กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 562 คนไร้ค่า
คนนั้นที่ปรากฏตัวที่เมืองC เธอเดาว่าเขามาที่นี่ในตอนนี้ก็เพราะกู้เป่ย เขามาหาจงจิ่งห้าวอย่างนั้นเหรอM
ตอนนี้เอง ปลายสายที่โทรออกโทรออกก็มีคนรับสาย มีเสียงเสิ่นเผยซวนดังขึ้น “ฮัลโหล?”
เพราะว่าหลังจากที่หลินซินเหยียนไปเมืองC เธอก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์แปลก
หลินซินเหยียนถือโทรศัพท์อยู่ “เรื่องของฉินยามันเป็นยังไงกันแน่?”
เสิ่นเผยซวนเหมือนอึ้งไปนิดนึง ประหลาดใจกับเสียงนี้ เขาชะงักไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล”
“เธอได้รับบาดเจ็บเหรอ ?”หลินซินเหยียนถามอย่างกังวล
“บนร่างกายมีบาดแผลนิดหน่อย แล้วก็มีไข้ แต่ว่าตอนนี้หมอกำลังให้ยาเธออยู่” เสิ่นเผยซวนโคตรอย่างจริงใจ
แต่ว่าคำพูดพวกนี้พอหลินซินเหยียนได้ยิน ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปในทันที
ร่างกายมีบาดแผล? แถมยังมีไข้อีกงั้นเหรอ?
เธอคิดย้อนกลับไปที่ภาพเหตุการณ์ที่พี่สี่เปลือยกายในข่าว จิตใต้สำนึกก็บอกเธอว่าฉินยาถูกล่วงละเมิดอย่างแน่นอน
เธอหลุบตาลง แล้วก็ถามด้วยเสียงที่แหบแห้ง “ซูจ้านรู้เรื่องหรือเปล่า?”
เสิ่นเผยซวนต่อ “รู้”
“ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ?”หลินซินเหยียนถามเสียงแหบ
“คุณจะมาเหรอ?”
“เปล่า แต่เดี๋ยวอีกแป๊บนึงจะไป” ตอนนี้เธอต้องรู้ให้ได้ว่ากู้เป่ยมาหาจงจิ่งห้าวทำไม
“โรงพยาบาลประชาชนที่หนึ่ง”เสิ่นเผยซวนตอบ
“ฉันเข้าใจแล้ว” พอพูดจบแล้วเธอก็ตัดสาย
เธอเปิดประตูลงไปจากรถ แล้วพูดกับคนขับรถว่า “รอแป๊บนึงนะคะ”
เดี๋ยวเธอจะไปโรงพยาบาล
คนขับรถตอบรับแล้วก็ขับรถไปที่ที่จอดรถ ตรงนี้มันร้อนเกินไป
หลินซินเหยียนเดินเข้าไป ถึงแม้ว่าจงจิ่งห้าวไม่ได้ประกาศสถานะของเธอต่อภายนอก แต่ว่าเคยยอมรับในบริษัทแล้ว ทุกคนก็ต่างรู้สถานะของเธอ ตอนที่เธอเข้าไปนานก็ไม่มีใครขวาง แล้วก็มีคนทำความเคารพเต็มไปหมด
เธอยิ้มตอบรับคนที่ทำความเคารพเธอ
ตอนที่ลงจากลิฟต์ก็ได้เจอกับกวนจิ้ง พอเห็นเธอเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “มาหาประธานจงเหรอครับ?”
ในฐานะที่เป็นลูกน้องคนสำคัญของจงจิ่งห้าว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เผชิญเรื่องราวในชีวิตกับจงจิ่งห้าวมากมายเท่าเสิ่นเผยซวนกับซูจ้าน ถ้าว่าเขารู้เรื่องเกี่ยวกับเจ้านายของเขาดี
หลินซินเหยียนตอบ “ใช่ค่ะ ตอนนี้เขาสะดวกไหม?”
กวนจิ้งตอบ “ตอนนี้เจ้านายกำลังรับแขกอยู่ครับ”
“เป็นผู้ชายที่สวมชุดสูทสีเทาเงินหรือเปล่า?”เธอเอ่ยปากถาม
กวนจิ้งพยักหน้า “คุณเห็นประธานกู้แล้วเหรอครับ?”
