กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 497 ไปหาเมียให้นาย
ซูจ้านไม่พูดยังดี พอพูดชายวัยกลางก็เดินเร็วกว่าเดิน ยังเช็ดเหงื่อบนหัวอยู่บ่อยๆ เหมือนว่าถูกคำพูดของซูจ้านทำให้กลัวแล้ว
“หันหน้าเสิ่นรู้จักเธอหรอ?” ผู้จัดการมองเสิ่นเผยซวนแล้วถาม เพราะว่าเมื่อกี้ที่เขาถามซางหยู เห็นได้ชัดว่ารู้จักกัน
แต่ว่าฐานะของเสิ่นเผยซวนทำไมถึงรู้จักนักศึกษายากจนที่ไม่มีพื้นหลังอะไรแบบนี้ล่ะ?
เสิ่นเผยซวนอื้มทีหนึ่ง เขารู้ว่าผู้จัดการรู้ตัวตนของเขา และก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจงจิ่งห้าว ขอแค่เขายอมช่วยพูดแทนซางหยู ผู้จัดการก็ต้องทำดีต่อเธออยู่แล้ว
“ต่อไปยังต้องรบกวนช่วยดูแลเธอให้หน่อยนะ พึ่งเข้าออกสังควเป็นครั้งแรก ยังมีอะไรอีกมากที่ไม่รู้เรื่อง”
ผู้จัดการยิ้ม “แน่นอน ในเมื่อหันหน้าเสิ่นพูดแล้ว ฉันจะดูแลดีๆ เอง”
เสิ่นเผยซวนทัยทายผู้จัดการไปไม่กี่คำ ก็กลับไปนั่งลงที่โต๊ะ ซูจ้านมองเสิ่นเผยซวนด้วยสีหน้าที่ตลก ในที่สุดก็ได้โอกาสเป็น ‘ฮีโร่ช่วยสาวสวย’ แต่เขากลับไม่เป็นห่วงเป็นใยสาวสวยเลย?
ซูจ้านกุมขมับ เมื่อไหร่ชายแก่คนนี้ถึงจะเรียนรู้สักที?เมื่อไหร่ถึงจะได้แต่งงาน ผู้หญิงที่สวยเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังแบ่งบาน เขากลับไม่ไปปกป้อง?กลับมากินข้าวแบบนี้เนี่ยนะ?
นี่มันเป็นโอกาสที่จะ ‘ดึงดูด’ เขา กับเด็กผู้หญิงที่พึ่งออกมาสู่สังคม จะถูกกินใจง่ายมาก ขอแค่เสิ่นเผยซวนแสดงออกมาเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ว่าผู้ชายงี่เง่าคนนั้น ก็ได้กลับมาแบบนั้น
ซางหยูมองแผ่นหลังที่จากไปของเสิ่นเผยซวน ตาตก คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่ และยิ่งคิดไม่ถึงว่าเขาได้ช่วยตัวเองอีกครั้ง
ผู้จัดการตบไหล่ของซางหยู “ตั้งใจทำ คิดไม่ถึงว่าเธอที่ดูไม่มีพื้นหลัง กลับรู้สึกคนใหญ่คนโตอย่างเขา รู้ว่าเขาเป็นใครไหม?”
ซางหยูพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ ครั้งแรกที่เจอเขา คือเขาเอาเงินมาส่งให้แม่ตัวเอง ตอนนั้นเขาได้ทำการแนะนำตัวแล้ว รู้ว่าเขาเป็นผบ.ตร อาชีพนี้เป็นอาชีพที่เธอเลื่อมใสมาก
เห็นท่าทีที่เย็นชาของเขา ครั้งก่อนตัวเองน่าจะเข้าใจเขาผิดไปแล้ว
ผู้จัดการชี้ตึกตรงข้ามไว้ “ความสัมพันธ์ของเขากับประธานว่านเยว่ไม่ธรรมดาเลยนะ เคยเห็นประธานว่านเยว่ไหม?”
