กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 734 กวนจิ้งถูกบังคับอย่างไม่เต็มใจ
คนที่อยู่ในรถเหมือนว่าลงจากลงในเวลาเดียวกันพอดี เมื่อเห็นอีกฝ่ายต่างก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน หลินชินเหยียนตั้งสติได้ก่อน เมื่อมองมาที่มือของฉินยาที่กำลังกอดตุ๊กตามา จึงถามทันที “แกไปไหนกับอารองมาเนี่ย?”
เมื่อผลตรวจออกมาแล้วซึ่งคล้ายคลึงกับในประเทศ หลินซินเหยียนต้องการกลับมาคลอด ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ได้อยู่เที่ยวเล่นที่ต่างประเทศกันนาน
ก่อนหน้าที่เดินทางกลับมาที่เมือง B นั้น หลินซินเหยียนก็อยากจะมาเที่ยวดูเมือง C
พวกเขาบินตรงมายังเมือง C เลยวางแผนเดินทางจากเมือง C กลับไปยังเมือง B อีกครั้ง
“แกดีขึ้นหรือยัง? แล้วกลับมาได้อย่างไร?” ฉินยารีบเดินเข้ามาหา “ผลตรวจเป็นยังไงบ้าง?”
หลินซินเหยียนเม้มริมฝีปาก พลางตอบอย่างปกติ “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไร ก็แค่ต้องคลองก่อนกำหนดเท่านั้นเอง ไม่ต้องเป็นห่วง”
เธอไม่อยากให้คนอื่นคอยเป็นห่วงเธอ
“งั้นก็ดี งั้นก็ดี” ฉินยาพูดด้วยความยินดี
หลินซินเหยียนยิ้มให้ “แกไปดีกับอารองตั้งแต่ตอนไหนกัน?” ตอนที่พูดนั้นเธอยังจงใจเหลือบมองตุ๊กตาที่อยู่ในอ้อมอกด้วย
ช่าวหยุนรีบอธิบายทันที “เธออารมณ์ไม่ดี ไปโกรธแฟนมา ฉันก็เลยพาเธอไปผ่อนคลายมาหน่อย”
สายตาหลินซินเหยียนเบนมาหาฉินยา และถามกลับ “ไปทะเลาะกับซูจ้านมาอีกแล้วเหรอ?”
สายตาของฉินยาหลุบต่ำ “ก็คือเรื่องที่ฉันไม่สามารถมีลูกได้”
นี่มันเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ช่าวหยุนไม่อยากเข้าร่วมกับปัญหานี้ เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่ค่อยเหมาะ เลยพูดว่า “งั้นอาขอตัวก่อน”
เขาดึงประตูออก ฉินยาหันมาพูดกำชับ “อาขับช้าๆ หน่อย”
“วางใจได้เลย” ตอนที่ช่าวหยุนขึ้นรถมีอาการค้างอยู่เล็กน้อย พลางมองมาทางจงจิ่งห้าว “พวกเธอจะอยู่ที่หลายวันใช่ไหม?”
“สองวัน” จงจิ่งห้าวจ่ายค่ารถจากนั้นถึงเดินเข้ามาหา
“งั้นวันนี้พวกนายก็พักผ่อนกันไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะมากินข้าวด้วย” ช่าวหยุนพูด
จงจิ่งห้าวตอบกลับ “โอเค”
“งั้นฉันไปก่อน” ช่าวหยุนขึ้นรถ
จงจิ่งห้าวเดินมายืนข้างหลินซินเหยียน “เข้าไปข้างในกันเถอะ”
ฉินยาพยักหน้า “ดูฉันสิพูดจนลืมไปแล้ว พวกแกเพิ่งจะลงมาจากเครื่อง ต้องเหนื่อยและอยากจะพักผ่อนแน่ ๆ ห้องของแก สองสามวันก่อนฉันเพิ่งจะเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ พอแกกลับมาก็จะได้นอนพักได้เลย”
หลินซินเหยียนยิ้มและตอบกลับ “ขอบใจนะ”
“ต้องเกรงใจกับฉันขนาดนั้นเชียวเหรอ?” ฉินยายังแกล้งทำท่าไม่ดีใจ และเดินนำหน้าเพื่อเปิดประตู
หลินซินเหยียนยืนหัวเราะอยู่ด้านหลัง
เมื่อเดินเข้าบ้านฉินยาเปลี่ยนรองเท้าอยู่ตรงประตูทางเข้า จากนั้นก็หยิบรองเท้าสองคู่กลับมาวางบนพื้น ตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้องก็ถามขึ้นมา “พวกแกกินข้าวกันมาหรือยัง จะกินอะไรกันสักหน่อยไหม?”
