กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 802 ฉันจะไม่ทำให้คุณกลัว
มารดาพยายามจะเอ่ยปากพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก ลูกชายเลยดึงแขนของมารดาเอาไว้ “ให้ฉันพูดกับทนายซูเองเถอะ”
สายตาของซูจ้านหมุนกลับมา
“คือเป็นอย่างนี้ พวกเราจะไม่ยื่นฟ้องร้องแล้ว ไม่ฟ้องแล้ว” คนพูดก็คือลูกชายของมารดา
“ทำไมล่ะ?”ซูจ้านไม่เข้าค่อยเข้าใจนัก แต่ก่อนพวกเขานั้นโมโหเป็นอย่างมาก ท่าทางว่าล่มจมทั้งครอบครัวยังไงก็จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้ตาย อยู่ดีๆจะมาบอกว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้เลยอย่างนั้นเหรอ?
“ไม่ทำไม พวกเราไม่ฟ้องแล้ว”พูดจบก็ดึงภรรยาเดินจากไป
ซูจ้านยืนนิ่งไม่ขยับ ในใจพอจะคาดเดาได้บ้าง ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเพราะอำนาจและอิทธิพลของตระกูลลู่ เขารับคดีนี้เพราะโดนกดดันจากทนายพวกนั้น ถึงอยากจะช่วยพวกเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ถอย พวกเขากลับถอยซะแล้ว
ภรรยาเดินไปไม่กี่ก้าว ก็รั้งลูกไว้ หันตัวกลับมาโค้งคำนับซูจ้าน “ขอบคุณที่คุณรับคดีของพวกเรา มีคนมากมายที่กลัวที่จะเดือดร้อนจึงอยู่ให้ห่างจากพวกเรา พวกเราไม่ฟ้องแล้วไม่ใช่ว่าเพราะว่าพวกเราไม่แค้นแล้ว แต่เพราะพวกเรายังอยากที่จะมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้น พวกเราก็คงไม่มีทางรอดแล้ว”
ภรรยาพูดน้ำตาซึม พวกเราเป็นครอบครัวธรรมดา ตอนแรกลูกสาวจะแต่งเข้าตระกูลลู่ เพียงเพราะว่าหน้าตาดีเท่านั้น
ตอนนี้ตระกูลลู่รู้ว่าพวกเขาจะฟ้องและอยากจะเอาเรื่องนี้เปิดเผยสู่ที่แจ้ง ก็เลยกดขี่พวกเขา จนลูกชายลูกสะใภ้ของเธอตกงานหมดแล้ว
“พวกเราคงเอาผิดกับตระกูลลู่ไม่ได้ พวกเราผู้ใหญ่นั้นกินอยู่ลำบากอย่างไม่เป็นธรรมก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ว่าหลานของฉันนั้นยังเด็ก เขาต้องเข้าเรียน ต้องมีอนาคต พวกเราไม่สามารถที่จะสนใจคนที่ตายไปแล้วไม่สนใจคนมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ดังนั้นพวกเราจึงไม่ฟ้องแล้ว”
ภรรยาเช็ดน้ำตา เงยหน้าขึ้นมามองซูจ้าน “ยังไงก็ต้องขอบคุณมาก”
ทั้งๆที่รู้ว่าคดีนี้ยากมาก ก็ยังยินดีที่จะช่วยพวกเขา ตรงจุดนี้เธอจึงซาบซึ้งในน้ำใจของซูจ้านเป็นอย่างมาก
“ตอนนั้นหลานของฉันสามารถเข้าโรงเรียนหมิงจูได้จากความช่วยเหลือของตระกูลลู่ ตอนนี้หลานของฉันอาจจะถูกไล่ออกเมื่อไหร่ก็ได้”ภรรยาพูดอย่างไม่มีทางเลือก
ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงยอมถอย ลูกสาวของเธอตอนนี้ไม่อยู่แล้ว ไม่สามารถให้หลานไม่มีอนาคตด้วยได้
พวกเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าจะก่อปัญหาให้ตระกูลลู่พวกเขาก็คงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว
ไม่อยากไกล่เกลี่ย แต่โลกก็เป็นแบบนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก จะพูดว่ายุติธรรมได้ที่ไหนกัน?
