กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 739 ขี้เหร่ยังไงก็ลูกผม
หลินซินเหยียนยิ้มให้ ที่แท้ก็แบบนี้เอง เธอคิดว่าเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์มีอะไรที่ไม่ดีไปแล้วสิ
“ถ้ามีอาการเจ็บท้อง ก็ต้องเรียกหมอทันที” คุณหมอกล่าวออกมา
หลินซินเหยียนพยักหน้าให้ และพูดว่า “รู้แล้ว”
ก่อนกลับคุณหมอก็กลัวว่าหลินซินเหยียนจะรังเกียจที่เด็กในครรภ์นั้นหน้าตาขี้เหร่ ก่อนหน้านี้ก็มีวิดิโอในอินเทอร์เน็ต ที่มีคนท้องเดินไปด้วยร้องไห้ไปด้วย หลังจากทำอัลตร้าซาวด์ไปแล้วก็เห็นว่าเด็กในครรภ์หน้าตาขี้เหร่มาก
คุณแม่ที่ตั้งท้องอยู่ถึงกับร้องไห้ให้กับเด็กในท้อง
“คุณกับท่านประธานจงหน้าตาดีขนาดนี้ ลูกไม่มีทางขี้เหร่หรอก เพราะว่าเด็กยังเล็กอยู่มาก ยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ไม่ต้องกังวลเกินเหตุ”
หลินซินเหยียนยิ้มและพูดต่อ “ฉันไม่คิดมากหรอกค่ะ”
ถึงจะขี้เหร่ขนาดไหนก็ไม่รังเกียจหรอก ขอแค่แข็งแรงก็พอแล้ว
คุณหมอยังต้องไปตรวจห้องคนไข้คนอื่นต่อเลยขอตัวไปก่อน
จงจิ่งห้าวเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่าหลินซินเหยียนกำลังยิ้มอยู่ เลยถามกลับ “มีเรื่องอะไรทำไมถึงได้ดีใจขนาดนั้น?”
หลินซินเหยียนไม่ได้ตอบกลับ แต่ชี้ไปยังอาหารเช้าที่อยู่บนโต๊ะ “อันนี้ฉันเหลือไว้ให้คุณ รีบกินเถอะ เดี๋ยวเย็นหมดซะก่อน”
จงจิ่งห้าวนั่งลงที่ด้านหน้าของโต๊ะ พลางหยิบตะเกียบขึ้นมา หลินซินเหยียนถามกลับ “คุณจะรังเกียจไหมที่ลูกของเราหน้าตาขี้เหร่อะ?”
จงจิ่งห้าวหันศีรษะมามองเธอ เหมือนว่าเข้าใจว่าเธอกำลังหัวเราะอะไรอยู่ พลันตอบตามความเป็นจริงไปเลย “ขี้เหร่ก็ลูกผม ขี้เหร่แล้วจะทำไม?”
หลินซินเหยียนยิ้มให้ “ไม่อึดอัดใจแล้วเหรอ?”
จงจิ่งห้าวกระแอมเล็กน้อย ในใจคิดว่า คุณหมอคนนี้น่าเบื่อชะมัด อะไรก็พูดออกมาจนหมด
“ผมไม่ได้อึดอัดใจ ผมดีใจต่างหาก”
หลินซินเหยียนเอนหลังนอน และถามกลับ “วันนี้คุณจะออกไปไหม?”
