กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 735 คุณไม่อยากจะทำอะไรสักหน่อยเหรอ
กวนจิ้งก็นั่งอยู่อย่างนั้นและไม่ขยับเขยื้อนอะไร “คุณมีอะไรก็พูดว่า ในห้องนี้มันไม่มีคน ไม่มีใครจะได้ยินหรอก”
กู้หุ้ยหยวนทำหน้าเย็นชาใส่ “ทำไม แค่นี้ก็กลัวฉันแล้ว? ฉันจะกินคนหรือยังไง?”
เอาแต่หลบอยู่นั่นแหละ เธอเป็นเสือหรือยังไง?
กวนจิ้งแอบมองเธออยู่หลายวินาที เพื่อให้เธอได้เชื่อมั่นในตนเองตลอด เขาสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็นั่งลงและยิ้มให้ตอนพูด “ทำไมคุณถึงได้ขี้เหนียวจัง?”
กู้หุ้ยหยวนส่งเสียงฮึมฮำในลำคอ “กวนจิ้งคุณรับปากยอมช่วยฉันคงไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม?”
“ผมไม่ได้โกหกคุณ ไม่ได้โกหกคุณจริงๆ” กวนจิ้งยิ้มหน้าบาน “ตอนแรกผมก็ไม่จะลาออกแล้วไม่ใช่เหรอ แต่เพื่อช่วยคุณ ขนาดลาออกผมยังไม่ออกเลย จะเป็นสายลับให้คุณนี่แหละ คุณวางแผนว่าจะทำยังไงต่อ?”
ถึงอย่างไรก็ได้รู้ถึงแผนการของเธอ ก็สามารถแจ้งในการทำลายแผนได้ก่อน
กู้หุ้ยหยวนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “ฉันไม่ได้เสียใจจนเป็นบ้าไป ก็แค่คนในบ้านตายไปจนไม่รู้สึกสบายใจ ตื่นตระหนกกับความอัดอั้น ฉันรู้ เรื่องที่ทำผิดกฎหมาย ฉันเองก็ต้องได้รับโทษทางกฎหมาย แต่ว่าการที่มาเห็นคนที่ทำลายครอบครัวของฉัน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ฉันทำไม่ได้กับการที่มานั่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ฉันคิดว่า ทำลายความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองคนซะ จนภรรยาของแยกทางด้วย ก็ไม่ผิดกฎหมายใช่ไหม?”
อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยได้ยินว่า คนที่เมียน้อยต้องถูกจำคุกนี่
กวนจิ้ง “…”
เขาคิดว่า ในโลกใบนี้มีคนที่เป็นเมียน้อยตั้งเยอะแยะ ถ้าเป็นเมียน้อยแล้วมันผิดกฎหมาย คนก็คงหายไปเยอะมากเลยมั้ง?
เขาก็ได้แต่หวังอย่างแรงกล้า สามารถเอากฎหมายมาใช้แบบนี้ได้
การทำลายครอบครัวคนอื่นเป็นความถือว่าเป็นความทุจริตทางศีลธรรม การละเมิดกรรมสิทธิ์ของคนอื่น ก็เหมือนกับการทำผิดทางกฎหมาย
เมื่อหันกลับมาคิดแล้วมันไม่ใช่ความจริง ตอนนี้สิ่งที่ถ่วงเวลาอยู่คือต้องรู้ให้ได้ว่าตกลงแล้วกู้หุ้ยหยวนต้องการจะทำอะไรแน่
“คุณคิดจะทำยังไง?” กวนจิ้งถาม
กู้หุ้ยหยวนช้อนสายตาขึ้น “คุณเป็นคนใกล้ตัวของจงจิ่งห้าว อีกทั้งเขาก็เชื่อมั่นคุณมากไม่ใช่เหรอ?”
“เขาเชื่อมั่นในตัวผม ไม่งั้นผมจะอยู่ที่บริษัทได้นานขนาดนี้เหรอ” กวนจิ้งพูด
กู้หุ้ยหยวนเขยิบตัวเข้าหา พลางกระซิบอยู่ข้างหูเขา โดยใช้เสียงมีแค่พวกเขาสองคนได้ยิน “คุณต้องหาวิธีพาจงจิ่งห้าวมาที่โรงแรมจวินรุ่ยด้วยอาการมึนงง ไม่ว่าจะมอมเหล้ามาหรือว่าใส่ยามา หรือจะเป็นวิธีอื่นก็ได้หมด ฉันรู้สึกว่าคุณหาวิธีในการมอมเหล้าเขาดีที่สุดแล้ว เพื่อสร้างโอกาสหลังจากเมาแล้วเกิดรุ่มร่ามขึ้นมาในเวลานั้น ก็ให้หลินซินเหยียนเมียของเขามาเห็นกับตา ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่า เมื่อเธอเห็นจงจิ่งห้าวกับผู้หญิงอีกคนนอนอยู่บนเตียงแล้ว ยังไม่เข้าใจผิดอีก!”
