กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 818 เลือกหนึ่งในสอง
“ผมมีวิธีหลากหลาย คุณจะลองดูก็ได้” แววตาเรียบนิ่งแต่แน่วแน่ของซูจ้าน ทำให้เฉินเสว่รู้สึกไม่มั่นใจ ในขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรอีก เธอก็นึกขึ้นได้ ว่าซูจ้านเป็นทนายความ เขาคุ้นเคยกับกฎหมายเป็นอย่างดี ถ้าเขาคิดยัดข้อหาขโมยของหรือข้อหาอื่นให้กับเธอ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะส่งเธอเข้าไปได้จริงๆ
“ฉันไปก็ได้ค่ะ แต่ต้องจ่ายเงินเดือนให้ฉันก่อน” เฉินเสว่ไม่พอใจเล็กน้อย เดิมทีเธอแค่อยากได้เงินก้อนหนึ่ง แต่กลับต้องเสียงานไปด้วย
ซูจ้านหยิบกระเป๋าสตางค์ออกจากกระเป๋ากางเกงของเขา แล้วหยิบธนบัตรใบหนึ่งร้อยปึกเล็กๆ ออกมา แล้วโยนลงบนพื้น
“นี่มันดูถูกกันชัดๆ” สีหน้าของเฉินเสว่แดงก่ำอย่าอับอาย
ซูจ้านสีหน้าเรียบนิ่ง “คุณเป็นคนสูงส่งมากเลยหรือไง?”
“ซูจ้าน เสี่ยวเสว่ เป็นเด็กดี หลานจะทำอะไร ไล่เธอออกไป แล้วย่าจะทำยังไง” ท่านย่าจับมือซูจ้านไว้ “ไม่เล่นแบบนี้นะ…”
ซูจ้านดึงมือของเขาออก แล้วผลักรถเข็น “ผมจะหาผู้ดูแลให้ใหม่ครับ ไม่ให้ใช้คนนี้อีกอย่างแน่นอน”
“ซูจ้าน…”
“คุณย่าเลือกจากหนึ่งในสองครับ คุณย่าจะให้ผมกลับบ้านหรือต้องการเธอ” ซูจ้านถามคำถามตายตัวให้แก่ท่านย่าโดยตรง
ท่านย่ารีบพูด “นี่มันไม่ใช่ทางเลือกเลยสักนิด…”
“แต่คุณย่าเลือกได้เพียงหนึ่งในสองเท่านั้นครับ” ท่าทีของซูจ้านดูแน่วแน่มาก “ถ้าคุณย่าต้องการเก็บเธอไว้ ผมจะไม่ก้าวเข้าไปในบ้านหลังนั้นอีก”
เฉินเสว่ก้มลงไปเก็บเงินขึ้นมา เธอรู้ว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อีกต่อไป จึงเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“เสี่ยวเสว่ ” ท่านย่ายังคงรู้สึกเสียดายมาก เด็กสาวคนหนึ่ง ที่สามารถคุยกับตัวเองได้ และทำงานเก่งหาได้ยากมากจริงๆ
เฉินเสว่เหลือบมองไปที่ท่านย่า ก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์โดยไม่หันหลังกลับมาอีก
“นี่หลานจะทำอะไรกันแน่?” ท่านย่าไม่รู้ว่าซูจ้านหมายความว่ายังไง
ซูจ้านเอ่ยพูด “กลับบ้าน”
พอพูดจบเขาก็หยุดพูด แล้วพาท่านย่ากลับไป
พอกลับไปถึงบ้าน สิ่งของต่างๆ ที่ท่านย่าเชิญนักบุญมาทำพิธีแล้ววางไว้ในบ้าน หรือแขวนไว้บนผนังทั้งหมดก็ถูกโยนทิ้งลงในถังขยะทั้งหมด
“ซูจ้าน” ท่านย่าตกใจมาก
“ผมรักษาลูกของตัวเองไว้ไม่ได้ ชะตาของผมถูกกำหนดให้ไม่มีลูกหลานไปตลอดชีวิต” ซูจ้านโยนเจ้าแม่กวนอิมอุ้มเด็กที่วางอยู่ในห้องนอนทิ้งลงในถังขยะ
ท่านย่าตื่นตกใจกลัว “ซูจ้านอันนี้ทิ้งไม่ได้นะ มันไม่มงคล…”
ซูจ้านเพิกเฉยต่อโหวกเหวกโวยวายในบ้าน แล้วโยนทุกอย่างทิ้งจนสะอาด
จากนั้นเขาก็พาท่านย่าไปที่โซฟา เขานั่งลง แล้วพูดกับท่านย่า “ตลอดชีวิตของผมมันไม่คู่ควรจะมีพ่อแม่ ไม่ควรจะมีลูกหรือคนรัก ดังนั้นพ่อแม่ของผมก็เลยเสียชีวิตไป ลูก ๆ ของฉันก็ต้องตาย ตอนนี้คนรักของผมก็ต้องการจะจากไป ตามที่คุณย่าต้องการ ผมยอมปล่อยเธอไป แต่อย่าหวังว่าผมจะแต่งงานใหม่อีก ผมไม่มีทางที่จะมีลูกได้อีก ผม ซูจ้านคนนี้ ชะตาชีวิตของผมถูกกำหนดให้ไม่มีลูก!”
