กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 780 ยาที่ใช้บำรุงร่างกาย
ฉินยาพูด” ฉันหาผ่านหน่วยงานค่ะ ฉันกับซูจ้านเคยเห็นรูปอยู่ หน้าตาตรงกันดูโอเคเลย และก็มีการศึกษาระดับสูงด้วย….. ”
ได้ยินจากคนที่แนะนำว่า เป็นถึงหญิงที่จบปริญญาโท แต่ก็ยังมาทำเรื่องพวกนี้ มันน่าทึ่งการบรรยายเลยล่ะ
อาจจะเป็นเพราะถ้ามีเงินเสียอย่างจะปลุกผีขึ้นมาโม่แป้งก็ยังได้
” เชื่อถือได้ไหม? ” หลินซินเหยียนถาม
ฉินยาตอบกลับไปว่า ” คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุยกันเรื่องราคาแล้วก็ประมาณหนึ่งล้านห้าแสนบาท ตอนนี้จ่ายไปแล้วหนึ่งแสน รอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นถึงจะจ่ายส่วนที่เหลือ อีกอย่างหล่อนไม่ได้รู้ข้อมูลของฉันกับซูจ้าน ในอนาคตก็คงไม่มีเรื่องให้ต้องวุ่นวายมากมาย ”
ตามรูปแบบของสถาบันแล้ว หลังจากที่เด็กคลอดออกมา เพราะเขาก็จะยืนยันและชี้ขาดว่า เด็กคนนี้เป็นลูกของเธอกับซูจ้าน จึงจะจ่ายเงิน และก็ไม่กลัวที่จะถูกสับเปลี่ยนทีหลังหรือใช้ลูกของคนอื่นมาแทน
หลินซินเหยียนพยักหน้า ” ดีแล้วแหละขอแค่ให้พวกเธอรอบคอบก็พอ ”
” อื้ม ”
ก๊อกๆ…..
เวลานี้ประตูห้องถูกเคาะ ฉินยาได้ยิน หลินซินเหยียนก็บอกให้เข้ามา ช่าวหยุนประตูเรายืนอยู่ตรงทางเข้า ไม่ได้เดินเข้ามาแต่อย่างใด
เมื่อเห็นว่าฉินยาอยู่ในห้องก็ยิ้มและพูดว่า ” พวกเธอสองคนอยู่ในห้องนั่งซุบซิบอะไรกันนะ? ”
หลินซินเหยียนหัวเราะและพูดขึ้นมา ” แค่คุยกันเฉยๆ ค่ะ อารองได้ไปดูลูกหรือยังคะ ”
ช่าวหยุนพูด ” ไปดูมาแล้ว หน้าตาเหมือนเธอเลย ”
ท่าทางที่ลูกยังเล็กอยู่ ยังดูไม่ออกว่าเหมือนใครเลยด้วยซ้ำ เธอจึงหัวเราะและพูดว่า ” อารองชอบทำให้ฉันดีใจอยู่เรื่อย ”
” เหยียนเหยียน ฉันต้องเตรียมตัวกลับ เมืองCแล้วล่ะ ”
” ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอคะ ” หลินซินเหยียนเห็นว่ามาทั้งที ก็อยากให้เขาอยู่อีกสักสองสามวัน
” ฉันก็อยากอยู่เที่ยวอีกสักสองสามวัน แต่ว่าไอ้คนแซ่เฉิงเรียกให้ฉันกลับไปน่ะสิ ” ช่าวหยุนยิ้มๆ ” วันนี้ฉันมายังไงฉันก็ต้องมา แต่ช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง ไปไหนมาไหนก็ได้แค่คนเดียว ถ้างั้นเรามาเป่ายิงฉุบกันดีกว่า ถ้าฉันชนะฉันจะมาหา ฉันเริ่มก่อน รอฉันกลับไปแล้วให้เขามาดูหนูน้อยนี้แทน ”