กวนจิ้งถึงกลับผงะตัวออก จนรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วตัว “นี่คุณหน้าไม่อายจริง ๆ เหรอ?”
ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจจริงๆ แย่ยิ่งกว่าผู้ชายอีกเยอะ
กู้หุ้ยหยวนคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้ พลางประกบตัวเข้าหา “คุณถอยทำไมเนี่ย?”
กวนจิ้งพูดไปตามตรง “ผมรังเกียจที่คุณหน้าไม่อาย!”
กู้หุ้ยหยวนยิ้มให้ “คุณหึงเหรอ?”
กวนจิ้งหลุบตาต่ำ สายตามองตรงคอเสื้อที่มันแยกออกจากกันเพราะว่าเธอหันตัวพอดี ความงดงามกำลังเบ่งบานออกมา พลันละทิ้งความคิดบิดเบี้ยวของกู้หุ้ยหยวนทันที เธอเป็นผู้หญิง ก็ต้องมีความสามารถเป็นทุนอยู่แล้ว
อย่างน้อยในเวลานี้ กวนจิ้งที่เป็นผู้ชายที่ช่างวู่วามซะด้วย
เขาถอนสายตากลับมา “ผมพูดว่าผมหึง คุณไม่ทำได้ไหมล่ะ?”
กู้หุ้ยหยวนยิ้มหน้าบ้าน อย่างอารมณ์ดี “คุณเป็นผู้ชายของฉัน ยังไงฉันก็ต้องรักษาเนื้อรักษาตัวไว้ให้คุณอยู่แล้ว อีกอย่าง ฉันก็ไม่สามารถเอาตัวเองเข้าแลกกับสถานการณ์ล่อแหลมด้วย แค่ใช้เงินนิดหน่อย พวกผู้หญิงในสถานที่บันเทิงยามค่ำคืนต่างก็ยินยอมทำทั้งนั้นแหละ ฉันไม่ต้องเสนอตัวออกนอกหน้าในการทำเองหรอกน่า…”
ตอนที่พูดอยู่นั้นเธอก็ยอมปล่อยมือ นิ้วมือก็มุดเข้าไปด้านในคอเสื้อของเขา พลางลูบคลำแผงอกของกวนจิ้ง พลางถามกลับอย่างออดอ้อน “กวนจิ้ง คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า?”
กวนจิ้งตัวแข็งทื่อ “ผมเป็นผู้ชายหรือเปล่า คุณยังไม่รู้เหรอ?”
กู้หุ้ยหยวนยิ้มตอบ “ฉันรู้สิ”
ร่างกายของเธอประกบจนต่ำลงเรื่อย ๆ ราวกับต้องการจะทับอยู่บนร่างกายของกวนจิ้ง “งั้นคืนนี้ คุณไม่อยากจะทำอะไรสักหน่อยเหรอ?”
กวนจิ้งเหลือบมองด้านนอก ท้องฟ้ามืดแล้ว มีแค่แสงไฟนีออนหลากสีกำลังกะพริบ ดาษดาไปทั่วท้องฟ้า
เขาค่อยๆ ดึงสายตาของตนเองกลับ พลางใช้เสียงทุ้มต่ำกระซิบพูด “คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่?”
“คุณกับฉันต่างโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อยากจะทำอะไรก็ทำได้ ยังมีอะไรที่จำเป็นต้องคำนึงถึงอีกเหรอ?” ริมฝีปากของเธอประกบลงบนใต้คางของกวนจิ้ง พลางจุมพิตอย่างแผ่วเบา “ฉันไม่มีวันให้คุณมารับผิดชอบหรอก รอคุณยอมตกลงเรื่องของฉันแล้ว คุณต้องการให้ฉันหายไปจากโลกของคุณ ฉันก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก”
กวนจิ้งหรี่ตาลง “ผู้หญิงอย่างคุณน่าช่างน่าเบื่อชะมัดเลย พอได้ผมแล้วก็คิดจะสะบัดตูดหนีเฉยเลยเหรอ?”
กู้หุ้ยหยวนแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก พลางยิ้มให้เขาด้วย “คุณกับฉันก็ไม่ใช่คู่รักกัน แถมยังไม่ใช่สามีภรรยา และก็ไม่ได้ซื้อขายกัน อย่างมากที่สุดก็เป็นเพื่อนต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์แหละ ถ้าคุณสนใจ แต่ฉันสามารถขึ้นเตียงกับคุณได้ ไม่พูดเรื่องความรู้สึก ถึงอย่างไรฉันรู้สึกพอใจคุณมาก~”
ประโยคสุดท้ายเต็มไปด้วยการหยอกเย้า
กวนจิ้งรู้สึกร้อนรุ่ม จนเริ่มอดทนไม่ไหวบ้าง จนสุดท้ายก็อดใจไม่ไหว เลยจัดการอุ้มเธอเดินเข้าไปในห้องนอนทันที
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วกวนจิ้งก็เข้าไปอาบน้ำ ส่วนกู้หุ้ยหยวนนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม อย่างเปล่าเปลือย บนใบหน้ายังมีสีหน้าแดงซ่านที่ยังไม่จางหายไป เธอกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ไม่ได้หลับจริงๆ ก็แค่ผล็อยหลับหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว
ผ่านไปสิบกว่านาที กวนจิ้งก็นุ่งชุดอาบน้ำออกมา
“กวนจิ้ง พวกเราเป็นเพื่อนที่ให้ประโยชน์ต่อกันดีไหม?”