“ซูจ้าน…” ท่านย่าตกใจมากจริงๆ
ซูจ้านนิ่งมาก “ผมยังพูดไม่จบ ฉินยาอยู่กับผมแล้วต้องเสียใจ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณย่าบีบบังคับเธอได้อีก ผมจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ไม่ใช่ว่าผมทำใจได้แล้ว แต่ผมไม่อยากให้เธออยู่กับผมแล้วถูกรังแก โดยที่ผมปกป้องเธอไม่ได้ มันเป็นความผิดของผมเอง ผมทำให้คุณย่าพอใจไม่ได้ มันก็เป็นความผิดของผมเช่นกัน ต่อไปนี้ผมจะอยู่กับคุณย่า ครอบครัวนี้จะมีแค่เราสองคน อย่าคิดเรื่องทายาทสืบสกุลอีก ถ้าคุณย่าจะใช้ชีวิตตัวเองมาข่มขู่ผม ข้าก็จะไม่ห้ามคุณย่า ถ้าคุณย่าตายผมก็จะตายตาม ทุกคนจะได้เป็นอิสระสักที”
หลังจากพูดจบ ซูจ้านก็ลุกขึ้นยืน “สิ่งที่ควรจะพูดผมก็พูดทุกอย่างแล้ว เดี๋ยวผมจะออกไปหาคนดูแลคนใหม่มาให้”
หลังจากพูดจบ ซูจ้านก็ออกไป
“ซูจ้าน ซูจ้าน” ท่านย่าต้องการเรียกซูจ้านให้หยุด แต่ซูจ้านเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเลย
ท่านย่ามึนงงเล็กน้อย เธอนั่งอยู่ที่เดิมไม่รู้ว่าจะเข้าไปในห้อง หรือจะนั่งที่เดิม
ในบ้านพัก หลินซินเหยียนพาฉินยากลับมา เธอรู้ว่าฉินยากำลังเสียใจมาก พอเข้ามาถึงในบ้านหลินซินเหยียนก็ช่วยพยุงเธอเข้าไปในห้อง
หลินซินเหยียนบอกให้เธอพักผ่อนก่อน ฉินยาคว้ามือเธอไว้ “ฉันตัดสินใจแล้ว”
“ตัดสินใจอะไร?” หลินซินเหยียนหันกลับมา แล้วเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเธอหมายถึงอะไร จึงถามออกไป “เธอตัดสินใจจะหย่ากับซูจ้านเหรอ”
ฉินยาพยักหน้า “ใช่”
หลินซินเหยียนนั่งลงข้างเตียงแล้วพูด “ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงฉันก็จะสนับสนุนเธอ”
ฉินยายิ้มให้เธอ “ฉันชอบทำผิดอยู่เรื่อยเลย”
“ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย เราประเมินความยึดติดและความไม่มีเหตุผลของคุณย่าต่ำเกินไป” หลินซินเหยียนพูดปลอบโยนเธอ “อยู่ที่นี่ทำตัวให้สบาย”
ฉินยาตอบกลับเบา ๆ
หลินซินเหยียนให้ฉินยาพักผ่อน ตอนนี้ร่างกายเธออ่อนแอมาก เธอเดินออกจากห้องแล้วปิดประตูลง ก่อนจะบอกกับป้าหยูกับ จวงจื่อจิ่นว่าอย่าเข้าไปรบกวนฉินยา หรือถามคำถามอื่นกับเธอ
จวงจื่อจิ่นกับป้าหยูต่างก็เป็นฉลาด พอได้ยินหลินซินเหยียนพูดแบบนี้พวกเธอก็ข้าใจในทันที
หลังอาหารเย็น ทุกคนก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและไม่ได้ถามอะไร
หลังจากทานอาหารเสร็จ ฉินยาก็เดินกลับไปที่ห้อง หลินซินเหยียนได้รับข้อความจากซูจ้าน ขอให้เธอออกไปเจอเขา เขาอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