ฉินยาอดที่จะยิ้มไม่ได้ ” เราโตๆ กันแล้ว ยังเล่นเป่ายิงฉุบ ไม่เด็กไปหน่อยเหรอคะ? ”
ช่าวหยุนมองไปที่เธอ ” เธอจะไปรู้อะไรล่ะนี่มันคือเรื่องสนุกสนานของผู้ชายอย่างเราๆ เลยนะ เธอไม่เข้าใจหรอกน่า ”
ฉินยาเสริม ” เป็นความสนุกสนานของผู้ชายที่ยังไม่โตต่างหาก ผู้ชายที่โตกันแล้วเขาไม่เล่นเกมเป่ายิงฉุบกันแบบนี้หรอก ”
” เสี่ยวยา ฉันรู้สึกว่าเธอผอมไปนะ ” ช่าวหยุนได้เปลี่ยนบทสนทนา สายตาของเขาไม่ต้องไปที่เธอ แล้วก็หันไปมองหลินซินเหยียน ถึงแม้ว่าหลินซินเหยียนจะผ่านการผ่าตัดใหญ่มา แต่กลับดูฟื้นตัวได้ดี ใบหน้าและสีผิวเป็นสีแดงระเรื่อ แต่เธอกลับดูเหมือนคนไม่สบายยังไงยังงั้น
ฉินยายิ้ม ” ฉันก็ผอมมาตั้งนานแล้วนะ….. ”
” ไอ้เจ้าซูจ้านนั่น มันดูแลเธอไม่ดีใช่ไหม? ” ช่าวหยุนพูดต่อ ในสายตาของฉันเธอกับเหยียนเหยียนก็เหมือนกัน หากถูกใครรังแกแล้วก็ต้องมาบอกฉัน ฉันจะจัดการเอง รู้ไหม? ”
” รู้แล้วค่ะ ” ฉินยาตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม พอรู้ว่าเขาเป็นห่วงเธอจริงๆ
ช่าวหยุนมาแป๊บเดียว หลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าวต่างก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากข้อจำกัดของโรงพยาบาล พวกเขาเลยต้องออกไปกินข้าวข้างนอกกันแทน
หลินซินเหยียนไม่ได้ไปจึงให้จวงจื่อจิ่นดูแลอยู่ที่โรงพยาบาล
ให้พวกเขาไปกันเอง
เมื่อกินข้าวเสร็จบางคนก็ต่างกลับบ้าน จงจิ่งห้าวก็จัดแจงเรื่องโรงแรมให้กับช่าวหยุน
เมื่อซูจ้านกับฉินยากลับมาถึงบ้าน ท่านย่ากำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก เฉินเสว่ล้างผลไม้เสร็จแล้วก็นั่งปอกเปลือกอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าพวกเขาเข้ามาในบ้านเธอก็รีบยืนขึ้น ” พี่ชายกับพี่สาวกลับมาแล้วค่ะ ”
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เฉินเสว่ไม่รู้ว่าจะเรียกพวกเขาอย่างไร ท่านย่าจิ๋มบอกว่า ” เธอเรียกฉันว่าคุณย่า แล้วก็เรียกพวกเขาว่าพี่ชายพี่สาวก็แล้วกัน ”
ตั้งแต่นั้นมาเฉินเสว่ก็เรียกพวกเขาแบบนั้น
ท่านย่ารู้สึกพอใจ พวกเขาก็ไม่ได้ติดอะไร ก็แค่คำเรียก เฉินเสว่อายุยังน้อยเรื่องแบบนี้ก็เหมาะสมแล้ว
ฉินยาขานรับ
” พี่สาวกินข้าวหรือยังคะ? หรือว่าให้ฉันไปทำอะไรให้พวกพี่กินสักหน่อย? ” เฉินเสว่ยิ้มแล้วถามอย่างมีมารยาท
