กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 832 ผมว่าคุณผอมลงนะ
หญิงสาวพูดกับท่านย่าด้วยท่าทางจริงจัง “ผู้ชายที่นอกใจให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด”
ซูจ้านหยิบเอกสารที่จัดเก็บเรียบร้อยเดินออกมาจากในห้องทำงานพูดกับหญิงสาวว่า “พวกเราไปกันเถอะครับ”
“พวกคุณจะไปไหนกัน” ทันใดนั้นท่านย่าก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวขึ้นมาทันที กลัวว่าซูจ้านจะไม่ต้องการตัวเองแล้ว
หญิงสาวลุกขึ้นยืน ซูจ้านเดินมาปลอบเธอ “ผมกับเธอจะออกไปทำธุระนิดหน่อย ไม่นานก็จะกลับมาแล้วครับ คุณย่าเชื่อฟังรอผมกลับมาอยู่ที่นี่” ซูจ้านส่งสายให้พนักงานต้อนรับ “เฝ้าดูให้ดี อย่าให้เธอออกไป ไม่นานผมก็จะกลับมา”
“ไม่ได้ แกไปไม่ได้” ท่านย่าดึงแขนของซูจ้านเอาไว้
“คุณย่าไม่อยากให้ฉันคืนดีกับซูจ้านเหรอคะ” ที่หญิงสาวจงใจถามแบบนี้ ก็เพราะไม่อยากให้ท่านย่ารั้งซูจ้านไว้
ท่านย่าพูดอย่างตกใจว่า “แน่นอนว่าอยากให้พวกเธอดีกัน”
“ในเมื่ออยากให้พวกเราดีกัน อย่างนั้นคุณก็รอพวกเราอยู่ที่นี่แปบเดียวนะคะ พวกเราออกไปทำธุระ ดีมั้ยคะ”
ท่านย่าลังเลอยู่ชั่วครู่ก็พยักหน้า “งั้นพวกเธอรีบกลับมานะ”
ซูจ้านตบหลังท่านย่าเบาๆพูดว่า “อีกไม่นานพวกเราก็กลับมาครับ”
เขาลุกขึ้นยืนมองไปยังหญิงสาว “พวกเราไปกันเถอะครับ”
ตอนที่ทั้งสองเดินออกจากสำนักงานทนายความ หญิงสาวเอ่ยปากขึ้นมาก่อนว่า “ฉันคิดว่าทนายซูเป็นคนดีมาตลอด ที่แท้ฉันก็คิดมากไปเอง”
ซูจ้านมองเธอ “คุณหมายความว่าอะไรครับ”
หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย “ใคุณรู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอคะ”
ซูจ้านดึงประตูรถยนต์เปิดเข้าไปนั่ง ไม่ได้อธิบายอะไร ไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกับเธอ ก็แค่ติดต่อกันในเรื่องของการทำงานเท่านั้น
พวกเขาไปและกลับมาอย่างรวดเร็ว
“อีกไม่นานสามีคุณก็จะได้รับหมายศาล เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาทำพฤติกรรมเกินกว่าเหตุทำร้ายร่างกายคุณ ทางที่ดีที่สุดคุณอย่าไปพักอยู่กับเขาอีกจะดีกว่า” ซูจ้านพูดกับลูกความ
“ตอนที่ฉันออกมาวันนี้ ก็เก็บข้าวของฉันมาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คงพักอยู่ที่โรงแรมชั่วคราว รอจนหย่าแล้ว ได้บ้านฉันค่อยกลับไป” หญิงสาวเป็นคนที่มีสติอย่างยิ่ง