พอได้ยินคำพูดของกวนจิ้ง เธอก็แน่ใจได้ในทันทีว่าคนคนนี้คือกู้เป่ยจริงๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นกวนจิ้งก็คงไม่เรียกเขาว่าประธานกู้
เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ”
“คุณอยากจะไปรอที่ห้องพักก่อนไหมครับ ?”กวนจิ้งถามเธอ
หลินซินเหยียนส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันอยากจะเข้าไปดูว่าพวกเขาคุยอะไรกัน”
พอพูดจบเธอก็เดินตรงไปที่ประตูห้องของจงจิ่งห้าว
ตอนที่กำลังจะเดินถึงประตูห้องทำงานเขานั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นอารอง เธอเดินไปรับสายด้านข้าง ช่าวหยุนที่อยู่ปลายสายนั้นยังไม่ทันจะพูดอะไร เธอก็ทำออกมาก่อน “อารอง ถ้างั้นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”
ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงโทรมาหาเธอเวลานี้?
“ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก ด้านมีทุกอย่างปกติดี มีคนมาสั่งตัดเสื้อผ้า ฉันก็เลยบอกว่าออเดอร์ค่อนข้างที่จะเยอะ ถ้าโอเคก็ต้องรอพักนึง ถ้าไม่โอเคก็ให้พวกเธอกลับไป ทางฝั่งโรงงานก็ปกติดีทุกอย่าง จู่ๆ แกกับฉินยาไม่อยู่ แถมยังพาเด็กทั้งสองคนไปด้วยอีก ฉันคิดว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่อย่างนั้นแกคงไม่ไปแบบรีบร้อนขนาดนี้หรอก ฉันโทรมาเพื่อที่จะบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอยากลำบากอะไรขึ้น ก็บอกฉันได้เลยนะ แกต้องเชื่อในพ่อกับแม่ของแก สิ่งที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ให้ไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน เข้าใจความหมายของฉันใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนก้มหน้า มองเท้าของตัวเองแล้วก็พูดเบาๆ “เข้าใจ”
“อืม เด็กทั้งสองคนสบายดีไหม? ฉันคิดถึงเขา” เริ่มชินกับการมีพวกเขาอยู่แล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็ไป เหมือนกับว่าชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง
“เดี๋ยวตอนกลางคืนฉันจะขอให้พวกเขาส่งวิดีโอไปให้อา” หลินซินเหยียนพูด
“โอเค งั้นวางแล้วนะ” ช่าวหยุนตอบ
หลินซินเหยียนตอบว่าโอเค หลังจากวางสายแล้วเธอก็เก็บโทรศัพท์เข้าที่เดิม เรื่องเกี่ยวกับพ่อของเธอนั้นช่าวหยุนไม่เคยเล่าให้เธอฟัง แต่ว่าพออยู่กับช่าวหยุนมาสักพัก เธอก็สามารถสัมผัสได้ว่าเมื่อก่อนพ่อของเธอเป็นคนยังไง
ไม่ว่าเขาจะเป็นคนยังไง เธอก็จำสิ่งที่เหวินเสียนเขียนไว้ในจดหมายได้เสมอ ว่าเขาเป็นคนที่ดี
เธอเก็บอารมณ์ของตัวเอง แล้วก็เดินไปที่ประตูห้องทำงานอีกครั้ง ยกมือขึ้นเคาะประตู เราด้านไหนก็มีเสียงเชิญให้เข้าไปข้างใน
เธอยืดหลังตรงแล้วก็เดินเข้าไป
จงจิ่งห้าวนั่งอยู่บนโซฟาหันหลังให้เธอ เผชิญหน้ากับกู้เป่ย แก้วกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้าของเขาไม่ได้ถูกต้องเลย ดูท่าทางเหมือนกำลังคุยอะไรกันบางอย่าง เพราะว่ามีคนเข้ามาเพราะเขาก็เลยหยุดคุยกัน
พอเห็นเธอสายตาของกู้เป่ยก็ดูผิดปกติเล็กน้อย เขายิ้มและพูดว่า “พวกเราเจอกันอีกแล้วนะครับ”
สายตาของจงจิ่งห้าวก็ค่อยๆ หันมา ตอนที่เห็นเธอนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน ไม่เคยคิดว่าเธอจะมาที่นี่ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “มาได้ยังไงเนี่ย?”
จงจิ่งห้าวก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงต่อหน้ากู้เป่ย เขาสามารถส่งรูปพวกนั้นให้หลินซินเหยียนได้ แสดงว่าต้องดูตัวตนเธอ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาอย่างแน่นอน
หลินซินเหยียนเดินเข้าไป แล้วก็ยิ้มให้เขา “มาหาคุณไม่ได้เหรอ?”
ระหว่างที่พูดอยู่นั้นเธอก็นั่งลงข้างๆ จงจิ่งห้าว
กู้เป่ยเลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความสนใจ “นี่จะโชว์สวีทหวานแหววการต่อหน้าคนนอกอย่างผมเหรอครับเนี่ย ?”
