กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 710 จิตใจสกปรกโสมม
เสิ่นเผยซวนก้าวเดินไปต่อเนื่อง เขาเปิดประตูรถ ติดเครื่องยนต์แล้วขับออกไป
ซ่งหย่าซินยืนกระทืบเท้าด้วยความโมโหอยู่จุดเดิม
เธอเข้าใจความหมายในคำพูดเหล่านั้นของเขา เข้าใจแล้วว่าเขารู้อะไร เพียงแต่เขายังคงไว้หน้าพ่อของเธอถึงไม่ได้เปิดเผยออกมา
เธอกัดริมฝีปาก พลางกะพริบตามองรถที่ขับเคลื่อนออกไป
เธอไม่กล้าผลีผลามตามไป เธอนึกกลัว กลัวว่าในมือของเสิ่นเผยซวนจะกุมไว้เหตุผลแท้จริงในการหย่าของเธอไว้จริงๆ นั้นเป็นอดีตอันมืดมนของเธอ ไม่อาจนำออกมาต้องแสงได้ ยิ่งไม่สามารถปล่อยให้หลุดออกไป
เธอรู้แจ่มชัด ว่าเหตุใดจู่ๆ เสิ่นเผยซวนถึงเปลี่ยนความคิด
หรือว่าคนเราจะนิสัยเปลี่ยนไปเมื่อพบความยากลำบาก?”
เธอกลับไปที่เขตชุมชนเล็กๆ ด้วยความโกรธ
เมือง C ในขณะนั้นเอง
ฉินหย่ากำลังเลิกงาน ซูจ้านฟุบกับโต๊ะ เขาปรือตามองเธอ “คุณหิวยัง? ให้ผมไปซื้อมาให้ไหม?”
“เพิ่งข้าวเย็นมาไม่ใช่เหรอ?” เธอกำลังแต่งแต้มสีสันใส่รูปภาพบนคอมพิวเตอร์ มองดูว่าสีโทนไหนเหมาะกับเสื้อผ้าสไตล์แบบนี้
ซูจ้านหัวเราะ “ผมไม่ได้กลัวคุณหิวหร้อก”
“คุณช่วยเงียบสักแปปได้มั้ย? เหมือนแมลงวันชะมัด” ฉินหย่าลอบมองเขาแวบหนึ่ง “ถ้าคุณยังไม่หยุดเล่น ก็ไปไกลๆ เลย”
ซูจ้านเงียบปากทันที เขาฟุบลงตรงหน้า “ผมไม่พูดแล้ว แต่คุณมาหนุนตักผมเถอะ”
ฉินหย่าผละออกจากเมาส์ หมุนเก้าอี้หันมาเผชิญหน้าซูจ้าน “คุณยังไม่กลับอีกเหรอ? วันๆ ว่างขนาดนี้เลย? หรือว่าสำนักงานเจ๊งแล้ว?”
ซูจ้านทำไม้ทำมือ ท่าทางอยากให้เธอมาหนุนตัก เขาเงยหน้าพลางหัวเราะหึหึๆ “เจ๊งแล้ว คุณเลี้ยงดูผมด้วยนะ”
ฉินหย่าวางเท้าไว้บนขาของเขา ก้มตัวลงมามองเขา “ฉันไม่ชอบผู้ชายไม่ได้เรื่อง”
ซูจ้าน “…..”
“แต่คุณวางใจได้ ฉันไม่ปล่อยให้คุณเร่ร่อนตามถนนหรอก…..”
“เดี๋ยวสิ ใครจะอยู่กับคุณ?” ฉินหย่าตัดบทเขา
ซูจ้านกะพริบตา เผยสีหน้าแง่งอน “ทำไมคุณไม่รักษาคำพูด?”
“ฉันพูดว่าอะไร? “ฉินหย่าชักขากลับมาไขว่ห้างอย่างถือตัว พลางลอบมองเขานิ่งๆ
“คุณพูดว่าจะให้โอกาสผม” ซูจ้านโผขึ้นมากอดรัดเอวของเธอแล้วฟังหัวกับหน้าอกของเธอ “คุณอย่าหวังจะแก้ตัวเลยน่า”
ฉินหย่าผลักเขาออก “คุณลุกออกไปเลย!”
