กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 635 ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายซะหน่อย
เสิ่นเผยซวนจัดการเรื่องเชื่อถือได้ จงจิ่งห้าววางใจ “มีอะไรนายค่อยติดต่อฉัน”
เขาตอบ “รู้แล้ว งั้นฉันไปก่อนล่ะ”
ขณะพูดเขาลุกยืนขึ้น ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น เขาควักมือถือออกมาเห็นว่าเบอร์ที่แสดงเป็นของสำนักงานผู้บัญชาการซ่ง เขาไม่ได้รับทันที แต่มองไปทางจงจิ่งห้าว “ผู้บัญชาการซ่ง โทรหาฉันจะต้องมีธุระแน่ ฉันไปล่ะ”
จงจิ่งห้าวพยักหน้า
ซูจ้านมองเสิ่นเผยซวนที่เดินไป แล้วก็มามองจงจิ่งห้าวอีก “พวกนายตกลงกันจบแล้ว?”
ทำไมเขาเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจเลยล่ะ?
แต่ว่าไม่มีใครสนใจเขา จงจิ่งห้าวเดินไปหน้าโต๊ะทำงาน เหล่มองเขาแวบหนึ่ง “นายไม่ไปหรอ?”
กะว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้ต่อไปงั้นหรอ?
“ภรรยาฉันอยู่บ้านนายนี่นา ให้ฉันไปไหน? ไปบ้านนาย?” ซูจ้านเดินมาหน้าโต๊ะ “ฉันขอพูดความจริง”
จงจิ่งห้าวเปิดเอกสารที่กวนจิ้งวางไว้บนโต๊ะที่จะต้องเซ็น ไม่ได้เงยหน้า ถามน้ำเสียงนิ่งๆ “ความจริงอะไร?”
“นายได้รับการอภัยจากพี่สะใภ้ได้ยังไง?” ซูจ้านกะพริบตาปริบๆ สำหรับฉินยา ไม้อ่อนไม้แข็งเขาก็ใช้ไปหมดแล้ว แต่ว่าฉินยาก็ยังไม่ยอมใจอ่อนเลย
ไม่มีวี่แววว่าจะคลายออกสักนิด
เขาแค่อยากได้ภรรยากลับมาก็เท่านั้นเอง ทำไมมันยากขนาดนี้?
ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ซะอีก
จงจิ่งห้าวละสายตาจากเอกสาร เหลือบสายตามองเขา “เอาเสน่ห์ของเพศชายของนายออกมา”
ซูจ้าน “……”
เสน่ห์ของเพศชายคืออะไร?
เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ “นายสอนฉันหน่อยสิ?”
“นายมันโง่จนเกินเยียวยาแล้ว” จงจิ่งห้าวไม่ลังเลที่จะทำลายความกระตือรือร้นของเขา
ซูจ้าน “……”
เขายืดตัวตรง หัวเราะแห้งๆ “นายอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นายก็ไม่ได้ง้อพี่สะใภ้ให้คืนดีได้ในทันทีเหมือนกัน”
จงจิ่งห้าวจ้องเขาอย่างเย็นชารอบหนึ่ง “งั้นนายยังมาถามฉัน?”
ซูจ้านถึงกับสะอึก ผ่านไปสักพัก หัวเราะเหอะๆและพูดว่า “ฉันรีบร้อนไงล่ะ นายช่วยฉันหน่อยนะ? ช่วยฉันคิดหน่อย?”
จงจิ่งห้าวตอบ “ไม่ว่าง”
ซูจ้าน “……”
“นายไม่ช่วยฉัน ฉันไปหาพี่สะใภ้ก็ได้ ให้เธอช่วยฉัน” พูดจบก็เดินไปทางประตู
เขาก็ไม่ได้คิดจะไปรบกวนหลินซินเหยียนจริงๆ ก็แค่ตั้งใจพูดให้จงจิ่งห้าวได้ยิน จงจิ่งห้าวยังไม่เข้าใจอีกหรอ?
เป็นคนประเภทที่รักและหวงแหนภรรยาอย่างมาก
จะทนเห็นตนเองไปหาหลินซินเหยียน เพิ่มปัญหาให้เธอได้ยังไง?
เขาจงใจบิดลูกบิดประตูอย่างช้าๆ
“หยุดก่อน!”
จริงอย่างที่คิด ขณะที่เขายังไม่เดินออกจากห้อง จงจิ่งห้าวเรียกเขาให้หยุด
เขาทำหน้าหงิก หันหน้ามา ถามว่า “อะไร?”
