กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 704 แฟนใหม่
พอจงจิ่งห้าวเห็นชัดเจนแล้วว่าคนที่อยู่อยู่หน้าประตูนั้นคือใคร ก็ตะโกนเรียกหลินซินเหยียนไปทีนึง “เผยซวนกลับมาแล้ว”
หลินซินเหยียนกลับไม่ได้นอนกลับ พอจงจิ่งห้าวพูดขึ้นเธอก็ได้ยินทันที ในขณะเดียวกันก็ลืมตาขึ้น แล้วมองไปที่ปากประตู ข้างๆ ของเสิ่นเผยซวนยังมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนสะพายกระเป๋าเป้อยู่ด้วย
นี่ก็คงจะเป็นซางหยูสินะ
จงจิ่งห้าวก็เอารถมาจอดในลานบ้านอย่างรวดเร็ว แล้วหลินซินเหยียนปลดสายคาดนิรภัยออก
เสิ่นเผยซวนจูงมือของซางหยูเดินเข้ามา “พี่สะใภ้”
หลินซินเหยียนยิ้มให้กับพวกเขา แล้วถามว่า “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เสิ่นเผยซวนตอบ “เพิ่งจะลงรถเลยล่ะ”
พูดจบเขาก็แนะนำจงจิ่งห้าวและหลินซินเหยียนให้กับซางหยู “คุณก็เรียกตามผมก็แล้วกัน
ซางหยูเคยเจอกับจงจิ่งห้าวมาก่อนแล้ว แต่กับหลินซินเหยียนนั้นถือว่าเป็นการเจอกันครั้งแรก เคยได้ยินจากปากเสิ่นเผยซวนมาว่าเธอยังสาวอยู่ พอได้มาเห็นตัวจริงแล้ว ก็รู้สึกว่าเธอไม่ได้แค่ยังสาว แต่ยังสวยอยู่ด้วย
“สวัสดีค่ะ” ซางหยูยังเรียกคำว่าพี่สะใภ้ไม่ออกในทันที
อีกอย่างเสิ่นเผยซวนก็ยังไม่ได้จัดการเรื่องซ่งหย่าซินให้เรียบร้อย เลยยังทำใจที่จะเรียกไม่ได้
หลินซินเหยียนยิ้ม “รับเข้ามาในบ้านกันเถอะ นั่งรถมาคงจะเหนื่อยกันแล้ว”
เสิ่นเผยซวนก็บอกไปว่าไม่เหนื่อย “ที่มาที่นี่ก็มีเรื่องอยากจะให้พวกพี่ช่วยหน่อย”
หลินซินเหยียนและจงจิ่งห้าวยืนอยู่ข้างๆ กัน พอได้ยินคำพูดของเสิ่นเผยซวนเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองจงจิ่งห้าวไปทีนึง จากนั้นก็บอกกับเสิ่นเผยซวนว่า “ต้องการให้เราช่วยอะไร ก็บอกได้เลยนะ”
ยังไงแล้วครั้งนี้ที่เขาต้องเจอกับเรื่องอันตรายแบบนี้ ก็เป็นเพราะพวกเขาเหมือนกัน
“ผมจะกลับเข้าไปในสถานีสักพัก แล้วก็ต้องจัดการเรื่องตระกูลซ่งด้วย เลยอยากให้ซางหยูมาอาศัยอยู่ที่บ้านของพี่สักสองสามวัน แล้วผมก็ต้องจัดการเรื่องโรงเรียนให้หล่อนด้วย”
เธอทำเรื่องลาออกเอาไว้ ตอนนี้จะกลับไปเรียน จะต้องทำเอกสาร เลยต้องเข้าไปติดต่อกับคนในโรงเรียนหน่อย
หลินซินเหยียนตอบตกลงอย่างไม่ลังเล ที่เสิ่นเผยซวนอยากจะคนคนนี้อยู่ที่นี่ เพราะเชื่อใจพวกเขา
เธอจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ
“เข้ามาในบ้านก่อนเถอะ” หลินซินเหยียนยิ้มแล้วพูด
เสิ่นเผยซวนพยักหน้าไปหนึ่งที