หลินซินเหยียนตอบกลับ “ไม่ต้องหรอก”
ในบ้านไม่มีน้ำร้อนแล้ว ฉินยาไปต้มน้ำร้อน “ในตู้เย็นมีนมกับน้ำผลไม้ ให้ฉันเทให้แกไหม?”
“ฉันเอาน้ำผลไม้” หลินซินเหยียนนั่งลงบนโซฟา
ฉินยาเปิดตู้เย็น ก็หยิบขวดน้ำผลไม้ออกมาและเทหนึ่งแก้ว พลันถามจงจิ่งห้าว ว่าต้องการจะดื่มน้ำอะไรไหม
เขาบอกว่าเหมือนกับหลินซินเหยียน
ดังนั้นฉินยาเลยเทน้ำผลไม้สองแก้วและยกออกมา เธอนั่งลงโซฟาเดี่ยวที่อยู่ด้านข้าง เลยบอกกับหลินซินเหยียนว่าจวงจื่อจิ่นออกมาจากคุกแล้ว
มือที่ถือแก้วน้ำผลไม้ของหลินซินเหยียนถึงกลับชะงักเล็กน้อย นัยน์ตาทอประกายออกมาเล็กน้อย “จริงเหรอ?”
ฉินยายิ้ม “จะเอาเรื่องนี้มาโกหกแกทำไม?”
หลินซินเหยียนตื่นเต้นเล็กน้อย เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอเลย เธอรีบคว้ามือของจงจิ่งห้าวเอาไว้ แถมพูดน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อย “เธอออกมาได้ฉันดีใจมาก”
การได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาหลายปี ความรู้สึกมันช่างลึกซึ้งมาก
ความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็เป็นความรู้สึกสนิทสนมกันอย่างหนึ่ง
ความสัมพันธ์ของพวกเธอ มันเกินคำว่าสายสัมพันธ์ทางสายเลือดไปแล้ว
สำหรับจงจิ่งห้าวแล้ว ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะว่าหลินซินเหยียนในเวลานี้จำเป็นต้องมีคนคอยปลอบโยน แม้ว่าเธอปากจะแกล้งทำว่าไม่เป็นไร ทว่า ความรู้สึกกังวลก็ยังเก็บซ่อนอยู่ในใจ
ตอนนี้จวงจื่อจิ่นได้ออกมาแล้ว มักจะสามารถปลอบโยนจิตวิญญาณให้กับเธอได้บ้าง
จงจิ่งห้าวส่งเสียงตอบในลำคอเล็กน้อย
“ใช่สิยังมี…” ฉินยาพูดต่อ เฉิงยู่เวินก็อยากจะมา “พวกเราจู่ ๆ ก็คุยกันเรื่องผ้าไหมกวางตุ้งขึ้นมา ฉันพูดว่าที่นี่มีโรงงานอยู่ด้วย”
ผ้าไหมกวางตุ้งเป็นของตระกูลเฉิง เฉิงยู่เวินเข้าใจอย่างถ่องแท้ ถ้าเขาสามารถมาดูแลโรงงานก็ดีสุดๆ ไปเลย เช่นนี้ก็สามารถลดภาระการทำงานของช่าวหยุนไปได้
“ฉันรู้สึกว่าได้นะ คุณคิดว่าไง?” หลินซินเหยียนหันไปถามจงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวพูดว่า “ผมฟังคุณทั้งนั้นแหละ”
หลินซินเหยียนยิ้มให้เขา
ฉินยายู่ปาก “น่าเบื่อชะมัด ฉันไม่นั่งเป็นก้างขวางคออีกแล้ว”