หลินซินเหยียนเดินออกมา แล้วเห็นซูจ้านยืนอยู่ข้างถนนและไม่มีทีท่าว่าจะเดินเข้ามาข้างใน เธอจึงเดินออกไป
“ฉินหยาเป็นยังไงบ้างครับ” ซูจ้านเอ่ยถาม
“คุณคิดว่ายังไงล่ะ?” หลินซินเหยียนรู้ว่าเธอไม่ควรพูดกับซูจ้านแบบนี้ แต่พอเห็นฉินยาเป็นแบบนี้ เธอรู้สึกปวดใจมาก “คุณจะทำยังไงต่อไปคะ?”
ซูจ้านก้มหน้าลง “ถ้าคุณย่ายังมีชีวิตอยู่ ก็จะกั้นกลางระหว่างผมกับเธอ… ผมทำอะไรไม่ได้มาก ถ้าเธอต้องการมีชีวิตอิสระ ผมจะให้เธอได้สมหวัง”
“ตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมคะ?” หลอนซินเหยียนเอ่ยถาม
“ผมฟังเธอครับ ผมจะทำตามที่เธอต้องการ” ซูจ้านเอ่ยพูด
“คุณบอกให้ฉันออกมาเพื่อจะพูดแค่นี้เหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ” ซูจ้านพูด “ผมอยากให้คุณช่วยเอาของพวกนี้ให้ฉินยาแทนผมที”
#####ตอนที่ 819 ผมทำตามที่คุณต้องการ
หัวใจของหลินซินเหยียนกระตุก หรือว่าเขาจะเอาเอกสารหย่ามาจริงๆ เสียงของเธอเคร่งขรึมมาก “นี่อะไรคะ?”
ซูจ้านเดินไปที่เบาะหลังของรถแล้วหยิบกล่องเก็บของออกมา “ทุกอย่างในนี้เป็นของของฉินยาครับ”
หลินซินเหยียนมองไปที่กล่องในมือ แต่ไม่ได้รับมันมา แต่มองมาที่เขานิ่ง “นี่คือ…”
“ไม่ว่าเธออยากจะอยู่ที่นี่ต่อหรือกลับไปที่เมือง C ก็ยังดีกว่าอยู่เคียงข้างผม ถ้าเธอต้องการ…ต้องการจะหย่าจริงๆ ผมก็จะตามใจเธอ” ซูจ้านหลับตาลง ความรู้สึกของเขาถูกปิดบังไว้ภายใต้ดวงตา “รบกวนคุณแล้วครับ”
หลินซินเหยียนเอ่ยพูด “เอาเถอะ พวกคุณควรจะสงบสติอารมณ์และคิดให้ชัดเจน เรื่องของคุณย่าเป็นปัญหาจริงๆ ถ้าคุณไม่จัดการให้ดี คุณกับฉินยาคงไม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย”
“ผมเข้าใจครับ แต่ท่านคือคนที่เลี้ยงดูผมมาจนโต ผมจะไม่สนใจก็ไม่ได้ ฉินยา…ผมติดค้างบุญคุณกับเธอมากจริงๆ …” คงจะชดใช้ให้เธอไม่ได้แล้ว
หลินซินเหยียนรู้ว่าซูจ้านเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรมาก รับกล่องใส่ของมา แล้วหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน
เธอผลักประตูห้องของฉินยาเข้าไป แล้วเห็นฉินยานั่งอยู่คนเดียวบนระเบียง แผ่นหลังของเธอดูโดดเดี่ยวราวกับว่าเธอถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในโลกนี้
หลินซินเหยียนเดินเข้าไปข้างในช้าๆ ฉินยาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และถึงแม้จะมีใครเข้ามา เธอก็ไม่รู้สึกตัว
“เสี่ยวยา” หลินซินเหยียนเรียกเธอเบาๆ
ฉินยาหันกลับมามองช้าๆ หลินซินเหยียนยกยิ้ม “กำลังคิดอะไรอยู่?”