ฉินยาตอบ ” ไม่ต้องแล้วจ้ะ พวกเรากินจากข้างนอกมาแล้ว ”
ท่านย่าโบกไม้โบกมือ” พวกเธอมานั่งตรงนี้สิ ”
ฉินยาเดินเข้ามา ซูจ้านก็เดินนำหน้าฉินยา แล้วถามว่า ” คุณย่ามีเรื่องอะไรเหรอครับ? ”
” ไม่มีอะไรหรอก พวกเธอดูทีวีเป็นเพื่อนฉันหน่อยไม่ได้เหรอ? ” ท่านย่ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ รู้สึกว่าตั้งแต่ซูจ้านกลับมาคืนดีกับฉินยาในครั้งนี้ ในสายตาก็มีแต่ฉินยา ไม่ได้สนใจไยดีอะไรกับท่านย่ายังเธอเท่าเมื่อก่อน
คำพูดของท่านย่าแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ฉินยารู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องทำหน้าฝืนยิ้ม ” คุณย่าเป็นอะไรเหรอคะ? หรือว่ารู้สึกว่าฉันกับซูจ้านไม่ค่อยได้อยู่ด้วยเลยใช่ไหม? ”
ท่านย่าลากมือเธอมากุมไว้ ” ยังดีที่มีเธอที่เข้าใจฉัน และรู้ใจฉันตลอด ”
ฉินยาก้มหน้าไม่ได้พูดอะไร
” เสี่ยวเสว่ ไปยกน้ำซุปมาให้พี่สาวเธอสิ ” ท่านย่ากำชับ
เฉินเสว่ลุกขึ้นแล้วเข้าครัวไปตักน้ำซุป ฉินยาเมื่อได้ยินว่าต้องกินน้ำซุปร่างกายก็หยุดชะงัก
เธอเงยหน้ามอง ” คุณย่าคะ ไม่กินไม่ได้เหรอ? ”
” ไม่ได้ ” ท่านย่าพูดด้วยท่าทีจริงจัง
เฉินเสว่ยกน้ำซุปออกมาถ้วยหนึ่ง
” เธอเอาน้ำซุปนี้ยกไปไว้ในห้องเถอะ ” ซูจ้านพูดขึ้นมา
เขารู้ว่าฉินยาพยายาม ก็เลยให้เฉินเสว่ยกไปวางไว้ข้างใน แบบนี้ถ้าเธอไม่อยากกินก็จะได้เททิ้งได้
ท่านย่าดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เขม่นตาไปที่ซูจ้าน ” แกหมายความว่ายังไงฮ้ะ? ”
” ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่น เธอเพิ่งจะกินข้าวมาอิ่มๆ ผมกลัวว่าเธอจะกินไม่ลง รอให้อาหารย่อยก่อนแล้วค่อยกิน ”
” น้ำซุปนี้กินตอนเย็นไม่ได้ ต้องกินตอนมันยังร้อนๆ สิ ” ท่านย่าไม่ฟังซูจ้าน ให้เฉินเสว่เอาน้ำซุปไปให้ฉินยา
ฉินยาก็ปฏิเสธไม่ได้
ยังไม่ทันได้กินก็อยากจะอ้วกแล้ว
ครั้งแรกที่เริ่มกิน เธอแค่รู้สึกว่ามันหนักคาวไปหน่อย จนกระทั่งมีครั้งหนึ่งเธอเห็นท่านย่าพกถุงบางอย่างที่เอามาจากข้างนอก ในนั้นใส่ของที่มีกลิ่นคาวอย่างที่สุดเอาไว้ แล้วให้เฉินเสว่เอาไปชำระสะสางให้เรียบร้อย เธอถามว่านั่นคืออะไร
ท่านย่าก็บอกว่ามันเป็นยาจีนอย่างหนึ่ง เอาไว้บำรุงร่างกาย
จากนั้นเธอก็ถ่ายรูปแล้วไปเสิร์ชในเน็ต จริงๆ แล้วมันคือ…..