กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 558 เลิกก่อกวนได้ไหม
บทที่ 558 เลิกก่อกวนได้ไหม
ทันใดนั้นหลินซินเหยียนเรียกเขาไว้ อยากถามสถานการณ์ของซูจ้าน แต่ก็ไม่ได้ถามออกมา คิดว่าทำอะไรให้เขากินก่อนดีกว่า ไม่ได้กินอะไรทั้งวัน คงจะหิวมากแน่เลย
“อะไร?” จงจิ่งห้าวหันกลับมามองเธอ
“ไม่มีอะไร คุณไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ” หลินซินเหยียนเผยอริมฝีปากยิ้มจางๆ
จงจิ่งห้าวดูออกว่าเธอมีอะไรจะถาม ในใจก็เดาออกว่าเธอน่าจะอยากเป็นเรื่องอะไร แต่ก็ไม่เปิดโปง และไม่อยากคุย คนยังหาไม่เจอพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์
เขาขึ้นชั้นบน หลินซินเหยียนเดินเข้าห้องครัว เพราะว่าเธอกับลูกทั้งสองกลับมา ตอนบ่ายป้าหยูไปซื้อของกลับมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตมากมาย ยัดเต็มทั้งตู้เย็นเลย เธอเปิดตู้เย็นมองขึ้นลงอยู่รอบหนึ่ง สุดท้ายหยิบเนื้อและพริกหยวกผักเล็กน้อยและมะเขือเทศ
เธอล้างผักให้สะอาด ตอนที่หั่นผักก็ต้มน้ำจนเดือด แบบนี้จะได้ประหยัดเวลา
หั่นเนื้อเป็นแผ่นบางเติมเครื่องปรุงใช้แป้งมันและไข่เพื่อหมัก วิธีการหมักแบบนี้จะทำให้เนื้อนุ่มเป็นพิเศษ ระหว่างเวลาหมักเนื้อเธอก็หั่นพริกหยวกและมะเขือเทศ
ชั้นบน จงจิ่งห้าวอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน เนื้อผ้าไหมนุ่มลื่น ถึงจะเป็นแขนยาวขายาวก็ไม่รู้สึกอบอ้าว เขาสวมรองเท้าแตะในบ้านสีขาวเดินลงมา ไปดูลูกทั้งสองคนในห้องนอนก่อน เวลานี้ลูกทั้งสองหลับแล้ว ในคฤหาสน์เงียบมาก มีเพียงห้องครัวเท่านั้นที่มีเสียงความเคลื่อนไหวเล็กน้อย
เขาเดินเข้าไปยืนอยู่ในห้องอาหาร ก็สามารถมองเห็นร่างอันผมบางกำลังยุ่งอยู่ในห้องครัว เขาไม่ขยับ ยืนมองอย่างสงบแบบนี้ เขาชอบความรู้สึกแบบนี้มาก ในใจลึกๆรู้สึกอบอุ่น
ความจริงแล้วเขาอยากได้ชีวิตที่เรียบง่าย เหมือนแบบนี้ ลูกเมียของเขาอยู่ข้างกาย เมื่อเขาอยู่ข้างนอกทั้งวันกลับถึงบ้าน มีคนแบบนี้รอเขาอยู่
เธอไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมากมาย ขอแค่ต้มบะหมี่ให้เขาด้วยมือตัวสักถ้วยขอเพียงพอแล้ว
ตอนที่หลินซินเหยียนต้มบะหมี่ ถูกคนกอดจากข้างหลังกะทันหัน เธอหันกลับไปปลายจมูกเลื่อนผ่านหน้าของเขา เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ บนร่างกายมีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำ
เธอใช้ข้อศอกผลักเขาออกเบาๆ “ออกไปรอสักครู่ ใกล้เสร็จแล้ว”
จงจิ่งห้าวใช้แขนสองข้างกอดเอวเธอไว้ ฝ่ามือวางอยู่บนท้องของเธอลูบไล้เบาๆ ก้มตัวลงมาวางคางไว้ที่ไหล่ของเธอพูดว่า “ผมดูคุณทำ”
หลินซินเหยียนจ้องเขาอย่างเอือมระอา “คุณกอดฉันไว้แบบนี้ มันขวางทาง”
“ผมไม่สน” เขาจะกอดแบบนี้
หลินซินเหยียนถอนหายใจ สำหรับคนนี้ถึงขั้นพูดไม่ออกแล้ว “ฝีมือของฉันสู้ป้าหยูไม่ได้ คุณก็ทนกินไปละกัน”
“ขอแค่คุณทำกับมือ สำหรับผมแล้วอร่อยหมด” ตอนพูดก็จูบที่แก้มเธอไปด้วย
หลินซินเหยียนไม่มีเวลามองเขา บะหมี่ใกล้สุกแล้วเธอก็ใส่ผักปิดไฟ จงจิ่งห้าวกอดเธอไว้แบบนี้ มันกีดขวางท่าทางของเธอ เธอพูดกับเขาอย่างใจเย็น “เลิกก่อกวนได้ไหมคะ? ไปรอกินอยู่ข้างนอกได้ไหม?”
