กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 549 ยังไม่กลับไปตอนนี้
“กลับเมืองB บริษัทมีเรื่องด่วน” จงจิ่งห้าวไม่ได้บอกเรื่องของฉินยาออกไป กลัวว่าเมื่อซู่จ้านรู้ว่าเป็นเรื่องของฉินยาแล้วจะอารมณ์ไม่คงที่ และอีกอย่างตอนนี้ยังขับรถอยู่ด้วย
แบบนี้มันอันตรายเกินไป
ซูจ้านส่งเสียงชิ “เรื่องในบริษัทด่วนขนาดนั้นเลยเหรอ มีกวงจิ้งคอยดูแลอยู่ไม่ใช่หรือไง หรือว่าถ้าวันนี้นายไม่กลับ พรุ่งนี้ต้องปิดตัวลงเลยไหม”
ไม่นาน เขาก็เปลี่ยนเป็นทำท่าว่ารู้ความจริงแล้ว จึงพูดกลั้วหัวเราะว่า “เพราะกลัวพี่สะใภ้จะหนีไปอีก เลยต้องรีบพากลับไปทันทีใช่ไหมล่ะ”
จงจิ่งห้าวเหล่มองเขา และพูดอย่างเย็นชาว่า “จอดที่จุดพักรถข้างหน้า ฉันจะขับรถเอง”
“ฉันยังไม่เหนื่อย” ตอนที่มาเขาขับรถคนเดียว ก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อย
“นายพูดมากเกินไป ฉันกลัวจะไม่ปลอดภัย”
จงจิ่งห้าวก้มหน้าส่งข้อความหาเสิ่นเผยซวน ก่อนหน้านี้ให้เขาไปเมืองCเพื่อสืบเรื่องกู้เป่ย ไม่รู้ว่าสืบได้เบาะแสอะไรบ้างหรือยัง
หลังจากส่งเสร็จเขาก็เหลือบมองกลับมา เด็กทั้งสองคนนอนหลับสนิท หลินซินเหยียนหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าดูไม่ค่อยดีเท่าไร คงจะกังวลเรื่องของฉินยา
ต่อหน้าซูจ้านเขาไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจน จึงแนะนำอย่างอ้อมๆ ว่า “เรื่องนี้ผมจะจัดการเอง คุณนอนพักสักหน่อย ไม่ต้องคิดมาก”
จะไม่ให้กังวลได้อย่างไร ฉินยาได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนหน้านี้ เพิ่งกลับมาไม่นานมากนัก ต้องมาประสบเรื่องแบบนี้อีกแล้ว เธอจะใจเย็นลงได้อย่างไร จะไม่กังวลได้อย่างไรกัน
แต่เพื่อไม่สร้างปัญหาให้จงจิ่งห้าว จึงส่งเสียงอืมตอบรับ จากนั้นก็หลับตาและแกล้งทำเป็นหลับ
จองจิ่งห้าวถอนหายใจ ถอนสายตากลับมา รู้ว่าเธอแกล้งทำ แต่ก็ไม่มีคำพูดอื่นใดแล้วที่จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เธอผ่อนคลายได้
เขาก้มลงมองโทรศัพท์มือถือ เสิ่นเผยซวนยังไม่ตอบกลับข้อความ จึงเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้แล้วกดนวดขมับ
“นายมีเรื่องอะไรปิดบังฉันใช่ไหม” ซูจ้านถาม ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น จงจิ่งห้าวถึงได้รีบกลับเร่งด่วนแบบนี้?
จงจิ่งห้าวไม่มองเขา พูดเสียงบางเบาว่า “ตั้งใจขับรถไป”
ซูจ้าน “……..”
“ฉันเป็นคนขับรถเต็มเวลาของนายนะ นายทำกับฉันแบบนี้เหรอ สุภาพกับฉันหน่อยไม่ได้หรือไง” ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เขาจะมาจริงจัง
จงจิ่งห้าวลืมตา สายตามองมาช้าๆ ทำเหมือนว่าสบายๆ ไม่ใส่ใจ “ซูจ้าน นายยังอยากได้ฉินยากลับมาไหม”
“แน่นอน” ซูจ้านแทบจะโพล่งออกมา
แน่นอนว่าเขาอยากได้ฉินยากลับมา แต่เขารู้ว่าฉินยาไม่ยินดีจะหันหลังกลับ
การจะได้เธอกลับมานั้นมีโอกาสน้อยมาก
หลินซินเหยียนที่นั่งอยู่ข้างหลังได้ยินพวกเขาพูดถึงฉินยา อดไม่ได้ที่จะเกิดอาการเส้นประสาทตึงเครียดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ กลัวว่าจงจิ่งห้าวจะบอกซูจ้านเรื่องที่ฉินยาถูกคนจับตัวไปตอนนี้
เธอกลัวว่าซูจ้านจะรู้ในตอนนี้ การกลับไปถึงเมืองBยังต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง เมื่อรู้สถานการณ์ของฉินยาแล้ว จะทำได้แค่ร้อนใจเท่านั้น
แทนที่จะทำให้เขาไม่สบายใจ ไม่สู้รอกลับไปถึงแล้วค่อยบอกเขาดีกว่า เมื่อถึงตอนนั้นก็หารือเรื่องการตอบโต้ร่วมกันอย่างรอบคอบ
“นายมีวิธีเหรอ” ซูจ้านถามอย่างค่อนข้างตื่นเต้น
“มี”
ซูจ้านแทบรอไม่ไหวที่จะถามออกไป “วิธีอะไร”
“หุบปาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบผู้ชายพูดจาพร่ำเพรื่อ”
ซูจ้าน “……….”
