กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 717 ผมไม่ใช่ลูกบอล
ซูจ้านหลับตา กดความวุ่นวายในใจลงไป “ย่า พวกเราเปลี่ยนเรื่องคุยได้ไหม?”
ท่านย่าไม่ยินดี “ทำไมต้องเปลี่ยนเรื่อง? ชีวิตที่เหลือนี้ย่ามีแค่ความหวังนี้เท่านั้น เราจะทำให้ย่าได้สมหวังเมื่อไหร่?”
ซูจ้านหมอบอยู่บนตักของท่านย่าไม่พูดจา
เขาก็อยากบอกกับย่าว่าเขากับฉินยาเริ่มต้นกันใหม่แล้ว แต่ว่า สภาวะสุขภาพของฉินยา…….
ถ้าท่านย่ารู้แล้วต้องคอยจู้จี้ต่อหน้าฉินยาเรื่องจะเอาเหลน ฉินยาต้องรู้สึกกดดันใจแน่นอน
เขาอุตส่าห์เริ่มต้นใหม่กับฉินยาแล้ว ถ้าเกิดถูกเรื่องที่คุณย่าต้องการเหลนตกใจจนหนีไปอีก เขาจะทำยังไง?
ท่านย่าเบื่อท่าทางซูจ้านที่ไม่ยอมพูด ยื่นมือตบที่หลังของเขาทีหนึ่ง “เราก็พูดจาซิ? จะทำให้ชีวิตยายแก่คนนี้ต้องโมโหตายหรือไง?”
ซูจ้านเอาหน้ามุดอยู่ใต้ผ้าห่มพูดอย่างอึดอัด “ท่านย่า ผมขอร้องล่ะ ย่าก็มีแค่หลานก็พอแล้ว สำหรับเหลน นั่นเป็นเรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับย่าแล้ว ย่าก็ไม่ต้องกังวลแล้วได้ไหม?”
ท่านย่าหน้าบึ้งทันที “เราหมายความว่าอะไร?”
ซูจ้านทำตัวปลิ้นปล้อน ไม่เงยหน้า ท่านย่าดึงผมของเขาขึ้นมา “พูดกับย่าให้ชัดเจน”
“โอ้ย เจ็บ” ซูจ้านหน้าย่น “ย่าลงมือหนัก ผมยังเป็นหลานแท้ๆอยู่ไหม?”
“เราว่าใช่ไหม? ไม่ใช่โยนทิ้งตั้งนานแล้ว พูดมา เราหมายความว่ายังไง?” ท่านย่าดึงไว้ไม่ปล่อย
ซูจ้านทำหน้าทรมาน “ย่าให้ผมไปมีกับใครล่ะ?”
“ฉินยาไม่ยอมกลับมา เราก็ต้องหาใหม่แล้ว” ในใจท่านย่ารู้สึกผิดต่อฉินยา แต่ว่า เธอจะทำให้ตระกูลซูมาถึงรุ่นของซูจ้านก็จบสิ้นวงศ์ตระกูลไม่ได้
ความคิดคนแก่หัวโบราณ มีชีวิตอยู่ก็เพื่ออยากเห็นซูจ้านแต่งงานมีลูก มิเช่นนั้นเธอไม่มีหน้าลงไปเจอสามีตัวเอง
ซูจ้านจับมือท่านย่าไว้ “คุณย่า ผมชอบฉินยาคนเดียวเท่านั้น ผู้หญิงคนอื่นผมไม่ต้องการ…….”
“งั้นเธอไม่ให้อภัย เราคิดจะไม่แต่งงานตลอดชีวิตเลยเหรอ?” ท่านย่าเบิกตากว้าง ขอแค่ซูจ้านพูดว่าใช่ เธอก็จะตีเขา ตีจนเขายอมแต่งงาน
“ขอแค่ผมพยายาม ผมยังคงสามารถทำให้ฉินยากลับใจได้ เพราะฉะนั้นคุณย่าต้องให้เวลาผม ย่าอย่าบีบผม”
“ย่าก็อยากให้เวลาเรา แต่ว่าพระเจ้าไม่ให้เวลาย่า ย่ายังมีชีวิตอยู่ต่ออีกกี่วัน?” ท่านย่ารู้ว่าตัวเองอายุเยอะแล้ว ตอนนี้ก็อัมพาตแล้ว ยังสามารถอยู่ต่อได้กี่วัน?
