กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 833 ฉันไม่โกรธคุณ
จากนั้นอารมณ์ของฉินยาก็ยังคงจริงจัง ซูจ้านมองไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
สีหน้าท่าทางของฉินยาสงบนิ่งมาก ทำให้คนแยกไม่ออกว่าอารมณ์ดีหรือร้าย พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ได้”
ความเข้มแข็งที่ซูจ้านแกล้งทำก็พังครืนลงทันที เธอปล่อยวางได้อย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้เลยเหรอ
ความเศร้าเสียใจพลุ่งพล่านขึ้นภายในใจชั่วครู่ เขาฝืนยิ้ม “งั้นก็ดี”
เขาล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา รับสายอย่างรวดเร็ว “เมื่อวานผมร่างสัญญาหย่าให้คุณแล้ว คุณส่งมาที่ร้านกาแฟตรงข้าม”
ทางนั้นตอบรับ เขาก็วางสายเลย
ฉินยามองเห็นนัยน์ตาเขาเหมือนมีอารมณ์แปลกๆบางอย่างฉายวาบออกมา แต่ตอนที่ซูจ้านวางโทรศัพท์มือถือลง ก็กลับมาเป็นสงบนิ่ง
“ท่านย่าท่านป่วยเหรอ” สีหน้าท่าทางของท่านย่าเมื่อครู่แปลกประหลาดมากจริงๆ
เธอไม่เคยเรียกท่านย่าว่าคุณย่าเลย ในใจรู้สึกผิด วิตกกังวลอย่างมาก
ซูจ้านส่งเสียงตอบอืมเบาๆ “โรคอัลไซเมอร์”
ในน้ำเสียงเขาแฝงด้วยความอับจนหนทางเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ก็แค่ต้องใช้เวลาดูแลมากหน่อย”
ฉินยาตกใจ “ทำไมถึงเป็นแบบนี้”
เมื่อก่อนเห็นท่านก็มีสภาพจิตใจดีมาก พอจะป่วยขึ้นมาก็ป่วยเลย ดูแล้วท่าทางอาการจะหนักมากทีเดียว
ซูจ้านพูดว่า “ท่านอายุมากแล้ว ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์”
“ลำบากคุณแล้ว” ผู้สูงอายุแบบนี้ ต้องการดูแลเอาใจใส่ อีกทั้งท่านย่าก็เป็นญาติคนเดียวของซูจ้าน ไม่มีใครช่วยแบ่งเบาภาระเขาได้
ซูจ้านขยับริมฝีปากบาง “เธอเลี้ยงผมตอนเด็กๆ ผมเลี้ยงเธอตอนแก่ เป็นเรื่องที่ผมควรจะทำอยู่แล้ว คุณปู่ก็เสียไปนานแล้ว พ่อแม่ก็ยังยากลำบากอีกความจริงเป็นเธอก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมเข้าใจทั้งหมด และรู้ดี ดังนั้นจึงเคารพเชื่อฟังเธอมาตลอด แต่ว่า ทำให้คุณได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ”
อาจจะเป็นเพราะว่าเดินมาถึงจุดนี้ทั้งสองต่างก็ปลงแล้ว ฉินยาเองก็ไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงอะไร “ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว”
“แต่ว่าบาดแผลที่ผมสร้างไว้กับคุณไม่มีทางสลายหายไป ผมขอโทษคุณแทนท่านด้วย” ซูจ้านมองไปยังดวงตาที่ลึกล้ำดำดิ่งของเธอ
ตอนนี้พนักงานนำกาแฟมาเสิร์ฟ ฉินยาอยากจะบอกว่าพวกเราก็เลิกกันแล้ว แน่นอนว่าก็ไม่ได้โกรธเธอ มีคนมาก็เลยกลืนคำพูดลงไป เขายกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม
ซูจ้านคิดอยู่นานจึงพูดว่า “หลังจากพวกเราหย่ากันแล้ว ถ้าคุณเจอให้ที่เหมาะสม สามารถดูแลคุณได้……”
“ฉันจะพิจารณา” ฉินยาตัดบทเขา
ซูจ้านก้มหน้า “สุดท้ายแล้วผมก็ทำผิดกับคุณ”
“ฉันไม่อยากได้ยินประโยคนี้อีก” ฉินยาหันหน้ามองไปนอกหน้าต่าง “คนที่จะมาส่งเอกสารให้คุณทำไมยังไม่มา”
ซูจ้านพูดว่า “ไม่รู้ ผมโทรไปอีกทีแล้วกัน” พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กำลังจะกดโทรออก โทรศัพท์มือถือก็ส่งเสียงดังขึ้นมา เขากดปุ่มรับสาย ทางนั้นพูดอย่างตื่นตกใจว่า “แย่แล้ว แย่แล้ว ท่านย่ากลิ้งตกบันไดลงไปแล้ว”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ซูจ้านลุกขึ้นยืนทันที
“เธอบอกว่าเธอหิวน้ำ ให้ฉันไปเอาน้ำให้เธอ ก็แค่ไปเทน้ำไม่รู้ว่าเธอไปที่ทางลงบันไดได้ยังไง แล้วก็ตกลงมาจากด้านบน”
“ผมเข้าใจแล้ว” ซูจ้านวางสาย
“เกิดเรื่องอะไร” ฉินยาได้ยินเหมือนมีใครล้ม
