กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 757 ฉันมันไม่ดีเอง
ผู้บัญชาการซ่งเห็นเสิ่นเผยซวนก็วางกล่องในมือลง เดินเข้ามา “มา นั่งสิ”
เขาลากเสิ่นเผยซวยมานั่งลงบนโซฟา
“ผมเกษียณแล้ว” ผู้บัญชาการซ่งพูด
เสิ่นเผยซวนมองเขาอยู่นานไม่พูดจา
เพราะว่าเขามองออก ว่าผู้บัญชาการซ่งรู้สึกเสียดาย เขาเป็นคนรักงาน ตอนนี้เกษียณก่อนกำหนด ในใจจะต้องรู้สึกหดหู่อย่างแน่นอน
“ที่จริงท่าน…”
ผู้บัญชาการซ่งโบกมือเพื่อส่งสัญญาณว่าเสิ่นเผยซวนไม่ต้องพูด เรื่องที่ตัดสินใจและคิดดีแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องรู้สึกเสียใจและเสียดาย
“ผมเสนอให้คุณมาแทนตำแหน่งผม เพียงแต่เบื้องบนยังต้องพิจารณาดูก่อน คุณทำผลงานดีๆล่ะ” ผู้บัญชาการซ่งมองดูห้องทำงานห้องนี้รอบหนึ่ง “ตอนนี้จะต้องไปแล้ว ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์จริงๆ ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ตำแหน่งนี้หรอกนะ แต่อาลัยอาวรณ์สถานที่แห่งนี้ตางหาก อยู่มานานแล้ว ก็รู้สึกผูกพันล่ะนะ”
เสิ่นเผยซวนหลุบตาต่ำ ไม่รู้ว่าจะสามารถพูดอะไรเพื่อมาปลอบเขา
“เฮ้อ ไม่พูดละ เรื่องสมัยก่อนที่ไม่ค่อยดีนายลืมๆไปซะเถอะนะ ถือซะว่าไว้หน้าผมหัวหน้าเก่าคนนี้เป็นครั้งสุดท้ายละกัน”
ผู้บัญชาการซ่งตบไหล่เสิ่นเผยซวน
เสื่นเผยซวยพยักหน้า “ผมไม่ได้นำมาใส่ใจครับ”
“ผมเชื่อคุณ วุ่นวายจนเป็นแบบนี้ล้วนเป็นความผิดของผมเอง” ผู้บัญชาการซ่งพูดด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก น้ำเสียงผิดหวัง
เสิ่นเผยซวนเพียงแค่นั่งฟังเงียบๆ
“เอาเถอะ นายไปทำงานเถอะ ผมก็เก็บของเสร็จแล้วควรจะไปได้แล้ว” ผู้บัญชาการซ่งลุกยืนขึ้น เสิ่นเผยซวนก็ลุกขึ้นตามเช่นกัน “ผมไปส่งท่านครับ”
ผู้บัญชาการซ่งยิ้ม พูดว่า “ได้ ไม่เสียแรงที่ผมถูกใจคุณขนาดนี้”
เสิ่นเผยซวนเดินออกไปส่งผู้บัญชาการซ่ง ระหว่างทางมีเพื่อนร่วมงานบางส่วนเข้ามาทักทาย บ่งบอกว่าจำเขาหัวหน้าคนนี้ได้ แสดงความเสียดายต่อเขาที่เกษียณก่อนกำหนด
พอออกจากประตู ผู้บัญชาการซ่งไม่ให้ใครไปส่งสักคน เดินไปด้วยตัวเอง
ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น เวลานี้ มองดูหัวหน้าเก่าจากไป ในใจของทุกคนต่างก็รู้สึกอาลัยไม่มากก็น้อย อยู่ด้วยกันมานานก็ต้องมีความรู้สึกต่อกันเป็นธรรมดา
เสิ่นเผยซวนยืนอยู่หน้าประตูใช้สายตาส่งผู้บัญชาการซ่งจากไป ในใจก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“ตอนนี้ผู้บัญชาการซ่งจากไป โอกาสเลื่อนขั้นของรองผู้บัญชาการเสิ่นมาถึงแล้ว” มีคนพูดขึ้น
เสิ่นเผยซวนพูด “ไปทำงาน”
“ครับ ผู้บัญชาการเสิ่น” คนคนนั้นพูดอย่างล้อเล่น
เสิ่นเผยซวนสีหน้าเคร่งขรึมทันที “ห้ามพูดจาเหลวไหล!”
