กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 672 ชีวิตของลูกทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้
จงเหยียนซีเองก็ไม่ได้นอน และไม่พูดอะไร แต่มุดตัวอยู่ในอ้อมกอดของหลินซินเหยียน จงเหยียนเฉินนั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม เม้มปากมองดูน้องสาวของเขา แล้วจู่ๆ เขาก็ลงจากโซฟา แล้วเดินไปตรงหน้าหลินซินเหยียน ก่อนจะลูบหัวน้องสาว แล้วถามเสียงอ่อนโยน “หิวไหม”
จงเหยียนซีไม่ได้ตอบ
เขาถอนหายใจ ครั้งนี้น้องสาวของเขาตกใจมากจริงๆ ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ
ตอนนี้ดึกแล้ว หลินซินเหยียนขอให้คุณแม่หยูพาจงเหยียนเฉินไปเข้านอน แต่เขาไม่ยอมไป “แล้วหม่ามี๊ล่ะครับ?”
“หม่ามี๊จะรอแด๊ดดี้ของลูกกลับมาก่อนจ้ะ” หลินซินเหยียนมองไปทางลูกชายของเธอ “เอาล่ะ ไปนอนได้แล้ว”
จงเหยียนเฉินนั่งลงข้างๆ เธอ แล้วพูดว่า “ผมอยากอยู่รอเป็นเพื่อนหม่ามี๊ครับ”
หลินซินเหยียนลูบศีรษะลูกชาย แล้วอุ้มเขาไว้ในอ้อมกอด มีพวกเขาอยู่ด้วย การรอคอยก็ไม่ทรมานเท่าไหร่แล้ว
คืนนั้นพวกเธอไม่ได้นอนทั้งคืน พอท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่างในตอนเช้า คุณแม่หยูก็พูดว่า “เดี๋ยวดิฉันไปทำอะไรให้กินหน่อยดีกว่าค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนพวกคุณก็ไม่ได้กินข้าว ด้วยสภาพร่างกายในปัจจุบันของคุณ ไม่กินข้าวไม่ได้”
“ทำมาสักหน่อยก็ได้ค่ะ”
จงจิ่งห้าวยังไม่กลับมา คงจะยังไม่ได้เบาะแสของเสิ่นเผยซวน เธอจะกินอะไรลงได้ยังไง
แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่กิน แต่ลูกทั้งสองก็ต้องกินบ้าง เดี๋ยวพวกจงฉีเฟิงกลับมาจะได้กินบ้าง เตรียมไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน
แต่ทุกอย่างที่เตรียมไว้ก็เปล่าประโยชน์ วันนี้พวกเขาไม่ได้กลับมาเลย
เด็กทั้งสองคนต่อต้านความง่วงไม่ไหว จึงผล็อยหลับไปบนโซฟา หลินซินเหยียนอุ้มจงเหยียนซีขึ้นไปชั้นบน ส่วนคุณแม่หยูอุ้มจงเหยียนเฉินไปนอนที่ห้องชั้นล่าง
เธอนั่งลงที่ขอบเตียงดึงผ้าห่มผืนเล็กๆ มาห่มให้ลูกสาว เธอไม่กล้าวางลูกสาวลงบนเตียง เพราะถึงแม้เธอจะนอนไปแล้วก็ยังสะดุ้งตกใจจนตื่นขึ้นมาได้อีก พร้อมกับรีบมองหาเธอ
คงจะเป็นผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุในครั้งนี้
คุณแม่หยูฟวางจงเหยียนเฉินไว้บนเตียง แล้วไม่เห็นวี่แววว่าจะตื่น เธอจึงไปที่ห้องครัวและยกชามน้ำซุปมาให้หลินซินเหยียน “คุณดื่มซุปชามนี้ก่อนค่ะ”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า “ฉันยังไม่อยากดื่มค่ะ”
“ถึงคุณไม่อยากดื่ม คุณต้องดื่มบ้างค่ะ คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะคะ” คุณแม่หยูยื่นมาตรงหน้าเธอ แล้วใช้ช้อนตักขึ้นมายื่นตรงหน้าเธอ “ฉันจะป้อนค่ะ”
“ไม่ต้องค่ะ วางบนโต๊ะก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันค่อยดื่มทีหลัง” หลินซินเหยียนจะให้คุณแม่หยูป้อนเธอได้ยังไงกัน เธอดื่มมันไม่ลงจริงๆ และเธอก็ไม่อยากให้คุณแม่หยูเป็นห่วงเธอด้วย
ในขณะนี้เอง มีเสียงเปิดประตูดังมาจากชั้นล่าง หลินซินเหยียนตื่นตัวขึ้นมาทันที “ใช่พวกเขากลับมาแล้วหรือเปล่าคะ?”