ซูจ้านพยักหน้า “ยังไงคุณก็ต้องระวังหน่อยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เวลานี้รถมาจอดที่ประตูสำนักงาน หญิงสาวผลักประตูเปิดลงมาจากรถ
ฉินยามาที่สำนักงานทนายพบว่าท่านย่าอยู่ด้วย จึงไม่ได้เข้าไป รอซูจ้านอยู่ที่ประตู
มองเห็นรถยนต์ของเขาขับเข้ามา ยืนนิ่งอยู่บนขั้นบันได
มองเห็นคนที่ลงมาจากรถเป็นผู้หญิง เธอก็ไม่ได้โกรธอะไร ดูแล้วช่างสงบเยือกเย็นอย่างยิ่ง
ซูจ้านกลับไม่ได้สงบนิ่งเหมือนเธอ มองเห็นเธอก็รีบอธิบายว่า “เธอเป็นลูกความของผม เมื่อกี้พวกเราไปศาลมา”
ฉินยาพูดว่า “ไม่ต้องอธิบายกับฉันหรอก คุณเป็นอิสระจะทำอะไรก็ได้”
น้ำเสียงที่ห่างเหินเย็นชาแบบนั้น ทำให้หัวใจของซูจ้านเศร้าเสียใจ
หญิงสาวมองฉินยาแวบหนึ่ง แล้วมองไปที่ยังซูจ้าน พูดว่า “วันนี้ฉันไปก่อนนะคะ อีกอย่าง ฉันหวังว่าคุณจะไม่เอาเรื่องของครอบครัวเข้ามาวุ่นวาย จนทำให้เรื่องคดีของฉันเกิดความผิดพลาดนะคะ”
“คุณวางใจได้เลยครับ……” ซูจ้านพูด
หญิงสาวหมุนตัวเตรียมจะไป ท่านย่ามองเห็นเธอแล้ว ร้องเรียกว่า “เธออย่าไปนะ”
ท่านย่าหมุนล้อรถเข็น จะตามไป ซูจ้านขวางเธอไว้ “พวกเรากลับไปเถอะครับ”
“จะกลับไปได้ยังไง เธอท้องลูกของแกอยู่นะ แกทำผิดกับเธอครั้งหนึ่งแล้ว แกจะยังทำผิดต่อเธออีกเป็นครั้งที่สองเหรอ” ท่านย่าผลักมือของซูจ้านออกด้วยมือเดียว ตามผู้หญิงคนนั้นไป “เสี่ยวยา เสี่ยวยา เธอต้องให้อภัยซูจ้านสักครั้งนะ”
หญิงสาวหันหน้าไป เห็นสีหน้าท่าทางตกใจทั้งเหลือเชื่อของฉินยาเข้าพอดี
ดูเหมือนจะแปลกใจในชื่อที่ท่านย่าใช้เรียกเธอ
จากวินาทีที่ซูจ้านเห็นเธอ ก็รีบอธิบาย หญิงสาวพอจะเดาได้ว่าเธอก็คือเสี่ยวยาที่ท่านย่า เรียก
เธอชี้ไปที่เสี่ยวยา “เธอต่างหากคือเสี่ยวยา คุณมีอะไรจะพูดก็ไปพูดกับเธอเถอะค่ะ”
“เธอคิดฉันว่าแก่จนเลอะเลือนแล้วเหรอ จะมีผู้หญิงคนไหนเป็นเสี่ยวยาได้อีก” ท่าทางและน้ำเสียงที่แน่วแน่ของหญิงชราดูเหมือนจะบอกว่าฉันไม่ได้โง่
หญิงสาวอดที่จะหัวเราะเยาะออกมาไม่ได้ชั่วขณะ
เห็นแก่ที่เธอที่เป็นคนแก่ มองไปยังซูจ้าน “จะให้ฉันช่วยอยู่เป็นเพื่อนท่านย่าสักครู่มั้ยคะ คุณกับคุณผู้หญิงคนนี้จะได้คุยกัน”
ซูจ้านมองไปทางฉินยาพูดว่า “งั้นก็ขอบคุณคุณมาก”
“ขอแค่คุณใส่ใจเรื่องของฉัน ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าฉันก็จะยอมช่วยเรื่องเล็กๆน้อยๆนี้กับคุณ” พูดจบเธอก็ยิ้มพลางพูดกับท่านย่าว่า “ฉันไปดื่มอะไรสักหน่อยที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามเป็นเพื่อนคุณดีมั้ยคะ”