ซูจ้านไม่ได้ปิดบังเธอ “ท่านย่าตกลงมาจากชั้นบนผมต้องกลับไปแล้ว”
“ฉันไปกับคุณ” อย่างไรเสียชีวิตคนก็สำคัญกว่า
ซูจ้านรู้สึกซาบซึ้งใจมองเธอสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เดินสาวเท้ายาวๆไปข้างนอก ฉินยาจ่ายค่ากาแฟแล้ววิ่งเยาะๆตามเขาไป
รถพยาบาลมาแล้ว หามท่านย่าออกมาจากด้านใน ซูจ้านวิ่งไป พนักงานต้อนรับของสำนักงานทนายตกใจมาก ร้องห่มร้องไห้ เห็นซูจ้านก็รีบอธิบายว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยปละละเลยเธอนะคะ”
ซูจ้านให้เธอเฝ้าไว้ ตอนนี้ล้มลงแล้ว เธอก็ต้องรับผิดชอบ
ซูจ้านไม่สนใจตามขึ้นรถพยาบาลไป ฉินยาแม้จะเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้ตามไป ไม่นานเธอก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับซูจ้านแล้ว เธอไม่ควรที่จะไปเกี่ยวพันอะไรกับเขาอีก ยืนมองซูจ้านอยู่หน้ารถพยาบาล หมุนตัวเตรียมจะไป ท่านย่าก็เรียกชื่อฉินยาขึ้นมา
ซูจ้านรีบกุมมือของท่านย่าเอาไว้ บนหน้าเธอมีแต่เลือด คุณหมอกำลังห้ามเลือดอย่างง่ายๆอยู่
“เสี่ยวยา……” ท่านย่าเรียกอีกครั้ง
ฉินยาหันกลับไป ท่านย่าในตอนนี้ดูเหมือนจะมีสติรู้ตัวดี มองเธอแล้วพูดว่า “ขอโทษนะ”
แม้ว่าจะมีข้อเรียกร้องมากมาย แต่วินาทีนี้มองหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของท่านย่า ดวงตามีน้ำตาคลอ ก็ปล่อยวาง พูดให้เธอสบายใจว่า “ฉันไม่โกรธคุณค่ะ”
“ไม่โกรธฉัน ไม่โกรธฉัน……” ท่านย่าพึมพำซ้ำไปซ้ำมา วางศีรษะลงพูดกับซูจ้านว่า “เธอไม่โกรธฉัน”
ซูจ้านมองไปยังฉินยา สายตาของทั้งสองคนประสานกันกลางอากาศ คุณหมอปิดประตูรถ ขวางกั้นสายตาของทั้งสองคน ไม่นานรถก็ขับออกไป
ฉินยาล้วงโทรศัพท์ส่งข้อความให้ซูจ้าน 【ท่านย่าไม่เป็นไรแล้วส่งข้อความบอกฉันด้วยว่าปลอดภัยดี】
ไม่นานซูจ้านก็ส่งข้อความตอบกลับมาว่า【ได้】
ฉินยาเรียกแท็กซี่ ไปเยี่ยมเด็กที่คฤหาสน์ รถยนต์จอดที่ประตูของคฤหาสน์ เธอจ่ายเงินแล้วลงจากรถ รถแท็กซี่ขับออกไปก็มีรถจีปอีกคันขับเข้ามา เธอหันไปมอง ก็มองเห็นเหวินเสี่ยวจี้กับเฉินซือหานลงมาจากรถ เหวินเสี่ยวจี้ให้เธอระมัดระวัง เธอยิ้ม “คุณหยิบของหลังรถมาด้วยนะคะ”
เหวินเสี่ยวจี้หยิบกล่องจากด้านหลังสองสามกล่องลงมา
ฉินยายิ้มพลางทักทายว่า “มาเยี่ยมเด็กน้อย ยังเอาของใช้เด็กทารกมาด้วยเหรอ ”
เฉินซือหานพยักหน้า
“เข้าไปพร้อมกันเลย” เหวินเสี่ยวจี้พูด
ฉินยาพูดว่าได้
ภายในบ้านหลินซินเหยียนกำลังพูดคุยกับป้าหยู
“คุณมาช่วยฉันดูหน่อยได้มั้ยคะว่านี่ยาอะไร” ป้าหยูทำความสะอาดห้องจงฉีเฟิง ไม่ได้ระวังทำขวดยาหล่นกระจาย เธอจำตัวอักษรด้านบนได้ แต่ไม่รู้ว่าใช้รักษาโรคอะไร เพราะเธอสังเกตว่าครั้งก่อนก็เคยเจอขวดยาเปล่าแบบเดียวกันนี้ในห้องของเขา
หลินซินเหยียนก็ไม่รู้แน่ชัด “ฉันจะลองเช็คดู”
เธอควักโทรศัพท์มือถือออกถ่ายรูปดูในไป๋ตู้ เวลานี้เองเสียงประตูก็ดังขึ้น ป้าหยูออกไปเปิดประตู ภายในบ้านมีหลินซินเหยียนเพียงคนเดียว ไม่นานหน้าจอโทรศัพท์มือถือก็แสดงผลการค้นหาออกมา
สายตาจับจ้องที่โทรศัพท์มือถือยิ่งดูสีหน้าก็ยิ่งซีด มือที่ถือโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นก็สั่นขึ้นมา ทำไมถึงได้……
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้
“คุณนายคะ คุณฉินแล้วก็เหวิน……คุณเป็นอะไรคะ” ป้าหยูยืนที่หน้าประตู ยังพูดไม่ทันจบ ก็พบว่าหลินซินเหยียนผิดปกติ
เธอเดินเข้ามา หลินซินเหยียนรีบเก็บโทรศัพท์มือถือ มองดูเธอ “เมื่อกี้ป้าพูดว่าอะไรนะคะ”
“ฉันบอกว่ามีแขกมาที่บ้านค่ะ” ป้าหยูตอบ
หลินซินเหยียนพูดว่า “ฉันรู้แล้ว ป้าออกไปต้อนรับแทนฉันก่อนนะคะ”