กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 546 คุณไม่อยากใกล้ชิดผมเหรอ
หลินซินเหยียนมองเข้าไปในดวงตาดำมืดและลึกล้ำของเขา รู้ดีว่าเขากำลังทดสอบ หรือรอให้เธอเริ่มก่อน
จริงๆ แล้วเธออยากจะกอดเขาเป็นพิเศษ และตอบสนองอย่างหนัก
ทว่าเธอไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะร่างกายเธอตอนนี้ไม่อนุญาตให้เธอปล่อยตัว
นานมากเธอก็ไม่ตอบสนองตัวเอง จงจิ่งห้าวจึงค่อนข้างท้อแท้ ขมวดคิ้วพลางถามเสียงต่ำว่า “คุณไม่อยากใกล้ชิดผมเหรอ”
“อยาก” หลินซินเหยียนพูด
คิ้วของจงจิ่งห้าวที่ขมวดแต่เดิมเริ่มผ่อนคลาย และถามด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วทำไมคุณไม่ทำอย่างนั้นล่ะ”
หลินซินเหยียนถอนหายใจ “ฉันไม่กล้า”
จงจิ่งห้าว “………”
ใบหน้าของเขาโน้มเข้ามา ใกล้เธอมากจนเวลาที่พูดลมหายใจสามารถเป่าเส้นผมของเธอได้ และกระซิบเสียงต่ำว่า “ผมกดเก่งนะ”
หลินซินเหยียนกดหน้าเขาให้ก้มลงไปมองที่ท้อง “ลูกชายคุณไม่อนุญาต”
จงจิ่งห้าว “……….”
น้ำเย็นสาดใส่เขาโดยไม่ทันตั้งตัว มอดดับไม่เหลือแม้แต่ประกายไฟ เขาถอยหลังแล้วทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียง
หลินซินเหยียนเหลือบมองเขา “ฉันหิวแล้ว”
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลย หิวจนท้องร้องอยู่นานแล้ว
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นนั่ง เค้กที่ซูจ้านซื้อมาเขานำมาไว้ในห้องแล้ว มันวางอยู่บนโต๊ะ เขาหยิบมันมาให้เธอ “เค้กที่คุณอยากทาน ลองชิมสิว่าใช่รสนี้ไหม”
หลินซินเหยียนยื่นมือรับมาเปิดกล่อง กลิ่นครีมปะทะเข้ามาทันที น้ำลายแห่งความตะกละกำลังจะไหลออกมา
เธอค้นพบตัวเองว่า รสปากตอนนี้ของตัวเองแปลกไปมาก สักพักอยากทานนี่ อีกสักพักอยากทานนั่น และหยุดทานไม่ได้ ทานช้าก็ไม่ได้ จะรู้สึกหิวมาก
ในกล่องมีช้อน เธอเอาช้อนตักเข้าปาก รสชาติหวานของครีมเต็มคำ เมื่อก่อนรู้สึกว่าครีมมันน่าเบื่อมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกหวานล้ำ
จงจิ่งห้าวกลัวว่าเธอจะกระหายน้ำ จึงไปเอานมมาให้เธอ ก่อนจะใส่หลอดแล้วส่งให้เธอ “ทานช้าหน่อย ผมไม่แย่งคุณหรอก”
หลินซินเหยียนไม่ได้รับแต่ดูดกับมือของเขา ล้างครีมในปาก “ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่ได้ทานอะไรเลย หิวมาก”
“ทำไมไม่ทาน” เขาขมวดคิ้ว ทำให้คนอื่นเป็นห่วงขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ
“เมื่อวานฉันถูกเกาหยวนรับมา ไป๋ยิ่นหนิงต้องการพบฉันแต่เช้า ต่อมาก็ไปร่วมงานแต่งเขาอีก ไม่มีเวลาเลย” หลินซินเหยียนบอก ลืมไปสนิทว่าจงจิ่งห้าวกับไป๋ยิ่นหนิงเป็น ‘ศัตรูคู่อาฆาต’ เหมือน ‘น้ำกับไฟที่เข้าใกล้กันไม่ได้’
เมื่อพูดจบเธอถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าจงจิ่งห้าวเกลียดไป๋ยิ่นหนิงมาก รีบเงยหน้าขึ้นมองเขาเพื่ออยากจะอธิบาย แต่เมื่ออ้าปากกลับพบว่าตัวเองอธิบายอะไรไม่ออกเลย
เพราะว่าสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง
แน่นอนว่าเขาสีหน้าไม่พอใจเพราะได้ยินคำว่าไป๋ยิ่นหนิง หลินซินเหยียนจึงเริ่มทำตัวดี ตักชิ้นเค้กยื่นส่งให้เขา “อร่อยมากเลยนะ คุณลองชิมสิ”
แต่จงจิ่งห้าวไม่ไว้หน้า มองเธอเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร
“ครั้งต่อไป ฉันจะอยู่ห่างจากเขาแน่นอน จะไม่พูดคุยกับเขา อย่าโกรธเลยนะ” เธอยื่นมือไปที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง จงจิ่งห้าวยังคงไม่อ้าปาก
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว เธอทำตัวดีแล้วนะ ยังจะให้เธอทำยังไงอีก
เธอได้รับเชิญเข้าร่วมงานแต่ง เธอไม่มาก็ไม่เหมาะ
นอกจากนี้ตอนนั้นเธอก็คิดว่าจะมาที่นี่เพื่อพักผ่อนด้วย
“คุณไม่จริงใจ” จงจิ่งห้าวกดเสียงต่ำเหมือนคับข้องใจมาก
หลินซินเหยียน “……….”