“ซูจ้านเอ๊ย สำหรับเราแล้วย่าไม่ได้คาดหวังอย่างอื่นแล้ว เขาพูดกันว่าสามสิบสร้างตัว แม้แต่ครอบครัวเราก็ไม่มี จะสร้างยังไง?” ท่านย่าสั่งสอนอย่างจริงจัง “ไม่ว่ายังไง เราต้องใช้เวลาตอนที่ย่ายังมีชีวิตอยู่ ให้ย่าได้เห็นเหลนเกิดมา”
ซูจ้านรู้สึกว่าสมองจะระเบิดแล้ว ได้ยินท่านย่าพูดถึงเหลน ความรู้สึกของเขาไม่สามารถใช้ภาษาอย่างใดอย่างหนึ่งมาบรรยายได้
เจ็บปวด?
เจ็บปวดไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของเขาในขณะนี้ได้เลย
“หมอสั่งให้ท่านพักผ่อนมากๆ ย่าเชื่อฟังหน่อย รักษาสุขภาพดีๆ สุขภาพดีแล้ว ย่าถึงจะเห็นผมแต่งงานมีลูกได้ ดีไหมครับ?”
อายุของท่านย่าเยอะแล้ว สภาพจิตใจไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ซูจ้านเฝ้าอยู่ที่นี่ มือถือในกระเป๋าสั่นสะเทือนขึ้นฉับพลัน เขาค่อยๆลุกขึ้น เดินออกจากห้องผู้ป่วยหยิบมือถือออกมา หน้าจอโชว์หมายเลขของฉินยา เขากดรับสาย วางไว้ข้างหู “เสี่ยวยา”
ฉินยายุ่งงานในมือเสร็จแล้ว กังวลสถานการณ์ของท่านย่า จึงโทรศัพท์มาถามสักหน่อย
“ไม่มีอะไรแล้ว ไม่ต้องกังวล ตอนนี้คนอยู่ในโรงพยาบาล หมอตรวจแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก” ซูจ้านยืนที่หน้าต่าง เขามองไปนอกหน้าต่าง “เสี่ยวยา”
“อือ?”
ซูจ้านมีคำพูดมากมายอยากพูดกับเธอ แต่ว่าพูดไม่ออกเลยสักคำ
ฉินยารู้สึกถึงความรู้สึกที่หดหู่ของเขา ไม่ได้ถามต่อ และไม่ได้วางสาย มีโทรศัพท์กั้นระหว่างกลาง ฟังเสียงหายใจหอบของเขา
ผ่านไปสักพัก ซูจ้านถึงเปิดปากพูด “คุณยุ่งไหม?”
“เพิ่งส่งแขกคนหนึ่งออกไป” ฉินยานั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน ถามว่า “คุณมีเรื่องอะไรใช่ไหม?”
ซูจ้านพูด “ก็แค่คิดถึงคุณแล้ว”
ฉินยาแคะมุมโต๊ะ ก้มสายตา “ซูจ้าน เมื่อไหร่คุณถึงจะจริงจังหน่อย?”
“ผมไม่จริงจังเหรอ?” ซูจ้านถาม
“คุณว่าล่ะ?”
“หรือว่าทั้งๆที่คิดถึงคุณ ไปที่ https://th.booktrk.com เพื่ออ่านเนื้อหาใหม่ล่าสุดทุกคน! “นั่นมันจริงจังจอมปลอม ผมเป็นคนซื่อตรง ในใจคิดอะไรปากก็พูดอย่างนั้น ผมเป็นคนซื่อสัตย์ ถูกไหม เสี่ยวยา?”
“ไปเลย”
ซูจ้านหัวเราะ “ผมไม่ใช้ลูกบอล จะให้กลิ้งไปไหน กลิ้งไปหาคุณเหรอ?”
ฉินยารีบพูด “ไม่ต้องมาแล้ว ดูแลคุณย่าดีๆ”
ซูจ้านยิ่งรู้สึกผิด ถ้าหากไม่เกิดเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้นจะดีแค่ไหน? ตอนนี้พวกเขามีลูก เป็นครอบครัวที่มีความสุขแล้ว
แต่ว่า…….
