กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 705 กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
จงจิ่งห้าวนั่งอยู่ข้างเธอ พลางกุมมือเธอไว้อย่างเบามือ “คนที่ส่งข้อความหาคุณ ผมหาเจอแล้วนะ”
“เป็นคนๆเดียวกับคนที่ส่งของมาให้ฉันเมื่อครั้งที่แล้วหรอ? หลินซินเหยียนหันหลังไปมองเขา แม้ว่าจะเป็นการสอบถาม ทว่าที่จริงแล้ว ในใจของเธอนั้นมั่นใจดีว่า ครอบครัวของตระกูลกู้นั้นมีเจตนารมณ์นี้ เมื่อกู้เป่ยเข้าไปแล้ว ในใจของพวกเขาก็มีแต่ความเคียดแค้น
จงจิ่งห้าวพยักหน้า
เมื่อครุ่นคิดถึงคำที่หมอบอกไว้ ในใจของเขาก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ เขายื่นมือไปจับที่ท้องของเธอ พลางเรียกชื่อเธออย่างอ่อนโยน “เหยียนเหยียน……”
“หืม?” หลินซินเหยียนมองหน้าเขาในระยะใกล้ๆ ใบหน้าของเขาขาวสะอาดและเกลี้ยงเกลา แม้แต่ขนบนใบหน้า เธอก็เห็นได้อย่างชัดเจน
จงจิ่งห้าวจูบบนใบหน้าของเธอ และพูดกับเธออย่างผ่อนคลาย “ไม่มีอะไร ผมก็แค่อยากเรียกคุณ เดี๋ยวผมมีธุระต้องไปข้างนอก ไม่รู้ว่าจะกลับมากี่โมง คุณหลับก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอผม”
หลินซินเหยียนไม่ได้ถามอะไร เธอเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ
จงจิ่งห้าวให้เธอไปพักผ่อนชั้นบน เพราะชั้นล่างค่อนข้างเสียงดัง หลินซินเหยียนพยักหน้าและยิ้มเบาๆก่อนจะเร่งเขา “คุณไปทำธุระของคุณเลย ฉันเนี่ยนะจะดูแลตัวเองไม่ได้?”
เธอไม่ใช่เด็กๆแล้ว
จงจิ่งห้าวหยิกแก้มเธอก่อนจะเอ่ยปาก “คุณไม่มีอะไรจะบอกผมหรอ?”
ภายในใจของหลินซินเหยียนตื่นเต้นมาก เธออยากจะส่ายหัว แต่ก็กลับมาพยักหน้า พลางผลักเขาด้วยรอยยิ้ม “คุณอยากให้ฉันพูดอะไรกับคุณล่ะ?”
จงจิ่งห้าวจ้องเขม็งเธออยู่สองสามวินาที สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้สะกิดเธอ เขาปล่อยให้เธอสงบสติก่อน แล้วค่อยไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจอาการของเธอในภายหลัง หากไม่มีทางออกจริงๆ เธอทำได้แค่คลอดบุตรก่อนกำหนด เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอตกอยู่ในอันตรายนั้นได้
ระหว่างลูกในท้องกับเธอ เขาต้องเลือกเธอก่อน ถ้าไม่มีเธอ จะมีเด็กได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้น ที่สุขภาพของเธอเป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าเธอมีลูกให้เขา
เขาจับไปที่ศีรษะของเธอ แล้วประกบริมฝีปากเธอ “ผมไปก่อนนะ”
หลินซินเหยียนตอบเขาพร้อมรอยยิ้ม “โอเค”
เธอมองดูจงจิ่งห้าวที่เดินออกไปจากห้อง เมื่อเห็นเขาปิดประตู รอยยิ้มบนใบหน้าก็เริ่มจางลง
กระทั่งเธอได้ยินเสียงฝีเท้าจากชั้นล่าง รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็เลือนหายไป ในฐานะคนเป็นแม่ สิ่งที่เธอคิดคือ ลูกต้องมาก่อน
เช่นเดียวกับในตอนแรกที่เธอพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อปกป้องจงเหยียนเฉินและจงเหยียนซี
เธอก็รักและทะนุถนอม อีกทั้งยังตั้งหน้าตั้งตารอเด็กคนนี้เช่นกัน
เธออยากให้ตัวเองมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อเขา ระยะเวลาเจ็ดเดือนครึ่ง การคลอดก่อนกำหนดสองเดือน ทำให้เด็กยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ แน่นอนว่าต้องมีความเสี่ยง
ถ้าหาก……
ถ้าหากว่าเด็กพิการล่ะ หรือถ้าหากว่าสติปัญญาไม่สมประกอบล่ะ มันมีความเป็นไปได้มากมาย
เธอจึงไม่กล้าพนันและไม่กล้าบอกจงจิ่งห้าว
เธอเอนกายลงด้วยจิตใจที่กระสับกระส่าย
แม้ว่าเธอจะเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ทว่าเธอก็ไม่สามารถพักผ่อนได้โดยที่ไม่ต้องคิดอะไร
เธอกดไปที่ขมับ พยายามสงบสติอารมณ์จากพลังภายนอก
หากเปรียบเทียบเรื่องความกังวลระหว่างเธอกับจงจิ่งห้าว แน่นอนว่าเขากังวลใจมากกว่า อย่างไรเสีย ด้านหนึ่งคือลูกของตัวเอง อีกด้านหนึ่งคือภรรยาของตัวเอง
การที่เขาเลือกที่จะให้เธอคลอดก่อนกำหนด ก็เป็นการทำร้ายลูกของเขา แต่หากเขาเลือกที่จะให้เธอคลอดตามระยะครบกำหนด ก็จะเป็นการเอาชีวิตของหลินซิงเหยียนไปแขวนไว้บนเส้นด้าย
สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ เขานั้นเป็นทุกข์ยิ่งกว่าใครๆ
เมื่อเขามาถึงที่บริษัท มีพนักงานจำนวนไม่น้อยที่กำลังทำงานล่วงเวลาอยู่ แสงไฟสาดส่องไปยังพื้นที่ตรงนั้น แสงสว่างจ้าราวกับตอนกลางวัน
เลขาที่เตรียมตัวเลิกงาน เมื่อเห็นจงจิ่งห้าวเดินออกมาจากลิฟต์ เธอจึงเดินก้าวไปข้างหน้าเพื่อทักทาย “ประธานจง ดึกดื่นป่านนี้ ท่านยังมาที่บริษัทอีกหรอคะ?”
จงจิ่งห้าวพยักหน้าและถามต่อ “กวนจิ้งอยู่ไหม?”
“เขาอยู่ที่ห้องทำงานตัวเอง วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา หลังจากที่เขากลับมาในช่วงเช้า เขาก็ขังตัวเองอยู่ในห้องทำงานและไม่ออกมาเลยค่ะ” เลขาไม่เคยเห็นกวนจิ้งหมดอาลัยตายอยากเท่าขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งยังขังตัวเองไว้ได้นานถึงขนาดนี้
ปกติเวลานี้เขายังคงยุ่งอยู่กับงาน
ในบริษัท นอกจากจงจิ่งห้าว ก็มีเขาที่มักจะงานยุ่ง
เมื่อจงจิ่งห้าวทราบเรื่องแล้ว เขาก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของกวนจิ้ง หลังจากที่เขาเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็ผลักประตูออก
กวนจิ้งยืนคุยโทรศัพท์ข้างหน้าต่าง และไม่ทันสังเกตว่ามีคนมา
“ผมบอกแล้วไง คุณจะให้ใครก็ช่าง ผมไม่สน ! “