กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 554 ฉันปรนนิบัติคุณดีๆ
ซูจ้านรีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง “มันเรื่องอะไรกันแน่? กู้เป่ยจับตัวฉินยาไปได้ยังไง? ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง? กู้เป่ยทำร้ายเธอหรือเปล่า?”
พอขึ้นรถซูจ้านก็ถามคำถามยาวพรวดเลย
เสิ่นเผยซวนมองเขาแล้วพูดว่า “นายใจเย็นๆก่อน?”
ซูจ้านยึดลำคอ “ฉันใจเย็นไม่ได้”
ตอนนี้ฉินยาสถานการณ์ยังไงก็ไม่รู้ เขาจะใจเย็นลงได้ยังไง?
“นายอย่าเพิ่งตื่นเต้น ตอนนี้พวกเราได้เบาะแสมาแล้ว ตอนนี้กำลังจะไปทางโน้น ถ้านายอยู่ในสภาพแบบนี้ตลอด นายก็ลงรถ”
พูดไปเสิ่นเผยซวนก็จอดรถข้างทาง
ซูจ้านหันไปมองจงจิ่งห้าว แล้วมองเสิ่นเผยซวน สงบนิ่งแล้ว “ฉันรักษาความสงบ”
“ไม่ใช่รักษาความสงบ ให้ควบคุมอารมณ์” เสิ่นเผยซวนพูดแก้ไข
ซูจ้านเกร็งแล้วเกร็งอีก “ฉันควบคุมอารมณ์”
เขากลัวว่าตัวเองจะถูกไล่ลงจากรถ เขาต้องไปช่วยฉินยา
เสิ่นเผยซวนมองเขาแล้วถอนหายใจ แล้วขับรถออกไปอีกครั้ง
ทางไปวัดหนานซานต้องขึ้นเขา ถึงแม้ว่าทางลาดยางกว้างมาก แต่ทางคดเคี้ยวมาก โค้งไปโค้งมา ขับเร็วไม่ได้
อย่างไรก็ตาม พี่สี่พาพวกเขาไปที่ห้องรับรองแล้ว ก็ดื่มเหล้ากับลูกน้องหลายคน ก็ออกจากไนต์คลับไปที่วัดหนานซาน
วัดหนานซานเป็นสถานที่ขังตัวฉินยาจริง กู้เป่ยก็ระวังพอสมควร เพราะกลัวว่าจงจิ่งห้าวจะพบเบาะแสของฉินยา จึงไม่ซ่อนไว้ในเมือง แต่ซ่อนไว้ในวัด
พี่สี่ดื่มเหล้าไปหลายแก้ว ในใจก็มีความคิดลามก ถึงได้ปิดบังกู้เป่ยขึ้นเขามาคนเดียว
กู้เป่ยไม่อนุญาตให้ใครมาดูทั้งนั้น กลัวจงจิ่งห้าวพบร่องรอยของฉินยา พี่สี่ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงโดดเด่น ได้ใจจนลืมตัว รู้สึกว่าถึงแม้ตัวเองปล้ำฉินยาแล้ว กู้เป่ยก็ไม่ทำอะไรเขาแน่ ถึงได้ไม่เอาคำพูดของกู้เป่ยไว้ในใจ
รถจอดอยู่นอกวัด พี่สี่ลงจากรถเดินเข้าประตู กลางวัดนั้นเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยม น้ำใสมองเห็นก้นสระได้ ใต้สระปูด้วยหินรูปทรงไข่ห่าน ด้านในเลี้ยงปลาคาร์ฟสีขาวและสีแดง มุมทั้งสี่ด้านออกแบบเป็นที่จ่ายน้ำ น้ำไหลเชี่ยว ตรงกลางสระเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม รูปปั้นนั้นประณีตสวยงาม เห็นได้ถึงฝีมือช่างเกาะสลัก
พี่สี่เดินอ้อมสระขึ้นบันไดเดินอ้อมพระตำหนักจินเป่า เดินจากระเบียงทางขวาอ้อมไปด้านหลัง ตำแหน่งของวัดหนานซานอยู่บนภูเขาที่สุดที่สุดในของทางใต้เมืองB ดังนั้นผู้คนจึงเรียกว่าวัดหนานซาน
นี่ที่มีพระ ตอนนี้พระไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว ไม่ต้องโกนหัว ได้ยินว่าที่บ้านยังมีลูกเมีย อีกอย่างการศึกษายังสูงด้วย
