กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 781 ถือว่าผมของร้องคุณย่านะครับ
หลังจากนั้นเธอก็ถ่ายรูปและนำไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต เป็นรกที่คลอดก่อนกำหนดอย่างที่คิดเอาไว้เลย เมื่อกินเข้าไปก็มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนจริงๆ
แต่ว่า…
สำหรับฉินยาแล้ว เธอรับไม่ได้แม้แต่น้อย
เพียงแค่คิดถึงว่าสิ่งนี้คืออะไร กระเพาะของเธอก็บิดมวนอย่างหนัก ยิ่งไม่ต้องพูดว่าจะดื่มซุปที่ตุ๋นจากสิ่งนี้เลย
“เสี่ยวยารีบดื่มตอนร้อนๆเร็วเข้า คุณหมอบอกว่าร่างกายของเธอมีสภาวะพร่อง สิ่งนี้บำรุงได้ดีที่สุด กระทั่งเนื้อเธอก็ต้องกินด้วยนะ แบบนี้ดีต่อร่างกายของเธอ…”
“แหวะ…”
ท่านย่ายังเอ่ยไม่ทันจบ ฉินยาเห็นควันลอยออกมาจากซุปยามนั้นก็อยากจะอาเจียนออกมาแล้ว
เธอวิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมา อาหารที่กินเข้าไปล้วนถูกอาเจียนออกมาทั้งหมด
ซูจ้านตบหลังให้เธอ “ซุปนั้นดื่มยากขนาดนั้นเลยหรือ”
เขาไม่รู้ว่าซุปนั้นใช้อะไรตุ๋น รู้เพียงแค่ว่าฉินยามีอาการต่อต้าน
ฉินยาล้างคราบสกปรก บ้วนปาก เงยหน้ามองเขา “ซูจ้าน”
ซูจ้าน “อืม ทำไมหรือ”
“ฉันกลัวว่าจนทนต่อไปได้ไม่นานแล้ว คุณเตรียมใจเอาไว้ให้ดีนะคะ” ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องระเบิดแน่นอน
สิ่งอื่นเธอสามารถอดทนได้ แต่ทุกสิ่งล้วนมีขอบเขต เรื่องการดื่มซุปนี้ได้แตะโดนขีดจำกัดของเธอเข้าแล้ว
“ฉันยอมถอยให้แล้ว อย่าให้ฉันต้องยอมถอยอีก พวกคุณก็ต้องยอมให้ฉันบ้าง…”
มือของซูจ้านที่ชูขึ้นแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ เขากำมือและค่อยๆดึงกลับมา
“ได้ คุณเข้าไปในห้องก่อน ผมจะคุยกับคุณย่า”
ฉินยาเอียงกายเดินผ่านเขาไป
“เสี่ยวยา…”
“คุณย่าครับ”
ท่านย่ากำลังจะเรียกเธอ แต่ถูกซูจ้านตัดบท เขาเดินเข้ามาเข็นคุณย่าเข้าไปในห้อง และสั่งเฉินเสว่ว่า “เทซุปทิ้งเสีย…”
ท่านย่าเบิกตากว้างในทันที “หลานรู้ไหมว่าของสิ่งนี้ทำยากแค่ไหน หลานจะให้เททิ้ง?”
ถ้าไม่มีเส้นสายกับคนภายใน ของพวกนี้ล้วนไม่สามารถหามาได้ อีกทั้งมูลค่าก็สูงด้วยเช่นกัน
เฉินเสว่ยืนถาม “เททิ้งหรือว่าไม่เททิ้งคะ”
“ไม่สามารถเททิ้งได้”
ท่านย่าเอ่ยเสียงดัง
ซูจ้านเอ่ยว่า “ฟังฉัน เททิ้งไป”
ท่านย่าโมโหจนตัวสั่น “หลานคิดจะทำอะไร”
ซูจ้านไม่สนใจ เข็นเธอเข้าไปในห้อง และปิดประตูลง
“เธอไม่ยินยอมที่จะดื่มมันใช่หรือไม่…”
“คุณย่า ซุปนั้นคุณย่าใช้อะไรตุ๋นครับ” ซูจ้านมองออกว่าฉินยามีท่าทีต่อต้านเพราะสิ่งที่ใช้ตุ๋นซุปนั้น
เขาไม่รู้ว่านั่นคืออะไร เพียงแต่รู้สึกได้ว่าของสิ่งนั้นมีกลิ่นเหม็นคาวมาก
“ย่าฝากคน และจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้รกที่ลอกตัวก่อนกำหนดนี้มาจากโรงพยาบาล…”
ท่านย่ายังไม่ทันจะเอ่ยจบ ซูจ้านก็ตัดบทเธอ และเบิกตากว้างมองมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “อะไรนะครับ”
“ของนี้หาได้ยากมาก” ท่านย่ายังคงไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดอะไร เธอเพียงแค่อยากให้ร่างกายของฉินยาดีขึ้นในเร็ววัน
ของสิ่งนี้มีเพียงแค่โรงพยาบาลที่มี คนส่วนใหญ่หลังจากคลอดแล้วล้วนไม่ต้องการ ก็จะให้โรงพยาบาลเป็นผู้จัดการ พวกเขาจะเก็บรักษาเอาไว้ ขายให้กับคนที่ต้องการมัน