ซางหยูคิดว่าน่าจะเคยเจอ วันนั้นในห้องนั้นมีผู้ชายอยู่ทั้งหมด 3 คน ตรงนี้มี 2 คน แต่ว่าผู้จัดการกลับถามเธอว่ารู้จักประธานจงไหม เธอคิดว่าคนที่ไม่ได้มา น่าจะเป็นประธานว่านเยว่ในกรุ๊ปที่พูดออกมาจากปากของผู้จัดการ
“น่าจะเคยเจอ” ซางหยูตอบตามจริง
ผู้จัดการมองซางหยูอย่างมีความหมายที่ลึกซึ้ง สาว หน้าตาก็ดี “ได้ยินว่า 3 คนนี้ยังโสดกันอยู่”
ความหมายแฝงเหมือนกับว่า ไม่ว่าคบกับใครคนใดคนหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นโชคมาจากชาติที่แล้ว เพราะ 3 คนนี้ไม่ว่าจะดึกใครออกมา ก็จะมีหน้าตาก็มีหน้าตา จะมีฐานะก็มีฐานะ จะมีเงินก็มีเงิน
คนแบบนี้หายากเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเธอได้แต่งงานคลอดลูกไปแล้ว ก็จะมีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน
แต่ว่าอายุและรูปร่างหน้าตาของเธอไม่อนุญาตให้เธอมีความคิดแบบนั้น
ซางหยูพึ่งออกมาสังคมเป็นครั้ง ก็เลยไม่เข้าใจความหมายแฝงของผู้จัดการ คิดแค่ว่าเป็นเรื่องที่เขานินทาเท่านั้น
“ทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย ต่อไประวังหน่อยนะ หัดดูให้ดีด้วย” ผู้จัดการมองไปทางโต๊ะของเสิ่นเผยซวนและซูจ้าน แล้วสั่งซางหยู
ซางหยูพยักหน้าอย่างถ่อมตน “หนูจะพยายามค่ะ ต่อไปจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้”
เธอไปเอาผ้าถูพื้นมาทำความสะอาดคราบน้ำและเศษแก้ว
ซูจ้านมองผู้หญิงที่นั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น มองไปทางเสิ่นเผยซวนแล้วถาม “นายดูแล้วไม่ปวดใจหรอ?”
“บ้าไปแล้ว” เสิ่นเผยซวนไม่ได้มองไปทางนั้น ในใจไม่มความคิดอย่างอื่น เขาอยากหาคู่ครองก็จริง แต่ว่าซางหยูนี่เขาไม่มีทางพิจารณาแน่นอน เด็กเกินไป ตัวเองโตกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว หาคู่ครองแบบนี้ ใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุข
รู้สึกว่าอยู่กับเด็กแบบนี้ เป็นสิ่งที่ผิดศีลธรรม
อื้ม พาออกไปคนอื่นจะเข้าใจผิดว่าเป็นลูกสาวขอเขา ถ้าถึงตอนนี้ก็อึดอัดวางตัวไม่ถูกแล้ว
ซูจ้านไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่านของเขา ดูเหมือนว่าถ้าอยากให้เพื่อแต่งงาน ยังต้องการเขาช่วยเหลือ เขาลุกขึ้นจากที่นั่ง มองเสิ่นเผยซวนทีหนึ่ง “เพราะชาตินี้นายได้รู้จักกับฉัน ไม่อย่างนั้นนายก็ขึ้นคานแล้ว”
“นายจะไปทำอะไร?” ทำไมเสิ่นเผยซวนรู้สึกว่าเขาจะไปทำเรื่องอะไรไม่ดีเลย
ไม่สบายใจอย่างพูดไม่ถูก
ซูจ้านมองเขาทีหนึ่ง “ดูท่าทางนาย ฉันจะไปหาเมียนาย”
“ซู………..”
เขาอยากเรียกให้ซูจ้านหยุด แต่ซูจ้านตัดสินใจแล้ว ไม่มีทางสนใจเขา เดินตรงไปทางซางหยู เขานั่งยองๆ ช่วยเธอเก็บเศษแก้ว ถาม “ยังจำผมได้ไหม?วันนั้นในห้องVIP พวกเราเคยเจอกัน”
ซางหยูเงยหน้ามองเขาแล้วพูดว่า “จำได้ค่ะ”
“คนที่มาช่วยคุณเมื่อกี้เป็นเพื่อนของผม พวกคุณรู้จักกันได้ยังไงหรอ?”
ซางหยูก็ไม่ได้ปิดบัง ได้พูดเรื่องที่เจอกับเสิ่นเผยซวนครั้งแรกออกมาหมด เพราะม่มีอะไรน่าปิดบัง
“เออ ที่แท้ก็แบบนี้เอง” ซูจ้านยิ้ม “ถ้าเขามีตรงไหนที่ทำไม่ดี ขอให้คุณให้อภัยด้วย คุณรู้อาชีพของเขาอยู่ใช่ไหมครับ?”
“อื้ม” ซางหยูตอบ ในใจของเธอเลื่อมใสต่อผู้ชายที่ทำอาชีพนี้จริงๆ เพราะพ่อของเธอ แม้ของเธอลำบากมาก เธอมองอยู่ในตา ในความคิดของเขา ผู้ชายที่ทำอาชีพนี้ เป็นคนที่มีความยุติธรรมมาก
ซูจ้านขยับเข้าใกล้และพูดเบาๆ กับซางหยูว่า “ผมจะบอกให้นะ เขาก็คือท่อนไม้ทื่อที่ไร้อารมณ์ อายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยมีความรักมาก่อนเลย เป็นคุณ คุณเชื่อไหม?”
ซางหยูส่ายหน้า อายุขนาดนี้แล้วยังไม่เคยมีความรักมาก่อน คนนี้จะน่าเบื่อแค่ไหน?