จงจิ่งห้าวปล่อยมือ แต่ไม่ได้ออกไป แต่ดึงเธอไปด้านข้าง “ผมตักเอง”
เขาเปิดตู้เก็บจานหยิบถ้วยเล็กออกมาใบหนึ่ง กำลังจะตักบะหมี่ หลินซินเหยียนก็ถาม “คุณแน่ใจเหรอว่าจะใช้ถ้วยใบนี้?”
จงจิ่งห้าวก้มหน้ามอง รู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรไม่ถูก “ถ้วยที่ใช้กินข้าวไม่ใช่ถ้วยนี้เหรอ?”
มีอะไรไม่ถูก?
หลินซินเหยียนถอนหายใจ เอาถ้วยในมือของเขาออก แล้วก็สอนเขาไปด้วย “อันนี้เป็นถ้วยกินข้าว บะหมี่ต้องใช้ถ้วยบะหมี่ตัก ถ้วยบะหมี่ใหญ่พอสามารถตักน้ำซุปได้ ถ้วยข้าวเล็กเกินไปตักได้ไม่เยอะ บะหมี่ไว้ในหม้อไม่ตักออกมา เวลานานมันจะจับตัวเป็นก้อน เพราะฉะนั้นใช้อันนี้เหมาะสมที่สุด”
เธอหยิบถ้วยบะหมี่เคลือบสีขาวหนึ่งใบจากตู้เก็บจานอีกตู้หนึ่งยื่นให้จงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวเงยหน้ามองเธอ รับมาอย่างยิ้มแย้ม เขาตักบะหมี่ หลินซินเหยียนยกกับข้าวที่ผัดเสร็จมาวางบนโต๊ะ มะเขือเทศผัดไข่ พริกหยวกผัดเนื้อ บะหมี่น้ำใส่ผักกาดแก้ว
เธอดึงเก้าอี้นั่งลง จงจิ่งห้าวยกถ้วยบะหมี่วางไว้บนโต๊ะ นั่งลงตรงข้ามเธอ “คุณจะกินหน่อยไหม?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า จงจิ่งห้าวคุ้นเคยกับวิธีการกินบะหมี่มะเขือเทศผัดไข่แล้ว ไม่ต้องให้หลินซินเหยียนบอกเขา เขาก็เอามะเขือเทศผัดไข่ผสมกับบะหมี่
“ผมรู้สึกว่าใส่มะเขือเทศลงไปต้มกับบะหมี่ได้เลย” แบบนั้นประหยัดเวลาตั้งเยอะ แบบนี้ยุ่งยากมาก ยังต้องผัดมะเขือเทศกับไข่แล้วค่อยเอามาผสมในบะหมี่
หลินซินเหยียนค้ำไว้ที่คางไม่ได้โต้แย้ง แต่พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นครั้งต่อไปฉันทำแบบนั้นให้คุณ”
เหตุผลที่กินแบบนี้ ก็เพราะว่ามะเขือเทศผัดแล้วจะบีบน้ำในตัวมะเขือเทศออกมา สีถึงจะสวย อีกอย่างรสชาติเข้มข้น ใส่เข้าไปต้มกับบะหมี่ มะเขือเทศก็ต้มจนเปื่อยได้ แต่รสชาติจะจางไปเยอะ
จงจิ่งห้าวคีบเนื้อชิ้นหนึ่งวางเข้าปาก เนื้อนุ่มมาก อีกอย่างเนื้อที่หมักแล้วไม่มีกลิ่นคาวเลย เขาเงยหน้า “คุณเคยฝึกทำกับข้าว?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “เมื่อก่อนก็ทำเป็นแค่มะเขือเทศผัดไข่ หลังจากมีพวกเขาสองคนแล้ว ฉันก็จะหาเวลาฝึกทำกับข้าวง่ายๆบ้าง มีเวลาก็จะทำให้พวกเขากินเอง”
หลังจากมีลูกแล้วเธอถึงมีความคิดในการฝึกทำกับข้าว รู้สึกว่าลงมือทำกับข้าวให้ลูกกินเองสามมื้อเป็นเรื่องที่มีความสุขมาก แต่ว่าเธอต้องทำงาน เพราะฉะนั้นจึงได้แค่ตอนที่มีเวลาอยู่กับพวกเขา ถึงจะทำ
จงจิ่งห้าวค่อยๆลดสายตาลง หกปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้เข้าร่วมด้วย ได้ยินเธอพูดเรื่องในอดีต เขารู้สึกหดหู่
เขามองนาฬิกาบนผนัง ถามว่า “คุณง่วงหรือยัง?”