จงจิ่งห้าวยิ้มให้ “ไม่กิน คุณก็เข้าห้องไปสิ”
ฉินยาลุกขึ้นยืน พลางบิดขี้เกียจออกมา “ความจริงแล้วฉันเองก็เพิ่งบินมาจากเมือง B ฉันก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน พวกคุณตามสบายนะ”
พูดจบเธอก็เดินตรงแน่วไปยังห้องนอนทันที
จงจิ่งห้าวโอบกอดเอวของหลินซินเหยียนเอาไว้ “ไป พวกเราก็ต้องไปพักผ่อน ตอนอยู่ที่ต่างประเทศก็นอนไม่ค่อยเต็มอิ่ม”
หลินซินเหยียนเดินเข้าห้องนอนพร้อมกับเขา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สองวันที่อยู่ในเมืองCนั้น หลินซินเหยียนไปที่ร้าน มีฉินยาบวกกับช่างตัดเย็บและนักออกแบบด้วย ทุกคนต่างยุ่งกันถ้วนหน้า ลูกค้าก็เยอะมาก เธออยู่ในร้านตลอดทั้งวัน ในร้านมีแขกอยู่ 6-7 คน
หลังจากกลับมาที่เมืองCแล้วนั้น เธอได้พูดคุยกับแล้วเฉิงยู่เวินแล้ว ถ้าเขาอยากจะมาที่เมืองC ก็มาได้ โรงงานให้เขาเป็นคนรับผิดชอบไป
เมื่อได้ยินว่าสามารถกลับมาดูแลโรงงานผ้าไหมกวางตุ้ง น้ำเสียงของเขายินดีแต่ก็ดูเศร้าโศกเช่นกัน “ฉันยังไม่แก่แต่อะไรก็ไม่สามารถทำได้สักอย่าง ให้ฉันไปดูแลโรงงานผ้าไหมกวางตุ้งอีกครั้ง ฉันรู้สึกก็สดชื่นแล้ว”
ถึงอย่างไรเป็นอุตสาหกรรมของตระกูลเฉิง มันเลยนำความรู้สึกพิเศษมาด้วย
หลังจากนั้นสองวัน เขาก็ไปที่เมือง C โดยช่าวหยุนเป็นคนต้อนรับ การมอบหมายงานนั้น ปกติก็ไม่ต้องให้หลินซินเหยียนต้องพลอยกังวล
เพราะว่าอีกไม่กี่วันเธอตั้งท้องครบ 7 เดือนครึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้ เรื่องที่เธอจำเป็นต้องจัดการ ก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย
หลังจากนั้นก็ไม่มีเวลาแล้ว เธอต้องนอนบนเตียงเมื่ออายุครรภ์ได้แปดเดือน เพื่อเตรียมตัวคลอดก่อนกำหนด
คุณหมอแนะนำให้นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาล และจะเข้ามาตรวจอาการทุกวัน
เพื่อให้ดีต่อเด็ก และก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของแม่ด้วย จงจิ่งห้าวเลยตัดสินใจให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ที่บ้านมีจวงจื่อจิ่นกับป้าหยูอยู่ มีคนขับรถและจงฉีเฟิงอีก เด็กสองคนไม่จำเป็นต้องให้หลินซินเหยียนและจงจิ่งห้าวคอยดูแลเลย