ไม่ใช่คนอะไรก็สามารถมาเป็นพระได้
พี่สี่เดินไปถึงห้องเก็บของที่อยู่ด้านหลังสุดของวัด ของเก็บของอยู่ด้านขวาของวัดแห่งนี้ ติดกับกำแพงวัด เป็นตำแหน่งที่ไม่โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย ปกติจะมีคนมาทางนี้น้อยมาก
กู้เป่ยกล้าเอาคนมาไว้ที่นี่ ก็เพราะจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีคนกล้าส่งข่าวไปข้างนอก เขาจัดคนเฝ้าที่นี่ไว้สองคน ส่งอาหารวันละสามมื้อ
พี่สี่ผลักประตูห้องเก็บของออก ด้านในมีโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง บนโต๊ะมีขวดเหล้าวางเลอะเทอะเต็มไปหมด ถั่วลิสง ข้าวกล่อง ก้นบุหรี่ก็ทิ้งเต็มไปหมดทุกที่ ในห้องมีกลิ่นเหม็นมาก
เห็นพี่สี่เข้ามา ลูกน้องสองคนรีบลุกขึ้นยืนยิ้มทักว่า “ท่านชายสี่”
ตอนนี้พี่สี่เป็นคนดังข้างกายกู้เป่ยทุกคนต่างเรียกเขาว่า‘ท่าน’อย่างเคารพ สำหรับคำเรียกนี้เขายักคิ้ว รู้สึกพอใจมาก ตอนแรกเห็นห้องเลอะเทอะอยากด่า คำว่าท่านเรียกจนเขารู้สึกพอใจอารมณ์ดีมาก แล้วโบกมือ “พวกแกออกไปข้างนอก ฉันไปดูผู้หญิงคนนั้นหน่อย”
ลูกน้องสองคนสบตากัน พูดว่า “ประธานกู้สั่งไว้แล้วว่ามาดูเธอไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ?”
พี่สี่ขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่พอใจ “ประธานกู้เป็นคนให้ฉันมาเอง ทำไม หรือพวกแกจะโทรไปถามดูไหม?”
ลูกน้องทั้งสองคนจะกล้าที่ไหน รีบยิ้มขอโทษ “ไม่กล้า พวกเราออกไปเดี๋ยวนี้”
พี่สี่สั่งไปคำหนึ่ง “ดูคนไว้ด้วย”
ลูกน้องสองคนสบตากัน แล้วไปพี่สี่พร้อมกัน เหมือนรู้แล้วว่าเขาจะมาดูผู้หญิงคนนั้นเพื่ออะไร แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เดินออกไปอย่างเงียบๆแล้วปิดประตู
พี่สี่มองดูประตูถูกปิดแล้ว นิ้วโป้งเช็ดริมฝีปาก เดินเข้าไปห้องข้างในผลักประตูไม้ออก เสียงเอี๊อด เสียงดังนี้ทำให้ฉินยาที่ถูกเชือกมัดไว้ตื่นขึ้นมา หลังถูกจับมาที่นี่ เธอก็ไม่กล้าหลับตา เป็นเพราะทนไม่ไหวจริงๆ ถึงหลับไป เธอหลับตื้นมาก เสียงนิดหน่อยก็ตื่นเลย มองประตูด้วยความระวัง
เห็นว่าเป็นผู้ชายผอมเตี้ยที่จับตัวเธอ ใจก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
พี่สี่เดินเข้าไป สายตามองเธอหัวจรดเท้าอย่างโจ่งแจ้ง
วันนั้นที่เธอถูกจับเป็นตอนกลางคืน เธออาบน้ำเสร็จแล้วใส่ชุดนอนเตรียมตัวนอนแล้ว ปรากฏว่าเสียงกริ่งประตูดัง เธอไปเปิดประตู ก็ถูกพี่สี่พาผู้ชายสี่คนบุกเข้าไปในห้อง
ไม่พูดอะไรสักคำก็รื้อข้าวของไปทั่ว หาไปทุกห้องไม่เจอคน จึงจับตัวเธอ
