กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 793 เพราะคิดถึงฉันหรือเปล่า
“รีบพูดมาสิ อย่าอืดอาดชักช้า” มีเพื่อนเกิดความรำคาญ
หวางทิงเสว่ยิ้มขึ้น “ถามพวกเขาว่าเข้าห้องหอกันตอนไหน”
เสิ่นเผยซวน “……”
ซางหยู “……”
“โอ๊ย พวกเธอนี่ไม่จบไม่สิ้น สามีฉันอุตส่าห์มาตั้งไกลเพื่อมาดูฉัน เหนื่อยมากแล้ว ไม่มีเวลามาเล่นกับพวกเธอหรอก” ซางหยูดึงเสิ่นเผยซวนออกจากวงไป
ทิ้งเพื่อนๆของเธอที่ต่างสบตากัน “ซางหยูทำไมเธอใจแคบอย่างนี้”
ซางหยูไม่สนใจ ควงแขนของเสิ่นเผยซวนเดินไปทางริมธาร
พระจันทร์คืนนี้อยู่สูงมาก และก็สว่างมากด้วย หากว่าอยู่ในเมืองยากนักที่จะสังเกตเห็นพระจันทร์บนท้องฟ้า เพราะว่าสายตาได้ถูกบดบังด้วยแสงนีออนหลากหลายสีสัน
โขดหินริมทางถูกน้ำซัดจนสะอาดสะอ้าน เรียบเนียน ซางหยูดึงมือของเสิ่นเผยซวนแล้วนั่งลง จากนั้นเธออิงศีรษะพิงลงที่ไหล่ของเขา
“คุณดูดาวคืนนี้สิ”
เสิ่นเผยซวนแหงนหน้าขึ้นมองดวงดาว ไม่เยอะ แต่มีบางดวงที่ส่องแสงสว่างไสวแพรวพราว
เขาหันหน้ามามองซางหยู เอื้อมมือไปจับเส้นผมที่ปรกอยู่ที่ทรวงอกของเธอแล้วกล่าว “อยู่บ้านคนเดียวกลัวเหรอ”
ซางหยูส่ายหน้า “มีอะไรให้น่ากลัว อยู่คนเดียวมาโดยตลอด”
ชินตั้งนานแล้ว
เสิ่นเผยซวนลืมไปได้อย่างไรว่าชีวิตวัยเด็กของเธอนั้นไม่ได้มีความสุข
“ผมจะพยายามกลับมาให้เร็วที่สุด” เสิ่นเผยซวนกล่าว
ซางหยูตอบอืมแล้วถามขึ้น “วันนี้คุณกลับมา พรุ่งนี้ก็ต้องรีบกลับไปเหรอ”
เสิ่นเผยซวนตอบ “ใช่ ผมอาศัยช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กลับมา”
ซางหยูโน้มตัวเข้าไปใกล้ข้างใบหูของเขาแล้วถามเบาๆ “คุณกลับมาเพื่อมาดูฉันเหรอ”
เสิ่นเผยซวนหรี่ตาลงเบาๆ ซางหยูจับเข้าที่ใบหน้าของเขา ให้เขาจ้องหน้าตัวเอง “เพราะว่าคิดถึงฉัน ก็เลยกลับมาดูฉันใช่ไหม”
ซางหยูเงยหน้าขึ้น คู่ดวงตาใสแป๋วจ้องมองเขา
เสิ่นเผยซวนนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ ภายใต้แพขนตาที่ยาว ดวงตาเรียบนิ่งราวกับไม่มีคลื่นใด ๆ แต่กลับมีแสงประกายซ่อนอยู่ในส่วนลึก ได้กล่าวเบาๆ “อืม ผมคิดถึงคุณก็เลยกลับมา”
ซางหยูยิ้มอย่างมีความสุข เธอยกแขนขึ้นมาโอบเขา แนบชิดแก้มของเขาแล้วกล่าวว่า “ฉันก็คิดถึงคุณ”
เสิ่นเผยซวนลูบผมของเธอแล้วกล่าว “ที่นี่ยังมีเพื่อนของคุณ”
“พวกเขาล้วนเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทของฉัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชอบขี้เล่น แต่ก็รู้จักกาลเทศะ ไม่มารบกวนพวกเราหรอก”
เสิ่นเผยซวนยังคงรู้สึกไม่ดี ไม่ใช่ว่าเขาจะสงวนตัว เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองนั้นอายุมากกว่าพวกเขา แล้วมาอยู่ใกล้ชิดเกินไปกับซางหยูที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขา ท่ามกลางสถานที่โล่งโจ้ง แลดูไม่ค่อยดี
ถึงแม้ว่าแสงไฟจะมืดก็เถอะ
ซางหยูยิ้ม นี่ต่างหากนิสัยจริง ๆ ของเสิ่นเผยซวน มักจะคิดอะไรรอบคอบ
“อย่างนั้นพวกเรากลับกันเถอะ” เพื่อนๆของเธอยังรออยู่ พวกเขาออกมานานเกินไปมันจะไม่ดี
เสิ่นเผยซวนเห็นด้วย
“เมื่อกลับไปถึง เพื่อนๆก็แยกย้ายกันหมดแล้ว และก็ได้ย้ายเต็นท์ออกห่างจากเต็นท์ของซางหยูไปไกลมาก
เพื่อนๆนี้ช่างน่ารักกันมาก
เสิ่นเผยซวนกล่าว “รอผมกลับมาครั้งหน้า จะเลี้ยงข้าวเพื่อนๆของคุณ”
