกเหมือนได้รับของขวัญปลอบใจ ที่จริงตอนที่เพิ่งคลอดลูกนั้น ยังไงเสียก็เป็นสายเลือดของตระกูลจวงดี
วันนั้นสภาพร่างกายของเหวินเสียนแย่มาก หล่อนไม่ได้หลงเหลือของชิ้นใดให้เด็กน้อยเท่าไหร่ เพียงแต่ตั้งชื่อให้ลูก แล้วยังให้สร้อยเส้นหนึ่งเอาไว้ นี่เป็นของชิ้นเดียวที่เหวินเสียนทิ้งไว้ให้กับหลินซินเหยียน
ก่อนที่หล่อนจะไปก็ได้บอกกับจวงจื่อจิ่นว่า ได้คิดเรื่องการแต่งงานของลูกออกไปแล้ว ให้แต่งกับลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลจง
หล่อนก็ไม่ได้บอกเหตุผลกับจวงจื่อจิ่นว่าทำไมจะต้องมีการแต่งงานเหล่านี้ เพียงแต่หวังว่าหล่อนจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้
จากนั้นหล่อนเลยตัดสินใจชุบเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้ แต่เพราะไม่อยากให้หลินกั๋วอันผลักไส จึงโกหกไปว่าหลินซินเหยียนคือลูกที่เธอให้กำเนิดมาก่อนหน้านี้แล้ว ก็เลยปกปิดหลินกั๋วอันเอาไว้
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการแต่งงาน ก่อนก็ยังโกหกอีกว่าเป็นเพราะสนิทชิดเชื้อกับภรรยาของคุณจง จึงทำการจับจองเรื่องการแต่งงานเอาไว้ ทางที่หล่อนก็ไม่ได้สนิทอะไร เป็นเพราะว่าต้องหลอกหลินกั๋วอันก็เลยพูดออกไปอย่างนั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเกี่ยวกับการมีลูกหรือเปล่า หลินกั๋วอันก็เลยกลับมาอยู่กับครอบครัว และทำดีกับหล่อนมากกว่าเดิม นอนเลยคิดว่าหลินกั๋วอันได้กลับตัวกลับใจแล้ว และได้ล้มเลิกความคิดที่จะหย่าร้างนั้นทิ้งไป
หล่อนจึงเลือกที่จะให้อภัยเขา แล้วกลับมาอยู่กันอย่างมีความสุข
แต่หลังจากนั้น การที่หลินกั๋วอันกลับตัวกลับใจเป็นแค่เรื่องหลอกลวง ทั้งหมดนี้เขาทำเพื่อจะฮุบสมบัติของหล่อน
หล่อนถูกหลินกั๋วอันหลอกมาโดยตลอด ลับหลังหล่อนหลินกั๋วอันไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์จากผู้หญิงคนนั้นเลยสักครั้ง จนกระทั่งเขาสามารถฮุบสมบัติของหล่อนได้หมด เขาก็ไม่แกล้งทำดีกับหล่อนอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งพยายามบีบบังคับให้หล่อนหย่ากับเขา เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขวางหูขวางตาเขาอีก แถมยังเอาหล่อนไปทิ้งถึงต่างประเทศอีกด้วย
ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว ทำไมตอนนั้นหล่อนถึงได้โง่ดักดานขนาดนั้น ทำไมถึงไม่หลงเชื่อคำพูดของชายชั่วที่นอกใจได้ขนาดนี้
ทั้งถูกทำลายทั้งกายและใจ แล้วยังแย่งเอาสมบัติที่ติดตัวหล่อนไปอีก
หล่อนจึงมีใจที่อยากจะแก้แค้นหลินกั๋วอัน ไม่เพียงแค่การจากไปของลูกชาย แต่หลายปีมานี้ความแค้นยังคงบีบแน่นอยู่ในใจของหล่อนเสมอมา
มานั่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วหล่อนก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลพราก ” เหยียนเหยียน เจ้าเด็กคนนั้นก็ลำบากมามากเหมือนกัน ฉันหวังว่าพวกเธอจะมีความสุข ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ ก็หวังว่าเธอจะให้อภัยในสิ่งที่ฉันทำก่อนหน้านี้ ฉันควรจะมีชีวิตอยู่ต่อ จนถึงวันที่ลูกของเธอได้เกินออกมา ถึงแม้เธอไม่ใช่ลูกที่ฉันเกิดออกมาก็ตาม แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมันช่างดีเหลือเกิน ทุกการกระทำไม่ได้ต่างจากแม่ที่รักลูกสาวเลยสักนิด ”
” ดังนั้นเธอรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตของเธอทั้งหมดงั้นเหรอครับ ” น้ำเสียงของจงจิ่งห้าวกดต่ำและนิ่งสงบ ไม่สามารถคาดเดาได้ถึงความสับสนและงุนงง
” ฉันยังพูดไม่จบนะ ก็ไปเสียก่อน ท่าทีดูรับไม่ได้ในสิ่งที่ได้ยิน แล้วก็ไม่กล้าที่จะเชื่อมัน ตอนนี้เธอก็รู้แล้วฉันหวังว่าเธอจะดูแลเด็กคนนั้นได้ดี ” จวงจื่อจิ่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
บนโลกใบนี้ สิ่งที่หล่อนเป็นห่วงก็คือหลินซินเหยียนคนเดียวเท่านั้น
จงจิ่งห้าวเม้มปากแน่น จากนั้นก็หันตัวและสาวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
หลินซินเหยียนไปเจอเหวินชิงมา ตัวเธอเองน่าจะรู้แล้ว ไม่งั้นก็คงไม่กล้าไปหาเหวินชิงคนเดียวหรอก ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเธอก็พอสมเหตุสมผลอยู่บ้าง
นอกโรงพยาบาลบริเวณร้านจอดรถ ก็เห็นคนขับรถยืนรอเขาอยู่ ไม่เห็นว่าเขาออกมาแล้วก็รีบเปิดประตูรถทันที จงจิ่งห้าวไม่ได้ขึ้นไปแต่อย่างใด แต่กลับขอกุญแจรถ แล้วขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งคนขับ ” คุณนั่งรถกลับไปนะ ”
พูดจบเขาก็รีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที
เขาไม่ได้ไปบริษัท แต่กลับดิ่งไปที่คฤหาสน์แทน