กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 627 พัสดุชิ้นหนึ่ง
“คุณธรรมงั้นเหรอ?คุณธรรมคืออะไร?คุณบอกมาหน่อยสิ” ลูกสาวคนรองเอาแต่ใน และก็พูดตรงไปตรงมาด้วย “คนที่มีคุณธรรมจะไม่ทำแบบนี้!”
กู้เป่ยโกรธ แต่ก็เถียงอะไรไม่ได้ และหาคำมาเถียงไม่ได้ด้วย
“คุณเป็นลูกสาวของพ่อ คุณมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ” กู้เป่ยคิดอยู่นานกว่าจะหาคำมาเถียงเธอ
ลูกสาวคนรองหัวเราะเสียงเย็นชา “ฉันต้องรับผิดชอบอะไร?รับผิดชอบดูแลคนที่ไม่รู้จักคุณธรรมน่ะเหรอ?”
คุณแม่กู้ตบโต๊ะ “คุณพูดแบบนี้ได้อย่างไร?เขาเป็นพ่อนะ!”
ลูกสาวคนรองหันมามองแม่ “เขาเป็นพ่อฉัน เขาเคยให้ความรักกับฉันไหม?เห็นฉันเป็นลูกสาวหรือเปล่า?ฉันโตขนาดนี้แล้ว ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย และก็ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวด้วย”
คุณแม่กู้พูดไม่ออก มันก็จริง เพราะมีลูกสาวคนโตแล้ว เลยอยากได้ลูกชายเป็นคนที่สอง แต่ว่ากลับเป็นลูกสาวอีกเลยเอาไปให้บ้านพี่ชายเลี้ยง
ชีวิตที่ฝากเอาไว้กับคนอื่นนั้นไม่ดี
“ฉันไม่มีความสามารถไปสนใจ คุณยอมรับลูกสาวอย่างฉัน คุณก็ยอมรับไป ถ้าไม่ยอม ก็ทำเหมือนไม่เคยคลอดฉันออกมา เพราะถึงอย่างไรคุณเองก็ไม่เคยเลี้ยงอยู่แล้ว” พูดจบก็หันตัวเดินออกไป
เมื่อเดินไปที่ประตูก็หยุดลง ก่อนจะหันไปมองน้องๆ ที่อยู่ในห้องรับแขก “พวกคุณยากจะสนใจก็ทำไป ฉันไม่ห้าม พวกคุณอยากจะยอมรับพี่สาวอย่างฉันก็ทำไป ถ้าไม่ยอมรับฉันเองก็ไม่ว่า ตอนเจอกับก็เรียกฉันว่าพี่สักหน่อย เราก็ยังเป็นพี่น้อง ถ้าเกิดไม่ยอมรับ ก็ทำเหมือนคนแปลกหน้าไปเลย ใครก็ห้ามสนใจกัน”
“พี่รอง……” มีคนอยากโน้มน้าว
“อย่าพูดเลย ถึงแม้เราจะคลานตามกันออกมา เป็นพี่น้องกัน แต่ว่าจะยุ่งกับความคิดและการกระทำคนอื่นไม่ได้ ฉันพูดชัดแล้ว ว่าถ้าไม่ชอบหน้าฉัน ก็ทำเหมือนฉันเป็นคนแปลกหน้าได้ เจอก็ทำเป็นไม่รู้จักกัน” ลูกสาวคนรองตัดบทของน้องสาวคนที่ห้า
เมื่อพูดจบเธอก็เดินออกไปใหม่ เดินไปอย่างมั่นอกมั่นใจเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้นคุณนายโจวเองก็ลุกขึ้นมา “ความประพฤติของหวยโฮ่นั้นโด่งดัง ทุกคนต่างรู้หมด ฉันจะไม่พูดมากแล้ว เขาเป็นพ่อของฉัน ทำผิดหรือถูกฉันจะไม่วิจารณ์อะไร เรื่องนี้ หวยโฮ่ไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งแน่ๆ ฉันเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ขอตัวก่อนนะ”
“น้องสามคุณเองก็ไม่ดูแลพ่อแล้วเหรอ?” พี่คนโตมองเธออย่างผิดหวัง
คุณนายโจวพูดอย่างไม่รีบร้อน “ไม่ใช่ว่าฉันไม่สนใจ แต่ดูแลไม่ได้ คุณบอกมาสิว่าจะให้ฉันเอาอะไรไปดูแล?”