คุณแม่หยูเอ่ยพูด “ฉันจะลงไปดูให้ค่ะ”
สักพักก็มีเสียงฝีเท้าเดินขึ้นมาชั้นบน ไม่ใช่ของคุณแม่หยู เธอรีบหันไปมอง เป็นจงจิ่งห้าวที่เดินเข้ามา
“หาเจอไหมคะ” หลินซินเหยียนถามอย่างกังวลใจ
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบ เขาแค่ดึงคอเสื้อของเขาออกอย่างแรง สีหน้าของเขาเคร่งขรึม
หลินซินเหยียนนิ่งเงียบไป ต้องหาไม่เจอแน่นอนเลย ไม่อย่างนั้นอารมณ์ของเขาคงไม่เสียขนาดนี้
จงจิ่งห้าวเห็นซุปที่ยังไม่ถูกแตะที่วางอยู่บนโต๊ะก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “คุณยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ”
“ฉันกินไม่ลงค่ะ” หลินซินเหยียนก้มหน้าลง
จงจิ่งห้าวนั่งลงบนเตียง มองดูลูกสาวของเขา แล้วพูดเสียงขรึม “เป็นฝีมือของกู้เป่ยครับ ครอบครัวของเขาไม่รู้ว่าใช้วิธีไหนในการพาเขาออกมาจากที่นั่น เดิมทีพวกเขาเตรียมจะหนีไปต่างประเทศ แต่วันนั้นตรงกับวันที่ท่านกู้ถูกประหารชีวิต เลยอยากจะแก้แค้นผม”
ในช่วงสองคืนกับอีกหนึ่งวันที่เขาอยู่ข้างนอก เขาพยายามตามหาคนไปด้วย พร้อมกับตรวจสอบสถานการณ์ในขณะนั้นไปด้วย เขาให้คนตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนสะพาน เหตุการณ์ในตอนนั้นทั้งหมดถูกถ่ายไว้หมด
กู้เป่ยรู้ว่าเป็นรถของจงจิ่งห้าว แต่ไม่รู้ว่าคนที่ขับไม่ใช่จงจิ่งห้าว เขาขับรถออฟโรด และวิ่งเข้าชนรถที่เสิ่นเผยซวนขับอย่างบ้าคลั่ง ในเวลานั้นมีรถบนสะพานหลายคันบน เสิ่นเผยซวนไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ อีกทั้งในรถยังมีเด็กอยู่ด้วย เขาจึงยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ
ตอนที่รถของเขาถูกรถของกู้เป่ยบีบจนติดราวสะพาน เขารีบโยนจงเหยียนซีลงทางหน้าต่าง แล้วถูกคนช่วยไว้ ถึงได้ปลอดภัย ก่อนจะหลบหนี ส่วนเขากับคุณน้าหวางไม่ทันได้หนีลงจากรถ จึงพุ่งลงไปในน้ำพร้อมกับรถ
ใต้สะพานซีซินมีเขื่อนกั้นน้ำ และกระแสน้ำก็เร็วและแรงมาก ถ้าตกลงไปต้องมีอันตรายแน่ๆ
ตอนที่รถถูกกู้ขึ้นมา ประตูรถปิดอยู่ กระจกรถไม่ได้รับความเสียหาย แต่เสิ่นเผยซวนหายตัวไป เจอเพียงคุณน้าหวางที่จมน้ำตายเท่านั้น
ร่างกายของหลินซินเหยียนสั่นเล็กน้อย “แล้วตอนนี้กู้เป่ยล่ะคะ หนีไปแล้วเหรอ?”
“ไม่ครับ หลังจากชนเสร็จเขาคิดจะหนี ยังไม่ทันได้ขึ้นเครื่องบิน ก็ถูกจับกุมได้ในโรงแรมเล็กๆ ใกล้ๆ สนามบิน และถูกส่งไปยังสถานีตำรวจแล้วครับ”
เขาหยิบซุปบนโต๊ะขึ้นมาป้อนหลินซินเหยียน แล้วพูดปลอบ “เป็นเรื่องดีที่หาไม่เจอ เพราะมันหมายความว่าเขาอาจจะไม่เป็นไร ซูจ้านกับผู้บัญชาการซ่งยังคงตามหาอยู่ ผมกลับมาดูคุณ เดี๋ยวต้องออกไปตามหาต่อ”
หลินซินเหยียนเป็นห่วงมาก แม่น้ำทั้งสองฝั่งถูกปูด้วยหินจนเป็นตลิ่งเรียบ ถ้าอยากจะได้รับการช่วยเหลือ ถ้าไม่มีคนช่วยเหลือมันก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลย?
“กู้เป่ยออกมาได้ยังไงคะ” หลินซินเหยียนคิดไม่ตกจริงๆ พ่อของเขาเป็นแบบนั้นแล้ว ยังจะมีใครกัน ที่สามารถพาเขาออกมาได้?
ทันใดนั้นจงจิ่งห้าวก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ คนที่ชื่อกู้หุ้ยหยวนทายาทคนที่หกของตระกูลกู้เข้าใกล้หลินซินเหยียน อีกทั้งยังทำให้เสิ่นเผยซวนสืบประวัติได้ง่ายๆ จุดประสงค์ของเธอคืออะไรกันแน่?
ทำไปเพื่อสร้างความสั่นคลอนในความรักระหว่างเขากับหลินซินเหยียนจริงๆ เหรอ?
ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เลย ถ้าจะสั่นคลอนความรักของพวกเขาจริงๆ ไม่มีทางเลย ที่จะหายไปหลังจากปรากฏตัวสองแค่ครั้ง หรือว่าเธอจะทำไปเพื่อหลีกเลี่ยงคนของเขา แม้ว่าบรรดาลูกสาวของตระกูลกู้จะไม่พอใจตระกูลกู้มาก แต่สุดท้ายแล้วกู้เป่ยก็เป็นทายาทชายเพียงคนเดียวของตระกูล ตอนนี้ท่านกู้ถูกตัดสินประหารชีวิตแล้ว เพื่อรักษาทายาทคนสุดท้ายของตระกูลกู้ไว้ อาจจะร่วมมือกัน แล้วช่วยกู้เป่ยออกมา
“เอาล่ะ กินข้าวก่อนเถอะ” จงจิ่งห้าวหยิบถ้วยซุปขึ้นมา แล้วยื่นไปตรงหน้าเธอ “เด็กดี ถ้าคุณป่วยขึ้นมาลูกๆ จะทำยังไงล่ะครับ?”
หลินซินเหยียนเถียงเขาไม่ได้จริงๆ จึงทำได้เพียงอ้าปากของเธอขึ้น
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาตระกูลซ่งก็ไม่สงบ ผู้บัญชาการซ่งเองก็คอยตามหาคนอยู่ข้างนอก คุณนายซ่งนั่งบนโซฟา “ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้นะ พวกลูกเพิ่งจะดีกัน เขาก็มาเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้?
“พอแล้วค่ะคุณแม่ ไม่ต้องพูดเรื่องอัปมงคลแบบนี้ได้ไหมคะ” ซ่งหย่าซินกำลังอารมณ์เสีย ไม่อยากฟังเสียงบ่นของเธอ
“ก็แม่เป็นห่วงลูกนี่ ลูกเพิ่งหย่าร้างไป ตอนนี้ได้คบกับเสิ่นเผยซวน เขายังหายตัวไปอีก ชีวิตของลูกทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้”
ซ่งหย่าซินโกรธจัด จึงลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตรงไปที่ประตู
คุณนายซ่งตะโกนถามด้วยความเป็นห่วง “ดึกขนาดนี้แล้วลูกจะไปไหน”
“หนูจะไปหาคุณพ่อค่ะ จะได้ถามดูว่าได้เบาะแสอะไรบ้างหรือยังค่ะ” พอพูดจบเธอก็เดินออกจากประตูไป เพราะไม่อยากฟังคำบ่นของคุณนายซ่ง
เธอกดโทรหาผู้บัญชาการซ่ง “คุณพ่ออยู่ไหนคะ”
ผู้บัญชาการซ่งอยู่บนเรือค้นหา และกำลังค้นหาเสิ่นเผยซวนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังค้นหาอยู่
รู้ว่าลูกสาวของเขาจะต้องมา เขาจึงส่งตำแหน่งไปให้เธอทันที คิดว่าเธอจะต้องมาที่นี่แน่นอน เพราะเธอกับเสิ่นเผยซวนได้ตกลงคบหาดูใจกันแล้ว
ตอนนี้ไม่รู้ว่าเสิ่นเผยซวนเป็นตายร้ายดียังไง เธอน่าจะเป็นห่วงเขา และมาตามหาเขาแน่นอน
ซูจ้านเองก็ยืนอยู่บนเรือ เนื้อตัวเปียกโชก ในตอนกลางคืนแสงสว่างไม่ค่อยเอื้ออำนวย จึงต้องพึ่งสปอร์ตไลท์ส่องแสง เพื่อให้การค้นหาไม่ล่าช้า แต่ว่าผ่านไปนานขนาดนี้ ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมาซ่งหย่าซินก็เดินทางมาถึง และขึ้นมาบนเรือด้วยความช่วยเหลือของผู้บัญชาการซ่ง
“ยังไม่มีความคืบหน้าเลยเหรอคะ” สีหน้าของเธอเริ่มร้อนใจเล็กน้อย
ถึงแม้เธอเพิ่งมารู้ถึงความดีของเสิ่นเผยซวนในตอนหลัง แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันในช่วงหลายวันมานี้ ทำให้เธอรู้ว่า เสิ่นเผยซวน เป็นคนดีมากจริงๆ
พอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ฉันก็เป็นห่วงมากเหมือนกัน
ซูจ้านเหลือบมองเธอเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ซ่งหย่าซินเองก็ไม่ชอบซูจ้าน จึงไม่ได้พูดทักทายเช่นกัน
“คุณพ่อคะ เราเพิ่มคนมาทำการค้นหาไม่ได้เหรอคะ?” ซ่งหย่าซินพูด
“คนที่สามารถเรียกมาที่นี่ได้พ่อก็เรียกมาทั้งหมดแล้ว” เขาเองก็ร้อนใจเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว
ตอนนี้ออกมาจนถึงนอกเมืองแล้ว แม่น้ำสายนี้ก็ยาวมากด้วย ความรู้สึกของเขาหนักอึ้งขึ้นมา แบบนี้โอกาสที่จะมีชีวิตรอดมีน้อยมากจริงๆ