กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 70 ปล่อยผู้ชายหลายใจคนนั้นลอยนวลไม่ได้
ท่าทีของหลินซินเหยียนแข็งกร้าวมาก เธอพูดอย่างชัดเจน ถึงเขาไม่มา เธอก็จะไปอยู่ดี
เดิมที เธอก็รู้สึกโกรธที่กวนจิ้งตรวจสอบเธออยู่แล้ว และจงจิ่งห้าวยังใช้ลูกมาข่มขู่เธอ จากที่อารมณ์เสียอยู่แล้ว ตอนนี้กวนจิ้งยังมาปฏิเสธเธออีก
ท่าทีดีได้ก็แปลกแล้ว
พอกวนจิ้งได้ยินแบบนี้แล้ว ไม่กล้ารีรอ รีบมาในทันที
ท่าทางเขาเร็วมาก ไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงที่หน้าประตูแล้ว คงเพราะพักอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม
ได้ยินเสียงเคาะประตู หลินซินเหยียนเป็นคนเปิดประตูให้ กวนจิ้งยืนยิ้มอยู่หน้าประตูอย่างหน้าด้านๆ“คุณหลินครับ……”
หลินซินเหยียนไม่ได้สนใจเขา เธอเดินเข้าไปในห้องแล้วชี้ยาที่กองอยู่บนโต๊ะนั่น บอกวิธีการใช้และปริมาณของยาให้เขา
กวนจิ้งขมวดคิ้ว“คุณพูดว่าอะไรนะครับ?”
จงจิ่งห้าวบาดเจ็บ?
เป็นไปได้ยังไงครับ?
เห็นชัดว่ากวนจิ้งไม่เชื่อ
หลินซินเหยียนไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับเขา“ถ้าไม่เชื่อ นายก็ไปดูเอง ฉันจะกลับแล้ว”
พูดจบ หลิยซินเหยียนก็เปิดประตูออกไปเลย
กวนจิ้งยืนอยู่ข้างเตียงเดินไปมาอยู่สองรอบ ก็ยังรู้สึกประหลาดใจว่าจงจิ่งห้าวบาดเจ็บได้ยังไง?
สุดท้าย ความอยากรู้อยากเห็นก็อยู่เหนือกว่าเหตุผล เขายื่นมือจะไปเปิดผ้าห่มของจงจิ่งห้าวออก อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่แล้ว เขายังไม่ทันจะเปิด ผู้ชายที่ทีแรกหลับตาอยู่ ลืมตาขึ้นทันที“นายจะทำอะไร?”
กวนจิ้ง“……”
“เออ——ผม ผมได้ยินว่าคุณได้รับบาดเจ็บ……”
จงจิ่งห้าวตบมือเขาออก แล้วมองดูรอบๆห้อง มีแค่เขาคนเดียว เลยขมวดคิ้วขึ้นจนแน่น ผู้หญิงคนนั้นล่ะ?
กวนจิ้งดูออกว่าจงจิ่งห้าวกำลังสงสัยอะไรเลยถาม“คุณกำลังหาคุณหลินใช่มั้ยครับ?”
จงจิ่งห้าวเงียบ เหมือนยอมรับ
“ตอนเช้าเธอโทรมาหาผม แล้วเธอก็ไปเลยครับ”กวนจิ้งพูดจบแล้วยังคงจ้องเขาอย่างประหลาดใจ
เห็นชัดว่าเมื่อคืนหลินซินเหยียนอยู่ที่นี่ หรือว่าจงจิ่งห้าวใช้กำลังขืนใจเธอ พอหลินซินเหยียนต่อต้าน เลยแทงเขาจนได้รับบาดเจ็บ?
กวนจิ้งยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าความเป็นไปได้นี้สูงมาก
ถูกผู้หญิงแทงจนบาดเจ็บ?
กวนจิ้งแอบจินตนาการภาพจงจิ่งห้าวถูกปฏิเสธในเมื่อคืน เลยอดยิ้มไม่ได้
“ยิ้มอะไร?”จงจิ่งห้าวลุกขึ้นมานั่ง
“เปล่าครับ”กวนจิ้งรีบเก็บอาการ โดยทำหน้าจริงจังแล้วพูด“ประธานจงครับ คุณได้รับบาดเจ็บได้ยังไงครับ?แฮ่มๆ——ใช่คุณหลินทำหรือเปล่าครับ?”
“……”
จงจิ่งห้าวหน้าห้อย“ไสหัวไปไกลๆเลย!ไปเอาเสื้อผ้ามาให้ฉันชุดนึง”
นี่เขาถูกปฏิเสธจริงงั้นหรอ?
กวนจิ้งอยากจะหัวเราะ
อยากจะเห็นหน้าตาตอนจงจิ่งห้าวกินแห้วจัง
ยังมีผู้หญิงกล้าปฏิเสธเขา?