หลินซินเหยียนรู้สึกง่วงแล้ว ถูกป้าหยูปลุกขึ้นมาแล้วก็ไม่ได้นอนอีกเลย
“คุณขึ้นไปนอนก่อน” จงจิ่งห้าวดูอาการง่วงของเธอออก ทนให้เธอนั่งรอตรงนี้ไม่ได้
หลินซินเหยียนลังเลนิดหน่อย ลุกขึ้นพูดว่า “งั้นฉันขึ้นไปก่อน กินเสร็จก็เอาจานใส่ในอ่างล้างจาน”
“รู้แล้วครับ ขึ้นไปเถอะ” จงจิ่งห้าวพูดตัดเธอ
หลินซินเหยียนขึ้นชั้นบนแล้ว เธออาบน้ำแล้ว หลังจากขึ้นเตียงไม่นานก็หลับเลย แม้แต่จงจิ่งห้าวขึ้นมาก็ไม่มีความรู้สึกเลย
เพียงแค่รู้สึกเหมือนมีคนกอดเธอจากข้างหลังในฝัน จิตใต้สำนึกของเธอรู้ว่าเป็นใคร เพราะฉะนั้นหลับได้อย่างสบายใจมาก
เสิ่นเผยซวนนำคนค้นหาถึงกลางดึก แต่ว่ายังคงหาคนไม่เจอ ถ้ำที่ซูจ้านและฉินยาเลื่อนลงไปนั้นค่อยข้างอำพราง
อีกอย่างถ้ำลึกมาก ข้างบนมีการเคลื่อนไหวพวกเขาก็ไม่ได้ยิน ยกเว้นเป็นการเคลื่อนใหญ่โตถึงจะส่งเสียงลงไปได้
เวลาทั้งคืน มือถือของซูจ้านไม่มีถ่านแล้ว สองคนอยู่ในถ้ำเดียวกัน ทั้งคืนนี้ใครก็ไม่ได้เปิดปากพูดเลย
พระอาทิตย์ขึ้น ในถ้ำเริ่มมีแสง ซูจ้านไปดูฉินยา เห็นเพียงเธอพิงอยู่ที่กำแพงถ้ำหลับตาอยู่ ซูจ้านคิดว่าเธอหลับแล้ว
ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย
แต่ว่าผ่านไปนานมาก ฉินยาก็ไม่ได้ลืมตา ซูจ้านลองเรียกเธอ “ฉินยา?”
ไม่มีคนตอบ
เขาเรียกอีกครั้ง “ฉินยา?”
ยังคงไม่มีคนตอบสนอง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยค่อยๆขยับไป ยื่นมือไปสัมผัสเธอ “ฉินยา……..”
สัมผัสถูกร่างกายเธอ สิ่งที่สัมผัสถึงนั้นคือความร้อน ซูจ้านรีบยื่นมือไปจับหน้าผากของเธอ ร้อนมาก ไม่รู้ว่าเริ่มไข้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้ถึงจะไม่ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิ ก็รู้ว่าเธอเป็นไข้สูงแล้ว
ปากของเธอแห้งเป็นหนังถลอกออกมาหนึ่งชั้น ซูจ้านกอดเธอไว้ตบหน้าผากของเธอ เรียกเธอก็ไม่มีการตอบสนอง ไข้ขึ้นสูงจนหมดสติแล้ว ซูจ้านร้อนรนจนตะโกนไปทางปากถ้ำ หวังว่าจะดึงดูดความสนใจของคนได้ มาช่วยพวกเขาขึ้นไป
ตะโกนจนคอแห้ง ก็ไม่มีคนตอบสนอง ฉินยาได้ยินเสียงของซูจ้านอย่างสะลึมสะลือ อยากลืมตาแต่ว่าไม่มีแรง เธอกระหายน้ำมาก หนาวมาก
“น้ำ น้ำ…….” เสียงของเธอเบามากเหมือนกับเสียงยุง ซูจ้านไม่ได้ยิน ขยับหูเข้าใกล้เธอ ถึงได้ยินว่าเธอพูดอะไร