จงฉีเฟิงพูดว่า ขอแค่ให้พวกเขาอยู่โรงพยาบาลอย่างสบายใจ เขาจะดูแลที่บ้านให้เอง
จงจิ่งห้าวกลับมา เสิ่นเผยซวนก็กลับมาที่พักของตนเอง ซางหยูกลับไปพักหอพักที่โรงเรียน
ซูจ้านกับท่านย่าไม่มีอะไรคืบหน้าจนถึงทางตัน ท่านย่าคิดอย่างรอบคอบแล้ว จนไม่สามารถรับความจริงเรื่องที่ไม่สามารถมีลูกได้
แม้ว่าจะรู้สึกว่าติดหนี้ฉินยาก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถตอบตกลงในเรื่องที่เธอจะกลับมาคืนดีกับซูจ้านได้
ซูจ้านที่ยังไม่ได้จัดการกับความรู้สึกของท่านย่า เขาก็เองก็ไม่มีวิธีที่จะไปเสนอหน้าต่อฉินยาได้ และไม่ได้ไปหาที่เมือง C เลย
นอกจากซูจ้านแล้ว คนที่กำลังเบื่อนั้นยังมีกวนจิ้งอยู่อีกคน
“กวนจิ้ง คุณว่า พวกเขาไปต่างประเทศกันแล้ว ไม่มีวิธีการลงมือ ฉันต้องไปหาจงจิ่งห้าวที่บริษัทแล้วแหละ” กวนจิ้งเลิกงานและกลับมาที่บ้านในตอนเย็น ก็ถูกกู้หุ้ยหยวนดักรออยู่ที่หน้าประตู
กวนจิ้งชำเลืองมองเธอจากนั้นก็พูดว่า “เดินเข้าไปคุยกัน”
กู้หุ้ยหยวนพยักหน้า
ทั้งสองคนเดินเข้าบ้านไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กู้หุ้ยหยวนมาบ้านของกวนจิ้ง เพื่อเป็นการทำให้กู้หุ้ยหยวนไว้ใจ ไม่ให้เธอไปเล่นตุกติกได้อย่างสมบูรณ์ กวนจิ้งเลยโกหกเธอที่รับปากว่าจะช่วยจงจิ่งห้าว
สองสามวันก่อนจงจิ่งห้าวไปต่างประเทศแล้ว กวนจิ้วพูดว่าไม่มีโอกาส ให้เธอรอไปก่อน
กู้หุ้ยหยวนก็ได้ตรวจสอบแล้ว จงจิ่งห้าวพาหลินซินเหยียนไปต่างประเทศแล้วจริงๆ จึงได้เชื่อในตัวกวนจิ้ง
ระยะนี้ก็สงบเงียบมาก ไม่มีแผนตุกติกอะไร
ตอนนี้กลับมาแล้ว เธอไม่สามารถที่จะยื้อต่อไปโดยที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง
เมื่อเดินเข้าไปในด้าน กวนจิ้งก็เทน้ำให้เธอ
กู้หุ้ยหยวนนั่งอยู่บนโซฟา เธอใส่เสื้อชีฟองสีขาว ท่อนล่างใส่กระโปรงสั้นทรง A จนเห็นขาเรียวยาวขาวเกลี้ยงเกลาโผล่ออกมา เธอนั่งไขว่ห้าง พลางจ้องมองกวนจิ้งและพูดขึ้นมา “กวนจิ้ง ฉันต้องการให้คุณช่วยฉันสักเรื่องหนึ่ง”
กวนจิ้งเทน้ำและวางตรงด้านหน้าของเธอ และนั่งลงฝั่งตรงข้ามของเธอ พลางเหลือบมองขาที่แกว่งไปมาตรงด้านหน้าโต๊ะเคาน์เตอร์หน้าโซฟา และถามกลับ “ช่วยคุณทำอะไร?”
กู้หุ้ยหยวนงอนิ้วและกวักเขาเข้าหา “คุณมานี่”