“ไม่ลุก” ซูจ้านยังคงถูไถกับหน้าอกของเธอ “เราไปจดทะเบียนสมรสกันเถอะ”
นัยต์ตาของฉินหย่าพลันดำมืด ในใจพาลรู้สึกอ่อนไหวขึ้นมา ทว่าใบหน้าของเธอกลับแสร้งเรียบนิ่ง “คราวก่อนฉันหลงกลคุณง่ายๆ ถ้าครั้งนี้ฉันหลงกลอีก ก็โง่งมแล้ว”
“ไม่จดก็ไม่จด แต่อย่าหวังว่าผมจะปล่อยคุณนะ” ซูจ้านตะบี้ตะบันสูดดมกลิ่นกายหอมของเธอ มือพลันโอบรัดแน่นขึ้น
ฉินหย่าขมวดคิ้วนิ่วหน้า “ดูคุณทำเข้าซิ หนักแน่นกว่านี้หน่อยได้มั้ย? ให้เหมือนผู้ชายน่ะ?”
ซูจ้านมีหรือจะสนใจ แล้วก็ไม่ยอมปล่อยมือด้วย “ผมเป็นชายแท้หรือไม่ คุณก็รู้แก่ใจดี”
ฉินหย่า “……”
“ถ้าคุณยังไม่ปล่อยมือ ฉันจะโกรธแล้วนะ?” ฉินหย่าแสร้งมีน้ำโห
ซูจ้านปล่อยมือออก แล้วขยับออกมายืนข้างๆ ราวกับสาวน้อยที่ถูกรังแก เขาพูดขึ้นอย่างแง่งอน “คุณอย่าข่มเหงผมบ่อยได้มั้ยครับ?”
“คุณจะไม่เชื่อฟังฉันก็แล้วแต่ ฉันไม่ได้บังคับให้คุณเชื่อฟังฉันสักหน่อย” ฉินหย่าหมุนเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง แล้วทำงานของตัวเองต่อ
ซูจ้านมองเธออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งที่เธอเป็นคนบอกให้เขามาหาแท้ๆ แล้วยังเอาเขามาวางแหมะไว้อีกทาง “คุณจะรังแกผมเกินไปแล้วนะ”
ฉินหย่าเม้มริมฝีปาก “ถ้าคุณรับไม่ได้ จะเลิกก็ได้นะ…..”
ไม่ทันที่เธอได้เอ่ยคำพูดจบ ไหล่พลันถูกซูจ้านคว้าไว้ แล้วจับเธอพลิกขึ้นมากดบนโต๊ะทำงาน เขาโน้มกายลงมาบดจูบริมฝีปากของเธอ
แผ่นหลังของฉินหย่าถูกกดเข้ากับขอบโต๊ะ เธอรู้สึกปวด ฉินหย่าขมวดคิ้ว ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน!
“ต่อไปอย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ ผมเสียใจนะครับ” ซูจ้านขยับออกมาอยู่ใกล้ชิดเธอ ใบหน้าไร้แววท่าทีล้อเล่น กลับเต็มไปด้วยความจริงจัง
ฉินหย่าเอื้อมมือไปกอบกุมใบหน้าของเขา “เมื่อก่อนคุณเองก็ทำร้ายจิตใจฉันเหมือนกัน”
ซูจ้านพลันหมดกำลังใจ เขาพูดพลางคอตก “คุณอย่าขุดคุ้ยเรื่องเก่าในอดีตได้มั้ย?”
ฉินหย่าจัดผมที่ปรกบนหน้าผากของเขา “คุณทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวด แล้วฉันทำให้คุณเจ็บปวดบ้างไม่ได้เหรอ?”
ซูจ้าน “……”
“เสี่ยวหย่า ผมพูดจริงๆนะ ถ้าผมมาลงหลักปักฐานที่นี่เป็นยังไง? ทำแบบนี้ก็จะได้อยู่กับคุณ ไม่ต้องเที่ยวไปเที่ยวมา”
ฉินหย่ามองเพดาน เธอไม่ได้ถูกกระตุ้นดีใจจนสติแตก เธอเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ไว้ค่อยคุยกันเถอะ”
พวกเขาจะสามารถเดินไปถึงจุดสิ้นสุดหรือไม่ ยังคงไม่อาจล่วงรู้ได้
คุณย่าเป็นคนเลี้ยงดูซูจ้าน และเขาก็เป็นบุตรชายหนึ่งเดียวของตระกูลซู เธอไม่สามารถมีลูกได้ หากซูจ้านลงเอยอยู่กับเธอ ก็ถือว่าไร้ทายาทสืบสกุล
หากคุณย่าของเขาล่วงรู้สภาพร่างกายของเธอ ยังจะยอมรับเธอไหม?
