กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 560 คนในข่าว
ซูจ้านมองผู้ชายทีหนึ่ง รีบรับมาทันที เขาเปิดฝาขวด ยื่นไปตรงหน้าฉินยา เรียกเธอเสียงเบา “ฉินยาคุณตื่นหน่อย มีน้ำแล้ว”
ฉินยาไร้การตอบสนอง ไม่ว่าซูจ้านเรียกยังไง เขย่าร่างเธอยังไง ก็ไม่มีสติเลยแม้แต่น้อย
ผู้ชายในชุดลายพรางเตือนเขา “กดระหว่างจมูกและปากของเธอ”
ซูจ้านยื่นน้ำไปอีกมือหนึ่ง ให้มือว่างและช่วยเธอกดชีพจรบนริมฝีปาก
ผ่านไปครู่หนึ่งฉินยาค่อยๆมีสติ ยังคงท่าทางไร้เรี่ยวแรงอ่อนเพลียสามารถสลบไปได้ตลอดเวลา ซูจ้านยื่นน้ำไปที่ริมฝีปากเธอ พูดเสียงต่ำ “ดื่มน้ำ”
ริมฝีปากฉินยาแห้งจนย่นเข้าหากัน เพียงแค่ท่าทางอ้าปาก เผยอผิวหนังอันบอบบางชั้นนั้นออก เลือดก็ซึมออกมา คอเธอแห้งเหมือนลุกเป็นไฟ เผาจนน้ำทั้งหมดในร่างกายเธอแห้งไปหมดแล้ว เธอใกล้จะเหี่ยวเฉาแล้ว ทันใดนั้นที่สัมผัสโดนน้ำ เธอก็ดื่มคำโตอย่างรวดเร็ว
ได้ยินแม้กระทั่งเสียงกลืนน้ำของเธอ
น้ำครึ่งขวด ไม่สามารถเติมเต็มความพอใจในความกระหายน้ำของเธอได้ แต่ว่าก็ทำให้เธอพอมีความสดชื่นขึ้นบ้าง
“พวกเราล้วนมีเพื่อนร่วมทาง ตอนที่ผมร่วงลงมา เพื่อนร่วมทางของผมอยู่ข้างพวกเรา ผมคิดว่าเขาจะเรียกคนมาช่วยพวกเราอย่างรวดเร็ว พวกคุณอย่าใจร้อน” ผู้ชายชุดลายพราง พูด
ฉินยาได้ยินเสียงแล้วก็ค่อยๆหันหน้าไป นี่เพิ่งเห็นว่าข้างในมีคน เธอเข้าใจแล้ว ว่าน้ำมาจากไหน
“พวกเรามีทางรอดแล้ว คุณอดทนอีกนิดนะ” ซูจ้านกอดเธอไว้พูดอย่างตื่นเต้น
ฉินยากะพริบตา ขนตาอันงอนยาวกะพริบเล็กน้อย ผ่านแสงสว่างอันเลือนลาน เห็นท่าทางอันตื่นเต้นของซูจ้าน
คิดย้อนถึงคำพูดที่เขาพูดกับเธอ ค่อยๆหลับตาลง
ตอนนี้ ปากถ้ำมีคนตะโกน ถามว่ามีคนไหม
ผู้ชายในชุดลายพรางลุกขึ้นยืน เงยหน้าตอบไปทางปากถ้ำ ด้านบนก็หย่อนเชือกลงมาอย่างรวดเร็ว จะโกนให้คนข้างล่างว่า สามารถเอื้อมถึงเชือกไหม ใช้แรงดึงหน่อย แบบนี้พวกเขาก็รู้ความยาวแล้ว ไม่ต้องหย่อนลงไปอีก
ผู้ชายยืนรออยู่ปากถ้ำ ไม่นานเชือกกู้ภัยก็ทิ้งลงมา ผู้ชายมองซูจ้านแล้วพูดว่า “พวกคุณขึ้นไป”
ซูจ้านคว้าเสื้อเชิ้ตที่ตัวเองถอดลงมาใส่บนตัวของฉินยา จัดเสื้อบนตัวเธอให้เรียบร้อย ถึงอุ้มเธอขึ้นมาเดินไปที่ปากถ้ำ ผู้ชายดึงเชือกเดินไปข้างหน้าซูจ้าน ดูสภาพของฉินยาทีหนึ่ง “ผมดูเธอแล้วไม่ได้อ่อนเพลียมาก ระหว่างการดึงขึ้นข้างบน เธอจะดูแลตัวเองได้ยาก ไม่อย่างนั้น พวกคุณขึ้นไปพร้อมกัน?”