ท่านย่าเบิกตาโพลง “เธอจะไปได้ยังไง เธอไปไม่ได้เด็ดขาด อีกเดี๋ยวก็ปล่อยให้ผู้หญิงชั่วร้ายได้โอกาส
ตอนที่เธอพูดว่าผู้หญิงชั่วร้ายยังเหล่มองไปที่ฉินยาด้วย นั่นก็หมายความว่าผู้หญิงชั่วร้ายคนนี้ก็คือฉินยา
ท่านย่าดึงมือของหญิงสาว “เสี่ยวยา ฉันรู้ว่าเธอ ฉันรู้ว่าเธอลำบาก เธอได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ เธอต้องให้โอกาสซูจ้านได้ชดใช้ความผิดนะ”
พูดพลางดวงตาของท่านย่าก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันรู้ ว่าพวกเราผิดต่อเธอ ถูกหลิวเฟยเฟยนังตัวดีนั่นจับตัวไป ฉันกับซูจ้านต่างปลอดภัยไม่เป็นอะไร แต่……ลูกของเธอไม่อยู่แล้ว เธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส……เฮ้อ ลูกของเธอจะยังอยู่ได้ยังไง”
ทันใดนั้นท่านย่าก็เงยหน้ามองหญิงสาว ดวงตาที่แดงในตอนแรกสับสนมึนงงขึ้นมา รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ก็นึกไม่ออกอีก
ตรงไหนที่ผิดนะ
เธอกุมศีรษะ “ที่นี่ที่ไหน”
ซูจ้านเดินมาผลักเธอเข้าไป ตอนเดินผ่านฉินยาพูดว่า “คุณรอผมแปบนึงได้มั้ย”
ฉินยาพยักหน้า มองท่านย่าที่ดูเหมือนจะทุกข์ทรมานมาก
ซูจ้านปลอบโยนท่านย่าอยู่ด้านในพักหนึ่ง อารมณ์ของเธอสงบนิ่งลง ให้คนคอยดูเธอไว้เขาจึงเดินออกมา
“พวกเราไปคุยที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามกันเถอะ” ซูจ้านพูด
ฉินยาพูดว่าได้
พวกเขาเดินเข้าไปในร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม หาที่นั่งที่เงียบสงบแล้วนั่งลง พนักงานเดินมา ถามว่า “ไม่ทราบว่าจะสั่งอะไรดีคะ”
“กาแฟหนึ่งแก้วครับ คุณล่ะ” ซูจ้านถามพลางมองฉินยา
ฉินยา “น้ำเปล่า”
ซูจ้านพูดกับพนักงานว่า “เอาเท่านี้ครับ”
“ได้ค่ะ”
พนักงานเดินไป สองคนต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ซูจ้านเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อนว่า “ช่วงนี้คุณเป็นยังไงบ้าง ผมว่าคุณผอมลงนะ”
ขนตาของฉินยาค่อยๆขยับปิดลงมา “สบายดีมากค่ะ”
เป็นที่น่าแปลกประหลาด คำพูดของทั้งสองคนดูเกรงใจกันขึ้นมา บรรยากาศเปลี่ยนเป็นห่างเหิน
มือของซูจ้านที่วางอยู่ใต้โต๊ะกำมือปล่อยมือซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ผ่านไปพักใหญ่ พูดว่า “ตอนผมออกมาลืมเอาหนังสือหย่าออกมาด้วย ผมให้คนส่งมาให้”
ตอนที่พูดสายตาของเขาจ้องไปที่ฉินยา อยากจะเห็นความเสียใจที่แสดงออกมาจากสีหน้าเธอ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อตนเอง