ลูกคนโตพูดอะไรไม่ออก ทุกคนต่างรู้ว่าโจวหวยโฮ่นั้นมีชื่อเสียงในวงการขนาดไหน
เมื่อเกิดเรื่องในครั้งนี้ ทุกคนจะต้องจับตามองคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลกู้แน่นอน จะมีคนสนใจการกระทำของพวกเขาแย่ลงเล็กน้อย ก็อาจจะลากใครเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วถูกคนตำหนิติเตียนเอาได้
ลูกคนโตพูดอะไรไม่ออก แต่ทว่าถูกลูกๆ ที่แม่เลี้ยงมานั้น ชินกับความรักของพ่อแม่มากกว่าคนที่ถูกเลี้ยงมาจากที่อื่น
อยากแก้ไขเรื่องนี้มาก เพราะกลัวว่าพ่อจะติดคุก
“ฉันกับหวยโฮ่เป็นสามีภรรยากันมาหลายปี ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกัน และก็ไม่เคยมีลูกชาย มีเพียงฉุนฉุนที่เป็นลูกสาวคนเดียว เขารักลูกสาวกับฉันมาก ฉันไม่มีทางทำเรื่องที่ทำให้เขาลำบากใจ ขอให้แม่กับพี่เข้าใจด้วย” คุณนายโจวเองก็แสดงท่าทีออกมา ว่าไม่มีทางทำเพื่อพ่อ แล้วทำให้สามีต้องตกที่นั่งลำบาก
“คุณนี่มันเดรัจฉานจริงๆ เลย!ขนาดความปลอดภัยของพ่อยังไม่สนใจ!” กู้เป่ยโกรธฟาดงวงฟาดงา
พี่หลายๆ คนต้องหันไปมองทางเขา
“คุณพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?!” ลูกคนที่สี่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะพูดอย่างไรพวกเขาก็มีพ่อแม่คนเดียวกัน พี่สาวและน้องชายที่มีแม่คนเดียวกัน เขามาว่าแบบนี้ได้อย่างไร?
“พี่คนที่สามของคุณพูดชัดเจนแล้วว่าทำไมถึงเข้ามายุ่งไม่ได้ คุณด่าได้อย่างไร?เป็นลูกชายสุดที่รักคนเดียวจริงๆ ขนาดธรรมทั่วไปในใจยังไม่รู้เลยใช่ไหม?” พี่คนที่สี่โกรธเป็นอย่างมาก และไม่ชอบหน้ากู้เป่ยมานานแล้ว น้องชายเพียงคนเดียว ไม่รู้จักเคารพพี่สาวเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อ เธอคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้
“พวกคุณหยุดทะเลาะกันได้แล้ว!” คุณแม่กู้โกรธเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะรู้เหตุผลของลูกสาว ในใจนั้นยังโกรธแต่เมื่อคิดถึงตัวตนของโจวหวยโฮ่ ก็สงบความโกรธลงก่อนจะพูดกับลูกสาวดีๆ
“ฮุ่ยซิน ตัวตนของหวยโฮ่นั้นจะช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน……”
คุณนายโจวตัดบทแม่ “ความประพฤติของหวยโฮ่น่ะคุณน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง เขาไม่มีทางเข้ามายุ่ง ถึงแม้ว่าฉันจะขอเขาก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเกิดคุณอยากเห็นเราหย่ากัน ฉันจะกลับไปทะเลาะกับเขา หาเรื่องกับเขา ฉันเชื่อฟังคุณ”
คุณนายโจวตั้งใจเอาสิทธิ์ในการเริ่มให้คุณแม่กู้
ปกติเธอยังสนใจลูกสาวคนนี้อยู่บ้าง และจะไม่มีทางทำให้ครอบครัวของเธอแตกสลาย
คุณแม่กู้พูดอะไรไม่ออกจริงๆ