ซูจ้านพยักหน้า
ผู้ชายนำเชือกมามัดไว้ที่เอวของซูจ้าน และสั่งเสียกับเขา “ร่างกายของคุณพยายามแนบชิดผนังถ้ำไว้ วางเธอไว้ข้างหน้าคุณ แบบนี้จะลดทำให้เธอบาดเจ็บ”
ขาและน่องของฉินยามีแต่แผล ท่าทางก็อ่อนเพลีย ต้องการความดูแลอย่างชัดเจน มิเช่นนั้นจะเพิ่มอาการป่วยของเธอรุนแรงขึ้น
ซูจ้านแสดงความเข้าใจ ผู้ชายดึงเชือกไปมา แจ้งใช้ข้างบนว่าข้างล่างเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว
ข้างบนตอนแรกก็มีสามคน เวลาที่ดึงก็รู้สึกได้ว่าข้างล่างอาจจะขึ้นมาพร้อมกันไม่ใช่แค่คนเดียว จึงเรียกสองคนมาดึงพร้อมกัน
ซูจ้านไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ผิวหนังเสียดสีกับผนังถ้ำเกิดเสียงดังเล็กน้อย ตอนแรกยังดี นานแล้ว แผ่นหลังของเขาเจ็บแสบเหมือนถูกไฟเผาไหม้
เขาเพียงแค่ขมวดคิ้วเบาๆ ไม่ได้ใส่ใจมาก แค่อยากรีบส่งฉินยาไปโรงพยาบาล
ผ่านไปสักพัก คนข้างบนเห็นพวกเขาแล้ว ดึงเชือกมาตรงกลางเล็กน้อย ลดอาหารเสียดสีระหว่างร่างกายซูจ้านและผนังถ้ำ เสิ่นเผยซวนมองพวกเขาขึ้นมากตรงปากถ้ำ พอถึงปากถ้ำ เขาก้มตัวลงมารับฉินยาจากอ้อมกอดของซูจ้าน “ส่งมาให้ฉันเถอะ”
ซูจ้านเงยหน้ามองเขา ไม่ได้พูด ยื่นคนไปให้เขา
ท่ามกลางความช่วยเหลือของคนอื่น ซูจ้านขึ้นมาจากถ้ำได้สำเร็จ พอถึงพื้นเขาก็รีบแกะเชือกบนตัว หัวหน้าทีมพูดว่า “ผมมาดีกว่า คุณแกะไม่ออก”
วิธีการผูกของพวกเขา คนทั่วไปแกะไม่ออก ไม่ใช่วิธีการผูกเชือกแบบธรรมดา
ซูจ้านพูดเร่งอย่างรีบร้อน “รบกวนคุณเร็วๆหน่อย”
หัวหน้าทีมไม่ได้พูด ใช้วิธีปฏิบัติตอบเขา เร็วมาก เชือกบนร่างของเขาก็แกะออก เขาเดินไปข้างหน้าเสิ่นเผยซวนแล้วยื่นมือ “ให้ฉันเถอะ”
เสิ่นเผยซวนมองเขาทีหนึ่ง สภาพของเขาก็ไม่ค่อยดี อุ้มออกไปจากป่ายังมีระยะทางอีกหน่อย กลัวว่าเขาจะไม่ไหว
“ฉันไหว” เขารู้ว่าเสิ่นเผยซวนลังเลอะไร
เขาพูดแบบนี้แล้ว เสิ่นเผยซวนก็พูดอะไรอีกไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้เป็นโอกาสที่เขาจะแสดง ขณะที่เสิ่นเผยซวนจะยื่นฉินยาให้ซูจ้านนั้น เธอก็เปิดปากพูดอย่างอ่อนเพลีย “รบกวนคุณอุ้มฉันออกไปได้ไหม?”
เธอมองเสิ่นเผยซวน
อันดับแรกเสิ่นเผยซวนมองไปที่ซูจ้าน ที่ปากถ้ำเขาไปอุ้มฉินยา เพราะว่าที่นี่ไม่มีพื้นให้นอนได้ อีกอย่างปากถ้ำต้องมีคนไปรับฉินยามาจากอ้อมกอดเขาอยู่แล้ว
หากเป็นคนอื่น ซูจ้านต้องไม่ยอมแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาจึงเข้าไปรับเอง
คราวนี้ฉินยาไม่ยอมให้ซูจ้านอุ้มแล้ว เขากลัวว่าซูจ้านจะเข้าใจผิด
ซูจ้านเม้มปากไม่พูด
“ได้ไหม?” ฉินยามองเสิ่นเผยซวนพูดอีกครั้ง
เธออ่อนเพลียเกินไป ไม่สามารถจากไปด้วยตัวเอง จึงต้องพึ่งคนอื่น
ระหว่างทางขึ้นมาเธอรู้สึกได้ว่าซูจ้านต้องบาดเจ็บแน่นอน เธอไม่อยากติดค้างอะไรซูจ้าน ถึงแม้ว่าเขาจะสารภาพความในใจกับเธอแล้ว เธอก็ไม่คิดอยากจะคืนดีกับเขา
สำหรับเธอแล้ว เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว
อีกอย่าง ร่างกายของเธอ…….