จงจิ่งห้าวพยักหน้า เขาต้องออกไปสะสางเรื่องของกู้หุ้ยหยวน วันนี้ไม่สามารถอยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนกับเธอได้
จวงจื่อจิ่นรินน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง พลันพูดว่า “งั้นวันนี้ฉันที่อยู่เฝ้าที่นี่เอง พอคุณกลับมา ฉันค่อยไป”
จงจิ่งห้าวพูดต่อ “ก็ดี เพราะว่าเธอต้องมีคนอยู่ด้วยตลอด พอมีเรื่องอะไรก็เรียกหาหมอได้ทันที”
เขาสั่งการลงมา
จวงจื่อจิ่นตอบกลับ “ฉันรู้แล้ว”
หลังจากทางข้าวเช้าเสร็จแล้ว จวงจื่อจิ่นก็เอาจานชามไปล้างทำความสะอาด จงจิ่งห้าวนวดขาให้หลินซินเหยียน ขาของเธอเริ่มบวมฉึ่งขึ้นมาแล้ว พอตึกเวลากลางคืนอาการเป็นตะคริวก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ
บางครั้งในหนึ่งคืนเป็นตะคริวอยู่หลายครั้งก็มี
เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าการตั้งท้องมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเรื่องหนึ่ง ตั้งแต่ที่ร่างกายของหลินซินเหยียนไม่ค่อยดีเป็นต้นมา เขาก็รู้แจ้งว่า ผู้หญิงไม่แค่ว่าคลอดลูก เหมือนกับเดินผ่านประตูนรกมา ขนาดการตั้งท้องยังไม่ง่ายเลย
หลินซินเหยียนไม่สามารถออกไปไหนได้จนเบื่อมาก พลางหรี่ตาลงเกินครึ่ง และถามกลับ “ไปจัดการงานที่บริษัทเหรอ?”
จงจิ่งห้าวส่งเสียงงึมงำออกมา
รอจนจวงจื่อจิ่นกลับมาแล้ว จงจิ่งห้าวก็ออกไปแล้ว ก่อนจะออกยังพูดว่า “ผมจะรีบกลับมา”
หลินซินเหยียนรีบพูดทันที “คุณวางใจไปทำธุระของคุณได้เลย ฉันตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีอันตรายเกิดขึ้นแน่”
จวงจื่อจิ่นนั่งตรงขอบเตียง “อยากกินผลไม้หน่อยไหม?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้าไปมา “ไม่อยากกิน”
เพิ่งจะกินข้าวมาไม่นาน ยังไม่รู้สึกหิว เลยไม่อยากกินอะไร
ก๊อก ก๊อก–
มีคนเคาะประตู จวงจื่อจิ่นลุกขึ้นไปเปิดประตู ตรงประตูมีพยาบาลยืนอยู่ ตรงประตูมีผู้หญิงคนหนึ่งมาเยี่ยมหลินซินเหยียน นางพยาบาลถามกลับว่า จะให้เข้ามาได้ไหม
จวงจื่อจิ่นถามกลับ “ใครเหรอ?”
“ผู้หญิงคนนั้นพูดว่าตนเองแซ่ฉิน” นางพยาบาลตอบกลับ
จวงจื่อจิ่นคิดว่าเป็นฉินยา และก็ไม่ได้ถามหลินซินเหยียนเลยให้พยาบาลอนุญาตให้คนเข้ามา
แต่เมื่อถึงประตู เธอก็พบกว่าไม่ใช่ฉินยา เธอยืนขวางประตูเอาไว้ พร้อมทั้งจ้องมองกู้หุ้ยหยวนอย่างระแวดระวัง “คุณเป็นใคร?”
กู้หุ้ยหยวนเคยตรวจสอบเรื่องของจงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนมาแล้ว และรู้ว่าหลินซินเหยียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าฉินยา
ดังนั้นเธอเลยพูดกับพยาบาลว่าเธอชื่อฉินยา
ในมือของกู้หุ้ยหยวนยังมีช่อดอกไม้มาด้วย พร้อมทั้งยิ้มให้ตอนพูด “ฉันมาเยี่ยมคุณนายจง”
จวงจื่อจิ่นตอบกลับไป “ฉันไม่รู้จักคุณ เธอไม่สบาย ไม่สามารถเจอแขกได้ กลับไปเถอะ”
กู้หุ้ยหยวนยังคงยิ้มอยู่ “ฉันไม่ใช่คนเลว คุณไม่ต้องระวังฉันขนาดนั้นก็ได้ ฉันก็แค่มาเยี่ยมคุณนายจงเอง ไม่เชื่อ คุณก็ไปถามดูสิ”
หลินซินเหยียนได้ยินเสียงพวกเขากำลังคุยกันจนได้ยินมาถึงในห้อง จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่ง เพื่อฟังให้ถนัด
น้ำเสียงดูคุ้นอยู่
ไม่นานนักเธอก็นึกขึ้นมาได้ ว่าเสียงนี้เป็นเสียงของใคร
กู้หุ้ยหยวน
เธอมาทำอะไรที่นี่?