เธออยู่ที่บ้านนั้นเป็นเวลาสั้นๆ ก็รู้แล้วว่าท่าย่าหวังจะอุ้มหลานแค่ไหน
วืดวืด–
ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของซูจ้านสั่นเตือน เขาไม่อยากรับสาย จึงปล่อยมันสั่นไปแบบนั้น
ฉินหย่าผลักเขา “โทรศัพท์ของคุณดัง”
ใบหน้าของซูจ้านยังคงยังอยู่กับลาดไหล่ของเธอ เขาพูดด้วยเสียงอู้อี้ “ผมรู้ แต่ไม่อยากรับ”
“ถ้าเป็นเรื่องฉุกเสิ่นล่ะ รับสายเถอะน่า” ฉินหย่าลูบกระเป๋าของเขา แล้วลวงมันออกมาก่อนจะยื่นให้เขา
ซูจ้านรับมาแต่โดยดี เขามองจอแสดงผล เป็นเบอร์โทรศัพท์ของตระกูล
เขากดรับสาย
น้ำเสียงร้อนรนของคนปล่อยสายดังออกมา “แย่แล้วครับคุณซู ท่านย่าล้มครับ”
ซูจ้านยืดตัวขึ้นตัวตรง ก่อนจะถามกลับไป “เกิดอะไรขึ้น?”
“ผมไปดูผ้าที่ตากไว้ ท่านย่ารู้สึกกระหาย แก้วตั้งไว้ห่างจากเตียงมาก ท่านขยับไปขอบเตียงมากเกินไป เลยร่วงลงมาจากเตียงครับ”
ซูจ้านพูดตอบไป “โทรไปเบอร์120 ฉันจะให้คนเข้าไปดูก่อน”
“ครับผมๆ”
ซูจ้านวางสาย พลางต่อสายหาเสิ่นเผยซวน หลังจากเสิ่นเผยซวนซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ เขาก็ส่งข้อความมาหา ดังนั้นเขาเลยมีเบอร์โทรศัพท์ใหม่ของเสิ่นเผยซวน
ในตอนนั้นเอง รถของเสิ่นเผยซวนกำลังขับบนถนนมุ่งสู่คฤหาสน์ เขารับสายของซูจ้าน
“ฮัลโหล……”
“เผยซวน คุณย่าของฉันตกเตียง ฉันยังกลับไปทันทีไม่ได้ นายช่วยเข้าไปดูให้ฉันหน่อยได้มั้ย ตอนนี้ฉันกำลังกลับไป”
ซูจ้านพูดอย่างเร่งรีบ
เสิ่นเผยซวนตอบกลับมา “เข้าใจแล้ว ถ้ามีอะไรฉันจะติดต่อนายกลับไป ฉันกำลังไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เมื่อฝั่งซูจ้านตอบรับ เสิ่นเผยซวนก็วางสาย ก่อนจะะกลับหัวรถ แล้วขับไปยังบ้านของซูจ้าน
หลินซิ่งเหยียนที่กำลังเดินเล่นอยู่ข้างถนนก็เห็นรถยนต์ของเสิ่นเผยซวน
“ฉันว่ารถยนต์คันนั้นคล้ายกับรถยนต์ของเสิ่นเผยซวน
จงจิ่งห้าวเงยหน้าขึ้นมองไป ทว่ารถยนต์ก็ได้ขับเคลื่อนผ่านไปแล้ว
หลินซิ่งเหยียนขมวดคิ้ว “ทำไมไปอีกแล้วล่ะ? จัดการเรื่องของซ่งหย่าซินไม่ราบรื่นรึเปล่า?”
จงจิ่งห้าวตบหลังมือของเธอ “กลุ้มใจทุกวันไปก็เปล่าประโยชน์”
หลินซิ่งเหยียนรู้สึกว่าเรื่องของซ่งหย่าซินซับซ้อนมาก ตนเองนอกใจแท้ๆ กลับบอกว่าสามีนอกใจ ความคิดแบบนี้ จิตใจช่างสกปรกโสมม
หากมองมุมมองนี้ เธอเข้าใกล้เสิ่นเผยซวนก็ไม่ใช่เพราะชอบอย่างบริสุทธิ์ใจ
บางทีเธออาจคิดว่าเสิ่นเผยซวนมีอนาคต เป็นคนซื่อสัตย์ ทั้งยังไม่แต่งงาน ปัจจัยต่างล้วนเพียบพร้อม
เธอเลยอยากกระโจนเข้าใส่
“พวกเรากลับบ้านกันเถอะ” จงจิ่งห้าวโอบเอวของเธอ “เดินเหนื่อยไหม?”
หลินซินเหยียนบอกว่าไม่เลย
พวกเขาใช้แสงจันทร์เดินกลับ
พอก้าวเข้าประตู ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ ห้องรับแขกก็เละเทะไปหมด