กวนจิ้งไม่ได้ตกปากรับคำ และก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่กลับพูดว่า “วันนี้นอนที่นี่กับผมแล้วกันนะ”
กู้หุ้ยหยวนเองก็ไม่สนใจบนตัวของตัวเองที่ไม่มีอะไรสักชิ้น พลันเปิดผ้าห่มออกแล้ววิ่งไปกอดเอวของกวนจิ้งเอาไว้ พลางใช้เรือนร่างแนบชิดกับตัวเขาไว้ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและจูบเขาครั้งหนึ่ง “คุณไม่พูดฉันก็ถือว่าคุณตกลงแล้ว ต่อไปฉันต้องการคุณก็จะมาหาคุณ”
กวนจิ้งตีก้นของเธอ “คุณจะอาบน้ำไหม?”
กู้หุ้ยหยวนส่ายหน้า พลางใช้แขนเกี่ยวรัดต้นคอของเขาไว้ พลางกระซิบพูดข้างหูเขา “ฉันชอบกลิ่นคุณที่อยู่บนตัวฉัน”
กวนจิ้งหลุบตาต่ำจ้องมองเธอ มุมปากเม้มไว้แน่น
การที่ไปนอนกับเธอนั้นทั้งหมดเป็นเพราะว่าเขาเป็นผู้ชายปกติทั่วไป ต้องมีความรู้สึกกับผู้หญิงอยู่แล้ว ทั้งหมดมันเรื่องทางกายภาพทั้งสิ้น
ทว่า เมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูดออกมานั้น ในใจพลันเกิดความรู้สึกอย่างอื่นขึ้นมาแทน
เขาไม่โดนความลุ่มหลงในตัวผู้หญิง พลันค่อยๆ พูดออกมา “นอนเถอะ”
กู้หุ้ยหยวนสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง พลางห่มผ้าให้ตัวเอง “คุณไม่นอนเหรอ?”
“ผมมีธุระต้องออกไปสักเดี๋ยว” กวนจิ้งเดินมาหัวเตียง พลางใช้มือลูบใบหน้ารูปไข่ของเธอ “นอนบนเตียงคนอื่น จะนอนหรือเปล่าเนี่ย?”
“นอนบนเตียงคนอื่นอาจจะนอนไม่หลับ แต่ว่านอนบนเตียงของคุณ ฉันนอนหลับสบายเลยแหละ” เธอกระดกมุมปากขึ้น “คุณไปทำธุระของคุณเถอะ”
กวนจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลันหันตัวเพื่อเดินออกจากห้องนอน ตอนที่ยื่นมือออกไปเพื่อเปิดประตูนั้น กู้หุ้ยหยวนก็ถามทันที “คืนนี้กลับมาไหม?”
กวนจิ้งหยุดฝีเท้าทันที แต่ว่าไม่ได้หันกลับมา พูดว่า “กลับ”
เขาสำนึกผิด ไม่กล้าสบตามองเธอ
ด้วยปัจจัยที่เขาต้องออกไปในเวลานี้ ก็เพื่อไปเจอกับจงจิ่งห้าว เพื่อจะได้พูดคุยกันว่าจะจัดการเธออย่างไรดี
กวนจิ้งเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้เข้ามาหาเธออีกพลางเดินออกไปเลย
เขาขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล ประมาณสิบกว่านาทีก็ถึงที่หมาย หลังจากที่เขาจอดรถเสร็จเรียบร้อยก็เปิดประตูลงจากรถทันที
เขาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 28 ห้องVIP เขาควานหาโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาจงจิ่งห้าว ถ้าตอนนี้ไปหาที่ห้องพักคนไข้ เขากลัวว่าจะเป็นการรบกวนหลินซินเหยียนที่กำลังพักผ่อนอยู่
ดังนั้นเลยคิดว่าเรียกจงจิ่งห้าวออกมาคุยกันดีหว่า
เขากดโทรศัพท์ออกไป หลังจากต่อสายติดแล้วเขาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น จึงมองหา ก็เห็นจิงจิ่งห้าวกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงทางเดิน เขาจึงตัดสายทิ้งและเดินเข้าไปหา