“แปลกมากใช่ไหม?”
“นิดหน่อย” ซางหยูตอบตามจริง
“อย่าดูถูกเขา เขาเรียกว่าบริสูทธิ์ ตอนนี้คนแบบนี้น้อยแล้วนะ”
ซางหยูอยากหัวเราะโดยที่ไม่มีเหตุผล ความบริสูทธิ์คำนี้ใช้กับผู้ชายที่อายุ30กว่า รู้สึกขำและตลก
เสิ่นเผยซวนกุมขมับ เห็นสองคนคุยกันอย่างร่าเริง ซางหยูยังถูกคำพูดอะไรสักอย่างของซูจ้านทำให้หัวเราะ เขาก็โคตรอยากไปถีบซูจ้านทีหนึ่งเลย นี่คือเห็นผู้หญิงแล้วเดินไม่ไหวเลยใช่ไหม?เมื่อกี้ยังหงอยเหงาซึมเศร้าเพราะฉินยาอยู่เลย ตอนนี้กลับไปหาผู้หญิงคนอื่นซะงั้น?
และยังเด็กขนาดนี้อีกด้วย
หัวใจเขาไมรู้สึกผิดบ้างหรอ?
“คนที่เธอรู้จักในโรงเรียนเยอะ ถ้ามีที่สวยๆ แนะนำแฟนสาวให้เขาคนหนึ่ง ถือซะว่าช่วยเพื่อนของผมหน่อยละกัน แต่ว่าเรื่องที่ผมพูดกับคุณ ไม่ต้องบอกเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะอาย”
รอยยิ้มบนหน้าของซางหยูค่อยๆ หายไป ไม่รู้ว่าทำไมพอได้ยินซูจ้านพูดว่า หาแฟนให้เขา ในใจไม่ค่อยชอบใจเลย “เขาหานักศึกษา อายุจะห่างกันเกินไปไหม?”
“นักศึกษาที่ใกล้จบ ก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่ 7-8-9ปีก็ไม่เป็นอะไร สภาพแวดล้อมที่เขาทำงานเป็นผู้ชายหมดเลย ไม่มีผู้หญิง ผมก็นึกว่าเขาเป็นเกย์เลยนะ” ซูจ้านตบไหล่ซางหยู “ต้องสัญญาว่าจะช่วยผมนะ ผมจะมองดูเพื่อนของผมแก่ไปอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้ไม่ได้”
ซางหยูก้มหน้าบอกว่าได้
“นายพอรึยัง?” เสิ่นเผยซวนเช็กบิล ในมือหิ้วอาหารเช้าที่ห่อกลับบ้าน มองซูจ้านอย่างเย็นชา ไอ้หน้าด้านนี่ เห็นผู้หญิงก็จะยั่ว เขาจะต้องไปบอกฉินยา ให้เธอเลิกกับผู้ชายที่เจ้าชู้คนนี้ซะ
ซูจ้านไอทีหนึ่ง ลุกขึ้นมามองสีหน้าที่น่าเกลียดของเสิ่นเผยซวนแล้วเบะปาก “ทำไมนายดูอารมณ์ไม่ดีเลยล่ะ เพราะว่าพวกเราคุยกันได้ลงตัว นายก็เลยหึง?”
มือของซางหยูที่เช็ดพื้นอยู่ก็หยุดชะงักไป ในใจรู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของซูจ้าน รู้สึกตั้งหน้าตั้งตาคอยคำตอบของเสิ่นเผยซวน
เสิ่นเผยซวนไม่ได้สนใจเขา หันหลังเดินออกไป ซูจ้านวิ่งตามขึ้นมา กอดคอของเขาจากด้านหลัง “นายโกรธ?”
“นายไม่ชอบ ฉันชอบ ฉันจีบเธอนายไม่ห้ามฉันใช่ไหม?”
เสิ่นเผยซวนสะบัดมือของเขาออก “เอาหน้าหน่อยเถอะ”
ซูจ้านไม่ได้โกรธ แต่กลับหัวเราะแล้วตามวิ่งตามเขากลับไปที่บริษัทพร้อมกัน
ตอนที่ลงจากลิฟต์ก็เจอกวนจิ้น ‘เสิ่นเผยซวนก็เลยถาม :ไป๋ยิ่นหนิงไปแล้ว?”
กวนจิ้นตอบ “ยังครับ อยู่ในห้องทำงานของประธาน”
ในห้องทำงานของประธาน ไป๋ยิ่นหนิงเข้าไปนานแล้ว แต่ว่าจงจิ่งห้าวทิ้งเขาไว้แบบนั้น ไม่ได้คุยกับเขา
ไป๋ยิ่นหนิงถอนหายใจทีหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงที่เสียดายว่า “ฉันนี่แปลกใจจริงๆ ทำไมเหยียนเหยียนถึงได้ชอบผู้ชายใจแคบอย่างคุณกันนะ”