“ไม่ได้คิดอะไร” ดวงตาของเธอมองไปที่กล่องในมือของหลินซินเหยียน “นี่คือ…”
“นี่เป็น……”
หลินซินเหยียนพาเธอไปนั่งบนเตียง แล้วบอกเธอว่าซูจ้านเพิ่งมาโดยไม่คิดปิดบัง “เขาบอกว่าขอแค่เธอคิด เขาจะทำตามที่เธอต้องการ”
ฉินยามองลงไป ขนตาของเธอกะพริบเล็กน้อย แล้วมองไปที่กล่องที่หลินซินเหยียนยกเข้ามา “ดังนั้นของทั้งหมดในนี้เป็นของฉันทั้งหมด มีใบหย่าไหม”
“เสี่ยวยา…”
“ฉันสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง” ฉินยาลุกขึ้นมารับกล่อง ก่อนจะวางลงแล้วเปิดออกดู ข้างในเป็นของของเธอจริงๆ โดยมีซองเอกสารอยู่ด้านบน และถูกปิดผนึกไว้อย่างแน่นหนา
ฉินยานึกว่าข้างในจะเป็นใบหย่า มือของเธอจึงชะงักไป มือของเธอสั่นเล็กน้อย ขอบตาของเธอก็แดงก่ำ ความรู้สึกปวดใจรุนแรงกว่าที่จินตนาการไว้มาก พอต้องมาเผชิญหน้าจริงๆ พวกเขา ก็ยังขาดความกล้าไปจริงๆ
แต่ไม่นานเธอก็ปรับอารมณ์ตัวเองได้ เธอเอื้อมมือไปหยิบมันออกมา แล้วเปิดผนึกที่พันรอบไว้ ก่อนจะหยิบมันออกมา
ตัวหนังสือที่เขียนบอกไว้ว่าเอกสารหย่าร้างที่คิดไว้ไม่ปรากฏในซองเอกสาร ข้างในมีเงินเก็บทั้งหมดของซูจ้านอยู่ในนั้น จะให้พูดให้ถูกก็คือทรัพย์สมบัติทั้งหมดของซูจ้าน ทั้งบัญชีเงินฝาก อสังหาริมทรัพย์และเงินทุนต่างๆ
ฉินยาขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่มันอะไรกัน?
หลินซินเหยียนเดินออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ และช่วยเธอปิดประตูด้วย
ภายในห้อง ฉินยาหยิบของทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋าเอกสารออกมา ทั้งโฉนดที่ดิน บัตรเครดิตธนาคาร และเอกสารกองทุนที่ซื้อไว้
ติ๊งต๊อง—
โทรศัพท์มือถือของฉินยาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมีเสียงข้อความเข้าดังขึ้นมา เธอยืนขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มีชื่อซูจ้านปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ เธอคลิกเปิดข้อความ
[เสี่ยวยา ผมเอาเงินทั้งหมดของผมฝากไว้ในบัตรเอทีเอ็มนี้แล้ว รหัสผ่านคือวันที่เราไปจดทะเบียนสมรสกัน มีบางส่วนยังใช้ไม่ได้ชั่วคราว แต่ถ้าถึงเวลาที่สมควรคุณสามารถเอาออกมาใช้ได้ ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของผม ผมมอบมันให้กับคุณ ผมติดหนี้บุญคุณคุณมากเหลือเกิน ที่ผมสามารถให้คุณได้ก็มีแต่สิ่งของภายนอกพวกนี้เท่านั้น ผมหวังว่าคุณจะอยู่ได้โดยสุขสบาย ผมให้เวลาคุณได้คิด คุณอยากจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าคุณตัดสินใจดีแล้ว… ผมจะคืนอิสระให้กับคุณ ให้คุณได้ไปหาความสุขที่เป็นของคุณเอง
ถึงแม้ผมจะไม่เต็มใจ แต่ผมไม่สามารถให้ความสุขกับคุณได้ ผมทำได้เพียงปล่อยคุณไป จะให้คุณเหี่ยวเฉาอยู่เคียงข้างผมไปตลอดไม่ได้
ฉันจะรอคุณอยู่เสมอ]
นิ้วมือของฉินยาที่ถือโทรศัพท์ซีดขาว ก่อนที่เธอจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง มองดูสิ่งที่ซูจ้านทิ้งไว้ให้เธอด้วยสายตาพร่ามัว ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา “ในโลกนี้ยังมีคนสองคน ที่ต่างฝ่ายต่างก็รักกัน ต่างฝ่ายต่างไม่อยากสูญเสียอีกฝ่ายไปแต่กลับไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเหรอ”
น้ำตาของเธอไหลออกมาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า และไหลอาบแก้ม
เธอเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา และตอบข้อความของซูจ้าน [ฉันได้รับของที่คุณให้ฉันแล้วนะคะ และฉันก็จะรับมันไว้เช่นกัน คุณเป็นทนายความคุณร่างเอกสารในการหย่าออกมา รอฉันพักผ่อนจนดีขึ้นแล้วฉันจะไปหาคุณ]
เธอรู้ดีว่าซูจ้านคิดอะไรอยู่ ถ้าหากเขาคิดว่าเขาทำแบบนี้แล้วสบายใจขึ้น เธอก็จะรับมันไว้ เพื่อให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง
ซูจ้านที่ยืนอยู่หน้าบ้านที่เขาและฉินยาเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน แม้ว่าเวลาจะสั้น แต่ก็เป็นวันที่มีความสุขที่สุดสำหรับพวกเขา
เขามองไปที่ห้องครัว พอได้เห็นสถานที่ที่คุ้นเคย ทำให้เขาเหมือนมองเห็นภาพเหตุการณ์ในวันวานที่ตนเองกำลังยืนทำอาหารอยู่ในตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน บางครั้งฉินยาจะกัดแอปเปิลในมือยืนมองเขาทำอาหาร หรือบางครั้งเธอก็จะเอาแอปเปิลยัดเข้าไปในปากของเขา แล้วกอดเขาจากด้านหลัง โผล่หัวออกมาถามเขาว่าเขาทำของอร่อยอะไรให้เธอกิน
รอยยิ้มของฉินยาดูผ่อนคลายมาก พวกเขาอยู่ด้วยกันก็สบายใจ
เขาเดินไปต่อ ตรงระเบียงในห้องนอนยังเหมือนกับตอนที่เขาเพิ่งย้ายเข้ามา มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยกเว้นแต่ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังเล่นกับปลาในตู้ปลานั้นหายไปแล้ว
ร่างเพรียวที่เคยนอนอยู่บนเตียงก็หายไปเช่นกัน
ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่คนที่หายไป
มันว่างเปล่าเหมือนกับหัวใจของเขา
เขาหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น กำลังนึกภาพตอนที่ฉินยากำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่ที่นี่
ภาพการใช้ชีวิตที่นี่เล่นซ้ำเหมือนการฉายภาพยนตร์ซ้ำอยู่ตรงหน้า
โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เป็นฉินยาที่ส่งข้อความมา เขาจึงรีบกดเปิดอ่าน
หลังจากอ่านข้อความของฉินยาเสร็จ เขาก็ก้มหน้าต่ำลงไปอีก
ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าเขาจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ได้ครับ”