จงจิ่งห้าวนวดขมับ เขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการไล่จีบผู้หญิงจริงๆ สำหรับหลินซินเหยียน ตอนแรกก็เป็นการบังคับ ต่อมาถึงจะค่อยๆยอมรับ มันเป็นขั้นตอนอย่างหนึ่ง
เหมือนว่าความรู้สึกจำเป็นต้องใช้เวลา จะมีรักแรกพบอะไรนั่นที่ไหน ต่างก็เห็นข้อดีหรือข้อเสียของอีกฝ่าย แล้วค่อยๆถูกดึงดูด
จงจิ่งห้าวจะมองความคิดเขาไม่ออกงั้นหรอ?
แต่ว่าก็ไม่ได้ไปขัด วันหนึ่งหากเขาเอาฉินยากลับมาไม่ได้ ก็คงจะไม่ทำอะไรนั่งว่างๆอยู่หน้าเขาทั้งวันแน่ๆ
แบบนี้มันไม่ใช่เรื่อง ฉินยาออกห่างอยู่แบบนี้เขาเองก็ไปต่อไม่ถูก
“บอกมา นายอยากให้ฉันทำอะไร?”
ซู่จ้านหัวเราะฮิๆ เดินเข้ามา ฟุบบนโต๊ะทำงานของจงจิ่งห้าว เข้าไปใกล้เขา
จงจิ่งห้าวเอนตัวไปข้างหลัง พูดว่า “ไปห่างๆฉันหน่อย”
พูดคุยก็พูดคุยสิ เข้าใกล้เขาขนาดนี้ทำไม?
ซูจ้านส่งเสียงไม่ชอบใจ ในใจพูดว่า ใครอยากเข้าใกล้นายกัน? ฉันไม่ได้ชอบผู้ชายซะหน่อย
“ให้พี่สะใภ้นัดฉินยาออกมาสิ บ้านนายคนเยอะ ฉันมีอะไรก็พูดไม่ได้ ฉันอยากเจอเธอข้างนอก” ซูจ้านพูด
จงจิ่งห้าวมองเขา ไม่ได้รับปากทันที คิดพิจารณาในใจถึงความน่าจะได้ของเรื่องนี้ จะเกี่ยวโยงไปถึงหลินซินเหยียนรึเปล่า?
เดี๋ยวซูจ้านทำเรื่องอะไรที่มันเกินเลย ฉินยาจะมาโทษหลินซินเหยียนอีก
นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากเห็น
“ฉันโทรไปถามก่อน”
จงจิ่งห้าวหยิบมือถือขึ้นมายังไม่ทันกดเบอร์ ซูจ้านก็รีบมาจับโทรศัพท์ไว้ “นายพูดไป ฉินยายังจะออกมารึไง?”
“ดูนายที่ไม่มีอนาคตสิ” จงจิ่งห้าวเอามือเขาออก “ฉันไม่โทรศัพท์ แล้วเธอจะออกมาได้ไง?”
ซูจ้านไม่ได้เถียง ค่อยๆเอามือกลับมา
จงจิ่งห้าวกดโทรเบอร์ของหลินซินเหยียน
แต่เขาบอกซูจ้านไว้ก่อนล่วงหน้า ถ้าหากหลินซินเหยียนไม่เห็นด้วย เขาก็จะไม่บังคับ
ภรรยาจะทำให้โกรธไม่ได้
ซูจ้านเบ้ปาก ในใจคิดไอ้เพื่อนที่เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน
ก็ได้แค่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา
กลัวเขาจะไม่ช่วยตนเอง
หลินซินเหยียนกำลังพูดคุยออกแบบกับฉินยา ออเดอร์ชุดแต่งงานสไตล์จีน ต้องการใช้เป็ดแมนดารินเป็นหัวข้อเย็บปักถักร้อย
เป็ดแมนดารินความหมายดีมาก แต่ว่าใส่ไว้บนชุดแต่งงาน ยังต้องคิดพิจารณาดีๆ จะออกแบบยังไงให้ไม่เป็นการละเมิด และสามารถบ่งบอกความหมายออกมาได้
ฉินยาอยากจะทำแบบสองชิ้น สไตล์ที่มีเสื้อนอก
หลินซินเหยียนกำลังดูรูปเป็ดแมนดาริน ดูว่าแบบไหนเหมาะที่จะเย็บลงบนเสื้อผ้า
โทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆดังขึ้น เธอไม่ได้ไปมองดูจอแสดงสายที่โทรเข้ามา ก็กดรับแล้ว “ฮัลโหล”
“สะดวกคุยมั้ย?”
ที่ดังออกมาคือเสียงของจงจิ่งห้าว เขาพึ่งจะออกไปได้ไม่นาน ทำไมถึงโทรศัพท์มาล่ะ? หลินซินเหยียนเอาโทรศัพท์ออกมาดู ที่จอแสดงเป็นเบอร์ของเขาจริงๆ แล้วก็เอามือถือกลับไปแนบข้างหูอีกครั้ง ตอบว่า “สะดวก คุณพูดมาเถอะ”
ฉินยาอยู่ใกล้กับเธอมาก แม้แต่เสียงในโทรศัพท์ก็ได้ยิน เข้าไปใกล้หูอีกข้างของหลินซินเหยียนและกระซิบว่า “สามีเธออยากจะคุยเรื่องส่วนตัวกับเธอหรือเปล่า?”