“คุณนายจง ฉันอยากจะคุยกับคุณสองสามคำได้ไหม?” จวงจื่อจิ่นไม่พูดอะไรก็ไม่อนุญาตให้เธอเข้ามา เธอเลยไม่มีวิธีอื่น ทำได้แค่วิธีนี้เท่านั้นเอง
หลินซินเหยียนไม่ได้ตอบกลับ
กู้หุ้ยหยวนยังไม่ลดละ พลางพูดต่อ “ฉันไม่ได้มีความคิดทุเรศอะไร ที่นี่มันเป็นถิ่นของคุณ ฉันไม่กล้าทำอะไรทั้งนั้น ขอแต่อยากจะคุยกับคุณสองสามประโยคแบบบริสุทธิ์ใจเท่านั้นเอง”
หลินซินเหยียนครุ่นคิดอยู่ จากนั้นก็พูดออกมา “แม่ ให้เขาเข้ามาเถอะ”
จวงจื่อจิ่นพูดว่า “จิ่งห้าวกำชับเอาไว้ ไม่อนุญาตให้คนที่ไม่รู้จักเจ้ามา คนคนนี้ฉันไม่รู้จัก แกต้องการพักผ่อน ทางที่ดีที่สุดไม่ต้องพบแขก”
“คนคนนี้ฉันรู้จัก แม่ให้เธอเข้ามาเถอะ” หลินซินเหยียนพูด
จวงจื่อจิ่นเหลือบมองกู้หุ้ยหยวนแวบหนึ่ง “อยู่ได้แค่ไม่กี่นาทีนะ”
กู้หุ้ยหยวนตอบ “ได้ค่ะ”
เธอพากู้หุ้ยหยวนมาในห้อง
หลินซินเหยียนยังคงระวังอยู่ในใจ สีหน้าดูปกติมาก ขนาดแววตายังไม่มีการหวั่นไหวแต่อย่างใด
ผู้หญิงคนนี้ต้องการจะมายั่วยุความระหว่างเธอกับจงจิ่งห้าว แล้วตอนนี้มาปรากฏตัวทำไมกัน?
คิดจะเล่นแผนตุกติกอะไรอีก?
“ฉันสามารถคุยกับคุณนายจงเป็นการส่วนตัวไหมคะ?” กู้หุ้ยหยวนหันมาทางจวงจื่อจิ่น
จวงจื่อจิ่นส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ด้วย”
กู้หุ้ยหยวนเบนสายตามาทางถามหลินซินเหยียน “ได้ไหม?”
ในมือของหลินซินเหยียนจับปุ่มกดเรียกพยาบาลเอาไว้ แค่เธอกดลงไป คุณหมอก็จะมาปรากฏตัวทันที
หลินซินเหยียนพยักหน้าให้ เมื่อมองมาทางจวงจื่อจิ่น “ไม่เป็นไรหรอกแม่ แม่ไปรอที่หน้าประตูสักพักแล้วกัน”
จวงจื่อจิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย “จิ่งห้าวไม่อนุญาตให้แกเจอคนอื่นคนเดียว”
หลินซินเหยียนยิ้มให้ “ฉันรู้จักเธอ ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”
จวงจื่อจิ่นได้แต่ทำตามคำสั่งเธอ “งั้นแกก็รีบให้เธอออกมาเร็วๆ”
หลินซินเหยียนตอบ “ฉันรู้แล้ว”
จวงจื่อจิ่นเดินออกไปและปิดประตูห้อง
รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนหน้าหลินซินเหยียน พลันหุบลงทันที “พูดมา คุณมาที่นี่ต้องการจะทำอะไรแน่?”
กู้หุ้ยหยวนยิ้มให้ “อย่าได้เป็นอริกับฉันขนาดนั้นสิ ตอนที่ฉันมาก็ไปซื้อดอกไม้มาจากร้านเลยนะ ไม่รู้ว่าคุณชอบหรือเปล่า”
เธอเอาช่อดอกไม้ด้านในมือลิลลี่กับกุหลาบวางไว้ที่ตู้เหนือเตียง