แม่เจ้า นี่มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ แต่เสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
เสียดายจริงๆที่ไม่ได้เห็น
จงจิ่งห้าวเปิดผ้าห่มลงจากเตียง บนตัวใส่แค่กางเกงตัวเดียว ท่อนบนมีผ้าก๊อซพันแผลพันเอาไว้ เดินเข้าไปหากวนจิ้งอย่างอารมณ์ร้าย“น่าขำมากเลยหรอ?”
กวนจิ้งอ้าปากแล้วถอนหายใจยาวทีนึง แล้วส่ายหัวด้วยท่าทีหนักแน่น“ไม่น่าขำครับ ไม่ขำเลยสักนิด ผมไปเอาเสื้อมาให้นะครับ”
พูดจบ เขาก็วิ่งหนีไป
กลัวว่าช้าไปก้าวนึง จะถูกจงจิ่งห้าวคิดบิลกับเขา
จงจิ่งห้าวเทน้ำมาดื่มแก้วนึง เห็นเก้าอี้ที่อยู่ข้างเตียง เหมือนเขาจะเห็นหลินซินเหยียนนอนอยู่ที่นั่งในเมื่อคืน
เหมือนเธอยังพูดอะไรกับเขา แต่ว่าเขาได้ยินไม่ชัด
รู้ว่าเธออยู่ดูแลเขาไม่ได้จากไป เขาก็อารมณ์ดีมากแล้ว
หลินซินเหยียนที่ตลอดทั้งคืนไม่ได้นอน แบกสังขารที่เหนื่อยล้ากลับมาถึงบ้าน เด็กสองคนมีจวงจื่อจิ่นคอยดูแลเลยไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เธออาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ ถึงเข้าไปดูเด็กที่ห้องนอน หลินลุ่ยซีหลับปุ๋ยเลย แถมท่านอนยังทำทำปากจู๋ หน้าแดงอย่างกับแอปเปิล เหมือนตุ๊กตาที่หลับอยู่ หลินซินเหยียนจูบหน้าผาลูกทีนึงแล้วค่อยเดินออกจากห้อง
ส่วนหลินซีเฉินตื่นแล้ว เขาเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันอยู่ในห้องน้ำเอง
“เมื่อคืน ลูกไม่ได้กลับมา เพราะเรื่องงานหรือเปล่า?”จวงจื่อจิ่นใส่ผ้ากันเปื้อนเดินออกมาจากห้องครัวแล้วมองหน้าลูกสาว
หลินซินเหยียนไม่กล้าสบตาเธอโดยที่หันหน้าไปอีกฝั่ง“ค่ะ เป็นเรื่องงานในร้านค่ะ”
จวงจื่อจิ่นจ้องหน้าลูกสาวที่รู้สึกละอายใจ“เมื่อวานตอนลูกกลับมา แม่เห็นลูกขึ้นรถอีกคันไป”
หลินซินเหยียนอ้าปากไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอลืมไปได้ไงว่าเมื่อคืนจงจิ่งห้าวขับรถมาจอดรับเธอถึงหน้าบ้าน?
เพราะฉะนั้น จวงจื่อจิ่นเห็นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ผู้ชายคนนั้นก็คือคนตระกูลจงคนนั้นใช่มั้ย?”ถึงจะเป็นคำถาม แต่น้ำเสียงฟังดูแน่ใจ
หลินซินเหยียนก้มหน้า“ค่ะ”
“ลูกทำไมยังติดต่อกับเขาอยู่อีก?”จวงจื่อจิ่นโกรธที่ลูกตัวเองไม่เอาไหน“พวกลูกหย่ากันแล้วนะ ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆอีกแล้ว รุ่ยเจ๋อเป็นคนดีขนาดนี้ ลูกทำไมไม่รู้จักถนอมรักษาเอาไว้ ต้องรอให้สูญเสียทุกอย่าง ลูกถึงคิดได้ใช่มั้ย?”
“หนูเปล่านะคะ”หลินซินเหยียนพยายามอธิบาย
เธอไม่เคยคิดจะมีอะไรกับจงจิ่งห้าวเลย
เธอรู้ฐานะตัวเองดี
และไม่เคยลืมท่าทีเฉียบขาดไร้เยื่อใยของเขาตอนขอหย่า
“ไม่มีก็ดี แม่ขอบอกลูกไว้เลยนะ แม่ไม่มีวันให้ลูกไปเกี่ยวข้องกับเขาใดๆอีกเป็นอันขาด!”น้อยมากที่จวงจื่อจิ่นจะพูดกับลูกสาวอย่างเข้มงวดแบบนี้
แต่กับเรื่องนี้ เธอไม่ยุ่งไม่ได้
หลินซินเหยียนยังสาว ย่อมจะถูกความรักบังตาเป็นเรื่องธรรมดา
หลังจากเธอคลอดลูก ถ้าผู้ชายคนนั้นยอมรับเธอได้จริง ตอนนั้นเขาก็คงไม่ขอหย่ากับเธอแล้ว
เธอเกิดอุบัติเหตุและคลอดลูกสองคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จวงจื่อจิ่นกลัวว่าเธอจะต้องทนกับความเจ็บปวดอีกครั้ง
หลินซีเฉินลืมตาโตยืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำ คุณยายพูดเรื่องอะไร?