หลินซินเหยียนผลักเธอ
ฉินยากวนเธอ กอดไหล่ของเธอฟังว่าจงจิ่งห้าวจะพูดอะไรกับเธอ แน่นอน ถ้าหากจะพูดอะไรที่เป็นเรื่องลับๆส่วนตัว ไม่ควรฟังเธอก็จะไม่ฟัง ตอนแรกก็แค่กวนเธอเล่น แต่กลับได้ยินจงจิ่งห้าวพูดว่า “ซูจ้านอยู่ที่นี่”
หลินซินเหยียนได้ยินว่าเกี่ยวกับซูจ้าน ก็ไม่ได้กีดกันฉินยา ถามว่า “เขาอยู่นั่นมีอะไรหรอ?”
“เขาอยากเจอฉินยา”
หลินซินเหยียนมองไปทางฉินยา พูดกับโทรศัพท์ว่า “แล้วไงล่ะ?”
“เขาให้คุณพาฉินยาออกมา คุณว่าได้มั้ย?”
เขาถามความเห็นของหลินซินเหยียน
ยังไงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็สนิทกันมาก เขาไม่สามารถหลอกหลินซินเหยียนให้เธอพาฉินยาออกมาได้
หลินซินเหยียนไม่สามารถตัดสินใจได้แน่นอน หันหน้าไปมองฉินยา ถามความเห็นของเธอ
ฉินยาพยักหน้า
หลินซินเหยียนถึงจะกล้าตอบเขาว่า “ได้”
“งั้นตอนกลางวันกินข้าวด้วยกันนะ?” จงจิ่งห้าวถาม
“อืม สถานที่คุณเลือกละกัน” หลินซินเหยียนพูด
หลังจากที่ทางนั้นตกลงแล้ว หลินซินเหยียนก็วางสาย เธอมองฉินยา “เธอคิดยังไง?”
ฉินยาคิดสักพักและพูดว่า “ฉันอยากถือโอกาสนี้พูดกับเขาให้ชัดเจน”
“เธอตัดสินใจแล้ว?” หลินซินเหยียนถามอย่างไม่มั่นใจ
รู้สึกว่าพวกเขาที่จริงก็ยังมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่
“ย่าของเขาหวังว่าจะได้อุ้มหลานมากขนาดนั้น ฉันไม่สามารถมีบุตรได้ อีกอย่างเธอก็เห็นว่าเขาชอบเด็ก ต่อให้ตอนนี้อยู่ด้วยกันแล้ว ภายหลังก็ต้องขัดแย้งกันเพราะว่าไม่มีลูก สู้จบสิ้นกันแต่แรกดีกว่า” ท่าทางของฉินยาแน่วแน่มาก
“เธอดูไม่ออกหรอ? ซูจ้านจริงๆแล้วมีความรู้สึกต่อเธอลึกซึ้งมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ตามตื้อไม่เลิกหรอก เธอจะเย็นชายังไง เขาก็ไม่ยอมแพ้ มองออกเลยว่าเขาจิตใจแน่วแน่ เอางี้สิ เธอคุยกับเขาแบบเปิดเผยไปเลย ดูว่าเขามีท่าทียังไง เธอค่อยตัดสินใจ?”
ฉินยาส่ายหน้า “ฉันรับไม่ได้ ฉันไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ แล้วก็รับไม่ได้กับการแต่งงานที่มีข้อบกพร่อง”
ไม่ว่าคนอื่นจะว่ายังไง แต่เท่าที่เธอรับรู้ คนสองคนที่รักกัน แม้แต่ลูกสักคนก็ไม่มี นั่นคือไม่สมบูรณ์
มีสุภาษิตกล่าวไว้ว่า ลูกคือการตกผลึกของความรักระหว่างคนสองคน
พวกเขามีอะไร?
ไม่มีอะไรสักอย่าง
“เธอกะว่าจะโสดไปตลอด?” หลินซินเหยียนถามอย่างเป็นห่วง
ฉินยาส่ายหน้า “ไม่โสดไปตลอดหรอก” ขณะพูดเธอยิ้มให้หลินซินเหยียนทีหนึ่ง “อารองไม่ใช่โทรศัพท์หาเธอบอกว่าจะเข้ามางั้นหรอ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “อืม เขาบอกว่าเครื่องบินไฟลท์สิบโมง”
เดี๋ยวก่อน นี่มันเกี่ยวอะไรกับช่าวหยุน?