กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 625
กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม บทที่ 625
ปลายสายนั้นมีเสียงของจงจิ่งห้าวดังขึ้น บอกให้เขาส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับการกระทำผิดของกู้เป่ยทั้งหมดมาให้เขา
เสิ่นเผยซวนพูด “ฉันรู้แล้ว”
เมื่อวางของทั้งหมดเอาไว้ในบ้าน เพื่อความปลอดภัยแล้วไม่ให้ใครในบ้านเห็น แต่ก็ไม่ได้วางเอาไว้ในสถานี
เมื่อพูดจบเขาก็วางสาย ก่อนจะมองซ่งหย่าซิน “คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันยังมีธุระ”
ซ่งหย่าซินพูด “ก็ได้”
เธอเปิดประตูขึ้นรถ หลังจากที่คาดเข็มขัดเธอก็เปิดกระจกพลางพูดกับเสิ่นเผยซวน “เรื่องของคุณ พ่อฉันพยายามช่วยคุณทุกอย่าง อีกอย่างฉันเองก็เชื่อคุณ”
อันที่จริงเสิ่นเผยซวนไม่อยากทำให้ผู้บัญชาการซ่งลำบาก แถมความสนิทสนมที่เกิดขึ้นทันใดของซ่งหย่าซิน ทำให้เขาไม่ชินเท่าไร่
เลยขอบคุณด้วยมารยาทไปเท่านั้น
ถึงอย่างไรเธอก็เป็นห่วงเขา
หลังจากที่ซ่งหย่าซินไปแล้ว เขาก็โบกแท็กซี่กลับไปที่พัก
หลังจากที่เอาของแล้ว เขาก็โทรถามจงจิ่งห้าวว่าอยู่ที่ไหน เขาส่งของไป จงจิ่งห้าวบอกว่าไม่ต้องส่งมาให้เขา ส่งมาทางอินเทอร์เน็ตก็พอแล้ว
เสิ่นเผยซวนเองก็ไม่ได้ถามเขาว่าจะเอาของเหล่านั้นไปทำอะไร เพียงแค่ส่งของไปก็เท่านั้น
หลังจากนั้นสองสามวันก็ผ่านไปอย่างเงียบสงบ ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เพราะถูกสืบ เสิ่นเผยซวนเลยไปทำงานไม่ได้
ช่วงนี้จงจิ่งห้าวไม่ได้กลับบ้านพัก ส่วนไปทำอะไรนั้น หลินซินเหยียนเองก็ไม่มั่นใจ เขาเลยโทรกลับมาบอกเรื่องที่ต้องทำ ช่วงนี้จะไม่กลับมา แล้วก็บอกเธอให้ไม่ต้องกังวล
ถึงแม้ช่วงนี้จะสงบ แต่ว่าก็เกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย จงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินกลับมาที่เมืองB อาการบาดเจ็บของฉินยาก็ดีขึ้น สามารถเดินได้แล้ว ตอนแรกเธออยากรีบกลับไปที่เมืองC แต่ว่าหลังจากที่จงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินมา ถึงจะรู้ว่าหลินซินเหยียนจะจัดงานแต่งกับจงจิ่งห้าว
ดังนั้นเธอเลยไปไม่ได้สักพัก อย่างน้อยก็ต้องรอให้งานแต่งของหลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าวเสร็จก่อนถึงจะไปได้
“คุณใส่อะไร?” ฉินยาถาม
หลินซินเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย โดยไม่มีสติ “หมายถึงใส่อะไรเหรอ?”
“งานแต่งงานของคุณ คุณใส่ชุดแต่งงานแบบตะวันตก หรือแบบจีนล่ะ” ฉินยากัดแอปเปิลในมือที่โซฟา
หลินซินเหยียนเข้าใจในทันที “ฉันไม่รู้ เขาเป็นคนจัดการ”
ฉินยา “……”
“คุณไม่รอคอยงานแต่งงานของตัวเองเลยเหรอ?” ฉินยาแสดงออกว่าไม่เข้าใจ ผู้หญิงทุกคนคาดหวัง ว่าตัวเองจะได้แต่งงานที่โรแมนติกและน่าจดจำไม่ใช่เหรอ?
ทำไมเธอดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ล่ะ?
