กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 607 หัวใจมันเฉยชาไปแล้ว
ค่ำคืนอันเงียบสงัด ในห้องไม่มีไฟเปิดซักดวง มีเพียงแค่แสงสว่างจากพระจันทร์เท่านั้นที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้เห็นเครื่องเรือนในห้องสลัวๆ
เขาเดินย่องเข้ามาเบาๆ
ฉินยาพึ่งจะล้มตัวลงนอนเพราะนอนไม่หลับ ดังนั้นก็เลยลุกไปร่างแบบ แต่พอก้มวาดไปมารู้สึกว่าปวดคอก็เลยหยุด เพราะงั้นแค่เสียงประตูเปิดเธอก็รู้ได้ทันที เพียงแต่ว่าเธอไม่ส่งเสียงออกมา เธอทำเป็นหลับตาลงเพื่อแกล้งว่าหลับอยู่
ซูจ้านไม่ทันสังเกต เนื่องจากในห้องมันไม่ค่อยสว่างมากนัก เขาจึงเห็นสีหน้าของฉินยาไม่ชัด ดังนั้นก็เลยไม่รู้
เขายกเก้าอี้มาวางลงที่ข้างเตียงเบาๆ จากนั้นก็นั่งลง แล้วมองเธอเงียบๆ
ในใจมีคำพูดมากมายที่อยากจะพูดกับเธอ แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนดี
ไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกที่ตัวเองมีออกมายังไง
เขายื่นมือไปจับมือเธอไว้ แล้วเอาหัววางไว้บนตัวเธอ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต่างก็หลับใหลอยู่ในค่ำคืนอันเงียบสงัดนี้ มีเพียงแต่เขาที่ยังคงตื่นอยู่ เขาได้ยินเสียงหายใจของเธอได้อย่างชัดเจน เขามองดูเธอ
ไม่ว่าจะสารภาพผิดยังไงมันก็ไม่อาจสงบลงได้เหมือนตอนนี้ที่มันหยั่งรากลึกไปถึงในใจ
เขานั่งอยู่เงียบๆ ในใจก็ได้แต่คิดบรรยายตัวเธอ
ถึงแม้หน้าตาของเธอจะเปลี่ยนไป แต่เขารู้ดีว่าเธอก็คือเธอ ในใจของเขายังเป็นเธอคนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ทุกๆคนล้วนเคยทำผิด ตัวเขาเองก็เหมือนกัน
ผมไม่ขอให้คุณยกโทษให้หรอก แต่ขออย่างเดียวขอให้ได้เจอเธอบ่อยๆ
ผทขอโทษฉินยา ผมเป็นคนทำให้คุณมีรอยแผล ทำให้คุณเสียใจ ทำให้คุณเสียลูก ผมรู้สึกเจ็บปวดมาก ถ้าไม่ใช่เพราะความระยำของผม ตอนนี้ผมคงจะได้เป็นพ่อคนไปแล้ว
ก่อนนอนทุกคืน ผมมักจะคิดว่าถ้าผมสูญเสียความทรงจำไปก็ดีน่ะสิ จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดแล้ว
พระเจ้าให้โอกาสผม แต่ผมกลับรักษามันไว้ไม่ได้
ถ้าเกิดว่ามีโอกาสอีกครั้ง ผมจะดูแลคุณให้ดี ไม่ให้คุณได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว
ผมจะจับมือคุณไปจนแก่จนฒ่าเลย
ถ้าคุณยังอยากเกลียดผม คุณก็เกลียดต่อไปได้เลย อย่างน้อยในใจคุณก็ยังได้คิดถึงผม
ฉินยาคุณเป็นคนทำให้ผมรู้จักว่าการจำฝังใจคืออะไร แม้คุณจะทำผมเสียศักดิ์ศรี แต่ผมก็ยังอยากจะได้คุณกลับมา
ไม่ว่าคุณจะพูดจาทำร้ายผมซักแค่ไหน ผมก็จะมอบแต่ความอบอุ่นให้คุณ