จงจิ่งห้าวก็ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ เขาจับไปที่มือของหลินซินเหยียน จริงๆ แล้วเขาไม่อยากจะให้มีคนมาที่บ้านหลังนี้ แล้วก็ยังมีคนมาอยู่ดี อาการของหลินซินเหยียนก็ทำให้เขารู้สึกแย่อยู่แล้ว เลยอยากจะให้มีความสงบหน่อย แต่ก็น้องครั้งที่เสิ่นเผยซวนจะมาขอความช่วยเหลือ อีกอย่างก็เป็นเพราะเขาเกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องรับปากอยู่ดี
แต่แค่ในใจนั้นเป็นห่วงหลินซินเหยียน ในใจของเธอมีเรื่องราวที่เก็บเอาไว้อยู่ ยังจะฝืนยิ้มไปช่วยเหลือคนอื่นอีก
เขาไม่สบายใจเลยจริงๆ
พอเปิดประตูบ้านแล้ว ในห้องรับแขกก็มีของเล่นวางอยู่เต็มไปหมด คนแก่สองคนอยู่กับเด็กสองคน เป็นฉากที่ดูแล้วอบอุ่นจริงๆ
“เสี่ยวลุ่ย” หลินซินเหยียนเรียกลูกสาว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ก็ไม่ได้ชอบพูดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอได้ยินคนเรียกตัวเอง จงเหยียนซีก็มองมา พอเห็นเสิ่นเผยซวน เธอก็วางหม้อข้าวหม้อแกงในมือลง แล้วก็วิ่งมา ยืนอยู่ไม่ห่างจากเสิ่นเผยซวนสักเท่าไหร่
พอเห็นเสิ่นเผยซวนแล้วจงเหยียนซีก็นึกถึงฉากที่อันตรายอีกครั้ง แล้วก็ร้องไห้เสียงดังขึ้น
แล้วทุกคนก็นิ่งอึ้งไปทันที หลินซินเหยียนเดินเข้าไปกอดเธอเอาไว้ “ไม่กลัวนะ มามี๊อยู่นี่แล้ว”
เธอตบไปที่หลังของลูกสาวเบาๆ แล้วในใจก็รู้สึกหดหู่ขึ้นทันที
จงเหยียนซีร้องไห้ไม่หยุด ไม่ว่าใครปลอบก็ช่วยอะไรไม่ได้
หลินซินเหยียนเช็ดน้ำตาให้เธอไม่หยุด เห็นเธอร้องไห้หนักแบบนี้แล้ว ก็อดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้ ในใจรู้สึกสงสารลูกสาว แล้วเธอก็จูบไปที่หน้าผากและแก้มของลูกสาวไม่หยุด พยายามใช้ความรักของตัวเอง ไปปลอบประโลมจิตใจที่หวาดกลัวของเธอ
จงจิ่งห้าวรู้ว่าหลินซินเหยียนเสียใจ เลยอุ้มลูกสาวออกมาจากอ้อมอกของเธอ
เขาเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาของลูกสาว แต่จู่ๆ จงเหยียนซีกลับเรียกเสิ่นเผยซวนว่า “คุณอาเสิ่น”
พวกเขาเคยผ่านช่วงเวลาที่อันตรายด้วยกันมาก่อน พอเจอเขาครั้งนี้ เลยนึกถึงฉากที่น่าหวาดกลัวขึ้น และทำให้เธอไม่อยากจะเผชิญกับอะไรมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ก็กลับโผล่ขึ้นมาจากท้องทะเลใหม่อีกครั้งแล้ว
เสิ่นเผยซวนเดินมา แล้วเอื้อมมือไปลูบผมของเธอแล้วพูดปลอบว่า “เรื่องอันตรายผ่านไปหมดแล้วนะ ตอนนี้เราไม่เป็นอะไรแล้วเสี่ยวลุ่ยไม่ต้องกลัวแล้วนะ
จงเหยียนซีกะพริบตา แล้วน้ำตาก็ไหลร่วงลงมา และถามอยากลังเลว่า “จริงหรอคะ”
“จริงสิ” เสิ่นเผยซวนตอบกลับอย่างมั่นใจ แล้วก็พูดว่า “ถ้าเสี่ยวลุ่ยร้องไห้เดี๋ยวจะไม่สวยเอานะ”
จงเหยียนซียกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา แต่ไหล่เล็กๆ ก็ยังคงสั่นอยู่ ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! อากำลังจะแนะนำเลยล่ะ เธอชื่อซางหยูนะ”