หลินซินเหยียนไม่ใช่ว่าไม่มีความสุข และก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่เพราะผ่านมาเยอะแล้ว อารมณ์เลยสงบนิ่ง
“ถ้าเกิดเป็นเจ็ดปีก่อน ฉันจะต้องตื่นเต้นจนนอนไม่หลับแน่นอน งานแต่งงานเนี่ย เป็นเรื่องใหญ่ของผู้หญิง แต่คุณดูสิ ฉันกับเขาใช้ชีวิตเหมือนสามีภรรยาทั่วไปมาตั้งนานแล้ว งานแต่งงาน เป็นแค่พิธีเท่านั้น เป็นการบอกทุกคนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราก็เท่านั้นเอง” หลินซินเหยียนพูด
ฉินยาคิดอย่างละเอียดแล้วเหมือนจะจริง หลินซินเหยียนในตอนนี้ใช้ชีวิตกับจงจิ่งห้าวเหมือนช่วงหลังแต่งงาน แถมเป็นสามีภรรยาที่มีลูกสองคนแล้วด้วย เมื่อเห็นท้องของเธอ ฉินยาก็ยื่นมือมาลูบ “พวกคุณเหมือนสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานาน มีลูกสามคนแล้ว”
“เห้อ ทำไมเขาเองก็ไม่มาหาฉันเพื่อให้ออกแบบชุดแต่งงานที่จะใช้ในงานแต่งให้คุณนะ เขาไม่สนใจฉันเหรอ?คิดว่าฉันออกแบบไม่ดีงั้นเหรอ?” อันที่จริงฉินยาอยากช่วยหลินซินเหยียนออกแบบ
หลินซินเหยียนมองเธอ “น่าจะเป็นเพราะไม่อยากรบกวนเรา อีกอย่างคุณยังบาดเจ็บอยู่ ฉันบอกแล้วว่าให้เขารับผิดชอบให้หมดเลย”
“โอเค” ฉินยามองเวลา “ทำไมเด็กสองคนนั้นยังไม่กลับมา?”
เมื่อจงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินกลับมา หลังจากที่พักหนึ่งวัน วันนี้พาเด็กสองคนออกไปเที่ยว ตอนออกไปเพิ่งจะเที่ยง ตอนนี้ใกล้ตอนกลางคืนแล้ว
“จะกลับมากินข้าวเย็นไหม?จะหกโมงแล้วนะ” ฉินยาถาม
หลินซินเหยียนเองก็ไม่รู้ ตอนที่พวกเขาจะไปก็ไม่ได้บอกว่าจะมากินข้าวเย็นไหม
“สามีคุณไม่ได้กลับมาจะสองวันแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?” ฉินยาถามอีก
หลินซินเหยียนไม่ได้คิดเยอะ เพราะเธอเข้าใจดี ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องอะไร เธอเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ สื่งที่สามารถทำได้คือการดูแลบ้านให้ดี ให้เขาไม่กังวลอะไร ดังนั้น เธอเลยไม่อยากจะถามจงจิ่งห้าวว่าไปทำอะไรกันแน่
อันที่จริงถึงแม้ว่าไม่ถามก็พอจะเดาได้ ต้องเกี่ยวกับกู้เป่ยแน่นอน ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีเรื่องที่มั่นใจได้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
เพียงแต่เธอคิดไม่ถึง ว่ากู้เป่ยจะใส่ร้ายเสิ่นเผยซวน ตอนนี้เสิ่นเผยซวนเองก็กำลังถูกตรวจสอบ
เด็กทั้งสองตอนกลางคืนนี้กินข้าวข้างนอกก่อนจะกลับเข้ามา จงจิ่งห้าวเองก็ไม่ได้กลับมา อาหารเย็นเลยมีเพียงหลินซินเหยียนกับฉินยากินสองคน
ฉินยาพูด “ปกติเด็กทั้งสองอยู่ด้วย วันนี้พวกเขาไม่อยู่เลยเหลือเพียงเราสองคน ดูเงียบสงัดเหลือเกิน”
หลินซินเหยียนเองก็คิดแบบนั้น บ้านพักหลังนี้ใหญ่มาก หลังจากที่จงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินกลับมาก็อยู่จนเต็ม เด็กทั้งสองก็ย้ายขึ้นไป เลยเหลือห้องข้างล่างเอาไว้ให้พวกเขาพัก
ตอนแรกจงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินบอกว่าจะกลับมาพักที่บ้านเก่า แต่ว่าเพราะเฉิงยู่ซิ่ว หลินซินเหยียนกลัวว่าจงฉีเฟิงจะรู้สึกกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เลยให้พวกเขาพักในบ้านพัก เด็กทั้งสองก็มาอยู่กับคนแก่อย่างพวกเขา เลยไม่รู้สึกเหงาแล้ว