ฉินยาใส่ชุดนอนแบบสองชิ้น ด้านในเป็นสายเดี่ยวผ้าไหมสีม่วง ด้านนอกเป็นเสื้อคลุมสีเดียวกัน ผูกสายรัดที่เอว วันนั้นที่ถูกจับขัดขืนจนสายรัดเอวถูกดึงออกแล้ว ชุดนอนไม่ได้อยู่อย่างระเบียบแล้ว เอียงรุ่ยร่ายแขวนอยู่บนตัว เผยผิวหนังอันขาวนวลออกมามากมาย
พี่สี่นั่งลงด้านหน้าเธอ มองตั้งแต่ขาค่อยๆขึ้นไป ขาอันเรียวเนียน ชายเสื้อบดบังต้นขา เอวคอดอันสวยงาม เพียงแค่ดูแบบนี้ พี่สี่รู้สึกว่าตัวเองฟองโตจนจะตายอยู่แล้ว เขากลืนน้ำลาย “แม่เอ๊ย หุ่นนี้สุดยอด”
ฉินยาเบิกตากว้าง สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว รู้ดีว่าเขาต้องการทำอะไร เธอถูกมัดไว้ ขยับตัวไม่ได้ เธอไม่มีขนทางขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว
อยากจะหนีนั้นเป็นไปไม่ได้เลย หนทางหนีมีอยู่ทางเดียวคือได้รับความเชื่อใจจากเขา ให้เขาถอดเชือกของตัวเองออก ถึงมีโอกาส
พี่สี่ยื่นมือไปที่ไหล่อันนุ่มนวลของเธอ ลูบไล้ผิวหนังของเธอ สัมผัสนุ่มนวลมาก หัวใจฟองโตจนควบคุมไม่ได้ เหมือนหมาป่าผู้หิวโหยพุ่งเข้าหา จูบไปทั่ว
ฉินยาทนความตื่นตระหนกและขยะแขยงไว้ ไม่ได้ทำปฏิกิริยาต่อต้านแม้แต่น้อย กลับแกล้งแสดงท่าทางพึงพอใจ ให้ความร่วมมือครวญคลานเสียงอันเย้ายวนออกมา
พี่สี่ถูกกระตุ้นจนอยากชักเจ้าโลกออกมาทันที ดึงเสื้อผ้าที่กีดขวางอยู่บนตัวของเขาไปเลื่อย เสื้อผ้าฤดูร้อนก็ถอดง่าย สองสามทีก็ถอดเสื้อบนตัวจนหมดเกลี้ยง
เห็นร่างกายอันสกปรกของเขา ฉินยาคลื่นไส้อย่างรุนแรง ขยะแขยงจนอย่างอ้วก
“อืออือ…….”
ปากของเธอถูกปิดด้วยเทปกาว พูดไม่ได้ จึงใช้ได้แค่ส่งสายตาบอกว่าเธอยินดีให้ความร่วมมือ อีกอย่างมีคำพูดอยากพูดกับเขา
พี่สี่ชะงักไปนิดหน่อย ถามว่า “คุณ คุณยินดีกับผม?”
ฉินยาพยักหน้า
พี่สี่เลียริมฝีปาก ยื่นมือดึงเทปกาวบนปากเธอออก ยิ้มถาม “รู้สึกว่าผมมีเสน่ห์มากใช่ไหม?”
ฉินยาอั้นอาการอยากอ้วกไว้ ยิ้มอย่างยั่วยวน ยื่นขาไปถูไถขาของเขา พูดเสียงต่ำ “คุณเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่สุดที่ฉันเคยเจอ”
พี่สี่จ้องขาอันเรียวขาวขาวนวลของเธอ ยื่นมือเข้าใต้กระโปรง ฉินยากำหมัดทั้งสองข้าง ถึงทนไว้ ในใจทรมานแค่ไหน สีหน้าก็ยังคงแสดงท่าทางพอใจ “คุณแก้เชือกให้ฉัน ฉันปรนนิบัติคุณดีๆ”
“ผมรู้สึกว่าแบบนี้สนุกกว่า” พี่สี่เข้าไปกดทับเธอไว้ เตรียมตัวจู่โจมขั้นสุดท้าย
ฉินยาบิดไปมาใต้ร่างเขา ใช้ร่างกายถูไถเขา “เชือกมัดจนฉันเจ็บมาก คุณช่วยฉันแก้หน่อย ฉันจะได้ให้ความร่วมมือกับท่าของคุณ อืม ได้ไหม?”
พี่สี่ความใคร่เร่าร้อน จะถูกเธอทรมานจนตายแล้ว ในหัวสมองมีแต่เรื่องเร่าร้อนเกี่ยวกับชายหญิง ไม่มีความคิดอื่นแม้แต่น้อย แก้เชือกที่มัดแขนขาเธอไว้
เขาโยนเชือกไปด้านข้าง แล้วล้มตัวลงมากางขาเธอออก ยึดเอวเตรียมเข้า