ผู้ชายคนนั้นเป็นอดีตสามีของหม่ามี๊?
คือผู้ชายใจร้ายที่ทอดทิ้งหม่ามี๊และทอดทิ้งเขากับน้องสาว?
ในความคิดของหลินซีเฉิน ในเมื่อจงจิ่งห้าวคืออดีตสามีของหม่ามี๊ นั้นหมายความว่าเขาก็คือพ่อของพวกเขา
เขากำหมัดน้อยๆจนแน่น แทบอยากจะชกจงจิ่งห้าวหนักๆยกนึงให้น่วมไปเลย
ไม่ได้ เขาจะปล่อยให้ผู้ชายใจร้ายคนนั้นลอยนวลไม่ได้เด็ดขาด!
“เสี่ยวซี หลานคิดอะไรอยู่?ยังไม่รีบมาทานข้าวอีก?”จวงจื่อจิ่นยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟที่โต๊ะ เห็นหลินซีเฉินยืนเหม่อลอยอยู่ที่ประตูห้องน้ำเลยเรียกเขา
“อ้อ ครับ มาแล้วครับ”หลินซีเฉินรีบวิ่งมาด้วยขาที่สั้นจิ๋ว
หลินซินเหยียนอุ้มเขาขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ แล้วช่วยเขาปอกเปลือกไข่
หลินซีเฉินมองหน้าด้านข้างหลินซินเหยียนไว้ คิดไม่ตกจริงๆ หม่ามี๊สวยขนาดนี้ ผู้ชายใจร้ายคนนั้นทำไมต้องทิ้งเธอไปด้วย?
เขาตาบอดไปแล้วหรือไง?
หลินซินเหยียนนำไข่ที่ปอกเสร็จไว้ในจานของหลินซีเฉิน“ลูกคิดอะไรอยู่? ตั้งใจทานข้าว”
หลินซีเฉินผลักจานไปตรงหน้าของหลินซินเหยียน“หม่ามี๊ทานสิครับ”
หลินซินเหยียนแกล้งทำหน้าไม่พอใจ เอาไข่ต้มให้เขา“ลูกกำลังโต สารอาหารไม่เพียงพอ เดี๋ยวตัวจะไม่สูงนะ หรือว่าอยากตัวเตี้ย?”
“ไม่มีทางหรอกครับ ส่วนสูงผมตอนนี้เกินกว่าคนอายุที่ปกติควรมีแล้ว ผมต้องสูงถึง190cmได้แน่”
จวงจื่อจิ่นหัวเราะขึ้นทีนึง“190cmสูงเกินไป 180cmก็พอแล้ว”
“ไม่เอา ผมจะต้องสูง190cm”หลินซีเฉินพูดอย่างจริงจัง
ผู้ชายใจร้ายคนนั้นยังสูงตั้ง185cmเลย เขาต้องสูงกว่าเขาให้ได้ หลังจากนั้น ก็ชกเขาให้น่วมให้หนำใจไปเลย!
จวงจื่อจิ่นคิดว่าเขาแค่พูดเล่น ไม่นึกว่าเขาจะมีความคิดร้ายลึกแบบนี้
หลินซินเหยียนดื่มนมเสร็จแล้วยื่นมือลูบหัวของลูกชายทีนึง“อยากสูงเป็นเรื่องดี แต่ก่อนอื่นต้องทานข้าวเยอะๆถึงจะสูงได้นะครับ”
“ผมทำได้แน่”หลินซีเฉินพยักหน้าอย่างหนักแน่น
หลินซินเหยียนลุกขึ้น“แม่คะ หนูไปร้านแล้วนะคะ”
“จ้า”เดิมทีจวงจื่อจิ่นยังอยากจะเน้นย้ำเธออีกคำ แต่พอเห็นหลินซีเฉินก็เลยไม่พูด
เด็กคนนี้ถึงยังเด็ก แต่ความคิดฉลาดมาก
กลัวว่าเขาจะรู้เรื่องที่ได้ยิน
หลินซินเหยียนขับรถมาถึงที่LEO
ในมือหยิบเอกสารที่ยังไม่ได้ดูที่นำกลับไปเมื่อคืน เตรียมจะเข้าไปดูในห้องทำงาน เพิ่งเข้ามาก็เห็นฉินยาเดินมาทางเธอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“คุณนายเวลเลี่ยนรอพี่อยู่ในห้องค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?” หลินซินเหยียนรู้นิสัยของผู้ช่วยที่อยู่กับตัวเองมานาน
ถ้าไม่ใช่เกิดเรื่องใหญ่โตอะไร เธอไม่เคร่งเครียดขนาดนี้แน่
ฉินยาไม่รู้ควรพูดยังไง“พี่เข้าไปก็รู้เองค่ะ”
หลินซินเหยียนมองหน้าเธอทีนึงแล้วเดินไปทางออฟฟิศใหญ่
หลินซินเหยียนเดินมาถึงที่ประตูแล้วยกมือเคาะ
ได้ยินคนข้างในพูดว่าเข้ามา เธอถึงผลักประตูเข้าไป