สมองของจงเหยียนซีสับสนหน่อยๆ “อาแนะนำแฟนของอาไปแล้วไม่ใช่หรอคะ ทำไมถึงมีแฟนอีกล่ะ แฟนใหม่หรอคะ”
เสิ่นเผยซวน “……”
ซางหยูที่ยืนอยู่อีกฝั่งก็ประหม่าอยู่เหมือนกัน
บรรยากาศอึมครึมไปหมด หลินซินเหยียนเลยพูดกับลูกสาวว่า “คนนี้ต่างหากคือคนที่อาเสิ่นของลูกรักจริงๆ”
จงเหยียนซีกะพริบตา แล้วก็ซบอยู่ในอ้อมอกของจงจิ่งห้าว “พ่อคะ ความสัมพันธ์ของพวกเขาวุ่นวายจัง”
เหมือนว่าแค่พริบตาเดียวจงเหยียนซีก็หายดีแล้วแล้วก็ได้พังทลายกำแพงในใจของตัวเองไปแล้ว
จงจิ่งห้าวยื่นมือไปเช็ดน้ำตาของเธออย่างอบอุ่น หลายวันนี้ที่ลูกสาวไม่พูดไม่จา เขาก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจก็กังวลมาตลอด กลัวว่าจะเป็นบาดแผลในใจของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าพอเจอกับเสิ่นเผยซวนก็ดีขึ้นทันที
ถ้ารู้แบบนี้แต่แรกก็คงเรียกเสิ่นเผยซวนกลับมาตั้งนานแล้ว
หลินซินเหยียนแนะนำซางหยูให้กับจงฉีเฟิง “นี่คือแฟนสาวของเสิ่นเผยซวน”
ซางหยูโค้งตัวอย่างมีมารยาท แล้วหลินซินเหยียนก็บอกกับเธอว่าไม่ต้องเกรงใจ “ถือซะว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองก็แล้วกัน”
ซางหยูเม้มปากแล้วบอกว่า “ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ คุณก็เห็นว่าความสัมพันธ์ของเรากับเผยซวนสนิทกันแค่ไหน เรายินดีต้อนรับคุณเข้ามาอยู่กับเรามากๆ เลยล่ะ”
หลินซินเหยียนพูดอย่างยิ้มแย้ม
ซางหยูมองดูเธอ แล้วในใจก็อยากจะยิ้มละคิดว่าทำไมเธอถึงได้สวยขนาดนี้ แล้วก็ยังเป็นมิตรด้วย ไม่มีกลิ่นอายของคนรวยเย่อหยิ่งเลย เธอรู้สึกชอบหลินซินเหยียนมากๆ เลยทีเดียว
อารมณ์ของเธอค่อยๆ ผ่อนคลายลง ตอนแรกที่เธอมานั้นเธอกลัวว่าหลินซินเหยียนจะเข้าหาได้ยากสุดๆ หรือไม่ก็กลัวว่าเธอจะดูถูกตัวเอง
ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนที่เข้าหาได้ง่ายแบบนี้
“แม่หยู” หลินซินเหยียนตะโกนเรียกแม่หยู “ป้าช่วยเก็บกวาดห้องที่ฉินยาเคยอยู่ให้หน่อยนะคะ”
แม่หยูตอบกลับว่า “ได้ค่ะ”
จริงๆ แล้วก็ไม่มีของอะไรที่ต้องเก็บ ผ้าปูที่นอนในห้องนั้นก็ซักไว้แล้ว แค่ต้องเติมของใช้ในห้องน้ำเท่านั้น
เดี๋ยวเสิ่นเผยซวนก็จะต้องออกไปแล้ว เลยบอกกับหลินซินเหยียนว่า “พี่สะใภ้ ผมขอตัวไปก่อนนะครับ รบกวนพี่เรื่องซางหยูด้วยนะครับ ผมกลัวว่าจะจัดการเรื่องของตระกูลซ่งไม่เสร็จ เลยไม่อยากจะให้เธอเจอกับซางหยูสักเท่าไหร่ จะให้ไปอยู่ที่อื่นก็ไม่วางใจ ผมเลย……”
“พี่เข้าใจ”
หลินซินเหยียนรู้ว่าเสิ่นเผยซวนกลัวซ่งหย่าซินจะไม่ยอมเลิกกับเขา ถ้ารู้ว่าซางหยูอยู่ที่นี่ไหน ก็กลัวว่าจะเป็นอันตรายกับซางหยู
จริงๆ แล้วที่เสิ่นเผยซวนคิดก็ถูกแล้วล่ะ