ฉินยา เมื่อก่อนผมพูดสัญญากับคุณไว้มากมาย แต่กลับทำตามที่สัญญาไว้ไม่ได้สักอัน
ฉินยา ผมรู้สึกเสียใจ เสียใจมากจริงๆ
ไม่มีคำพูดใดจะอธิบายความรู้สึกของผมในตอนนี้ได้เลย
เขาอยู่ที่นี่จนถึงตีห้า ถึงแม้จะหลับตาลงแต่กลับไม่ง่วงเลย เขาเอาแต่คิดอะไรมากมายอยู่ในใจ
เขากังวลว่าเธอจะเห็นเขา และแม้จะไม่อยากปล่อยมือเธอ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมปล่อย เขาจับทือเธอไว้นานจนเหงื่อออกฝ่ามือ
เขาโน้มตัวลงมาจูบที่หน้าผากเธอเบาๆ“ผมรักคุณ และจะรักไปตลอดด้วย”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้น และยืนมองเธออยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นว่าเธอไม่ตื่นถึงได้ยกเก้าอี้กลับไปวางไว้ที่เดิมจากนั้นก็เดินออกไปเงียบๆ
ทันทีที่ประตูปิดลง ผู้หญิงที่ซูจ้านนึกว่าหลับไปแล้วก็ลืมตาตื่นขึ้นมา มือของเธอขยับเล็กน้อย ไออุ่นจากฝ่ามือของเขายังคงอยู่
เธอลืมตามองขึ้นไปยังเพดาน น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มันไหลลงไปข้างใบหูไปจนถึงเส้นผม
คำคืนนี้ผ่านไปอย่างทุกข์ทรมาน แม้จะมีความเจ็บปวดในใจมากเพียงใดก็ไม่อาจพูดออกมาได้ ทำได้เพียงแต่อดทนกับมันเพียงลำพัง
นี่เป็นความทุกข์ระทมของเธอเอง เธอไม่อาจเปลี่ยนแปลงมันได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ จากนั้นก็พยายามมีชีวิตอยู่
ส่วนเรื่องความรู้สึก——เกรงว่าเธอคงไม่มีแรงและความกล้าพอที่จะแตะต้องมันอีก
หล่อนเคยบอกกับหลินซินเหยียนไว้ว่าหล่อนยังคงเชื่อมั่นในความรัก แต่ว่านี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้างเพื่อให้หลินซินเหยียนไม่คิดมากเท่านั้น
เธอจะกล้ามีหน้าไปมีความรักได้ยังไง?
ทั้งเรื่องที่เสียลูก ทั้งเรื่องร่างกายพิการ หัวใจของเธอเฉยชาไปหมดแล้ว
ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น ค่ำคืนอันมืดสนิทลับหายไป พระอาทิตย์ขึ้นต้อนรับวันใหม่
ฉินยาค่อยๆหลับตาลง เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอนอนไม่หลับทั้งคืน
ณ เวลาหกโมงกว่า ป้าหยูกับคุณน้าหวางตื่นแล้ว ฝีมือทำกับข้าวของคุณน้าหวางเยี่ยมมาก ป้าหยูถึงได้ทิ้งครัวให้คุณน้าหวางเตรียมอาหารเช้า แต่ว่าก็มีบอกกำชับในเรื่องการกินของคนในบ้านไว้ด้วย
จงเหยียนเฉินตื่นเช้าได้ แต่ว่าจงเหยียนซีไม่ได้เลย หล่อนมักจะขอนอนต่ออีกนิด ถึงแม้จะตื่นแล้วก็ก็ยังนอนเล่นอยู่บนเตียง
หลินซินเหยียนที่อยู่ชั้นบนก็ตื่นแล้วเหมือนกัน พอคิดว่าซูจ้านยังอยู่ที่นี่จึงคิดว่าควรจะตื่นแล้ว ทว่าพอเธอเลิกผ้าห่มออกก็ถูกใครบางคนคว้าตัวไว้ เขาเอาขาขึ้นมาพาดอยู่บนตัวเธอ