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนดำเนินการกันลับๆ เป็นการซื้อขายที่ผิดศีลธรรม และก็ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสามารถได้มันมา แต่จำเป็นต้องใช้ช่องทางพิเศษ
ซูจ้านรู้สึกเพียงแค่ว่าตัวเองใกล้จะเป็นบ้าแล้ว ท่านย่าผู้นี้ทำไมถึงได้บ้าคลั่งจนกลายเป็นแบบนี้กัน
“คุณย่า ของสิ่งนี้คุณย่ากินลงไหมครับ”
“ย่าไม่จำเป็นต้องบำรุงร่างกาย”
ซูจ้านสูดลมหายใจลึก รู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขาอดทนสุดความสามารถถึงไม่ได้ระเบิดโทสะออกมาต่อหน้าท่านย่า “ของสิ่งนี้ไม่ต้องพูดถึงฉินยาเลย กระทั่งผมก็ยากที่จะยอมรับมันได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอ”
พูดแล้วซูจ้านก็คุกเข่าลงที่ด้านหน้าท่านย่า นัยน์ตาของเขามีม่านน้ำตาชั้นหนึ่งบางๆ มือของเขาวางอยู่บนขาของท่านย่า เงยหน้าเอ่ยด้วยเสียงสะอื้น “คุณย่า ถ้าคุณย่ายังวุ่นวายเช่นนี้อีก จะทำให้พวกเราต้องเลิกรากัน เธอรับปากแล้ว คุณย่ายังต้องการอะไรอีกหรือครับ อืม?! ถ้าหากว่าพวกเราแยกทางกันจริงๆ คุณย่าก็จะพอใจใช่ไหมครับ รู้ไหมครับว่าผมทุกข์ทรมานมากแค่ไหน ทางหนึ่งก็เป็นคนที่ผมรัก ผมไม่อยากให้ใครได้รับบาดเจ็บ เพื่อคล้อยตามคุณย่า พวกเราล้วนให้ความร่วมมือกันอย่างระมัดระวัง เชื่อฟังคำพูดของคุณย่า แต่ว่าทำไมคุณย่าถึงไม่นึกถึงพวกเราบ้างครับ”
ท่านย่ามองไปทางเขา “ซู…ซูจ้าน…”
ซูจ้านกุมใบหน้า “ถือเสียว่าผมขอร้องคุณย่านะครับ อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม”
นัยน์ตาท่านย่าคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เธอคิดอยากจะช่วยพวกเขา ทำไมถึงไม่เข้าใจความยากลำบากในการทำด้วยใจของเธอบ้างกัน
ความปรารถนาดีของเธอกลับทำให้พวกเขาอิดหนาระอาใจ?
ท่านย่ารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ย่าไม่ยุ่งด้วยแล้วโอเคไหม”
ซูจ้านนั่งอยู่บนพื้นโดยไม่พูดอะไร
ผ่านไปอยู่นานเขาถึงได้ลุกขึ้นและกลับไปที่ห้อง
ฉินยาอยู่ในห้อง ซูจ้านเข็นท่านย่าไปที่ห้องของท่านย่าแล้วปิดประตู ฉินยาจึงไม่ได้ยินว่าเขาคุยกับท่านย่าอย่างไร
“คุณย่ารับปากแล้วว่าหลังจากนี้ไม่ต้องดื่มซุปนั้นอีก” เขาเดินมาอย่างมีโทสะ “เสี่ยวยา ผมทำผิดต่อคุณ”
ฉินยารู้ว่าเขาลำบากที่เป็นคนกลาง จึงไม่ได้ถือสาเอาความโดยไม่ยอมปล่อยวาง
ยิ่งเธอยกโทษให้ด้วยความโอบอ้อมอารีแบบนี้ ซูจ้านก็ยิ่งอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
“คุณรู้ไหม ผมไร้ความสามารถมาก ผมไม่อยากให้คุณได้รับความลำบาก แต่ผมก็ทำสิ่งใดไม่ได้ทั้งนั้น ความรู้สึกแบบนี้นั้นทรมานมาก” เขานั่งลงที่ข้างเตียง ข้อศอกทั้งสองข้างวางอยู่บนเข่า แผ่นหลังโค้งลงจนฉินยามองไม่เห็นใบหน้าของเขา
“ฉันรู้ค่ะ ดังนั้นจึงไม่ได้โทษคุณ” ฉินยาเอ่ยเรียบๆ
“คุณไม่โทษผม แต่ว่าผมโทษตัวเอง ถ้าหากว่าผมใจแข็งกว่านี้อีกสักหน่อย…”
“ใจแข็งอย่างไรคะ ทิ้งขว้างคุณย่าที่เลี้ยงดูคุณมาหรือคะ”
ซูจ้านยิ้มเจื่อน “อืม”
ฉินยาตบศีรษะเขา “คุณที่เป็นแบบนั้น ฉันไม่มีวันชอบค่ะ กระทั่งคนที่เป็นญาติก็ยังสามารถทิ้งขว้างได้ ยังจะมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือ เช่นนั้นแล้วคุณยังจะคุ้มค่าให้ฉันฝากชีวิตเอาไว้หรือคะ”