นี่มันรังแกคนอื่นมากเกินไปแล้ว เขาพร่ำเพรื่อยังไง
“งั้นนายบอกให้ชัดเจนหน่อยว่าฉันพร่ำเพรื่อยังไง…”
เวลานั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือพลันดังขึ้น กลบเสียงของซูจ้าน—–
จงจิ่งห้าวคิดว่าเป็นเสิ่นเผยซวน เมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถึงได้พบว่าไม่ใช่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเอาโทรศัพท์มือถือของหลินซินเหยียนใส่กระเป๋าตัวเอง เขาดูบนหน้าจอโทรศัพท์ มันระบุสองคำว่า ‘อารอง’
รอบตัวหลินซินเหยียนมีใครบ้าง เขารู้ดี
อารองคนนี้ น่าจะเป็นผู้ชายที่เขาเคยเห็นในเมืองC
หลินซินเหยียนคุ้นเคยกับเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ทันทีที่ได้ยินเสียงเธอก็ลืมตาขึ้นมา จึงถามอย่างเครียดๆ ว่า “ใครเหรอ”
เธอคิดว่ากู้เป่ยคนนั้นโทรเข้ามาอีก
จงจิ่งห้าวส่งโทรศัพท์มือถือให้เธอ “คุณดูเองเถอะ”
หลินซินเหยียนเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์มือถือ บนหน้าจอปรากฏคำว่าอารอง เธอกดปุ่มรับสาย เอาขึ้นแนบหูและส่งเสียงว่าฮัลโหล อีกฝั่งเสียงของช่าวหยุนดังมาทันที
“เธอติดต่อฉินยาได้ไหม หล่อนไม่ได้มาที่ร้านทั้งวันเลย และก็ติดต่อหล่อนไม่ได้ด้วย”
หลินซินเหยียนสงบสติแล้วพูดเสียงต่ำว่า “ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนค่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วง พวกเรายังไม่กลับไปตอนนี้นะคะ รบกวนคุณช่วยดูทางนั้นให้ฉันด้วยนะคะ”
“อ้อ เธอรู้ก็ดี จู่ๆ หล่อนก็หายตัวไป และติดต่อไม่ได้ ฉันยังกังวลอยู่เลย แล้วพวกเธอจะกลับมาเมื่อไร” ช่าวหยุนถาม
หลินซินเหยียนเองก็ไม่รู้ว่าจะกลับไปได้เมื่อไร “ฉันยังไม่แน่ใจค่ะ อีกสองวันฉันจะโทรหาคุณนะคะ”
“โอเค ทางนี้เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลให้เธอเอง เธอก็ต้องดูแลตัวเองและเด็กทั้งสองคนด้วย” ช่าวหยุนกำชับ
หลินซินเหยียนส่งเสียงตอบรับและบอกว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
“งั้นแค่นี้นะ”
หลินซินเหยียนส่งเสียงตอบค่ะแล้ววางสาย
เธอกำลังจะเก็บโทรศัพท์มือถือ จงจิ่งห้าวยื่นมือมาหาเธอ “เอาโทรศัพท์มือถือมาให้ผม”
หลินซินเหยียนมองเขา “เอาโทรศัพท์มือถือไว้ที่คุณมันไม่สะดวกกับฉัน ถ้าคนที่ชื่อกู้เป่ยโทรมา ฉันจะให้คุณรับสาย”
เธอรู้ว่าจงจิ่งห้าวกังวลอะไร
คงกลัวกู้เป่ยจะโทรหาเธออีกน่ะสิ คนคนนี้เธอไม่เคยเห็น และก็ไม่อยากยุ่งด้วย
เรื่องของฉินยาเธอไม่สามารถจัดการได้ ยังคงต้องพึ่งพาเขา
เมื่อหลินซินเหยียนพูดอย่างนี้แล้ว จงจิ่งห้าวก็พูดอะไรไม่ได้อีก จึงถดตัวกลับไป
“พี่สะใภ้ คุณรู้จักกู้เป่ยด้วยเหรอ คุณรู้จักเขาได้ยังไง” ซูจ้านถาม