เธอไม่จริงใจ?!
ทั้งยอมรับผิด ทั้งทำตัวดี ยังไม่จริงใจอีกเหรอ?!
เธอต้องทำยังไง คุกเข่าอ้อนวอนเขาหรือไง?!
หลินซินเหยียนถามอย่างอดกลั้นที่สุดว่า “ต้องยังไงถึงจะจริงใจ”
จงจิ่งห้าวเอนเข้าหาและพูดอย่างคลุมเครือว่า “คุณใช้ปากป้อนผม”
หลินซินเหยียน “………”
การให้หน้าเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ทำไมเขาไม่ต้องการ!
ทำไม!
“ล่อลวงเหรอ” หลินซินเหยียนเอาเค้กชิ้นนั้นใส่เข้าปากตัวเอง แล้วผลักหน้าเขาออก “การให้หน้าเป็นสิ่งที่ดี ตอนที่ให้คุณคุณควรรับไป”
“หน้าเหรอ มันคืออะไร ผมไม่รู้จัก ตอนนี้ผมต้องการแค่คุณ” พูดยังไม่ทันขาดคำ ริมฝีปากเขาก็กดลงมาอีกครั้งแล้ว เลียครีมตรงมุมปากของเธอ
หลินซินเหยียนถอยออก ต้องการออกห่างเขา แต่ในมือถือเค้กอยู่ ไม่ว่างลงมือผลัก ซึ่งจงจิ่งห้าวก็ไม่ใช่ว่าได้คืบเอาศอก กลัวว่าเธอจะรำคาญ ม้วนเอาความหวานนั้นมาแล้วกลืนลงไป
เขายิ้ม ยื่นมือไปที่ผมของเธอ “ยังอยากทานอะไรอีกก็บอกผม ผมจะไปซื้อให้คุณ”
ทานเค้กไปก็ไม่หิวแล้ว หลินซินเหยียนก้มหน้า “หัวไชเท้านั่นคุณให้คนจัดส่งให้ฉันเหรอ”
“อืม” หน้าก็พบแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องปิดบัง เขาตั้งใจให้คนที่คอยเฝ้าดูแลอยู่ห่างๆ นำมันไปให้เธอ หัวไชเท้าไม่ใช่ของหายาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ใช่ฤดูกาลของในซุปเปอร์มาร์เก็ตจึงไม่สด จงจิ่งห้าวมองเธอและถามว่า “อร่อยไหม”
ทานเค้กหมดแล้ว หลินซินเหยียนดื่มนมสองสามคำเพื่อล้างรสครีมเค้กในปาก และพูดว่า “อร่อยดี แต่ลืมเอามันติดมาด้วย”
จงจิ่งห้าว “……….”
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่ามันอร่อยตรงไหน
ทนไม่ได้ที่เห็นเธอชอบ
แต่ตราบใดที่เธอรู้สึกว่ามันอร่อย และร่าเริงที่ได้ทานมันก็ดีแล้ว
เขานอนลงบนเตียง อ้าแขนออก เป็นสัญญาณให้เธอนอนลงมาในอ้อมแขนตัวเอง “นอนเป็นเพื่อนผมสักพักนะ”
หลินซินเหยียนนอนลงทับแขนของเขา คิดถึงเรื่องที่เขาบอกว่าให้ลูกใช้แซ่ของเธอ แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นถามว่า “คุณอยากให้ลูกใช้แซ่ของฉันจริงเหรอ”
จงจิ่งห้าวกอดเธอและพูดว่า “จริงสิ”
เธอขยับแขนของเขาเพื่อหาท่าที่สะดวกสบาย ที่เปลี่ยนชื่อให้ลูกทั้งสองคน ประการแรกเพราะเธอไม่ใช่ลูกสาวของหลินกั๋วอัน ไม่ควรเป็นแซ่หลิน เด็กสองคนยิ่งไม่ควรใช้แซ่หลิน ประการที่สองเพราะเธออยากให้ลูกใช้แซ่ของจงจิ่งห้าว
ลูกชายควรใช้แซ่ของผู้เป็นพ่อ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ
แต่เธอไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแซ่ของตัวเอง ในจิตใต้สำนึก เธอยังไม่รู้ว่าจะยอมรับมันอย่างไร
พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ เธอไม่รู้จักพวกเขาด้วยซ้ำ รู้ทุกเรื่องของพวกเขาจากปากของคนอื่น ได้ยินเพียงไม่กี่ถ้อยคำ มันไม่ได้พาให้เธอรู้สึกดี
ถ้าเลือกได้ เธอยอมจะเป็นลูกสาวของหลินกั๋วอันดีกว่า แบบนี้อย่างน้อยก็เป็นคนที่เธอเคยได้เห็น ที่ทำให้เธอเจ็บปวด เธอสามารถเกลียดชัง ให้ความรักกับเธอ และทำให้เธอรัก
แต่ตอนนี้ มันสำคัญอะไร
“ฉันกำลังขัดแย้งในตัวเองมากเลย คุณว่าฉันควรทำยังไงดี”