ในโลกนี้ไม่มีคำว่าแต่ ยิ่งไม่มียาแก้การเสียใจภายหลัง
ก่อให้เกิดสถานการณ์ในวันนี้ ล้วนเป็นความผิดของเขา
“เสี่ยวยา ผมต้องดีกับคุณแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมก็ไม่มีวันทอดทิ้งคุณอีก”
ความรู้สึกของฉินยาอ่อนไหว ฟังคำพูดนี้ของซูจ้าน เธอพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดกับซูจ้านโดยตรง
เธอพูดอย่างจริงจัง “ซูจ้าน ฉันไม่อยากให้ทุกทรมานเกินไป ถ้าหากคุณเหนื่อยเกินไปก็บอกฉันได้ ฉันไม่โทษคุณแน่นอน”
“คุณพูดอะไรของคุณ?” ซูจ้านโมโหขึ้นมาทันที “คุณอย่าคิดอะไรฟุ้งซ่าน”
ฉินยามองไปทางหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย “ฉันไม่ได้คิดมาก ดูแลตัวเองดีๆ”
ซูจ้านอืมไปคำหนึ่ง “ช่วงนี้เกรงว่าคงไปหาคุณไม่ได้แล้ว คุณย่านอนดูอาหารในโรงพยาบาล ผมต้องดูแลท่านที่โรงพยาบาล”
“ฉันรู้ ไม่ต้องมาตลอดหรอก ดูแลคุณย่าดีๆ” ฉินยาพูด
ซูจ้านอืมเบาๆคำหนึ่ง
หลังจากนั้นมีลูกค้ามาที่ร้าน ฉินยาวางสาย ไปต้อนรับแขก ตอนที่คุยเรื่องแบบกับลูกค้าอยู่ ช่าวหยุนก็ถือกล่องอาหารเข้ามา
ฉินยากำลังยุ่งอยู่ เขาไม่ได้เข้าไปรบกวน นั่งอยู่ด้านข้าง ดูเธอทำงาน
รอจนฉินยายุ่งเสร็จแล้ว เขาถึงพูด “ยังไม่ได้กินอาหารเย็นใช่ไหม?”
ฉินยาวางแล็ปท็อป แล้วนั่งลง มองเห็นกล่องอาหารบนโต๊ะ ถามว่า “ซื้อให้หนูเหรอ?”
ช่าวหยุนพยักหน้า “กระดูกแพะ”
ฉินยา “…….”
“หนูไม่กินอันนี้” เธอดมกลิ่นคาวเนื้อแพะไม่ได้
“เธอลองกินดูชิ้นหนึ่ง” ช่าวหยุนมั่นใจเต็มที่ เธอต้องชอบแน่นอน
ฉินยายังคงต่อต้าน “หนูไม่เอา”
“เธอลองดู” ช่าวหยุนเปิดกล่อง ใส่ถุงมือ หยิบให้เธอชิ้นหนึ่ง “เธอดมดูไม่มีกลิ่นคาวแพะ”
ฉินยาลองดมดู ไม่มีกลิ่นคาวแพะจริงๆ
ช่าวหยุนยื่นไปที่ปากเธอ “เธอกัดคำหนึ่ง”
ฉินยาลองกัดไปคำหนึ่ง ไม่มีกลิ่นคาวแพะแม้แต่น้อย อีกอย่างเนื้อหอมมาก
ช่าวหยุนยิ้ม “อาไม่ได้โกหกเธอใช่ไหม? เธอสวมถุงมือ ที่นี่มีหลอด สามารถดูดไขกระดูก”
ฉินยายิ้ม ยื่นมือหยิบถุงมือใบหนึ่งขึ้นมา พูดว่า “ทำไมอาดีกับหนูขนาดนี้?”
“เธอเรียกฉันว่าอารอง ฉันไม่ต้องห่วงใยเธอเหมือนหลานคนหนึ่งเหรอ?” ช่าวหยุนพิงอยู่บนเก้าอี้ มองดูฉินยา
“อารองกินหรือยัง?” ฉินยาเงยหน้า
ช่าวหยุนพูด “อากินแล้ว”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นไปเทน้ำให้ฉินยา
“อารอง พูดตามตรง สไตล์การแต่งตัวของอาไม่ไหวเลย” ทุกครั้งที่เห็นเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดพวกนั้นของช่าวหยุน เธอก็อดแขวะไม่ได้
ช่าวหยุนรู้สึกว่าตัวเองใส่ได้หล่อจะตาย “เด็กผู้หญิงมากมายชอบแบบอา”
“ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่ชอบอาต้องตาบอดแน่นอน” ฉินยาพูดอย่างปากร้าย
“เฮ้ เสียดายที่อาห่วงเธอแล้ว” ช่าวหยุนหัวเราะ “อีกหน่อยไม่ซื้อของให้เธอกินแล้ว”
ฉินยายอมรับผิดทันที “ท่านเป็นผู้ใหญ่อย่าถือสาผู้น้อยเลย”
“นี่ยังพอใช้ได้หน่อย” ช่าวหยุนพูด
ทั้งสองคนพูดคนนี้คำคนนั้นคำ พูดไปหัวเราะไปเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปิดประตูร้าน ช่าวหยุนรู้สึกว่าฉินยาผู้หญิงตัวคนเดียวไม่ปลอดภัย ก็เลยเสนอไปส่งเธอที่บ้าน
วันที่สอง เมืองB ตอนเช้าเสิ่นเผยซวนไปทำงานที่กรม ถูกคุณนายซ่งขวางไว้ที่หน้าประตู