ลูกสาวเหล่านี้นอกจากลูกสาวคนโตกับลูกชายคนเล็ก เธอก็ไม่เคยได้รับความรับผิดชอบอะไรจากแม่ แค่คลอดพวกเธอออกมา แต่ไม่เคยดูแลและใส่ใจเลย
“จะไปก็ไป คิดว่าถ้าไม่มีคุณเราจะช่วยใครไม่ได้งั้นเหรอ?” กู้เป่ยไม่อยากเห็นเธอทำให้แม่ลำบากใจ
คุณนายโจวโค้งตัวให้แม่ ก่อนจะพูดกับน้องที่ยังอยู่ “ฉันอาจจะทำไม่ถูก แต่ก็ขอให้พวกคุณเข้าใจด้วย”
เหล่าน้องสาวพูดอย่างมีเหตุผล “คุณกลับไปเถอะ เรารู้ว่าคุณลำบากใจ อันที่จริงเราต่างมีเรื่องของครอบครัวตัวเองกันทั้งนั้น แต่ไม่ว่าอย่างไรคนที่เกิดเรื่องก็เป็นพ่อของเรา จะไม่ชอบเขาแค่ไหน ก็ไม่สนใจไม่ได้ เราจะหาวิธี คุณวางใจเถอะ”
น้องพูดแบบนี้ออกมา ก็เห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจความสนิทของญาติๆ แต่เธอก็ไม่เสียดายที่ตัวเองตัดสินใจแบบนี้
เธอหันหลังเดินออกจากตระกูลกู้ ด้วยอารมณ์ที่พูดไม่ถูก
ทุกอย่างที่ทำนั้นไม่พอใจพ่อเป็นอย่างมาก แต่ว่าในฐานะที่เป็นลูกสาวเธอก็ไม่สามารถตำหนิตรงๆ ได้
เมื่อนั่งรถกลับบ้านไป ก็สงบสติอารมณ์ถึงจะเข้าห้อง เธอไม่อยากเอาอารมณ์ไม่ดีกลับบ้านไป เพียงเพราะเรื่องของพ่อ
โจวหวยโฮ่ไปทำงานยังไม่กลับมา ในบ้านมีเพียงลูกสาวคนเดียว คุณนายโจวถาม “ทำไมมีคุณคนเดียวล่ะ ยิ่นหนิงล่ะ?”
“ฉันเองก็ไม่รู้ เขารับพัสดุชิ้นหนึ่งแล้วก็ออกไปเลย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน” โจวฉุนฉุนพูดไป เธอก็เขียนเสร็จพอดี จากนั้นก็วางปากกาแล้วมองไปทางคุณนายโจว ถึงจะพบว่าสีหน้าของเธอนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยถาม “แม่เป็นอะไรเหรอ?”
คุณนายโจวรีบส่ายหัว “ไม่มีอะไร ฉันไปนอนในห้องสักหน่อยนะ” เพียงไม่นานเธอก็คิดถึงเรื่องอื่นขึ้นมาได้ “ฉุนฉุน พวกคุณจะกลับไปที่ไป๋เฉิงเมื่อไหร่?”
เธอไม่อยากให้ลูกสาวอยู่ที่นี่เลย เพราะคิดว่ามันไม่ใช่ที่ที่เหมาะกับการใช้ชีวิต
มันมักจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
โจวฉุนฉุนพูด “เดี๋ยวก่อน ยิ่นหนิงยังมีธุระที่ยังจัดการไม่เสร็จ อีกหลายวันถึงจะกลับไปได้”
ครั้งก่อนไป๋ยิ่นหนิงไปหาจงจิ่งห้าว เพราะอยากจะร่วมงานกับเขา แต่ว่าจงจิ่งห้าวหลบหน้าเขา เลยไม่ได้เจอ
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมงานกับจงจิ่งห้าว เขาเองก็ไม่สามารถไปได้ทั้งแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่าเขานั้นกลั่นแกล้งได้ง่ายๆ ตอนนี้เกาหยวนยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ถึงแม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ว่าก็เจ็บไม่น้อย เขาจะไม่แก้แค้นคนที่คิดตามตัวเองได้อย่างไร?
ช่วงนี้เขาไม่ได้พักเลย เพราะให้คนไปตรวจสอบกู้เป่ย แล้วก็ให้คนใช้โจวหวยโฮ่ไปด้วย เพื่อการดึงคนใหญ่คนโตเข้าด้วยกัน
เตรียมจะแก้แค้นกู้เป่ย แล้วในตอนนี้เอง เขาก็ได้รับพัสดุชิ้นหนึ่ง