ซูจ้านพูด “ผมเข้าใจ”
“ขอบคุณมาก” ภรรยาแสดงความขอบคุณซูจ้านอย่างจริงใจครั้งแล้วครั้งเล่า ญาติของพวกเราไม่ได้สนิทสนมกันมากมาย ตอนนี้อยู่ห่างจากพวกเขาเพราะกลัวจะมีปัญหา
ตอนนั้นทีลูกสาวของเธอแต่งเข้าไปในตระกูลลู่ ญาติพี่น้องที่ไม่เคยเห็นหน้าคาดตามาก่อนต่างก็เคาะประตูบ้าน ตอนนี้กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
น้ำใจมนุษย์ ตอนที่คุณรุ่งโรจน์ผู้คนมากมายก็จะโปรยดอกไม้เชิดชู พอคุณตกอับ ขนาดถ่านก่อไฟสักก้อนในหน้าหนาวก็คงมีไม่กี่คนที่ยื่นให้
นี่คือธรรมชาติของมนุษย์ ไม่อาจปฏิเสธได้
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไร”ซูจ้านพูด “ถ้าพวกคุณคิดดีแล้ว ผมก็ไม่อะไรมาก ดูแลตัวเองด้วย”
“ขอบคุณทนายซู ฉัน……”ลูกของภรรยาพูดอึกอัก “ฉันมันใช้ไม่ได้”
รู้ทั้งรู้ว่าการตายของพี่สาวนั้นเป็นการทารุณกลั่นแกล้งของตระกูลลู่ แต่เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปจึงต้องอยู่กับความอัปยศอดสูนี้
ซูจ้านรับรู้ได้ถึงความขัดแย้งและไม่เต็มใจในจิตใจของเขาที่ต้องก้มหน้ามีชีวิตอยู่ นี่แหละชีวิต มีหลายครั้งที่ไม่มีทางเลือก
เช่นเดียวกับเขา เขาเองก็มีปัญหาหนักใจและไม่มีทางเลือกเช่นเดียวกัน
ภรรยาและลูกชายของเธอกลับไปแล้ว ซูจ้านกอดฉินยาเดินไปยังหมู่บ้านคอนโด
ฉินยาไม่พูดตลอดทาง นี่คือชีวิต บางทีก็จนปัญญา
พวกเขากลับมาที่บ้าน ฉินยาปิดประตู พอจะหมุนตัวกลับก็ถูกซูจ้านเข้ามากอดเธอเอาไว้ฉินยาใช้มือทั้งคู่ยันหน้าอกของเขา กระซิบ “คุณทำอะไรของคุณ? กอดแน่นเกินไปแล้ว ฉันเกือบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว”
ฉินยายังคงขัดขืน
ซูจ้านไม่ยอมปล่อย ก้มศีรษะลงมาที่หน้าผากของเธอพูด “ผมคิดถึงคุณ”
ฉินยาจ้องมองเขา “คุณเห็นฉันอยู่ทุกวัน จะมาคิดถึงอะไรกัน?”
ซูจ้านยิ้มออกมาที่มุมปากที่น่ามอง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่เป็นประกายสดใส ประกอบกับความงามที่น่าหลงใหลอย่างลึกล้ำ “คุณอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันรู้ว่าคุณจะพูดอะไร”
ฉินยาค่อยๆหลบตา เธอกับซูจ้านนั้นไม่ได้ทำเรื่องนั้นอีกเลย ในใจของเธอรู้สึกมีอะไรขัดขวางอยู่ตลอด รู้สึกว่าตัวเองนั้นขาดอวัยวะไปสักอย่าง ร่างกายไม่สมบูรณ์ เธอเลยมีความรู้สึกด้อยค่า
“ซูจ้าน ฉัน……” เธอลืมตาขึ้น ดวงตาที่ประกอบด้วยขนตายาวสีดำดุจแพรไหม เหมือนสระน้ำที่ใสสะอาดอ่อนโยน น้ำทะเลสาบใสบริสุทธิ์ ส่วนลึกนั้นยากที่จะหลบสายตาออกไปได้
ซูจ้านจูบไปที่ปลายจมูกของเธออย่างแผ่วเบา “ฉันรู้ คุณกลัว ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับฉัน แต่ว่าคุณยังไงก็ยังเป็นคุณวันยังค่ำ ในใจของฉันนั้นคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย”
ฉินยากัดริมฝีปาก ค่อยๆผ่อนคลายมือทั้งคู่ที่กำแน่น ซูจ้านจับมือของเธอ นิ้วหัวแม่มือกดไปที่ฝ่ามือของเธอและลูบไล้ “คุณมองผม”
เธอเงยหน้า
ซูจ้านก้มศีรษะลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธอ ดันเธอไปที่ประตู ออกแรงจูบ
เธอ
ร่างกายของเขาเริ่มร้อน แข็งขืนขึ้นมา เหมือนหินภูเขาไฟ
ฉินยาหายใจหอบพร้อมกับผลักเขา “คุณจะทำฉันขาดหายใจตาย”
ซูจ้านก้มลงยิ้ม “ผมไม่ให้คุณตายหรอก” พูดแล้วก็อุ้มตัวเธอขึ้นมา วางไว้บนโซฟา โน้มไปด้านบนตัวเธอ มองเธออย่างตั้งใจ นอกจากแววตาแล้ว รูปลักษณ์ของเธอนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ว่าเขานั้นรู้ดี เธอยังคงเป็นเธอ
เขาดันร่างกายลง จ้องมองไปที่เธอ พูดด้วยเสียงเบา “พวกเรามาลองกัน ถ้าคุณรับไม่ไหวจริงๆ ผมก็ไม่บังคับจนคุณกลัว”