ซางหยูยิ้มอย่างดีใจ “จริงเหรอ”
เสิ่นเผยซวนพยักหน้า
ซางหยูกอดเขาแล้วหอมเข้าไปหนึ่งฟอด จากนั้นมองเขาอย่างจริงจังแล้วกล่าวขึ้น “ฉันชอบคุณมากจริง ๆ เลย”
ชอบมากจริง ๆ ชอบมากที่สุด……
ไม่อยากจะคิดว่าถ้าวันใดวันหนึ่งไม่ได้อยู่ด้วยกันกับเขา เธอจะเป็นบ้าไหม จะสามารถมีชีวิตต่อไปได้หรือเปล่า
เมื่อฉับพลันคิดแบบนี้ ร่างของเธอก็สั่นเทา กอดเสิ่นเผยซวนไว้แน่น แล้วถามเขา “คุณจะชอบฉันตลอดไปไหม”
เสิ่นเผยซวนตอบอืมเบาๆ
ริมฝีปากของซางหยูแนบชิดไปที่ใบหูของเขา “คุณจะไม่มีวันทิ้งฉันใช่ไหม”
เสิ่นเผยซวนรู้สึกว่าเธอแปลกมาก ที่มักถามคำถามสมมติเช่นนี้ “ซางหยู คุณเป็นอะไรไป”
ซางหยูออดอ้อน แนบชิดอยู่ที่ทรวงอกของเขาและถูไปมา “ตอบฉันสิ”
เสิ่นเผยซวนตบที่หลังของเธอเบาๆแล้วกล่าว “ไม่มีทางทิ้งคุณหรอก คิดมากอีกแล้วใช่ไหม”
ซางหยูพยักหน้าด้วยความรู้สึกผิด
เสิ่นเผยซวนยิ้ม ลูบที่ผมของเธอ “เด็กโง่”
ซางหยูยิ้มดวงตาเป็นประกาย ดึกมากแล้ว พวกเขาจึงนอนเข้าไปในเต็นท์
การนอนนอกบ้าน หนึ่งคือเป็นที่กลางแจ้ง สองคือมีเสียงร้องดังนกและแมลง บางครั้งยังมีเสียงกิ่งไม้สั่นไหว ในพงหญ้ามีเสียงวิ่งเคลื่อนไหวของบางสิ่ง จึงยากที่จะหลับได้ลง
ซางหยูหนุนอยู่ที่แขนของเสิ่นเผยซวน ถามเขาว่าทำงานอยู่ที่อื่นเหนื่อยไหม คุ้นชินหรือเปล่า
เขาตอบว่าไม่มีอะไรที่ไม่คุ้นชิน
พวกเขาคุยกันเรื่อยเปื่อยจนผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว ตอนเช้าเป็นซางหยูที่ตื่นขึ้นมาก่อน
ทันกับที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี ซางหยูจึงสะกิดเสิ่นเผยซวนหนึ่งทีเพื่อให้เขาลุกขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น
เสิ่นเผยซวนหลับค่อนข้างลึก เมื่อคืนหลับดึกไปหน่อย
ซางหยูจ้องมองเขา ใช้มือผลักเขาเบาๆอีกทีหนึ่ง “ตื่นๆ”
เสิ่นเผยซวนลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เห็นคู่ดวงตาที่มีรอยยิ้มจ้องมองเขาอยู่ อาการง่วงของเขาจึงมลายหายไปในฉับพลัน
ซางหยูยกริมฝีปากขึ้น “พวกเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน”
เสิ่นเผยซวนออกจากเต็นท์มาพร้อมกับซางหยู พบว่ารอบข้างนั้นไม่มีเต็นท์แล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนๆของซางหยูตื่นกันตอนไหน เก็บเต็นท์กันเสร็จก็จากไป
ซางหยูก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เพียงแต่ไม่ได้ลุกขึ้นมา
อันที่จริงก็เพิ่งจะจากไป
พวกเขานั่งอยู่บนโขดหินริมธาร บนฟากฟ้าสีแดงอร่าม ลำแสงค่อยๆสาดส่องขึ้น รัศมีแสงค่อยๆแผ่ขยายกว้าง จนแดงฉานไปทั่ว
พระอาทิตย์ที่เพิ่งโผล่ขึ้นเป็นสีแดงและขนาดใหญ่ ดูเหมือนไฟ แต่จริง ๆ แล้วไม่ร้อนเลย เมฆที่อยู่โดยรอบก็เหมือนกับถูกแผดเผา ทับซ้อนกันทั้งแนวตั้งและแนวนอน ดูน่างทึ่งและสวยงาม
ซางหยูกล่าว “ผู้คนต่างบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่หนานซานนั้นงดงามที่สุด เห็นแล้วคงจะไม่ได้พูดมั่ว งดงามจริง ๆ”
เสิ่นเผยซวนมองเธอแวบหนึ่ง ยามพระอาทิตย์ขึ้นนั้นงดงามเสมอ เพียงแต่การก้าวเดินของชีวิตนั้นเร็วเกินไป ไม่มีใครที่จะยอมหยุดก้าวเดินเพื่อไปเชยชมความงามของมันเท่านั้นเอง
หลังจากที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จแล้ว พวกเขาก็เก็บเต็นท์ลงจากเขา