“คุณโทรหาอารองหรือยัง?” ฉินยาคีบมะเขือม่วงเผาเข้าปาก
ถึงอย่างไรก็เป็นงานแต่งงานของหลินซินเหยียน ต้องบอกช่าวหยุน
หลินซินเหยียนพูด “กินข้าวเย็นเสร็จค่อยโทร”
หลังจากที่ในบ้านมีคุณน้าหวางมางานบ้านก็ยุ่งขึ้นมา เด็กสองคนก็โตแล้ว ไม่ต้องให้หลินซินเหยียนอาบน้ำให้พวกเขาแล้ว ตอนนี้เธอสบายมาก แต่ว่ายิ่งรู้สึกเหนื่อยมากกว่าเดิม
อาจจะเป็นเพราะมากเดือนขึ้นเรื่อยๆ เลยเป็นแบบนี้ก็ได้
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เธอก็นอนบนเตียงก่อนจะโทรหาช่าวหยุน แต่สิ่งที่ตอบกลับมานั้นคือการโทรไม่ติด
ผ่านไปสักพักเธอก็โทรอีก มันก็ยังติดสายอยู่ โทรไม่ติดสักที
เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว และคิดว่าแปลกทำไมมันถึงโทรไม่ติด เธอวางโทรศัพท์ลง เตรียมจะโทรใหม่ในวันพรุ่งนี้ บางทีวันนี้เขาอาจจะอยู่ในที่อับสัญญาณ เลยทำให้โทรไม่ติด
ช่วงนี้จงจิ่งห้าวไม่อยู่ เธอเลยนอนดึก จู่ๆ ข้างกายไม่มีใคร เธอก็รู้สึกไม่ชิน
ถึงแม้จะไม่อยากทำให้เขาลำบาก แต่ว่าใจก็กังวลความปลอดภัยของเขา กลัวว่าเขาจะเกิดอันตรายข้างนอก
นอนอยู่บนเตียงตั้งนานแต่ก็นอนไม่หลับ เลยอยากโทรหาเขามาก แต่ว่ากลัวว่าจะรบกวนเขา สุดท้ายเลยอดทนเอาไว้
พลิกตัวไปมาก็นอนไม่หลับ จากนั้นเลยนอนหลับไปกลางดึก ตอนเช้าก็ตื่นขึ้นมาเช้าตรู่
แต่ทว่า วันนี้กลับไม่ใช่วันธรรมดา
เกิดเรื่องในเมืองB
ประตูใหญ่ของศาลากลางมีคนอยู่มากมายอออยู่ พวกเขาไม่ใช่คนของเมืองBเลย แต่เป็นคนชนบทที่อยู่ห่างไกลแสนไกล
พวกเขาเป็นคนแก่ มีหญิงแต่งงานแล้วมากมาย กำลังขอคำอธิบายจากรัฐบาล แถมยังมีเส้นสีเหลืองกั้นด้วย
มันเกิดขึ้นเหมือนมีคนวางแผนเอาไว้แล้ว เพราะเพียงคืนเดียว ก็มีคนมากมายมาที่เมืองBอย่างเงียบๆ แล้วมาออกันอยู่ที่ทำการของรัฐ ขนาดสื่อใหญ่ๆ มากมายยังเผยแพร่ข่าวตั้งแต่ตอนแรกเลย
สื่อมากมายเข้ามาสัมภาษณ์ นักข่าวสาวคนหนึ่ง ถือไมค์เข้าไปสัมภาษณ์
“ขอถามหน่อยว่าพวกคุณเป็นคนที่ไหน ทำไมถึงมาก่อความวุ่นวายที่นี่?”
คนที่ถูกสัมภาษณ์เป็นหญิงวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่า ผู้หญิงคนนั้นผอม ผิวสีดำ ข้างกายมีเด็กน้อยสองคน ผู้หญิงเปิดปากพูดขึ้น แถมยังพูดด้วยสำเนียงถิ่นจริงจัง “เราไม่ได้มาก่อเรื่อง”
นักข่าวถาม “งั้นพวกคุณมาทำอะไรที่นี่?”
หญิงวัยกลางคน “เราอยากได้คำอธิบาย”
นักข่าวถามอีก “พวกคุณอยากได้คำอธิบายอะไร?”
หญิงวัยกลางคนตอบ “ฉันมาจากมณฑลx อำเภอหนิง สามีฉันเป็นช่างปั้นหม้อธรรมดาๆ คนหนึ่ง สิบห้าปีก่อนเพราะเกิดอุบัติเหตุตึกพังทลายลงเลยตาย”
นักข่าวงงเป็นอย่างมาก “เกิดอุบัติเหตุพังทลายเมื่อสิบห้าปีก่อน น่าจะเป็นเพราะสิบห้าปีก่อนหาคนมารับผิดชอบเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ?”
“เพราะก่อนแก้ไขปัญหาไปตั้งแต่สิบห้าปีก่อนหน้านี้แล้ว” ครั้งนี้เด็กสองคนข้างๆ หญิงวัยกลางคนเป็นคน ท่าทีราวๆ สิบหกสิบเจ็ด ตอนที่พ่อตาย เธอเพิ่งจะสองขวบเอง “เราเลยมา เพราะอยากรายงานกับรัฐบาลเรื่อง พนักงานระดับสูงอายุราวๆ ห้าสิบปีของอำเภอหนิงคนหนึ่งสักหน่อย”
นักข่าวเอาไมค์ยื่นไปที่เด็กสาวคนนั้น “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม?ทำไมต้องร้องเรียนพนักงานคนนี้ด้วย”