เรื่องที่ยังไม่ใช่ จะล้อเล่นแบบนี้ไม่ได้ คนอื่นได้ยินจะมีผลกระทบที่ไม่ดี
คนคนนั้นหัวเราะ
พอถึงเวลาประชุม ทุกคนต่างก็แยกย้าย ที่ต้องเข้าร่วมประชุมต่างก็ไปที่ห้องประชุม
ตอนเย็นเลิกงาน เสิ่นเผยซวนไปรับท่านย่ามาที่โรงพยาบาล
ตอนนั้นคุณหมอกำลังตรวจอาการ เสิ่นเผยซวนก็ไม่ได้ให้ท่านย่าเข้าไป รออยู่ด้านนอก
ได้ยินเสิ่นเผยซวนบอกว่าซูจ้านรถชน ตอนแรกท่านย่ายังไม่เชื่อ นึกว่าซูจ้านตั้งใจ
เพราะว่าเธอไม่สามารถยอมรับความจริงที่ฉินยาไม่สามารถคลอดบุตรได้
ตอนนี้มาถึงโรงพยาบาล เธอเริ่มไม่สบายใจ กลัวซูจ้านจะรถชนจริงๆ
ผ่านไปสักพัก ประตูห้องตรวจเปิดออก ซูจ้านถูกเข็นออกมา ตามมาด้วยฉินยา พอเห็นเสิ่นเผยซวนพาท่านย่ามา เธอตะลึงไปสักพัก แล้วก็ได้สติกลับมา เดินตามบุคลากรทางการแพทย์เข้ามา
ท่านย่าสั่นไปทั้งตัวอย่างไม่รู้ตัว เธอจ้องคนที่เข็นเข้ามา เธอเห็นใบหน้าของคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยชัดเจนอย่างรวดเร็ว นี่คือหลานชายของเธอซูจ้าน
“ซูจ้าน——”
ท่านย่าตื่นตกใจ เสิ่นเผยซวนดันเธอเข้าไป
เธอคว้ามือของซูจ้านไว้แน่น “ซูจ้าน แกตื่นสิ”
“กรุณาอย่าเขย่าผู้ป่วย” คุณหมอหยุดการกระทำของท่านย่า “ผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศรีษะ ไม่เหมาะที่จะเขย่า”
ท่านย่ารีบดึงมือกลับทันที กลัวว่าจะเป็นการทำร้ายซูจ้านรอบสอง
ก็แค่ในใจรู้สึกหวาดกลัวมาก กลัวว่าซูจ้านจะเป็นอะไรไป
“คุณหมอ หลานชายฉันบาดเจ็บเป็นยังไงบ้างคะ?” ท่านย่าตาแดง
“ตอนนี้ไม่อันตรายถึงชีวิตแล้ว เพียงแต่ว่าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็ยังไม่รู้” คุณหมอพูด
ไม่รู้ว่าจะฟื้นเมื่อไหร่?
ท่านย่าพูดตะกุกตะกัก “คงไม่ใช่ ไม่ใช่จะนอนไม่ฟื้นไปตลอดใช่มั้ยคะ?”
ไม่ใช่ว่าหลายคน ที่นอนไม่ฟื้นแล้วกลายเป็นเจ้าชายนิทรางั้นหรอ?
ท่านย่ายิ่งคิดใจก็ยิ่งกระวนกระวายมากยิ่งขึ้น สีหน้าซีดเซียว
คุณหมอดันแว่นตาบนจมูก พูดด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติอย่างมาก “อันนี้ก็เป็นไปได้”
ร่างกายของท่านย่าสั่นไหว เกือบจะเป็นลมหมดสติ
เสิ่นเผยซวนรีบมาพยุงเธอไว้ “ความหวังที่จะฟื้นยังมีอยู่มากครับ”
ท่านย่าเช็ดหน้า พูดอย่างโศกเศร้า “ฉันมันไม่ดีเอง ฉันมันไม่ดีเอง”
สองสามวันนี้พวกเขาย่าหลานสองคน เจอหน้าก็ทะเลาะกัน เจอหน้าก็ทะเลาะกัน ไม่เคยคุยกันดีๆสักครั้ง ทั้งๆที่เธอรู้ว่าซูจ้านชอบฉินยา ก็ยังไม่เห็นด้วย
เขาจะต้องอารมณ์ไม่ดีแน่ๆ ถึงเมาแล้วขับ นี่ถึงทำให้เกิดรถชน
“ซูจ้านนะ ยายผิดไปแล้ว หลานรีบๆฟื้นขึ้นมาเถอะ” ท่านย่าฟุบลงร้องไห้ข้างเตียง
ฉินยามองเสิ่นเผยซวน พูดเสียงเบา “ทำไมพาท่านย่ามาล่ะ?”
เสิ่นเผยซวนพูด “ปิดไม่มิดหรอก ท่านย่ายังไงก็ต้องรู้”
“ส่งผู้ป่วยกลับเข้าในห้องก่อนเถอะ” คุณหมอพูด ขวางอยู่ตรงนี้จะกระทบต่อผู้คนที่เดินผ่านไปมา
ซูจ้านส่งเข้ามาในห้องผู้ป่วยอีกครั้ง ท่านย่าตามมาติดๆ
เห็นสีหน้าซีดเซียวที่สลบอยู่ของหลานชาย ท่านย่าเจ็บปวดใจจนจะตาย
คว้ามือของซูจ้าน แล้วก็ร้องไห้อีกรอบ
“ซูจ้านหลานฟื้นเถอะ แกทำใจเห็นฉันที่อายุปูนนี้ยังต้องมากังวลเป็นห่วงแกงั้นหรอ?” ท่านย่าไม่กลัวเขาจะหัวเราะเยาะ ไม่มีกะจิตกะใจยามปกติเลยสักนิด สถานการณ์ของซูจ้านตอนนี้ทำร้ายจิตใจเธอแล้วจริงๆ
ฉินยาเทน้ำให้ท่านย่าหนึ่งแก้ว “ท่านดื่มน้ำก่อนนะคะ”
ท่านย่าเงยหน้าขึ้น มองฉินยา