ถ้าพาซางหยูกลับบ้านตอนนี้ แล้วซ่งหย่าซินมาเห็นเข้าก็ต้องก่อเรื่องขึ้นแน่นอน
เสิ่นเผยซวนเลยอยากจะให้ซางหยูรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
ซางหยูพยักหน้า “คุณไปยุ่งเรื่องของคุณเถอะค่ะ”
เสิ่นเผยซวนก็ทักทายจงฉีเฟิงไปทีนึงแล้วก็ออกไป พอแม่หยูเก็บกวาดห้องเสร็จแล้ว หลินซินเหยียนก็พาเธอไปที่ห้อง “หนูอยู่ที่ห้องนี้นะ ก่อนหน้านี้เป็นห้องที่เพื่อนของพี่อยู่ ถ้าขาดเหลืออะไรก็เรียกพี่ หรือเรียกแม่หยูได้เลยนะ หนูนั่งรถมาเหนื่อยแล้ว พักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวถ้าอาหารเย็นเสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่ไปเรียก”
ซางหยูเกร็งไปทั้งตัว ถึงแม่ว่าหลินซินเหยียนจะวางตัวสบายมาก แต่ยังไงก็เป็นที่ที่แปลกใหม่ อีกอย่างแม้แต่ห้องนอนแขกก็ยังมีห้องน้ำส่วนตัวด้วย การตกแต่งก็หรูหรามาก คนที่รวยขนาดนี้สามารถทำให้เธอรู้สึกถ่อมตัวไม่น้อยเลยทีเดียว และรู้สึกว่าไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่
“รบกวนพี่เลยค่ะ” ซางหยูพูดอย่างเกรงใจ ยังไงหลินซินเหยียนก็ยังท้องอยู่ ยังต้องมาดูแลเธอด้วย ในใจเลยรู้สึกว่าเกรงใจสุดๆ
“ไม่เป็นไรจ้ะ อยู่ที่นี่ให้อย่างสบายใจเลยนะ รอให้เผยซวนจัดการเรื่องราวเสร็จ เดี๋ยวเขาก็มารับหนูแล้วล่ะ” หลินซินเหยียนพูด
เธอเชื่อว่าเสิ่นเผยซวนคิดเอาไว้แล้ว ไม่อยากนั้นก็คงไม่พาซางหยูกลับมาหรอก
ซางหยูก็พยักหน้า
พอจัดแจงให้กับซางหยูเสร็จแล้ว หลินซินเหยียนก็เดินกลับไปที่ห้องรับแขก แล้วเฉิงยู่ซิ่วก็เดินมาตรงหน้าเธอแล้วถามว่า “เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุเท่าไหร่แล้วหรอ”
อายุเท่าไหร่นั่นหลินซินเหยียนก็จำไม่ค่อยได้ รู้แค่ว่าอายุเยอะกว่าหนึ่งปี
เฉิงยู่ซิ่วยิ้ม เหมือนกับว่าจะรู้สึกว่าซางหยูนั้นอายุน้อยกว่า
จงฉีเฟิงไม่ค่อยห่วงซางหยูสักเท่าไหร่ ที่เสิ่นเผยซวนมีความสุขเขาก็ดีใจมากแล้ว ตอนนี้ยังมีแฟนแล้วด้วยเขาก็ดีใจมากเหมือนกัน ดีใจก็ส่วนเรื่องใจ แต่ความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดก็ตกไปอยู่ที่หลานชายและหลายสาวของตัวเอง เขาเลยอุ้มหลายมาจากมือของลูกชาย “มาเร็ว ตาจะเล่นสร้างบ้านกับหนูเอง”
จงเหยียนซีสูดหายใจเข้าลึก บนหน้ายังเช็กน้ำตาไม่แห้ง ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ค่ะ”
ลูกสาวมีคนดูแลแล้วจงจิ่งห้าวก็สบายใจแล้ว พอเอาลูกสาวส่งให้กับจงฉีเฟิงแล้ว ก็พาหลินซินเหยียนขึ้นบันไดไป
พอเข้ามาในห้องจงจิ่งห้าวก็ปิดประตู แล้วก็พาหลินซินเหยียนไปนั่งข้างๆ เตียง “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“เรื่องอะไรหรอ” หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้น