“ในเมื่อพี่เสิ่นไม่ยินดี ก็ปล่อยฉันลงมา ฉันเดินเอง” ฉินยาพูดอย่างดื้อรั้น
“นายอุ้มเธอออกไปเถอะ” ไม่รอเสิ่นเผยซวนตอบ ซูจ้านก็พูดก่อน
เสิ่นเผยซวนเม้มปากมองซูจ้านทีหนึ่ง รู้ว่านี่เพราะซูจ้านเป็นกังวลในตัวฉินยา อีกอย่างตอนนี้พวกเขาต่างก็ได้รับบาดเจ็บ เขาไม่อยากเสียเวลา พูดกับหัวหน้าทีมว่า “ที่นี่ให้เป็นหน้าที่คุณนะ”
พูดจบเขาก็อุ้มฉินยาเดินกลับไป
ซูจ้านกลัวว่ากิ่งไม้ข้างหน้าขวางทาง เสิ่นเผยซวนเดินไม่สะดวก ขีดข่วนโดนฉินยาในอ้อมกอดเขา เขาเสนอตัวเดินอยู่ข้างหน้าปัดกิ่งไม้ที่ขวางทาง
ฉินยาพิงอยู่ที่ไหล่ของเสิ่นเผยซวน หรี่ตาเล็กน้อย ซูจ้านเดินอยู่ข้างหน้าพวกเขา เธอสามารถมองเห็นแผลที่หลังของเขาพอดี หลังทั้งแผ่นมีแต่รอยแผนจากการเสียดสี จุดที่สาหัสจะมีเลือดซึมออกมาอยู่แล้ว จุดที่ไม่มีเลือดซึมก็ฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด
ในใจเธอมีความหวั่นไหวเล็กน้อย มีความห่วงใยเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ใจอ่อนและจะคืนดีกับเขา
ชาตินี้เธอจะไม่มีวันอยู่กับเขาอีก
เธอหลับตา ปิดกั้นสายตาที่มองเขา
ระยะทางนี้ไม่ได้ยาวมากจุดสำคัญเพราะเป็นทางเขาเดินยาก ผ่านไปเกือบชั่วโมงพวกเขาเดินลงจากเขา
ซูจ้านรู้จักรถของเสิ่นเผยซวนเดินเข้าไปเปิดประตูรถเอง แบบนี้เขาจะได้วางฉินยาขึ้นรถได้สะดวก
เสิ่นเผยซวนกำลังจะวางฉินยาลง ซูจ้านพูดว่า “เอากุญแจให้ฉัน ฉันมาขับรถ”
เขากลัวฉินยาจะรังเกียจตัวเอง ไม่เสียเวลา
เสิ่นเผยซวนก้มตัววางฉินยาลงหลังรถ ยื่นกุญแจรถให้เขา ซูจ้านรับกุญแจมาเดินไปข้างหน้า เปิดประตูด้านคนขับขึ้นรถ
ส่วนเสิ่นเผยซวนนั่งข้างหลัง ดูแลฉินยา เขาเอาน้ำของขวดออกมาจากกระเป๋าหลังเบาะรถ ขวดหนึ่งยื่นให้ซูจ้าน “นายดื่มน้ำหน่อย”
ซูจ้านไม่ได้มองข้างหลัง พูดว่า “ให้ฉินยาเถอะ”
เสิ่นเผยซวนยื่นไปข้างหน้าอีก “ข้างหลังยังมี”
พวกเขาติดอยู่ในถ้านานขนาดนี้ ต้องการน้ำแน่นอน
ซูจ้านรู้ว่าข้างหลังยังมีจึงรับมา เปิดฝาขวด ก็เทเข้าปาก น้ำหนึ่งขวด เวลาเพียงแค่หนึ่งนาที ก็ดื่มจนหมด เขาโยนขวดน้ำเปล่าออกนอกรถ สตาร์ทรถ
ด้านหลังเสิ่นเผยซวนเปิดฝาขวดน้ำยื่นให้ฉินยา “คุณดื่มน้ำหน่อย”
ฉินยายกแขนรับน้ำมา
คฤหาสน์
หลินซินเหยียนตื่นสายมาก ไม่รู้ว่าเพราะตัวเองขี้เซา หรือเป็นเพราะว่าจงจิ่งอยู่ข้างกาย ถึงได้หลับอย่างสนิท
ตื่นมาจงจิ่งห้าวก็ออกไปแล้ว กินอาหารเช้าเสร็จ จงเหยียนซีบอกว่าขนของเจ้าขาวสกปรกแล้ว ดึงตัวป้าหยูไปที่สวนอาบน้ำให้เจ้าขาว ยังบอกว่าให้ป้าหยูพาเธอไปซื้ออาหารสุนัข
ป้าหยูหัวเราะพูดว่าได้
หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าหน้าต่างกระจกมองภาพป้าหยูพาเด็กสองคนอาบน้ำให้สุนัข มุมปากยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอหันไปหยิบมือถือ เตรียมตัวโทรหาเช่าหยุนเพื่อถามสถานการณ์ทางโน้น ไม่รู้ใครเป็นคนเปิดทีวี เธอหยิบรีโมตขึ้นมา เตรียมตัวจะปิด ก็เห็นข่าวหนึ่ง และคนในข่าว คาดไม่ถึงว่าเธอรู้จัก