“ที่นี่มีคนนอกด้วยเหรอคะ ?”หลินซินเหยียนยิ้มแล้วก็ถาม
กู้เป่ยยิ้มกว้าง สายตาของเขาละออกจากใบหน้าของจงจิ่งห้าว เพราะว่าอยากจะทำให้เขารู้สึกอับอาย ก็เลยสงสัยพูดว่า “ความหมายของคุณหลินก็คือ ไม่เห็นผมเป็นคนนอกใช่ไหมครับ? ผมเองก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเราค่อนข้างที่จะดีเลย”
กู้เป่ยคิดในใจว่า ที่แท้เธอก็ยังจำเรื่องครั้งที่แล้วที่เมือง C ได้ แล้วก็มีไมตรีจิตให้กับคนที่ ‘ปกป้อง’ เธอนั้นเหรอ?
“ฉันก็แค่ไม่เห็นคุณเท่านั้นเอง” หลินซินเหยียนพูดแบบธรรมดาแล้วก็ยังคงยิ้มเหมือนเดิม
“เหอะ คำพูดของคุณหลินที่น่าสนใจจริงๆ ผมคนตัวโตนั่งอยู่ตรงนี้คนไม่เห็นงั้นเหรอ? หรือว่าผมไม่ใช่คน?”กู้เป่ยเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าของตัวเอง
หลินซินเหยียนยังคงยิ้มอยู่เหมือนเดิม “ที่บอกว่าไม่ใช่คน ประธานกู้เป็นคนพูดเองนะคะ ฉันไม่ได้พูด แต่ว่า ถ้าเกิดคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คน ฉันก็จะไม่โต้เถียงแล้วกัน”
สีหน้าของกู้เป่ยแข็งทื่อ เขาคลี่ยิ้มกลับมาอย่างรวดเร็ว “ผู้หญิงที่ฉลาดและเก่งกาจเกินไป มันไม่ได้น่าชื่นชอบเลยนะครับ ระวังว่าผู้ชายของคุณจะเปลี่ยนใจนะ”
“เรื่องนี้คงไม่ต้องรบกวนให้ประธานกู้มาเป็นกังวลแทนหรอกค่ะ”หลินซินเหยียนยิ้มมุมปาก “ครั้งที่แล้วที่เจอกันที่เมือง C ฉันยังไม่รู้ตัวตนของประธานกู้ ก็เลยไม่มีโอกาสได้ขอบคุณ ของขวัญที่คุณให้ฉันก็ได้รับแล้ว ดูออกเลยว่าประธานกู้ช่างใส่ใจจริงๆ ค่ะ” สายตาของเธอมองไปที่จงจิ่งห้าว ตอนนี้เองจงจิ่งห้าวก็กำลังมองเธออยู่ สายตามาบรรจบกัน ไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจความหมายของกันและกัน
เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานกู้ให้ของขวัญชิ้นใหญ่พวกเราขนาดนั้น คุณจะไม่ตอบแทนเขาหน่อยเหรอ?”
จงจิ่งห้าวยื่นมือไปเอาผมทัดหูให้กับเธอ หลังจากเอาผมทัดหูเธออย่างอ่อนโยนแล้ว เขาก็ยิ้มอยากทะนุถนอม “มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ต้องตอบสนองด้วยมารยาทอยู่แล้ว ได้รับของขวัญแล้วไม่มอบคืน ถือว่าไม่มีมารยาทนะ”
สายตาของจงจิ่งห้าวมองมาที่เขา “ประธานกู้รู้สึกยังไงกับของขวัญของผมบ้างครับ?”
กู้เป่ยหรี่ตา “คุณยั่วผมก่อนนะ”
“ ประธานกู้พูดแบบนี้ คุณเป็นคนตกลงที่เหวินชิงเจ้าลักพาตัวก่อนไม่ใช่เหรอครับ? หรือว่าประธานกู้เห็นว่าตระกูลจงรังแกได้ง่าย ปล่อยให้คนลักพาตัวได้ง่ายๆ งั้นเหรอ?”เสียงของจงจิ่งห้าวทุ้มลึก มีความไม่เป็นมิตรที่สังเกตเห็นได้ยาก
“คนที่ลักพาตัวไปถือว่าเป็นคนของตระกูลจงอย่างนั้นหรอกครับ? ใครไม่รู้บ้างว่าเฉิงยู่ซิ่วเป็นเมียน้อยที่ไต่เต้าขึ้นมา? ประธานจงเองก็ไม่ชอบแม่เลี้ยงคนนี้ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้คุณมาเป็นศัตรูกับผมเพราะคนไร้ค่าคนนี้ มันมีข้อดีกับคุณยังไงเหรอครับ?”